คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
กุศล บุญยืน

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 471 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2542/2521

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาเงินกู้ที่เกิดจากหนี้ค่าแชร์ การพิสูจน์การใช้เงินตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
โจทก์เป็นนายวงแชร์ จำเลยเป็นผู้เข้าเล่นด้วยและเป็นผู้ประมูลได้ จำเลยจึงทำหนังสือสัญญากู้เงินให้โจทก์ไว้ระบุจำนวนเงินกู้เท่ากับเงินค่าแชร์ที่จำเลยจะต้องส่งเป็นรายเดือนต่อไปจนครบ โดยยอมเสียดอกเบี้ยตามกฎหมาย ดังนี้ เป็นเรื่องโจทก์จำเลยตกลงกันให้หนี้ค่าแชร์ระหว่างกันผูกพันกันในรูปหนี้เงินกู้ตามสัญญากู้โดยมีหนี้ค่าแชร์กันจริงสัญญากู้จึงชอบด้วยกฎหมาย โจทก์จำเลยจึงมีความผูกพันต่อกันในลักษณะกู้ยืม จำเลยจะพ้นความรับผิดต่อเมื่อได้ปฏิบัติตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 653 วรรคสอง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2524/2521

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การวางเงินชำระตามคำพิพากษาเกินกำหนด: ศาลไม่รับอุทธรณ์ตามมาตรา 234
จำเลยอุทธรณ์คำสั่งศาลชั้นต้นที่สั่งไม่รับอุทธรณ์ จำเลยขอยืดเวลาชำระเงินตามคำพิพากษาศาลชั้นต้นออกไป 7 วันศาลชั้นต้นอนุญาตจำเลยวางเงินนี้เกินกำหนดไป 1 วัน โดยแถลงว่าเพิ่งหาเงินได้ครบในวันนั้น ศาลชั้นต้นสั่งไม่ส่งอุทธรณ์คำสั่งไปศาลอุทธรณ์ คำสั่งศาลชั้นต้นนี้จำเลยอุทธรณ์ได้ เมื่อศาลอุทธรณ์พิพากษายืน จำเลยฎีกาได้ ศาลฎีกาพิพากษายืนเพราะศาลมิได้ขยายเวลา 7 วันนี้ให้ จึงเป็นการที่จำเลยมิได้ปฏิบัติตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 234

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2523/2521

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การบังคับตามคำพิพากษาตามยอม และขอบเขตอำนาจศาลในการบังคับสัญญาประนีประนอม
โจทก์ผู้เป็นเจ้าหนี้ตามคำพิพากษามิได้ยื่นคำขอโดยทำเป็นคำร้องต่อศาลชั้นต้น ขอให้ศาลมีคำสั่งจับกุมและกักขังลูกหนี้ตามคำพิพากษา การที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งกักขังลูกหนี้ตามคำพิพากษาหลังจากที่มีคำสั่งนัดพร้อม จึงไม่ชอบด้วยกฎหมาย
จำเลยได้ขายที่ดินส่วนของจำเลยให้แก่บุคคลภายนอกไปแล้วหากโจทก์จะถือว่าการกระทำของจำเลยเป็นการผิดสัญญาประนีประนอมยอมความและคำพิพากษาตามยอมอย่างใด ก็ชอบที่จะดำเนินการกับจำเลยในทางอื่น ศาลไม่มีอำนาจที่จะสั่งให้จำเลยแบ่งที่ดินของจำเลยไว้เพื่อปฏิบัติตามสัญญาประนีประนอมยอมความ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2523/2521 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คำสั่งขังลูกหนี้ตามคำพิพากษาต้องมีคำร้องและไต่สวน การบังคับตามสัญญาประนีประนอมเมื่อมีการขายทรัพย์สิน
โจทก์ผู้เป็นเจ้าหนี้ตามคำพิพากษามิได้ยื่นคำขอโดยทำเป็นคำร้องต่อศาลชั้นต้น ขอให้ศาลมีคำสั่งจับกุมและกักขังลูกหนี้ตามคำพิพากษา การที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งกักขังลูกหนี้ตามคำพิพากษาหลังจากที่มีคำสั่งนัดพร้อม จึงไม่ชอบด้วยกฎหมาย
จำเลยได้ขายที่ดินที่ส่วนของจำเลยให้แก่บุคคลภายนอกไปแล้ว หากโจทก์จะถือว่าการกระทำของจำเลยเป็นการผิดสัญญาประนีประนอมยอมความและคำพิพากษาตามยอมอย่างใด ก็ชอบที่จะดำเนินการกับจำเลยในทางอื่น ศาลไม่มีอำนาจที่จะสั่งให้จำเลยแบ่งที่ดินของจำเลยไว้เพื่อปฏิบัติตามสัญญาประนีประนอมยอมความ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2507/2521

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเสียชีวิตจากการถูกรถชนก่อนเข้าทำงาน ไม่ถือเป็นการประสบอันตรายจากการทำงาน จึงไม่เข้าข่ายการจ่ายเงินทดแทน
ลูกจ้างยืนอยู่ภายนอกหน้าประตูโรงงานก่อนถึงเวลาเริ่มทำงาน มีรถยนต์ที่แล่นมาตามถนนพุ่งเข้าชนตาย ไม่ถือเป็นการประสบอันตรายเนื่องจากการทำงานให้แก่นายจ้างคำสั่งอุทธรณ์ที่ให้จ่ายเงินทดแทนไม่ถูกต้องศาลเพิกถอนคำสั่งนั้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2477/2521

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจ้าหนี้ตามคำพิพากษามีสิทธิบังคับชำระหนี้จากทรัพย์สินลูกหนี้ทั้งหมด ไม่จำกัดเฉพาะทรัพย์จำนอง แม้บังคับจำนองได้เงินบางส่วน
แม้มีจำนองหนี้ตามคำพิพากษา เจ้าหนี้ตามคำพิพากษาก็มีสิทธิบังคับชำระหนี้ตามคำพิพากษาได้ มิใช่เจ้าหนี้จะได้แต่บังคับจำนองเท่านั้นแต่การที่จะสั่งให้ลูกหนี้วางประกันก่อนสั่งให้ลูกหนี้รับเงินที่ขายทรัพย์ไปได้หรือไม่ ไม่เป็นการสมควร ศาลชั้นต้นต้องสั่งใหม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2460/2521

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การลงโทษเกินคำขอของโจทก์ ศาลฎีกามีอำนาจแก้ไขเพื่อความถูกต้อง
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 138 ศาลอุทธรณ์พิพากษาให้ลงโทษจำเลยตามมาตรา 140 วรรคสามเกินคำขอของโจทก์ เพราะโจทก์มิได้ขอให้ลงโทษจำเลยตามมาตรา 140 ด้วย การที่ศาลอุทธรณ์พิพากษาลงโทษจำเลยตามมาตรา 140 จึงเป็นผลร้ายแก่จำเลย แม้จำเลยจะมิได้ฎีกาขึ้นมาแต่เป็นปัญหาเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยศาลฎีกามีอำนาจแก้ไขให้ถูกต้องได้ (อ้างฎีกาที่ 1760/2509)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2446/2521

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ข้อจำกัดการอุทธรณ์ข้อเท็จจริงในคดีอาญาศาลแขวง: ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัยพยานใหม่เมื่อศาลชั้นต้นวินิจฉัยแล้ว
โจทก์ฟ้องจำเลยฐานฉ้อโกง ศาลชั้นต้นไต่สวนมูลฟ้องแล้ววินิจฉัยว่าเป็นการผิดข้อตกลงในทางแพ่ง ไม่มีมูลเป็นความผิดทางอาญาฐานฉ้อโกง พิพากษายกฟ้อง โจทก์อุทธรณ์ในปัญหาข้อกฎหมายว่า ศาลชั้นต้นมิได้วินิจฉัยถึงข้อเท็จจริงที่ว่า จำเลยหลอกลวงโจทก์หรือไม่ เป็นการพิพากษาไม่ชอบด้วยกฎหมาย ศาลอุทธรณ์เห็นว่าตามคำพิพากษาของศาลชั้นต้นได้วินิจฉัยข้อเท็จจริงเรื่องนี้ไว้แล้วว่า จำเลยไม่ได้ใช้อุบายหลอกลวงโจทก์ พิพากษายืน ดังนี้ โจทก์จะฎีกาขอให้พิจารณาจากคำเบิกความของพยานในสำนวนอีกว่า ความจริงจำเลยหลอกลวงโจทก์อันเป็นปัญหาข้อเท็จจริงหาได้ไม่ เพราะต้องห้ามอุทธรณ์ตามพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแขวงและวิธีพิจารณาความอาญาในศาลแขวง พ.ศ.2499มาตรา 22

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2276/2521

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเป็นบิดามารดาและการรับบุตรตามกฎหมาย: ผลกระทบของบทบัญญัติใหม่ต่อคดีที่ฟ้องร้องก่อนวันที่กฎหมายมีผลบังคับใช้
โจทก์ฟ้องคดีขอให้รับเด็กเป็นบุตรไว้ก่อนพระราชบัญญัติให้ใช้บทบัญญัติบรรพ 5 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ที่ได้ตรวจชำระใหม่ พ.ศ. 2519 ใช้บังคับคดีโจทก์จึงตกอยู่ในบังคับตามมาตรา 1529 แห่ง ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ฉบับเดิม เพราะการเป็นบิดามารดากับบุตรในคดีโจทก์ได้มีอยู่แล้วในวันที่ 16 ตุลาคม 2519 ซึ่งเป็นวันที่บทบัญญัติ บรรพ 5 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งที่ได้ตรวจชำระใหม่ใช้บังคับ จะนำ บทบัญญัติบรรพ 5 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ที่ได้ตรวจชำระใหม่ มาตรา 1555 มาปรับแก่คดีหาได้ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2274/2521

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจฟ้องของผู้จัดการมรดกในการเรียกเงินตามเช็ค: ผู้จัดการมรดกมีอำนาจฟ้องในฐานะทายาทและเจ้าของสิทธิร่วม
โจทก์ฟ้องอ้างว่าโจทก์เป็นเจ้าของทรัพย์สินและสิทธิทั้งหลาย ร่วมกับนายจิตติสามี และร่วมกับสามีเป็นผู้ทรงเช็ค 2 ฉบับตามฟ้อง เมื่อสามีตายโจทก์ยื่นคำร้องขอเป็นผู้จัดการมรดกของสามีต่อศาล ตามคำฟ้องของโจทก์ดังกล่าวย่อมเป็นที่เข้าใจได้ว่า โจทก์ฟ้องเรียกเงินในฐานะที่โจทก์มีส่วนแบ่งในทรัพย์สินระหว่างโจทก์กับสามีเนื่องจากการตายของสามีประการหนึ่ง และในฐานะคู่สมรสซึ่งโจทก์เป็นทายาทโดยธรรมในการรับมรดกส่วนของสามีอีกประการหนึ่ง เมื่อหนี้เงินตามเช็คเป็นทรัพย์สินที่โจทก์มีสิทธิได้รับส่วนแบ่งในฐานะภริยาและเป็นมรดกตกทอดแก่โจทก์ซึ่งเป็นทายาทดังนี้ โจทก์ย่อมเป็นผู้ทรงเช็คตามฟ้องโดยชอบด้วยกฎหมายแล้ว
จำเลยทั้งสองให้การต่อสู้ว่าโจทก์ไม่ใช่ผู้ทรงเช็คชอบด้วยกฎหมาย การที่จำเลยอุทธรณ์ว่าโจทก์ไม่ได้ฟ้องคดีในฐานะทายาทหรือผู้จัดการมรดกของนายจิตติสามีโจทก์ก็เท่ากับโต้เถียงว่าโจทก์ไม่ใช่ผู้ทรงเช็คชอบด้วยกฎหมายนั่นเอง จึงถือได้ว่าประเด็นเรื่องอำนาจฟ้องของโจทก์ตามที่จำเลยอุทธรณ์ได้ว่ากันมาแล้วแต่ศาลชั้นต้น ศาลอุทธรณ์ย่อมต้องวินิจฉัยให้
of 48