พบผลลัพธ์ทั้งหมด 471 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 385/2522
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจฟ้อง - สัญญาต่อเรือ - เงื่อนไขบังคับก่อน - ฎีกาไม่ชัดแจ้ง
จำเลยฎีกาว่าโจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องต่อศาลตามวิธีธรรมดาจำเลยขอถือเอาคำฟ้องอุทธรณ์ของจำเลยในประเด็นข้อนี้เป็นส่วนหนึ่งของฎีกา จำเลยไม่แสดงเหตุผลประกอบอ้างอิงในการยื่นฎีกาฎีกาจำเลยในปัญหาดังกล่าวเป็นฎีกาไม่แจ้งชัดศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 362/2522
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องเรียกคืนเงินจากผู้รับเงินทุจริต แม้ไม่มีสิทธิยึดถือ ไม่มีอายุความ และการสมคบกันทุจริตเป็นเหตุให้โจทก์มีอำนาจฟ้อง
จำเลยสมคบกับพนักงานไปรษณีย์ที่ยักยอกเงิน โดยส่งธนาณัติมาให้จำเลยเป็นผู้รับเงิน จำเลยทำละเมิดต่อกรมไปรษณีย์ฯ โจทก์ต้องชดใช้เงินคืน การฟ้องเรียกเงินคืนจากผู้ไม่มีสิทธิยึดถือไว้ไม่มีอายุความ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 333/2522
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การพิสูจน์เจตนาฆ่าโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ต้องมีแผนการเตรียมการ ไม่ใช่แค่มีสาเหตุโกรธแค้น
เพียงแต่จำเลยมีสาเหตุโกรธผู้ตาย ถือไม่ได้ว่าฆ่าโดยไตร่ตรองไว้ก่อนเมื่อไม่ได้ความว่าวางแผนเตรียมการฆ่ามาก่อน
จำเลยถูกจับ ปฏิเสธต่อตำรวจว่าไม่ใช่ชื่อที่จำเลยใช้ ตำรวจค้นได้บัตรประจำตัว จำเลยจึงรับว่าชื่อดังในบัตร ศาลรับฟังส่อพิรุธของจำเลย
จำเลยถูกจับ ปฏิเสธต่อตำรวจว่าไม่ใช่ชื่อที่จำเลยใช้ ตำรวจค้นได้บัตรประจำตัว จำเลยจึงรับว่าชื่อดังในบัตร ศาลรับฟังส่อพิรุธของจำเลย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 330/2522
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจฟ้องขับไล่หลังสัญญาเช่าเดิมสิ้นสุด และการสละสิทธิการเช่าไม่เข้าข่ายการโอนสิทธิเรียกร้อง
โจทก์เช่าที่ดินจากกรมการศาสนาแล้วให้จำเลยปลูกบ้านถึงกำหนดแล้วจำเลยไม่ยอมออก โจทก์ในฐานะคู่สัญญาย่อมมีอำนาจฟ้องขับไล่จำเลยออกจากที่ดินที่เช่าได้จำเลยจะต่อสู้ว่า กรมการศาสนาเจ้าของที่พิพาทได้บอกเลิกสัญญาเช่าที่ทำไว้กับโจทก์เพราะโจทก์ผิดสัญญาให้เช่าช่วง โจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้องขับไล่จำเลยหาได้ไม่
การที่โจทก์เช่าที่พิพาทจากกรมการศาสนาแล้วถูกบอกเลิกสัญญาเช่าโจทก์จึงตกลงกับจำเลยสละสิทธิการเช่าในภายหน้า เพื่อให้จำเลยไปติดต่อขอเช่าจากกรมการศาสนาเองโดยตรง โดยโจทก์ขอรับเงินจากจำเลยเป็นค่าสละสิทธิจำนวนหนึ่งนั้น ข้อตกลงนี้ไม่ใช่เรื่องโอนสิทธิการเช่าหรือโอนสิทธิเรียกร้องและไม่มีกฎหมายบังคับให้ทำตามแบบ
การที่โจทก์เช่าที่พิพาทจากกรมการศาสนาแล้วถูกบอกเลิกสัญญาเช่าโจทก์จึงตกลงกับจำเลยสละสิทธิการเช่าในภายหน้า เพื่อให้จำเลยไปติดต่อขอเช่าจากกรมการศาสนาเองโดยตรง โดยโจทก์ขอรับเงินจากจำเลยเป็นค่าสละสิทธิจำนวนหนึ่งนั้น ข้อตกลงนี้ไม่ใช่เรื่องโอนสิทธิการเช่าหรือโอนสิทธิเรียกร้องและไม่มีกฎหมายบังคับให้ทำตามแบบ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 330/2522 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจฟ้องขับไล่เมื่อสัญญาเช่าเดิมสิ้นสุด และข้อตกลงสละสิทธิเช่าไม่ใช่การโอนสิทธิเรียกร้อง
โจทก์เช่าที่ดินจากกรมการศาสนาแล้วให้จำเลยปลูกบ้าน ถึงกำหนดแล้วจำเลยไม่ยอมออก โจทก์ในฐานะคู่สัญญาย่อมมีอำนาจฟ้องขับไล่จำเลยออกจากที่ดินที่เช่าได้ จำเลยจะต่อสู้ว่า กรมการศาสนาเจ้าของที่พิพาทได้บอกเลิกสัญญาเช่าที่ทำไว้กับโจทก์ เพราะโจทก์ผิดสัญญาให้เช่าช่วง โจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้องขับไล่จำเลยหาได้ไม่
การที่โจทก์เช่าที่พิพาทจากกรมการศาสนาแล้วถูกบอกเลิกสัญญาเช่า โจทก์จึงตกลงกับจำเลยสละสิทธิการเช่าในภายหน้า เพื่อให้จำเลยไปติดต่อขอเช่าจากกรมการศาสนาเองโดยตรง โดยโจทก์ขอรับเงินจากจำเลยเป็นค่าสละสิทธิจำนวนหนึ่งนั้น ข้อตกลงนี้ไม่ใช่เรื่องโอนสิทธิการเช่าหรือโอนสิทธิเรียกร้องและไม่มีกฎหมายบังคับให้ทำตามแบบ
การที่โจทก์เช่าที่พิพาทจากกรมการศาสนาแล้วถูกบอกเลิกสัญญาเช่า โจทก์จึงตกลงกับจำเลยสละสิทธิการเช่าในภายหน้า เพื่อให้จำเลยไปติดต่อขอเช่าจากกรมการศาสนาเองโดยตรง โดยโจทก์ขอรับเงินจากจำเลยเป็นค่าสละสิทธิจำนวนหนึ่งนั้น ข้อตกลงนี้ไม่ใช่เรื่องโอนสิทธิการเช่าหรือโอนสิทธิเรียกร้องและไม่มีกฎหมายบังคับให้ทำตามแบบ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 283/2522
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การอ้างเอกสารเพิ่มเติมหลังยื่นบัญชีพยาน: สิทธิผู้ร้อง & ผลของการไม่คัดค้านคำสั่ง
ผู้ร้องเป็นฝ่ายนำสืบก่อนและได้ยื่นบัญชีพยานไว้แล้วแต่ในวันสืบพยานผู้ร้อง ผู้ร้องส่งเอกสารหนังสือมอบอำนาจต่อศาลโดยมิได้ระบุในบัญชีพยาน แม้จะเป็นการไม่ชอบด้วยกระบวนพิจารณาแต่ต่อมาผู้ร้องได้ยื่นบัญชีพยานเพิ่มเติมอ้างเอกสารดังกล่าวเป็นพยานก่อนเสร็จการสืบพยานผู้ร้องซึ่งมีหน้าที่นำสืบก่อนซึ่งผู้ร้องมีสิทธิที่จะอ้างได้การที่ทนายผู้ร้องมิได้คัดค้านคำสั่งศาลชั้นต้นที่สั่งไม่รับเอกสารเพราะเหตุที่ผู้ร้องมิได้ระบุอ้างเป็นพยานในการยื่นบัญชีพยานครั้งแรกมิได้หมายความว่า ผู้ร้องจะยื่นบัญชีเพิ่มเติมให้ถูกต้องไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 283/2522 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การยื่นพยานเพิ่มเติมหลังสืบพยานไปแล้ว ศาลอนุญาตได้หากทำก่อนเสร็จการสืบพยานของผู้มีหน้าที่นำสืบก่อน
ผู้ร้องเป็นฝ่ายนำสืบก่อนและได้ยื่นบัญชีพยานไว้แล้ว แต่ในวันสืบพยานผู้ร้อง ผู้ร้องส่งเอกสารหนังสือมอบอำนาจต่อศาลโดยมิได้ระบุในบัญชีพยาน แม้จะเป็นการไม่ชอบด้วยกระบวนพิจารณา แต่ต่อมาผู้ร้องได้ยื่นบัญชีพยานเพิ่มเติมอ้างเอกสารดังกล่าวเป็นพยานก่อนเสร็จการสืบพยานผู้ร้องซึ่งมีหน้าที่นำสืบก่อน ซึ่งผู้ร้องมีสิทธิที่จะอ้างได้ การที่ทนายผู้ร้องมิได้คัดค้านคำสั่งศาลชั้นต้นที่สั่งไม่รับเอกสาร เพราะเหตุที่ผู้ร้องมิได้ระบุอ้างเป็นพยานในการยื่นบัญชีพยานครั้งแรก มิได้หมายความว่า ผู้ร้องจะยื่นบัญชีเพิ่มเติมให้ถูกต้องไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 277/2522
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การนำสืบแก้ข้อต่อสู้เรื่องความไม่สมบูรณ์ของสัญญา การนำสืบพยานได้หากเป็นการต่อสู้ว่าไม่ใช่สัญญาแต่เป็นการร่วมทุน
สืบพยานบุคคลว่า ผู้กู้ลงลายมือชื่อในแบบพิมพ์สัญญากู้มิได้กรอกข้อความ ซึ่งความจริงเป็นการร่วมทุนทำนาโดยโจทก์ออกค่าใช้จ่ายจำเลยออกแรงทำในนาของจำเลย เป็นการสืบว่าสัญญาไม่สมบูรณ์ สืบได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 205/2522 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ค่าจ้างทนายความ: พิจารณาจากผลสำเร็จของงาน แม้มีการฟ้องคดีอาญาควบคู่ไปด้วย
จำเลยตกลงว่าจ้างโจทก์เป็นทนายความฟ้อง อ.ขอหย่าและแบ่งสินสมรสทุนทรัพย์ 697,200 บาท ให้ดำเนินคดีจนถึงที่สุด โดยตกลงให้ค่าจ้าง 60,000 บาท ดังนี้ตามพฤติการณ์ที่โจทก์จำเลยปฏิบัติต่อกันเห็นได้ว่าจำเลยจะชำระค่าจ้าง 60,000 บาท ดังนี้ ตามพฤติการณ์ที่โจทก์จำเลยปฏิบัติต่อกันเห็นได้ว่าจำเลยจะชำระค่าจ้างว่าความให้โจทก์เมื่อจำเลยได้รับชำระเงินจาก อ. การที่โจทก์ยื่นฟ้อง อ. และคดียุติด้วยการทำสัญญาประนีประนอมยอมความโดยจำเลยและ อ. ตกลงหย่าขาดจากกัน อ. ยอมแบ่งสินสมรสให้จำเลย 600,000 บาท ซึ่งศาลพิพากษาไปตามยอม ต่อมาเมื่อ อ. ผิดสัญญายอม โจทก์ดำเนินการบังคับคดี แก้ต่างในคดีร้องขัดทรัพย์และฟ้อง อ. เป็นคดีล้มละลาย แม้จำเลยจะมอบให้ ค. เป็นทนายฟ้อง อ. เป็นคดีอาญาเรื่องฉ้อโกงเจ้าหนี้ และ อ. ยอมชำระเงินให้จำเลย ก็ถือได้ว่าการทำงานของโจทก์มีส่วนเป็นผลให้งานสำเร็จเป็นส่วนใหญ่เพราะที่ ค. ฟ้องคดีอาญาก็มีส่วนให้อ. ชำระเงินตามยอมด้วย จึงสมควรกำหนดค่าจ้างให้โจทก์ 40,000 บาท
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 205/2522
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ค่าจ้างทนายความ: การประเมินผลสำเร็จของงานและการชำระค่าจ้างเมื่อได้รับเงินจากคู่กรณี
จำเลยตกลงว่าจ้างโจทก์เป็นทนายความฟ้อง อ.ขอหย่าและแบ่งสินสมรสทุนทรัพย์ 697,200 บาท ให้ดำเนินคดีจนถึงที่สุดโดยตกลงให้ค่าจ้าง 60,000 บาท ดังนี้ตามพฤติการณ์ที่โจทก์จำเลยปฏิบัติต่อกันเห็นได้ว่าจำเลยจะชำระค่าจ้างว่าความให้โจทก์เมื่อจำเลยได้รับชำระเงินจาก อ. การที่โจทก์ยื่นฟ้อง อ.และคดียุติด้วยการทำสัญญาประนีประนอมยอมความโดยจำเลยและ อ.ตกลงหย่าขาดจากกัน.อ.ยอมแบ่งสินสมรสให้จำเลย 600,000 บาท ซึ่งศาลพิพากษาไปตามยอม ต่อมาเมื่อ อ.ผิดสัญญายอม โจทก์ดำเนินการบังคับคดี แก้ต่างในคดีร้องขัดทรัพย์และฟ้อง อ.เป็นคดีล้มละลาย แม้จำเลยจะมอบให้ ค.เป็นทนายฟ้องอ.เป็นคดีอาญาเรื่องฉ้อโกงเจ้าหนี้และอ.ยอมชำระเงินให้จำเลย ก็ถือได้ว่าการทำงานของโจทก์มีส่วนเป็นผลให้งานสำเร็จเป็นส่วนใหญ่เพราะที่ ค.ฟ้องคดีอาญาก็มีส่วนให้อ.ชำระเงินตามยอมด้วย จึงสมควรกำหนดค่าจ้างให้โจทก์ 40,000 บาท