พบผลลัพธ์ทั้งหมด 471 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 658/2522
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การยึดทรัพย์ในคดีล้มละลาย: การยื่นคัดค้านคำสั่งเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ต้องเป็นไปตามกำหนดเวลา และเหตุผลที่อ้างไม่เป็นเหตุสุดวิสัย
คัดค้านคำสั่งเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ที่สั่งไม่ให้ถอนการยึดทรัพย์ต้องร้องต่อศาลภายใน 14 วันตาม พระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ.2483 มาตรา 158 เหตุที่ผู้ร้องอ้างว่าเสียเวลาศึกษาสำนวนความซึ่งใช้พยานหลักฐานหลายชุด และผู้รับมอบอำนาจเข้าใจผิด ไม่เป็นเหตุสุดวิสัยที่จะขยายระยะเวลา
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 605/2522 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การงดการบังคับคดีชั่วคราวเมื่อมีการฟ้องแย้งและวางหลักประกัน การดำเนินการบังคับคดีต่อเมื่อหลักประกันเพียงพอ
จำเลยขอให้งดการบังคับคดีเพราะได้ยื่นฟ้องโจทก์เป็นคดีเรื่องอื่นในศาลเดียวกัน หากจำเลยเป็นฝ่ายชนะก็สามารถหักกลบลบหนี้กันได้ ซึ่งต่อมาจำเลยได้นำหนังสือค้ำประกันของธนาคารมาวางศาล เป็นเงื่อนไขในการขอให้งดการบังคับคดีไว้ชั่วคราว โดยโจทก์ยินยอม ต่อมาโจทก์กลับขอให้บังคับคดีเอาแก่ธนาคารในฐานะผู้ค้ำประกัน ศาลชั้นต้นมีคำสั่งยกคำร้องของโจทก์และให้งดการบังคับคดีไว้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 293 คำสั่งของศาลชั้นต้นจึงถึงที่สุ่ดแล้วตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 293 วรรคท้าย ศาลอุทธรณ์สั่งรับอุทธรณ์ของโจทก์และมีคำพิพากษาเป็นการไม่ชอบ ศาลฎีกาพิพากษาให้ยกฎีกาจำเลยตลอดไปถึงคำสั่งและคำพิพากษาศาลอุทธรณ์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 605/2522
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
งดบังคับคดีชั่วคราวเมื่อมีการฟ้องแย้งและวางประกัน การอุทธรณ์ที่ไม่ชอบ และสิทธิฎีกา
จำเลยขอให้งดการบังคับคดีเพราะได้ยื่นฟ้องโจทก์เป็นคดีเรื่องอื่นในศาลเดียวกัน หากจำเลยเป็นฝ่ายชนะก็สามารถหักกลบลบหนี้กันได้ ซึ่งต่อมาจำเลยได้นำหนังสือค้ำประกันของธนาคารมาวางศาล เป็นเงื่อนไขในการขอให้งดการบังคับคดีไว้ชั่วคราว โดยโจทก์ยินยอม ต่อมาโจทก์กลับขอให้บังคับคดีเอาแก่ธนาคารในฐานะผู้ค้ำประกันศาลชั้นต้นมีคำสั่งยกคำร้องของโจทก์และให้งดการบังคับคดีไว้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 293 คำสั่งของศาลชั้นต้นจึงถึงที่สุดแล้วตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 293 วรรคท้าย ศาลอุทธรณ์สั่งรับอุทธรณ์ของโจทก์และมีคำพิพากษาเป็นการไม่ชอบศาลฎีกาพิพากษาให้ยกฎีกาจำเลยตลอดไปถึงคำสั่งและคำพิพากษาศาลอุทธรณ์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 472/2522
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ผู้ครอบครองอาวุธสงครามก่อนประกาศคำสั่ง คณะปฏิรูปฯ ไม่ต้องรับโทษ หากถูกจับกุมก่อนประกาศ
จำเลยมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนที่ใช้เฉพาะแต่ในการสงครามและถูกจับก่อนคำสั่งของคณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดินฉบับที่ 12 ลงวันที่ 7 ตุลาคม 2519 ที่ให้ผู้ที่มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนสำหรับใช้แต่เฉพาะในการสงครามไว้ในครอบครองนำมามอบให้นายทะเบียนท้องที่ตามกฎหมายภายในวันที่ 14 ตุลาคม 2519 ผู้นั้นไม่ต้องรับโทษ มีผลใช้บังคับ แม้โจทก์จะฟ้องคดีนี้หลังวันที่ 14 ตุลาคม 2519 จำเลยก็ไม่ต้องรับโทษศาลยกฟ้อง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 471/2522
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การสิ้นสุดความผิดตามกฎหมายเดิมหลังมีกฎหมายเฉพาะใหม่ และขอบเขตการลงโทษที่จำกัดตามคำฟ้อง
พระราชบัญญัติวิชาชีพเวชกรรม 2511 ยกเลิก พระราชบัญญัติควบคุมการประกอบโรคศิลปะ 2479 ในส่วนที่เกี่ยวกับเวชกรรมเหตุผลในการตรากฎหมายว่าด้วยวิชาชีพเวชกรรม เพื่อแยกควบคุมสาขาเวชกรรมโดยเฉพาะต่างหากจากการประกอบโรคศิลปะสาขาอื่นเมื่อปรากฏตามฟ้องว่าจำเลยเป็นผู้ขึ้นทะเบียนและรับใบอนุญาตให้ประกอบโรคศิลปะแผนโบราณ สาขาเวชกรรม แต่จำเลยกระทำการประกอบโรคศิลปะแผนปัจจุบันสาขาเวชกรรม จำเลยจึงไม่ได้ประกอบโรคศิลปะสาขาอื่นผิดไปจากสาขาที่จำเลยได้ขึ้นทะเบียนและรับใบอนุญาตตามพระราชบัญญัติควบคุมการประกอบโรคศิลปะ 2479 มาตรา 16 แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 8) พ.ศ.2511 มาตรา 6 ที่โจทก์ขอให้ลงโทษ การที่จำเลยประกอบโรคศิลปะแผนปัจจุบัน สาขาเวชกรรมชั้นหนึ่งโดยมิได้ขึ้นทะเบียนและรับใบอนุญาตเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติวิชาชีพเวชกรรม พ.ศ.2511 มาตรา 21ซึ่งศาลจะลงโทษจำเลยตามบทกฎหมายนี้ไม่ได้เพราะเกินคำขอ ต้องยกฟ้อง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 469/2522
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การพิพากษาคดีอาญาโดยให้ยกฟ้องเนื่องจากพยานหลักฐานไม่เพียงพอ และการวินิจฉัยข้อหาอื่นแม้ศาลชั้นต้นตัดสินไปแล้ว
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดฐานพยายามฆ่าคน ตามมาตรา 288,80 และฐานพกพาอาวุธปืน ตาม มาตรา371 ให้เรียงกระทงลงโทษโดยจำคุกและปรับ เมื่อศาลฎีกาเห็นว่าจำเลยมิได้กระทำผิดในคดีนี้ก็หยิบยกประเด็นข้อหาในเรื่องการพกพาอาวุธปืน ซึ่งแม้จะยุติไปตามคำพิพากษาของศาลชั้นต้นแล้วขึ้นวินิจฉัยยกฟ้องโจทก์เสียด้วยได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 464/2522 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแลกเปลี่ยนที่ดินก่อนได้รับมรดก & การสละสิทธิครอบครองหลังได้รับมรดก ศาลแก้ไขคำพิพากษาให้ถูกต้อง
โจทก์ตกลงแลกเปลี่ยนที่พิพาทกับที่ดินของจำเลย ขณะตกลงแลกเปลี่ยนโจทก์ยังไม่มีสิทธิในที่พิพาท และที่พิพาทเป็นทรัพย์มรดกตามพินัยกรรมที่บิดายกให้โจทก์ ข้อตกลงดังกล่าวจึงไม่มีผลเป็นการแลกเปลี่ยน ทั้งเป็นการจำหน่ายจ่ายโอนมรดกก่อนเจ้ามรดกตาย ขัดต่อประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1619 แต่ภายหลังที่บิดาตายแล้วจำเลยได้ครอบครองที่พิพาทเป็นของตนตลอดมาโดยโจทก์ไม่เกี่ยวข้อง ย่อมเป็นปริยายว่าโจทก์สละสิทธิครอบครองที่พิพาทให้แก่จำเลยภายหลังที่ที่พิพาทตกเป็นของโจทก์แล้ว โดยมีเจตนาแลกเปลี่ยนที่ดินกันดังเดิม จำเลยย่อมได้สิทธิครอบครองที่พิพาท โจทก์ต้องไปจดทะเบียนการโอนที่พิพาทให้จำเลย และจำเลยต้องไปจดทะเบียนโอนที่นาของตนที่แลกเปลี่ยนกับที่พิพาทให้โจทก์
ศาลล่างพิพากษาบังคับโจทก์โดยไม่บังคับจำเลยให้โอนที่ดินให้โจทก์ตามข้อตกลงแลกเปลี่ยนไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 369 แม้โจทก์จะมิได้อุทธรณ์ฎีกาในข้อนี้ ศาลฎีกาก็มีอำนาจแก้ให้ถูกต้องได้ เพราะเป็นการชำระหนี้ตามสัญญาต่างตอบแทน (เทียบคำพิพากษาฎีกาที่ 2430/2516)
ศาลล่างพิพากษาบังคับโจทก์โดยไม่บังคับจำเลยให้โอนที่ดินให้โจทก์ตามข้อตกลงแลกเปลี่ยนไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 369 แม้โจทก์จะมิได้อุทธรณ์ฎีกาในข้อนี้ ศาลฎีกาก็มีอำนาจแก้ให้ถูกต้องได้ เพราะเป็นการชำระหนี้ตามสัญญาต่างตอบแทน (เทียบคำพิพากษาฎีกาที่ 2430/2516)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 464/2522
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแลกเปลี่ยนที่ดินก่อนได้รับมรดก และการสละสิทธิครอบครองหลังได้รับมรดก
โจทก์ตกลงแลกเปลี่ยนที่พิพาทกับที่ดินของจำเลย ขณะตกลงแลกเปลี่ยนโจทก์ยังไม่มีสิทธิในที่พิพาท และที่พิพาทเป็นทรัพย์มรดกตามพินัยกรรมที่บิดายกให้โจทก์ ข้อตกลงดังกล่าวจึงไม่มีผลเป็นการแลกเปลี่ยน ทั้งเป็นการจำหน่ายจ่ายโอนมรดกก่อนเจ้ามรดกตาย ขัดต่อประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1619 แต่ภายหลังที่บิดาตายแล้วจำเลยได้ครอบครองที่พิพาทเป็นของตนตลอดมาโดยโจทก์ไม่เกี่ยวข้อง ย่อมเป็นปริยายว่าโจทก์สละสิทธิครอบครองที่พิพาทให้แก่จำเลยภายหลังที่ที่พิพาทตกเป็นของโจทก์แล้ว โดยมีเจตนาแลกเปลี่ยนที่ดินกันดังเดิม จำเลยย่อมได้สิทธิครอบครองที่พิพาท โจทก์ต้องไปจดทะเบียนการโอนที่พิพาทให้จำเลย และจำเลยต้องไปจดทะเบียนโอนที่นาของตนที่แลกเปลี่ยนกับที่พิพาทให้โจทก์
ศาลล่างพิพากษาบังคับโจทก์โดยไม่บังคับจำเลยให้โอนที่ดินให้โจทก์ตามข้อตกลงแลกเปลี่ยนไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 369 แม้โจทก์จะมิได้อุทธรณ์ฎีกาในข้อนี้ ศาลฎีกาก็มีอำนาจแก้ให้ถูกต้องได้เพราะเป็นการชำระหนี้ตามสัญญาต่างตอบแทน (เทียบคำพิพากษาฎีกาที่ 2430/2516)
ศาลล่างพิพากษาบังคับโจทก์โดยไม่บังคับจำเลยให้โอนที่ดินให้โจทก์ตามข้อตกลงแลกเปลี่ยนไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 369 แม้โจทก์จะมิได้อุทธรณ์ฎีกาในข้อนี้ ศาลฎีกาก็มีอำนาจแก้ให้ถูกต้องได้เพราะเป็นการชำระหนี้ตามสัญญาต่างตอบแทน (เทียบคำพิพากษาฎีกาที่ 2430/2516)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 429/2522
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
หนี้เช็คจากการเล่นแชร์: โจทก์มีสิทธิเรียกดอกเบี้ยนับแต่วันธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงิน แม้จำเลยเสียผลประโยชน์จากการประมูล
หนี้ตามเช็คเป็นหนี้เงิน โจทก์ (ลูกมือแชร์) ซึ่งเป็นผู้ทรงย่อมมีสิทธิเรียกดอกเบี้ยนับแต่วันที่ธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินอันเป็นวันผิดนัดได้แม้จำเลยที่ 2 (ลูกมือแชร์ผู้เปียแชร์ได้) ผู้สลักหลังเช็คนั้นจะได้เสียผลประโยชน์ในการประมูลแชร์ให้แก่ผู้ที่เปียไม่ได้ไปแล้วก็ตาม แต่ก็มิใช่การเสียดอกเบี้ยในการกู้ยืมจึงหาใช่เป็นการคิดดอกเบี้ยซ้อนดอกเบี้ยไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 385/2522 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจฟ้อง – สัญญาไม่มีผลบังคับ – ฎีกาไม่ชัดแจ้ง – ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย
จำเลยฎีกาว่า โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องต่อศาลตามวิธีธรรมดา จำเลยขอถือเอาคำฟ้องอุทธรณ์ของจำเลยในประเด็นข้อนี้เป็นส่วนหนึ่งของฎีกา จำเลยไม่แสดงเหตุผลประกอบอ้างอิงในการยื่นฎีกา ฎีกาจำเลยในปัญหาดังกล่าวเป็นฎีกาไม่แจ้งชัด ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย