คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
ภิญโญ ธีรนิติ

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 459 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 472/2521

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อายุความหนี้จากการซื้อขายและการรับสภาพหนี้: การสะดุดหยุดและเริ่มต้นนับอายุความใหม่
โจทก์จำเลยติดต่อซื้อขายเศษยางกัน โดยจำเลยรับเงินล่วงหน้าไปจากโจทก์จำนวนหนึ่งเมื่อจำเลยนำยางและเศษยางมาขายให้โจทก์ก็คิดราคายางหักจากเงินที่จำเลยรับไปแล้ว ต่อมามีการคิดบัญชีกันแล้วจำเลยได้ทำหนังสือรับว่ายังมีเงินค่าเศษยางที่จำเลยรับไปล่วงหน้าเหลืออยู่จำนวนหนึ่งโจทก์ฟ้องเรียกเงินที่เหลือนั้นคืน ดังนี้ หาใช่โจทก์ฟ้องเรียกหนี้ค่าที่โจทก์ได้ออกเงินทดรองไปตามมาตรา 165(1) แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ไม่ จะนำอายุความ 2 ปี มาใช้บังคับไม่ได้ ต้องใช้อายุความ 10 ปี ตามมาตรา 164(อ้างคำพิพากษาฎีกาที่ 1326/2511)
จำเลยทำหนังสือรับสภาพหนี้ให้โจทก์ มีผลทำให้อายุความสะดุดหยุดลง และเริ่มนับอายุความขึ้นใหม่ตามอายุความแห่งมูลหนี้ที่จำเลยรับสภาพต่อโจทก์ตั้งแต่เวลาเมื่อเหตุที่ทำให้อายุความสะดุดหยุดลงนั้นสิ้นสุดไปตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 172,181 ตามหนังสือรับสภาพหนี้นี้จำเลยรับว่าจะผ่อนชำระหนี้โจทก์ให้เสร็จสิ้นภายในเวลา 2 ปี เริ่มตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2508 ฉะนั้น เหตุที่ทำให้อายุความสะดุดหยุดลงจึงสุดสิ้นลงเมื่อครบกำหนด 2 ปี ในวันสุดท้ายของเดือนกุมภาพันธ์ 2510 และเริ่มนับอายุความใหม่ตั้งแต่วันนั้นซึ่งเป็นวันที่อาจบังคับสิทธิเรียกร้องได้เป็นต้นไป

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 472/2521 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อายุความหนี้จากการซื้อขายและการรับสภาพหนี้: การสะดุดหยุดและเริ่มนับอายุความใหม่
โจทก์จำเลยติดต่อซื้อขายเศษยางกัน โดยจำเลยรับเงินล่วงหน้าไปจากโจทก์จำนวนหนึ่ง เมื่อจำเลยนำยางและเศษยางมาขายให้โจทก์ก็คิดราคายางหักจากเงินที่จำเลยรับไปแล้ว ต่อมามีการคิดบัญชีกันแล้วจำเลยได้ทำหนังสือรับว่ายังมีเงินค่าเศษยางที่จำเลยรับไปล่วงหน้าเหลืออยู่จำนวนหนึ่ง โจทก์ฟ้องเรียกเงินที่เหลือนั้นคือ ดังนี้ หาใช่โจทก์ฟ้องเรียกหนี้ค่าที่โจทก์ได้ออกเงินทดรองไปตามมาตรา 165 (1) แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ไม่ จะนำอายุความ 2 ปี มาใช้บังคับไม่ได้ ต้องใช้อายุความ 10 ปี ตามมาตรา 164 (อ้างคำพิพากษาฎีกาที่ 1326/2511)
จำเลยทำหนังสือรับสารภาพหนี้ให้โจทก์ มีผลทำให้อายุความสะดุดหยุดลง และเริ่มนับอายุความขึ้นใหม่ตามอายุความแห่งมูลหนี้ที่จำเลยรับสภาพต่อโจทก์ตั้งแต่เวลาเมื่อเหตุที่ทำให้อายุความสะดุดหยุดลงนั้นสิ้นสุดไปตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 172, 181 ตามหนังสือรับสภาพหนี้นี้จำเลยรับว่าจะผ่อนชำระหนี้โจทก์ให้เสร็จสิ้นภายในเวลา 2 ปี เริ่มตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2508 ฉะนั้น เหตุที่ทำให้อายุความสะดุดหยุดลงจึงสุดสิ้นลงเมื่อครบกำหนด 2 ปี ในวันสุดท้ายของเดือนกุมภาพันธ์ 2510 และเริ่มนับอายุความใหม่ตั้งแต่วันนั้นซึ่งเป็นวันที่อาจบังคับสิทธิเรียกร้องได้เป็นต้นไป

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 452/2521

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องซ้ำ: ที่ดินต่างโฉนด แม้มีที่มาจากการแบ่งแยกเดิม ศาลรับฟังได้หากประเด็นกรรมสิทธิ์ยังไม่เคยถูกวินิจฉัย
คดีก่อนโจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลยกับพวกจดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินบางส่วนในโฉนดเลขที่ 453 ซึ่งโจทก์ได้กรรมสิทธิ์โดยการครอบครองปรปักษ์ตามคำสั่งศาลครั้นช่างแผนที่ไปทำแผนที่พิพาทในคดีดังกล่าว กลับปรากฏว่าโจทก์นำชี้ที่พิพาทเป็นที่ดินอยู่ในเขตโฉนดเลขที่ 1908 มิใช่อยู่ในเขตโฉนดเลขที่ 453 ดังโจทก์ฟ้อง ศาลชั้นต้นจึงสั่งงดสืบพยานทั้ง สองฝ่ายแล้วพิพากษายกฟ้อง โดยวินิจฉัยว่าโจทก์ไม่ได้ครอบครองที่ดินโฉนดเลขที่ 453 ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน คดีถึงที่สุดแล้ว โจทก์มาฟ้องคดีนี้อ้างว่าโจทก์มีกรรมสิทธิ์โดยการครอบครองปรปักษ์ในที่ดินโฉนดเลขที่1908 ซึ่งจำเลยแบ่งแยกออกจากโฉนดเลขที่ 453 เดิม ดังนี้ ที่พิพาทในคดีก่อนกับคดีนี้จึงเป็นที่ดินคนละโฉนดกันและประเด็นคดีนี้ที่ว่าโจทก์ได้กรรมสิทธิ์ที่พิพาทในโฉนดเลขที่ 1908 โดยการครอบครองปรปักษ์หรือไม่ คดีก่อนยังไม่ได้วินิจฉัย จึงไม่เป็นฟ้องซ้ำ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 348/2521

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดพยายามข่มขืนกระทำชำเรา แม้ไม่อวัยวะเพศล่วงล้ำ แต่สำเร็จความใคร่ด้วยการจ่อดัน
จำเลยกระทำชำเราผู้เสียหายอายุ 9 ปี อวัยวะเพศของจำเลยเพียงเข้าไปจ่อดันอยู่ที่อวัยวะเพศของผู้เสียหายแล้วจำเลยก็สำเร็จความใคร่ อวัยวะเพศของจำเลยยังไม่ล่วงล้ำเข้าไปในช่องอวัยวะเพศของผู้เสียหาย การกระทำของจำเลยจึงเป็นความผิดฐานพยายามข่มขืนกระทำชำเรา หาใช่จำเลยเจตนาเพียงกระทำอนาจารแก่ผู้เสียหายไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 348/2521 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดพยายามข่มขืนกระทำชำเรา แม้อวัยวะเพศไม่ล่วงล้ำเข้าไปในช่องอวัยวะเพศ แต่มีการจ่อดันและสำเร็จความใคร่
จำเลยกระทำชำเราผู้เสียหายอายุ 9 ปี อวัยวะเพศของจำเลยเพียงเข้าไปจ่อดันอยู่ที่อวัยวะเพศของผู้เสียหายแล้วจำเลยก็สำเร็จความใคร่ อวัยวะเพศของจำเลยยังไม่ล่วงล้ำเข้าไปในอวัยวะเพศของผู้เสียหาย การกระทำของจำเลยจึงเป็นความผิดฐานพยายามข่มขืนกระทำชำเรา หาใช่จำเลยเจตนาเพียงกระทำอนาจารแก่ผู้เสียหายไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 311/2521

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การผิดสัญญาซื้อขายโควต้าสลากกินแบ่ง และความรับผิดของผู้โอนสิทธิและผู้รับโอน
จำเลยทำสัญญาขายโควต้าสลากกินแบ่งแก่โจทก์แล้วกลับไปโอนโควต้าแก่สามีจำเลย โดยรู้อยู่แล้วว่าจำเลยขายโควต้าแก่โจทก์จำเลยต้องรับผิดโอนโควต้าแก่โจทก์ ถ้าโอนไม่ได้ต้องใช้ค่าเสียหาย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 256/2521

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ค่านายหน้าจากการชี้ช่องให้ทำสัญญา แม้เป็นการประมูลราคาสำเร็จ ก็ต้องจ่ายค่านายหน้าตามตกลง
จำเลยที่ 1 ตกลงให้โจทก์เป็นผู้ติดต่อขายรถยนต์ดัมทรัค 3 คัน เมื่อขายได้แล้วจะให้ค่านายหน้า 5% โจทก์ได้ติดต่อกับผู้ซื้อซึ่งเป็นหน่วยราชการซึ่งจัดการซื้อรถยนต์ดังกล่าวโดยวิธีประกวดราคา ในการประกวดราคาโจทก์ก็ได้ช่วยเหลือจำเลย จนในที่สุดจำเลยประมูลขายรถยนต์ดังกล่าวให้แก่ผู้ซื้อเป็นผลสำเร็จ พฤติการณ์ดังกล่าวถือได้ว่าโจทก์เป็นผู้ชี้ช่องให้จำเลยได้เข้าทำสัญญาหรือจัดการให้จำเลยได้ทำสัญญา จำเลยต้องจ่ายค่านายหน้าให้แก่โจทก์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 126/2521

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ขอบเขตการค้ำประกัน L/C: ค้ำเฉพาะราคาสินค้า ไม่รวมค่าธรรมเนียม
โจทก์ค้ำประกันจำเลยต่อธนาคารในการเปิดเลตเตอร์ออฟเครดิตสำหรับราคาสินค้าที่จำเลยสั่งเข้ามาซึ่งตามคำรับรองของโจทก์ไม่รวมถึงค่าธรรมเนียมที่ธนาคารเรียกเก็บจากจำเลยในการเปิดเลตเตอร์ออฟเครดิตโจทก์รับใช้และได้ใช้ค่าธรรมเนียมแทนจำเลยไป โจทก์ไม่ได้รับช่วงสิทธิที่จะไล่เบี้ยเอาเงินจำนวนนี้จากจำเลย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 44/2521

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาจดทะเบียนภารจำยอมผิดพลาด: ศาลพิพากษายืนตามเจตนาเดิมของคู่กรณี แม้การจดทะเบียนไม่ตรงตามความจริง
โจทก์จำเลยมีเจตนาจดทะเบียนช่องทางเดินผ่านที่ดินภารยทรัพย์ด้านเหนือมาแต่แรก บันทึกและรูปจำลองของเจ้าพนักงานที่ดินผิดจากเจตนาแท้จริงของคู่กรณี เป็นสารสำคัญของนิติกรรม ศาลพิพากษาให้จดทะเบียนภารจำยอมใหม่ให้ตรงตามเจตนาที่เป็นจริง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 42/2521 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อายุความภาษีเงินได้และภาษีการค้า: การประเมินและแจ้งประเมินภายใน 10 ปี
โจทก์มีเงินได้พึงประเมินที่ได้รับในระหว่างปีภาษี พ.ศ. 2500 ถึง 2506 แต่โจทก์ยื่นรายการเงินได้ไม่ถูกต้องต่ำกว่าความจริงและลงรายการไม่ครบถ้วนทำให้จำนวนเงินภาษีเงินได้ขาดไป เจ้าพนักงานประเมินได้ไต่สวนแล้วมีหนังสือแจ้งการประเมินภาษีเงินได้รวมทั้งเงินเพิ่มของปีดังกล่าวให้โจทก์ชำระ ดังนี้ หนี้ค่าภาษีเงินได้ที่ขาดไปนั้นได้ถึงกำหนดชำระแล้วตั้งแต่วันที่โจทก์มีหน้าที่ต้องปฏิบัติตามที่บัญญัติไว้ในประมวลรัษฎากร มาตรา 56, 57 จัตวา คือภายในเดือนกุมภาพันธ์ทุก ๆ ปี ที่มีเงินได้พึงประเมินในระหว่างปีภาษีที่ล่วงมา และเจ้าพนักงานประเมินมีสิทธิเรียกร้องหนี้ค่าภาษีเงินได้ถัดจากวันที่ครบกำหนดชำระเป็นต้นไป คือเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม 2501
สำหรับเงินได้ระหว่างปีภาษี พ.ศ. 2500 และวันที่ 1 มีนาคมในปีถัดไป สำหรับเงินได้ระหว่างปีภาษี พ.ศ. 2501 ถึง 2506 ของแต่ละปีตามลำดับ เมื่อปรากฏว่าเจ้าพนักงานประเมินได้แจ้งประเมินภาษีเงินได้ปี พ.ศ. 2500, 2501 ให้โจทก์ชำระเมื่อวันที่ 26 ธันวาคม 2510 และภาษีเงินได้ปี พ.ศ. 2502 ถึง 2506 เมื่อวันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2501 ซึ่งนับอายุความตั้งแต่วันที่เจ้าพนักงานประเมินอาจบังคับสิทธิเรียกร้องให้โจทก์ชำระภาษีเงินได้ถึงวันที่เจ้าพนักงานประเมินแจ้งการประเมินแล้วยังไม่เกิน 10 ปี สิทธิเรียกร้องค่าภาษีเงินได้จึงไม่ขาดอายุความ ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพานิชย์ มาตรา 167
สำหรับภาษีการค้านั้นเมื่อปรากฏว่าโจทก์มิได้ยื่นแบบแสดงรายการการค้าสำหรับรายรับเดือนมกราคมถึงมิถุนายน 2502 เดือนธันวาคม 2502 และกันยายน 2503 ภายในเวลาตามที่กำหนดไว้ตามประมวลรัษฎากร ตาม 84, 85 ดังนี้ มูลหนี้ค่าภาษีการค้าได้เกิดขึ้นแล้วทุกเดือนภาษีที่โจทก์มีรายรับโดยถือเอาวันที่ 15 ของเดือนถัดไปเป็นวันที่ครบกำหนดชำระภาษีเดือนนั้น ๆ และเจ้าพนักงานประเมินมีสิทธิเรียกร้องหนี้ค่าภาษีการค้าถัดจากวันที่ครบกำหนดชำระเป็นต้นไป เมื่อเจ้าพนักงานประเมินได้แจ้งประเมินภาษีการค้าให้โจทก์ชำระในวันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2511 อันเป็นการใช้สิทธิเรียกร้องค่าภาษีการค้าภายในกำหนดเวลา 10 ปี นับแต่วันที่เจ้าพนักงานประเมินอาจใช้สิทธิเรียกร้องได้ จึงไม่ขาดอายุความตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 167 เช่นกัน
of 46