คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
กุศล บุญยืน

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 471 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 179/2522 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความรับผิดของผู้ประกอบการไฟฟ้าต่อความเสียหายจากเสาไฟล้มเนื่องจากไฟไหม้หญ้า
กระแสไฟฟ้าที่จำเลยจัดให้มีขึ้นเพื่อจำหน่ายเป็นของที่เกิดอันตรายได้โดยสภาพ ผู้ครอบครองต้องรับผิดถ้าเกิดความเสียหายขึ้นตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 437 วรรคสอง เมื่อจำเลยยอมรับว่าเสาไฟที่หักเป็นทรัพย์ที่อยู่ในความครอบครองของจำเลย จำเลยจะพ้นผิดก็ต่อเมื่อพิสูจน์ได้ว่าเป็นความผิดของโจทก์ผู้เสียหายเองหรือเกิดจากเหตุสุดวิสัย
ข้อเท็จจริงได้ความว่าเสาไฟที่หักเป็นเสาไม้เส้นผ่าศูนย์กลางไม่เกิน 1 คืบขึงสายไฟแรงสูง 10,000 โวลท์ 3 เส้นบนหัวเสา ปักอยู่ในทุ่งหญ้ามาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2511 ทุกปีจะมีไฟไหม้ทุ่งหญ้า เสาไฟต้นที่ปักถัดไปเคยถูกไฟไหม้หักมาแล้ว หญ้าในทุ่งเต็มมาถึงโคนเสาไฟ ไม่เคยมีใครเข้าไปถางหญ้าโคนเสา ไฟไหม้หญ้าเป็นทางมาถึงโคนเสาที่หัก เช่นนี้ เห็นว่า เจ้าหน้าที่ของจำเลยควรรู้ได้เป็นอย่างดีว่าบริเวณนั้นมีไฟไหม้หญ้ามาติดเสาไฟซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่เคยเกิดขึ้นอยู่ก่อนแล้ว ถ้าใช้ความระมัดระวังไม่ปล่อยให้มีหญ้าขึ้นอยู่เต็มที่โคนเสาไฟก็อาจป้องกันไม่ให้เกิดขึ้นอีก จึงอยู่ในวิสัยที่จำเลยจะป้องกันได้ อันตรายที่เกิดขึ้นถือไม่ได้ว่าเกิดแต่เหตุสุดวิสัย จำเลยจึงไม่พ้นความรับผิด

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 179/2522

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความรับผิดของผู้ประกอบการไฟฟ้าต่อความเสียหายจากเสาไฟฟ้าล้มเนื่องจากไฟไหม้หญ้า
กระแสไฟฟ้าที่จำเลยจัดให้มีขึ้นเพื่อจำหน่ายเป็นของที่เกิดอันตรายได้โดยสภาพ ผู้ครอบครองต้องรับผิดถ้าเกิดความเสียหายขึ้นตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 437 วรรคสอง เมื่อจำเลยยอมรับว่าเสาไฟที่หักเป็นทรัพย์ที่อยู่ในความครอบครองของจำเลย จำเลยจะพ้นผิดก็ต่อเมื่อพิสูจน์ได้ว่าเป็นความผิดของโจทก์ผู้เสียหายเองหรือเกิดจากเหตุสุดวิสัย
ข้อเท็จจริงได้ความว่าเสาไฟที่หักเป็นเสาไม้เส้นผ่าศูนย์กลางไม่เกิน 1 คืบขึงสายไฟแรงสูง 10,000โวลท์ 3 เส้นบนหัวเสา ปักอยู่ในทุ่งหญ้ามาตั้งแต่ปีพ.ศ.2511 ทุกปีจะมีไฟไหม้ทุ่งหญ้า เสาไฟต้นที่ปักถัดไปเคยถูกไฟไหม้หักมาแล้ว หญ้าในทุ่งเต็มมาถึงโคนเสาไฟ ไม่เคยมีใครเข้าไปถางหญ้าโคนเสา ไฟไหม้หญ้าเป็นทางมาถึงโคนเสาที่หักเช่นนี้ เห็นว่าเจ้าหน้าที่ของจำเลยควรรู้ได้เป็นอย่างดีว่าบริเวณนั้นมีไฟไหม้หญ้ามาติดเสาไฟซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่เคยเกิดขึ้นอยู่ก่อนแล้ว ถ้าใช้ความระมัดระวังไม่ปล่อยให้มีหญ้าขึ้นอยู่เต็มที่โคนเสาไฟก็อาจป้องกันไม่ให้เกิดขึ้นอีก จึงอยู่ในวิสัยที่จำเลยจะป้องกันได้ อันตรายที่เกิดขึ้นถือไม่ได้ว่าเกิดแต่เหตุสุดวิสัย จำเลยจึงไม่พ้นความรับผิด

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 131/2522 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องซ้อนหรือไม่: ประเด็นต่างกัน แม้เกี่ยวข้องกับที่ดินแปลงเดียวกัน ศาลฎีกาพิพากษายกคำพิพากษาศาลล่าง
คดีก่อนโจทก์ฟ้องจำเลยที่ 6 ว่าโจทก์มีสิทธิครอบครองที่พิพาทซึ่งจำเลยที่ 4 โอนขายให้จำเลยที่ 6 ประเด็นในคดีก่อนมีว่าที่พิพาทเป็นของโจทก์หรือจำเลยที่ 6 ส่วนคดีนี้โจทก์ฟ้องว่าที่พิพาทอันเป็นที่บางส่วนตาม น.ส. 3 ที่จำเลยที่ 4 โอนขายให้จำเลยที่ 6 นั้น เป็นของโจทก์ จำเลยที่ 4 ได้ น.ส. 3 มาโดยมิชอบ ประเด็นในคดีนี้มีว่าจำเลยที่ 4 ได้ น.ส. 3 มาโดยมิชอบหรือไม่ กับประเด็นอื่นที่เกี่ยวข้องกับจำเลยที่ 1 ถึงที่ 3 แม้ประเด็นในคดีนี้จะเกี่ยวข้องกับประเด็นในคดีก่อน แต่ก็มิใช่ประเด็นเดียวกันโดยตรง ฟ้องโจทก์ในคดีนี้จึงมิใช่ฟ้องซ้อนกับคดีก่อน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 131/2522

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องซ้อนหรือไม่: คดีที่ดินพิพาท ประเด็นต่างกัน แม้เกี่ยวข้องกับการครอบครองและโอนสิทธิ
คดีก่อนโจทก์ฟ้องจำเลยที่ 6 ว่าโจทก์มีสิทธิครอบครองที่พิพาทซึ่งจำเลยที่ 4 โอนขายให้จำเลยที่ 6 ประเด็นในคดีก่อนมีว่าที่พิพาทเป็นของโจทก์หรือของจำเลยที่ 6 ส่วนคดีนี้โจทก์ฟ้องว่าที่พิพาทอันเป็นที่บางส่วนตามน.ส.3 ที่จำเลยที่ 4 โอนขายให้จำเลยที่ 6 นั้น เป็นของโจทก์ จำเลยที่ 4 ได้ น.ส.3 มาโดยมิชอบ ประเด็นในคดีนี้มีว่าจำเลยที่ 4 ได้ น.ส.3 มาโดยมิชอบหรือไม่ กับประเด็นอื่นที่เกี่ยวข้องกับจำเลยที่ 1 ถึง ที่ 3 แม้ประเด็นในคดีนี้จะเกี่ยวข้องกับประเด็นในคดีก่อน แต่ก็มิใช่ประเด็นเดียวกันโดยตรง ฟ้องโจทก์ในคดีนี้จึงมิใช่ฟ้องซ้อนกับคดีก่อน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 119/2522

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เหตุสุดวิสัยในการเช่าทรัพย์: ผู้เช่าไม่ต้องรับผิดหากทรัพย์สินถูกลักโจรกระทำในสถานที่เปลี่ยวและยากต่อการป้องกัน
จำเลยเช่าหม้อแปลงไฟฟ้าจากโจทก์แล้วถูกคนร้ายลักเอาไปตามสัญญาผู้เช่าจะต้องเป็นผู้รับผิดชอบในความเสียหายที่เกิดขึ้นเว้นแต่เหตุสุดวิสัย แต่หม้อแปลงไฟฟ้าที่จำเลยเช่าติดตั้งอยู่ในที่เปลี่ยวนอกที่ดินจำเลยห่างบ้านจำเลยถึงครึ่งกิโลเมตรเศษ จำเลยไม่อยู่ในวิสัยที่จะป้องกันมิให้คนร้ายลักเอาหม้อแปลงไฟฟ้าในยามวิกาล ขณะเกิดเหตุฝนตกลมแรงซึ่งปกติไฟดับได้ การที่จำเลยไม่ออกไปตรวจดูในขณะนั้นจะถือว่าจำเลยไม่ใช้ความระมัดระวังตามสมควรเพื่อป้องกันมิให้เกิดความเสียหายไม่ได้ การที่คนร้ายลักหม้อแปลงไฟฟ้าในกรณีเช่นนี้จึงเป็นเหตุสุดวิสัยซึ่งจำเลยไม่อาจป้องกันได้ จำเลยไม่ต้องรับผิดชดใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 119/2522 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เหตุสุดวิสัยในการเช่าทรัพย์: การลักทรัพย์หม้อแปลงไฟฟ้าในที่เปลี่ยวจำเลยไม่ต้องรับผิด
จำเลยเช่าหม้อแปลงไฟฟ้าจากโจทก์แล้วถูกคนร้ายลักเอาไป ตามสัญญาผู้เช่าจะต้องเป็นผู้รับผิดชอบในความเสียหายที่เกิดขึ้นเว้นแต่เหตุสุดวิสัย แต่หม้อแปลงไฟฟ้าที่จำเลยเช่าติดตั้งอยู่ในที่เปลี่ยวนอกที่ดินจำเลยห่างบ้านจำเลยถึงครึ่งกิโลเมตรเศษ จำเลยไม่อยู่ในวิสัยที่จะป้องกันมิให้คนร้ายลักเอาหม้อแปลงไฟฟ้าในยามวิกาล ขณะเกิดเหตุฝนตกลมแรงซึ่งปกติไฟดับได้ การที่จำเลยไม่ออกไปตรวจดูในขณะนั้นจะถือว่าจำเลยไม่ใช้ความระมัดระวังตามสมควรเพื่อป้องกันมิให้เกิดความเสียหายไม่ได้ การที่คนร้ายลักหม้อแปลงไฟฟ้าในกรณีเช่นนี้จึงเป็นเหตุสุดวิสัยซึ่งจำเลยไม่อาจป้องกันได้ จำเลยไม่ต้องรับผิดชดใช้ค่าเสียหายแก้โจทก์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 105/2522

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การยื่นคำขอรับชำระหนี้ในคดีล้มละลาย: สิทธิของเจ้าหนี้ผู้ค้ำประกันและผลของการไม่ยื่นภายในกำหนด
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์ลูกหนี้เด็ดขาด ธนาคารค้ำประกันหนี้ค่าภาษีศุลกากรขาเข้าและภาษีการค้าของลูกหนี้ไว้ก่อน ถือว่ามูลหนี้เกิดขึ้นก่อนแล้ว แม้ลูกหนี้ยังไม่ถูกกรมศุลกากรเรียกให้ชำระหนี้ก็ตามธนาคารไม่ยื่นคำขอรับชำระหนี้ภายใน 2 เดือน จึงหมดสิทธิขอรับชำระหนี้ศาลอุทธรณ์พิพากษายกคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์นั้น ศาลฎีกาพิพากษากลับคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ให้พิทักษ์ทรัพย์ลูกหนี้เด็ดขาดตามคำสั่งศาลชั้นต้นธนาคารขอรับชำระหนี้ภายในสองเดือนนับแต่โฆษณาคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์ครั้งที่สองนี้ไม่ได้ การโฆษณาคำสั่งครั้งที่สองนี้สำหรับหนี้ที่เกิดขึ้นหลังจากที่ศาลอุทธรณ์พิพากษายกฟ้องแล้วเท่านั้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 97/2522 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาค้ำประกัน: สิทธิการไล่เบี้ยและการใช้สิทธิของลูกหนี้
ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 695 ให้สิทธิแก่ลูกหนี้ที่จะอ้างขึ้นเถียงผู้ค้ำประกันซึ่งได้ชำระหนี้แล้ว ไม่ให้ไล่เบี้ยลูกหนี้
จำเลยทำสัญญาค้ำประกันไว้ต่อโจทก์ ในกรณีที่โจทก์ถูกเรียงร้องให้ชำระเงินตามภาระที่โจทก์ออกหนังสือค้ำประกันห้างหุ้นส่วนจำกัด ร. ลูกหนี้ของโจทก์แล้ว จำเลยจะเป็นผู้ชดใช้ให้โจทก์ จำเลยจึงไม่ใช่ตัวลูกหนี้ แต่เป็นผู้ทำสัญญาผูกพันไว้กับโจทก์อีกส่วนหนึ่งต่างหาก จะใช้สิทธิของลูกหนี้ตามมาตรา 695 ไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 97/2522

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิของผู้ค้ำประกันและการใช้สิทธิไล่เบี้ย เมื่อโจทก์ละเลยไม่ยกข้อต่อสู้ของลูกหนี้
ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 695 ให้สิทธิแก่ลูกหนี้ที่จะอ้างขึ้นเถียงผู้ค้ำประกันซึ่งได้ชำระหนี้แล้ว ไม่ให้ไล่เบี้ยลูกหนี้
จำเลยทำสัญญาค้ำประกันไว้ต่อโจทก์ ในกรณีที่โจทก์ถูกเรียกร้องให้ชำระเงินตามภาระที่โจทก์ออกหนังสือค้ำประกันห้างหุ้นส่วนจำกัดร. ลูกหนี้ของโจทก์แล้ว จำเลยจะเป็นผู้ชดใช้ให้โจทก์ จำเลยจึงไม่ใช่ตัวลูกหนี้ แต่เป็นผู้ทำสัญญาผูกพันไว้กับโจทก์อีกส่วนหนึ่งต่างหาก จะใช้สิทธิของลูกหนี้ตามมาตรา 695 ไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 96/2522

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สถานีวิทยุของกองทัพเรือรับจ้างโฆษณา ถือเป็นผู้ค้า อายุความสิทธิเรียกร้อง 2 ปี
สถานีวิทยุกระจายเสียงของกองทัพเรือโจทก์หารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายของสถานีวิทยุ โดยรับทำการโฆษณาข้อความหรือผลิตภัณฑ์ของบริษัทห้างร้านต่าง ๆ เป็นปกติธุระค่าโฆษณามีอัตรากำหนดไว้ให้ชำระเป็นรายเดือน เงินค่าโฆษณามิได้นำส่งเป็นรายได้ของแผ่นดิน ดังนี้ ถือว่าโจทก์เป็นผู้ค้าในการรับทำการงานต่าง ๆ คือการโฆษณาข้อความหรือผลิตภัณฑ์ของผู้อื่นดังที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 165(7) สิทธิเรียกร้องเอาเงินสินจ้างค่าโฆษณาของโจทก์จึงมีอายุความสองปี และแม้การสื่อสารเป็นราชการกองทัพเรือซึ่งมีหน้าที่เตรียมกำลังและป้องกันราชอาณาจักรก็ไม่เป็นเหตที่จะให้นำอายุความสิบปีมาใช้บังคับได้เพราะสิทธิเรียกร้องของรัฐบาลเพื่อหนี้อย่างอื่นต้องบังคับตามบทบัญญัติอายุความในเรื่องนั้น ๆ โดยเฉพาะดังที่บัญญัติไว้ตามมาตรา 167
of 48