คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
ภิญโญ ธีรนิติ

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 459 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2839/2523

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คดีบัญชีเดินสะพัด: การโอนเงินผิดพลาดไม่ใช่ลาภมิควรได้ ศาลอุทธรณ์แก้ไขดอกเบี้ย
คดีมีทุนทรัพย์ไม่เกินห้าหมื่นบาท ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยรับเงินจากโจทก์โดยไม่มีมูลจะกล่าวอ้างได้ตามกฎหมายและถือไม่ได้ว่าจำเลยได้รับเงินไว้โดยสุจริตจำเลยจึงต้องคืนเงินให้โจทก์พร้อมทั้งดอกเบี้ยนับแต่วันนำเงินเข้าบัญชีจำเลย ศาลอุทธรณ์พิพากษาว่าความสัมพันธ์ระหว่างโจทก์จำเลยเป็นเรื่องบัญชีเดินสะพัดมิใช่เรื่องลาภมิควรได้ โจทก์ชอบที่จะเพิกถอนรายการที่ซ้ำออกจากบัญชีของจำเลยได้ ข้อที่จำเลยอ้างว่าไม่ต้องคืนเงินจึงฟังไม่ขึ้น แต่ศาลชั้นต้นคิดดอกเบี้ยให้ไม่ถูกต้องพิพากษาแก้เป็นว่าให้จำเลยใช้ดอกเบี้ยแก่โจทก์นับแต่วันหักทอนบัญชีดังนี้ เป็นการแก้ไขเล็กน้อย ต้องห้ามฎีกาในข้อเท็จจริง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2839/2523 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คดีบัญชีเดินสะพัด/ลาภมิควรได้ จำนวนทุนทรัพย์ไม่เกิน 5 หมื่น ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัยฎีกาในข้อเท็จจริง
คดีมีทุนทรัพย์ไม่เกินห้าหมื่นบาท ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยรับเงินจากโจทก์โดยไม่มีมูลจะกล่าวอ้างได้ตามกฎหมาย และถือไม่ได้ว่าจำเลยได้รับเงินไว้โดยสุจริต จำเลยจึงต้องคืนเงินให้โจทก์พร้อมทั้งดอกเบี้ยนับแต่วันนำเงินเข้าบัญชีจำเลย ศาลอุทธรณ์พิพากษาว่าความสัมพันธ์ระหว่างโจทก์จำเลยเป็นเรื่องบัญชีเดินสะพัดมิใช่เรื่องลาภมิควรได้ โจทก์ชอบที่จะเพิกถอนรายการที่ช้าออกจากบัญชีของจำเลยได้ ข้อที่จำเลยอ้างว่าไม่ต้องคืนเงินจึงฟังไม่ขึ้น แต่ศาลชั้นต้นคิดดอกเบี้ยให้ไม่ถูกต้อง พิพากษาแก้เป็นว่าให้จำเลยใช้ดอกเบี้ยแก่โจทก์นับแต่วันหักทอนบัญชี ดังนี้ เป็นการแก้ไขเล็กน้อย ต้องห้ามฎีกาในข้อเท็จจริง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2784/2523

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจเจ้าหนี้กองมรดกฟ้องทายาท แม้มีการสละมรดก การบังคับชำระหนี้จากทรัพย์สินในกองมรดก
ผู้ร้องเข้ามาในประเทศไทยโดยใช้หนังสือเดินทางของประเทศมาเลเซีย เจ้าพนักงานตรวจคนเข้าเมืองอนุญาตให้ผู้ร้องอยู่ในประเทศไทยชั่วคราวมีกำหนดหนึ่งเดือน พ้นกำหนดหนึ่งเดือนผู้ร้องจึงยื่นคำร้องขอพิสูจน์สัญชาติต่อศาลโดยอ้างว่าผู้ร้องเป็นคนสัญชาติไทย ดังนี้ ถือได้ว่าผู้ร้องมีความจำเป็นจะต้องใช้สิทธิทางศาล ชอบที่จะเสนอคดีต่อศาลได้ตามพระราชบัญญัติคนเข้าเมือง พ.ศ.2493 มาตรา 43ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 55

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2703/2523

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดฐานออกเช็ค – ผู้เสียหายและอำนาจฟ้อง – เช็คถูกปฏิเสธการจ่ายเงิน
การออกเช็คแต่ละฉบับหากจะเป็นความผิดก็เป็นได้เพียงครั้งเดียวฉะนั้นเมื่อจำเลยออกเช็คพิพาทสั่งให้ใช้เงินแก่ผู้ถือให้แก่โจทก์แล้วภริยาโจทก์นำไปขายลดให้ธนาคารกรุงเทพจำกัด แล้วในวันที่เช็คถึงกำหนดใช้เงินธนาคารกรุงเทพจำกัด จึงเป็นผู้ทรงเช็คเรียกเก็บเงินแต่ธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงิน ดังนี้ ธนาคารกรุงเทพจำกัด จึงเป็นผู้เสียหาย และความผิดเกิดขึ้นแล้วในวันนั้นแม้ภายหลังโจทก์จะนำเงินไปแลกเช็คพิพาทคืนมาแล้วนำไปยื่นแก่ธนาคารเพื่อให้ใช้เงินแต่ธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินก็ตามก็ไม่ทำให้จำเลยมีความผิดอีก โจทก์จึงมิใช่ผู้เสียหาย ไม่มีอำนาจฟ้องจำเลย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2689/2523

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิครอบครองที่ดินพิพาท - ป่าสงวน - การฟ้องขับไล่
เมื่อโจทก์เป็นผู้มีสิทธิครอบครองในที่ดินพิพาทการที่จำเลยบุกรุกเข้ามาทำประโยชน์ ปลูกข้าวโพด ถั่วเหลือง ในที่พิพาทโดยไม่ได้รับอนุญาต จึงเป็นการกระทำละเมิดต่อโจทก์แต่ที่ดินซึ่งเป็นป่าสงวนแห่งชาตินั้น โจทก์ไม่อาจยึดถือหรือครอบครองได้ เมื่อจำเลยเป็นฝ่ายครอบครองอยู่โจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้องขับไล่จำเลย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2673/2523 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อายุความฟ้องละเมิด: การแจ้งผลการพิจารณาความรับผิดทางแพ่งของหน่วยงานเป็นสำคัญในการเริ่มนับอายุความ
รายงานที่เสนอให้อธิบดีกรมทางหลวงโจทก์ทราบว่า จำเลยขับรถวิทยุออกตรวจแล้วเกิดอุบัติเหตุรถคว่ำได้รับความเสียหาย ได้ตั้งกรรมการสอบสวนหาตัวผู้รับผิดทางแพ่งแล้วยังถือไม่ได้ว่าอธิบดีฯ ทราบเหตุละเมิดและรู้ตัวผู้พึงใช้ค่าสินไหมทดแทน และเมื่อคณะกรรมการสอบสวนมีความเห็นว่าอุบัติเหตุเกิดจากเหตุสุดวิสัย จำเลยไม่ต้องรับผิด แม้อธิบดีฯ จะเห็นพ้องด้วย แต่ความเห็นก็ยังไม่เป็นที่ยุติ จะต้องเสนอให้กระทรวงการคลังวินิจฉัยชี้ขาดต่อไปตามระเบียบกระทรวงการคลัง เมื่อกรมบัญชีกลางพิจารณาแล้ววินิจฉัยว่า จำเลยกระทำละเมิดต้องใช้ค่าสินไหมทดแทน และแจ้งให้อธิบดีฯ ทราบในวันใด ถือได้ว่าอธิบดีฯ ทราบเหตุละเมิดและรู้ตัวผู้พึงใช้ค่าสินไหมทดแทนในวันที่ได้ทราบนั้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2673/2523

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแจ้งเหตุละเมิดและตัวผู้รับผิดเพื่อเริ่มนับอายุความฟ้องร้องคดีแพ่ง
รายงานที่เสนอให้อธิบดีกรมทางหลวงโจทก์ทราบว่า จำเลยขับรถวิทยุออกตรวจ แล้วเกิดอุบัติเหตุรถคว่ำได้รับความเสียหาย ได้ตั้งกรรมการสอบสวนหาตัวผู้รับผิดทางแพ่งแล้วยังถือไม่ได้ว่าอธิบดีฯ ทราบเหตุละเมิดและรู้ตัวผู้พึงใช้ค่าสินไหมทดแทน และเมื่อคณะกรรมการสอบสวนมีความเห็นว่าอุบัติเหตุเกิดจากเหตุสุดวิสัย จำเลยไม่ต้องรับผิด แม้อธิบดีฯ จะเห็นพ้องด้วย แต่ความเห็นก็ยังไม่เป็นที่ยุติจะต้องเสนอให้กระทรวงการคลังวินิจฉัยชี้ขาดต่อไปตามระเบียบกระทรวงการคลัง เมื่อกรมบัญชีกลางพิจารณาแล้ววินิจฉัยว่าจำเลยกระทำละเมิด ต้องใช้ค่าสินไหมทดแทน และแจ้งให้อธิบดีฯ ทราบในวันใด ถือได้ว่าอธิบดีฯ ทราบเหตุละเมิดและรู้ตัวผู้พึงใช้ค่าสินไหมทดแทนในวันที่ได้ทราบนั้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2657/2523 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความชัดเจนของฟ้องอาญาฐานยักยอก: รายละเอียดเวลา สถานที่ และพฤติการณ์สำคัญเพียงพอหรือไม่
โจทก์บรรยายฟ้องว่า เมื่อวันที่ 15 ตุลาคม 2521 เวลาประมาณ 16 นาฬิกา ผู้เสียหายได้นำผ้า 4 กล่อง ไปฝากไว้กับจำเลย จำเลยได้รับมอบผ้าทั้ง 4 กล่อง จากผู้เสียหายไว้ในความครอบครองของจำเลย แล้วในวันนั้นเองระหว่างเวลาประมาณ 16 - 20 นาฬิกา เวลาใดไม่ปรากฏชัด จำเลยโดยเจตนาทุจริตได้เบียดบังยักยอกผ้าทั้ง 4 กล่องดังกล่าวไปเป็นประโยชน์ของตน ดังนี้ ฟ้องโจทก์ได้บรรยายถึงการกระทำทั้งหลายที่อ้างว่าจำเลยได้กระทำผิด ข้อเท็จจริงและรายละเอียดที่เกี่ยวกับเวลาและสถานที่ซึ่งเกิดการกระทำนั้นๆ อีกทั้งบุคคลและสิ่งของที่เกี่ยวข้องด้วยพอสมควรเท่าที่จะให้จำเลยเข้าใจข้อหาได้ดี และครบองค์ประกอบความผิดฐานยักยอกแล้ว ฟ้องโจทก์จึงไม่เคลือบคลุม (อ้างคำพิพากษาฎีกาที่ 225/2523)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2657/2523

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความชัดเจนของฟ้องอาญาฐานยักยอก การบรรยายฟ้องที่ครบถ้วนตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา
โจทก์บรรยายฟ้องว่า เมื่อวันที่ 15 ตุลาคม 2521 เวลาประมาณ 16 นาฬิกา ผู้เสียหายได้นำผ้า 4 กล่อง ไปฝากไว้กับจำเลย จำเลยได้รับมอบผ้าทั้ง 4 กล่องจากผู้เสียหายไว้ในความครอบครองของจำเลย แล้วในวันนั้นเองระหว่างเวลาประมาณ 16-20 นาฬิกา เวลาใดไม่ปรากฏชัดจำเลยโดยเจตนาทุจริตได้เบียดบังยักยอกผ้าทั้ง 4 กล่องดังกล่าวไปเป็นประโยชน์ของตน ดังนี้ ฟ้องโจทก์ได้บรรยายถึงการกระทำทั้งหลายที่อ้างว่าจำเลยได้กระทำผิดข้อเท็จจริงและรายละเอียดที่เกี่ยวกับเวลาและสถานที่ซึ่งเกิดการกระทำนั้น ๆ อีกทั้งบุคคลและสิ่งของที่เกี่ยวข้องด้วยพอสมควรเท่าที่จะให้จำเลยเข้าใจข้อหาได้ดี และครบองค์ประกอบความผิดฐานยักยอกแล้ว ฟ้องโจทก์จึงไม่เคลือบคลุม (อ้างคำพิพากษาฎีกาที่ 225/2523)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2633/2523

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ขอบเขตอำนาจหน้าที่เทศบาลในการรับถนนและระวังแนวเขตที่ดิน: นายกเทศมนตรีไม่ต้องรับผิดตามกฎหมายอาญา
ตามพระราชบัญญัติเทศบาล พ.ศ.2496 มาตรา 53 เทศบาลไม่มีหน้าที่ตามกฎหมายที่จะต้องรับถนนที่มีผู้ยกให้และผู้ว่าราชการจังหวัดก็ไม่มีอำนาจสั่งให้เทศบาลรับถนนที่มีผู้ยกให้ดังกล่าวนอกจากมีอำนาจควบคุมดูแลเทศบาลให้ปฏิบัติการตามอำนาจหน้าที่โดยถูกต้องตามกฎหมายดังบัญญัติไว้ในมาตรา 71 เท่านั้น ฉะนั้น ถึงแม้จำเลยซึ่งเป็นนายกเทศมนตรีไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของผู้ว่าราชการจังหวัดที่สั่งให้จำเลยรับถนนที่โจทก์กับผู้มีชื่อยกให้ การกระทำของจำเลยก็ไม่เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา165
ตามพระราชบัญญัติเทศบาล พ.ศ.2496 มาตรา 50(2),53 เทศบาลมีหน้าที่จัดให้มีการบำรุงรักษาทางบก ทางน้ำ หาได้บัญญัติให้เทศบาล หรือจำเลยมีหน้าที่ต้องระวังแนวเขตและลงชื่อรับทราบแนวเขตตามประมวลกฎหมายที่ดิน มาตรา 70ไม่ ฉะนั้นแม้จำเลยจะไม่ยอมลงชื่อรับรองแนวเขตทางสาธารณะ การกระทำของจำเลยก็ไม่เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157
of 46