พบผลลัพธ์ทั้งหมด 7 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1276/2520 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การครอบครองไม้แปรรูปที่ยังไม่เป็นเครื่องใช้สำเร็จรูป มีความผิดตาม พ.ร.บ.ป่าไม้
ไม้ของกลางเป็นไม้สักแผ่นเล็ก ๆ รวม 95 ชิ้น ตัดเป็นรูปคล้ายค้างคาวและปลา ตรงกลางขุดเซาะเป็นแอ่ง ตัดและขุดเป็นรูปหยาบ ๆ ยังไม่เป็นรูปสัตว์ และดูไม่ออกว่าทำเป็นภาชนะใส่อะไร ไม่ได้ตกแต่งตามรอยตัด ไม่ลบเหลี่ยม มีเสี้ยนและรอยสิ่ว รอยมีด ไม่ขัดทาน้ำมัน ลักษณะดังนี้ถือได้ว่ายังเป็นไม้แปรรูปอยู่ ยังไม่เป็นภาชนะใส่อาหารตั้งบนโตกอันจะเป็นเครื่องใช้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1276/2520
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ไม้แปรรูปยังไม่เป็นเครื่องใช้ การครอบครองไม้หวงห้ามโดยไม่ได้รับอนุญาตเป็นความผิด
ไม้ของกลางเป็นไม้สักแผ่นเล็กๆ รวม 95 ชิ้น ตัดเป็นรูปคล้ายค้างคาวและปลาตรงกลางขุดเซาะเป็นแอ่ง ตัดและขุดเป็นรูปหยาบๆ ยังไม่เป็นรูปสัตว์ และดูไม่ออกว่าทำเป็นภาชนะใส่อะไร ไม่ได้ตกแต่งตาม รอยตัด ไม่ลบเหลี่ยม มีเสี้ยนและรอยสิ่ว รอยมีดไม่ขัดทาน้ำมัน ลักษณะ ดังนี้ถือได้ว่ายังเป็นไม้แปรรูปอยู่ ยังไม่เป็นภาชนะใส่อาหารตั้งบนโตกอัน จะเป็นเครื่องใช้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3054/2516
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ไม้แปรรูปเป็นบานประตูหน้าต่างสำเร็จรูป ไม่ถือเป็นไม้แปรรูปตาม พ.ร.บ.ป่าไม้
บ้านประตูหน้าต่างของกลางมีตะปูขันเกลียว มีสลักยึดและไสกบประกอบขึ้นอย่างมั่นคง มีลักษณะอย่างเดียวกับบานประตูหน้าต่างที่มีขายทั่วไป แสดงให้เห็นเจตนาเพื่อจะใช้เป็นบานประตูหน้าต่างโดยเฉพาะ แม้ยังไม่ได้เซาะร่อง ติดกลอน และติดบานพับก็เป็นบานประตูหน้าต่างสำเร็จรูปแล้ว จึงเป็นเครื่องใช้สำหรับสิ่งปลูกสร้างไม่ใช่ไม้แปรรูปตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พุทธศักราช 2484 มาตรา 4(4) ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติป่าไม้ (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2503 มาตรา 4
(ประชุมใหญ่ครั้งที่ 26/2516)
(ประชุมใหญ่ครั้งที่ 26/2516)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1561/2516
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ไม้แปรรูปเพื่อทำเกวียนยังไม่ถือเป็นเครื่องใช้ การมีไม้หวงห้ามโดยไม่ได้รับอนุญาตจึงมีความผิดตามกฎหมาย
จำเลยมีไม้หวงห้ามทำเป็นซี่ล้อ ดุมล้อคันชักและฝักขามสำหรับประกอบเป็นล้อเกวียนและเกวียนเพื่อจำหน่าย เมื่อยังมิได้ประกอบเป็นล้อเกวียนหรือเกวียน จึงไม่อยู่ในสภาพเป็นเครื่องใช้ คงถือว่าเป็นไม้แปรรูปตามพระราชบัญญัติป่าไม้ (ฉบับที่ 4) พ.ศ.2503 มาตรา 4
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1212/2516
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ไม้แปรรูปทำเป็นบานประตูหน้าต่างสำเร็จรูป ไม่ถือเป็นไม้แปรรูปตามกฎหมายป่าไม้
บานประตูและบานหน้าต่างของกลางนั้น กรอบนอกส่วนหัวและส่วนกลางเข้าเดือยหรือลิ่มแน่นหนามั่นคงและเซาะเป็นร่องที่บาน เจตนาเพื่อใช้เป็นบานประตู บานหน้าต่างโดยเฉพาะแม้ส่วนหัวและส่วนท้ายไม่เรียบเสมอกัน ไสกบไม่เรียบร้อย ไม่มีรอยบากเพื่อใส่เหล็กริโก้หรือเพื่อใส่บานพับ จะนำไปใช้ประกอบสิ่งปลูกสร้างทีเดียวไม่ได้ ก็เป็นบานประตู บานหน้าต่าง สำเร็จรูปแล้วคงอยู่แต่จะตบแต่งติดตั้งเท่านั้น จึงเป็นเครื่องใช้สำหรับสิ่งปลูกสร้างแล้ว ไม่ใช่ไม้แปรรูป
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1230/2515
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การกระทำความผิดพ.ร.บ.ป่าไม้: การพรางเรือนแพเพื่อหลีกเลี่ยงกฎหมาย
ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำคุกจำเลย 1 ปี ปรับ 2,000 บาทแต่ให้รอการลงโทษไว้มีกำหนด 2 ปี ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ให้ลงโทษจำคุกจำเลยสถานเดียว แต่ไม่รอการลงโทษ จึงเป็นการแก้ไขมาก จำเลยฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงได้
ไม้ทุกชิ้นที่สร้างเรือนแพของจำเลยไม่ได้ไสกบเลย พื้นเรือนตีตะปูยึดกับตงไว้ที่หัวและท้ายเพียงบางแผ่นตงก็ใช้ไม้ขนาดเดียวกับไม้พื้น ชานเรือนใช้ไม้ปูซ้อนล้ำกันถึง 1 วา ฝากั้นห้องไม่เสมอกันและปล่อยยื่นออกมานอกเสา การตั้งวงกบประตูหน้าต่างก็เพียงแต่ตีชนกันไว้ ไม่ได้เข้าไม้ให้แน่นหนา หัวเสาที่รับอะเสไม่ได้บากหรือหยักหัวเสาให้รับกัน มีแต่ตะปูตีไว้ไม่มั่นคงแข็งแรง ลูกบวบที่รองรับเรือนแพก็ผูกไว้ไม่แน่นหนาสมกับจะเป็นที่อยู่อาศัย ดังนี้ ถือได้ว่าเป็น ไม้แปรรูปที่ทำขึ้นเพียงให้เป็นรูปเรือนแพเพื่อพรางหรือลวงโดยเจตนาหลีกเลี่ยงกฎหมาย และเพื่อสะดวกแก่การขนย้ายหาใช่เป็นไม้ที่อยู่ในสภาพของสิ่งปลูกสร้างตาม ความหมายแห่งพระราชบัญญัติป่าไม้ (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2503 มาตรา 4 ไม่
ไม้ทุกชิ้นที่สร้างเรือนแพของจำเลยไม่ได้ไสกบเลย พื้นเรือนตีตะปูยึดกับตงไว้ที่หัวและท้ายเพียงบางแผ่นตงก็ใช้ไม้ขนาดเดียวกับไม้พื้น ชานเรือนใช้ไม้ปูซ้อนล้ำกันถึง 1 วา ฝากั้นห้องไม่เสมอกันและปล่อยยื่นออกมานอกเสา การตั้งวงกบประตูหน้าต่างก็เพียงแต่ตีชนกันไว้ ไม่ได้เข้าไม้ให้แน่นหนา หัวเสาที่รับอะเสไม่ได้บากหรือหยักหัวเสาให้รับกัน มีแต่ตะปูตีไว้ไม่มั่นคงแข็งแรง ลูกบวบที่รองรับเรือนแพก็ผูกไว้ไม่แน่นหนาสมกับจะเป็นที่อยู่อาศัย ดังนี้ ถือได้ว่าเป็น ไม้แปรรูปที่ทำขึ้นเพียงให้เป็นรูปเรือนแพเพื่อพรางหรือลวงโดยเจตนาหลีกเลี่ยงกฎหมาย และเพื่อสะดวกแก่การขนย้ายหาใช่เป็นไม้ที่อยู่ในสภาพของสิ่งปลูกสร้างตาม ความหมายแห่งพระราชบัญญัติป่าไม้ (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2503 มาตรา 4 ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1099/2507 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ภาระการพิสูจน์ของผู้ครอบครองไม้แปรรูป: ไม้ที่ใช้สร้างบ้านเกิน 2 ปี ไม่เป็นความผิด
ถึงแม้ว่าพระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ.2484 มาตรา 4(4) ซึ่งแก้ไขโดยพระราชบัญญัติป่าไม้(ฉบับที่ 4) พ.ศ.2503 มาตรา 4 บัญญัติให้ผู้ครอบครองมีหน้าที่พิสูจน์ว่า ไม้ในความครอบครองนั้นไม่เป็นไม้แปรรูปก็ตาม ในเรื่องนี้โจทก์ฎีกาได้แต่ข้อกฎหมาย เมื่อศาลอุทธรณ์ฟังข้อเท็จจริงจากพยานโจทก์ว่า ไม้นั้นไม่เป็นไม้แปรรูปแล้ว ไม้ของกลางที่มีไว้ก็ไม่เป็นความผิดตามกฎหมาย จำเลยก็ไม่จำต้องนำสืบพิสูจน์อีก