คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
กุศล บุญยืน

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 471 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2274/2521 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจฟ้องของผู้จัดการมรดกในฐานะผู้ทรงเช็ค: การรับมรดกและสิทธิในทรัพย์สิน
โจทก์ฟ้องอ้างว่าโจทก์เป็นเจ้าของทรัพย์สินและสิทธิทั้งหลายร่วมกับนายจิตติ สามี และร่วมกับสามีเป็นผู้ทรงเช็ค 2 ฉบับตามฟ้อง เมื่อสามีตายโจทก์ยื่นคำร้องขอเป็นผู้จัดการมรดกของสามีต่อศาล ตามคำฟ้องของโจทก์ดังกล่าวย่อมเป็นที่เข้าใจได้ว่า โจทก์ฟ้องเรียกเงินในฐานะที่โจทก์มีส่วนแบ่งในทรัพย์สินระหว่างโจทก์กับสามี เนื่องจากการตายของสามีประการหนึ่ง และในฐานะคู่สมรสซึ่งโจทก์เป็นทายาทโดยธรรมในการรับมรดกส่วนของสามีอีกประการหนึ่ง เมื่อหนี้เงินตามเข็คเป็นทรัพย์สินที่โจทก์มีสิทธิได้รับส่วนแบ่งในฐานะภริยาและเป็นมรดกตกทอดแก่โจทก์ซึ่งเป็นทายาทดังนี้ โจทก์ย่อมเป็นผู้ทรงเช็คตามฟ้องโดยชอบด้วยกฎหมายแล้ว
จำเลยทั้งสองให้การต่อสู้ว่าโจทก์ไม่ใช่ผู้ทรงเช็คชอบด้วยกฎหมาย การที่จำเลยอุทธรณ์ว่าโจทก์ไม่ได้ฟ้องคดีในฐานะทายาทหรือผู้จัดการมรดกของนางจิตติสามีโจทก์ก็เท่ากันโต้เถียงว่าโจทก์ไม่ใช่ผู้ทรงเช็คชอบด้วยกฎหมายนั่นเอง จึงถือได้ว่าประเด็นเรื่องอำนาจฟ้องของโจทก์ตามที่จำเลยอุทธรณ์ได้ว่ากันมาแล้วแต่ศาลชั้นต้น ศาลอุทธรณ์ย่อมต้องวินิจฉัยให้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2247/2521

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การบังคับคดีเกินจำนวนหนี้: ศาลมีอำนาจสั่งระงับการขายทอดตลาดทรัพย์สินที่เหลือได้
ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 284 เมื่อได้เงินมาพอจำนวนที่จำเลยจะต้องรับผิดชำระหนี้ให้โจทก์พร้อมทั้งค่าฤชาธรรมเนียม (ในคดี) และค่าธรรมเนียม (ในการบังคับคดี) แล้ว หากมีทรัพย์ที่ยึดเหลืออยู่อีก เจ้าพนักงานบังคับคดีจะเอาทรัพย์สินดังกล่าวออกขายทอดตลาดต่อไปมิได้ ดังนั้น เมื่อขายทอดตลาดที่ดินโฉนดที่ 1713 ได้เงินมาพอชำระหนี้แล้ว เจ้าพนักงานบังคับคดีได้ขายทอดตลาดที่ดินโฉนดที่ 1739พร้อมสิ่งปลูกสร้างที่ยึดไว้ต่อไปอีกจึงเป็นการบังคับคดีที่ฝ่าฝืนบทกฎหมายดังกล่าว จำเลยชอบที่จะขอให้งดการขายได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2247/2521 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การบังคับคดีเกินจำนวนหนี้: ศาลสั่งงดขายทอดตลาดทรัพย์สินที่เหลือเมื่อชำระหนี้ครบแล้ว
ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 284 เมื่อได้เงินมาพอจำนวนที่จำเลยจะต้องรับผิดชำระหนี้ให้โจทก์พร้อมทั้งค่าฤชาธรรมเนียม (ในคดี) และค่าธรรมเนียม (ในการบังคับคดี) แล้ว หากมีทรัพย์ที่ยึดเหลืออยู่อีก เจ้าพนักงานบังคับคดีจะเอาทรัพย์สินดังกล่าวออกขายทอดตลาดต่อไปมิได้ ดังนั้น เมื่อขายทอดตลาดที่ดินโฉนดที่ 1713 ได้เงินมาพอชำระหนี้แล้ว เจ้าพนักงานบังคับคดีได้ขายทอดตลาดที่ดินโฉนดที่ 1739 พร้อมสิ่งปลูกสร้างที่ยึดไว้ต่อไปอีก จึงเป็นการบังคับคดีที่ฝ่าฝืนบทกฎหมายดังกล่าว จำเลยชอบที่จะขอให้งดการขายได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2230/2521

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ร่วมกันฆ่าและชิงทรัพย์ ครอบครัวถูกทำร้ายทารุณ ศาลฎีกาพิพากษายืนตามศาลชั้นต้น
ขณะเกิดเหตุที่โรงงานผู้ตายมีคนอยู่ด้วยกันเพียง 5 คนคือผู้ตายทั้งสามนาย ส.และจำเลย แม้โจทก์จะไม่มีประจักษ์พยานรู้เห็นว่าใครเป็นคนร้ายฆ่าผู้ตายทั้งสามและชิงทรัพย์ผู้ตายก็ตาม แต่ตามข้อเท็จจริงและพยานแวดล้อมกรณี รับฟังได้โดยปราศจากข้อสงสัยว่าจำเลยได้ร่วมกระทำผิดด้วย ศาลก็พิพากษาลงโทษจำเลยได้
จำเลยฆ่าผู้ตายคราวเดียว 3 คน คือ นาย ย.นางพ. และเด็กชาย น. นาง พ. เป็นหญิงมีครรภ์ถูกทำร้ายถึง 10 แห่ง ถึงแก่ความตายเนื่องจากกะโหลกศีรษะแตกร้าว เลือดออกในสมอง และจากบาดแผลถูกแทง เด็กชาย น. อายุเพียง 1 ปี 6 เดือน มีบาดแผลกะโหลกศีรษะแตกสมองได้รับกระทบกระเทือนอย่างแรง นาย ย.เป็นสามีนางพ. และเป็นบิดาเด็กชาย น. มีบาดแผลถึง 5 แห่ง เป็นการฆ่าให้ตายทั้งครอบครัว มีลักษณะกระทำทารุณโหดร้าย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2230/2521 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ร่วมกันฆ่าชิงทรัพย์ ครอบครัวถูกทำร้าย ศาลพิจารณาพยานแวดล้อมลงโทษจำเลย
ขณะเกิดเหตุที่โรงงานผู้ตายมีคนอยู่ด้วยกันเพียง 5 คน คือผู้ตายทั้งสามนาย ส.และจำเลย แม้โจทก์จะไม่มีประจักษ์พยานรู้เห็นว่าใครเป็นคนร้ายฆ่าผู้ตายทั้งสามและชิงทรัพย์ผู้ตายก็ตาม แต่ตามข้อเท็จจริงและพยานแวดล้อมกรณี รับฟังได้โดยปราศจากข้อสงสัยว่าจำเลยได้ร่วมกระทำผิดด้วย ศาลก็พิพากษาลงโทษจำเลยได้
จำเลยฆ่าผู้ตายคราวเดียว 3 คน คือ นาย ย. นาง พ. และเด็กชาย น. นาง พ.เป็นหญิงมีครรภ์ถูกทำร้ายถึง 10 แห่ง ถึงแก่ความตายเนื่องจาก-กะโหลกศีรษะแตกร้าว เลือดออกในสมอง และจากบาดแผลถูกแทง เด็กชาย น. อายุเพียง 1 ปี 6 เดือน มีบาดแผลกะโหลกศีรษะแตกสมองได้รับกระทบกระเทือนอย่างแรง นาย ย.เป็นสามีนาง พ. และเป็นบิดาเด็กชาย น. มีบาดแผลถึง 5 แห่ง เป็นการฆ่าให้ตายทั้งครอบครัว มีลักษณะกระทำทารุณโหดร้าย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2200/2521

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การป้องกันตัวโดยชอบด้วยกฎหมาย: การกระทำเพื่อป้องกันอันตรายจากผู้รุกราน
จำเลยที่ 2 เป็นผู้ก่อเหตุขึ้น รุกรานเข้าไปยิงโดยเจตนาฆ่าจำเลยที่ 1 ถึงในบ้าน (โดยใช้อาวุธปืนลูกซองสั้นยิง 1 นัด จากลานบ้านขึ้นไปบนบ้าน) จำเลยที่ 1 จึงกระโดดจากชานลงไปที่โคนต้นมะม่วง ห่างจำเลยที่ 2 ประมาณ 2 เมตร จำเลยที่ 2 บรรจุกระสุนปืนอีก และจ้องปืนมาที่จำเลยที่ 1 จำเลยที่ 1 จึงชักอาวุธปืนที่ติดตัวอยู่ยิงจำเลยที่ 2 ไป 3 นัดกระสุนปืนถูกโคนแขนจำเลยที่ 2 นัดเดียว ดังนี้จำเลยที่ 1 ย่อมมีสิทธิที่จะทำการป้องกันตัวได้โดยชอบด้วยกฎหมายและไม่จำเป็นต้องหนีผู้ที่เข้ามากระทำผิดกฎหมายแก่ตน ในเหตุการณ์ฉุกละหุกเฉพาะหน้า ไม่แน่ว่าจำเลยที่ 2 จะยิงจำเลยที่ 1 อีกหรือไม่ จำเลยที่1 ไม่มีโอกาสคิดเป็นอย่างอื่น นอกจากยิงเพื่อป้องกันตนให้พ้นอันตรายเฉพาะหน้า เป็นการป้องกันพอสมควรแก่เหตุ จำเลยที่ 1 ไม่มีความผิด

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2200/2521 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การป้องกันตัวโดยชอบด้วยกฎหมาย: เหตุจำเป็นในการใช้กำลังเพื่อป้องกันชีวิตและร่างกายจากการถูกรุกราน
จำเลยที่ 2 เป็นผู้ก่อเหตุขึ้น รุกรานเข้าไปยิงโดยเจตนาฆ่าจำเลยที่ 1 ถึงในบ้าน (โดยใช้อาวุธปืนลูกซองสั้นยิง 1 นัด จากลานบ้านขึ้นไปบนบ้าน) จำเลยที่ 1 จึงกระโดดจากชานลงไปที่โคนต้นมะม่วง ห่างจำเลยที่ 2 ประมาณ 2 เมตร จำเลยที่ 2 บรรจุกระสุนปืนอีก และจ้องปืนมาที่จำเลยที่ 1 จำเลยที่ 1 จึงขักอาวุธปืนที่ติดตัวอยู่ยิงจำเลยที่ 2 ไป 3 นัด กระสุนปืนถูกโคนแขนจำเลยที่ 2 นัดเดียว ดังนี้ จำเลยที่ 1 ย่อมมีสิทธิที่จะทำการป้องกันตัวได้โดยชอบด้วยกฎหมาย และไม่จำเป็นต้องหนีผู้ที่เข้ามากระทำผิดกฎหมายแก่ตน ในเหตุการณ์ฉุกละหุกเฉพาะหน้า ไม่แน่ว่าจำเลยที่ 2 จะยิงจำเลยที่ 1 อีกหรือไม่ จำเลยที่ 1 ไม่มีโอกาสคิดเป็นอย่างอื่น นอกจากยิงเพื่อป้องกันตนให้พ้นอันตรายเฉพาะหน้า เป็นการป้องกันพอสมควรแก่เหตุ จำเลยที่ 1 ไม่มีความผิด

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1983/2521

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อายุความคดีเช็ค: การยื่นเช็คซ้ำไม่เริ่มนับอายุความใหม่ ความผิดเกิดเมื่อธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงิน
โจทก์ยื่นเช็คต่อธนาคาร ธนาคารให้ติดต่อผู้สั่งจ่ายเป็นการปฏิเสธการใช้เงินแล้ว อายุความเริ่มนับ โจทก์ยื่นเช็คนั้นต่อธนาคารอีก ไม่ทำให้เริ่มนับอายุความใหม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1968/2521

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฆ่าโดยไตร่ตรองไว้ก่อนจากจ้างวาน ศาลยืนโทษประหารชีวิตและจำคุกตลอดชีวิต
จำเลยดักยิงฆ่าคนตามที่รับจ้างมา เป็นฆ่าโดยไตร่ตรองไว้ก่อน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1922/2521

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิของผู้เช่าซื้อในการฟ้องเรียกค่าเสียหายจากผู้ทำละเมิด แม้ยังไม่ผ่อนชำระครบ
ผู้เช่าซื้อรถยนต์ยังชำระค่าเช่าซื้อไม่ครบ เป็นผู้ครอบครองรถตามสัญญา ซึ่งจะเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์โดยผลของสัญญา มีอำนาจฟ้องผู้ทำละเมิดให้รถนั้นเสียหายได้
of 48