พบผลลัพธ์ทั้งหมด 471 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1899-1901/2520
                            ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
                            การประเมินภาษีการค้าสำหรับผลิตภัณฑ์ชงดื่ม: การพิจารณาคุณสมบัติของผลิตภัณฑ์
                        
                        ตามประมวลรัษฎากรผู้ประกอบการค้าตามที่ระบุไว้ในบัญชีอัตราภาษีการค้ามีหน้าที่เสียภาษีการค้าจากรายรับของทุกเดือนภาษีตามอัตราในบัญชีอัตราภาษีการค้า เว้นแต่จะมีการลดอัตราหรือยกเว้นโดยพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากรหรือกฎหมายอื่น  พระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากรว่าด้วยการยกเว้นและลดอัตรารัษฎากร(ฉบับที่ 43) พ.ศ.2516 มาตรา 3 บัญญัติว่า"ให้ยกเว้นภาษีการค้าสำหรับสินค้าตามประเภทการค้า 1 ชนิด 1(ก) ของบัญชีอัตราภาษีการค้าท้ายหมวด 4 ในลักษณะ 2 แห่งประมวลรัษฎากร ฯลฯ เฉพาะที่มิได้ระบุในบัญชีท้ายพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากรว่าด้วยการลดอัตรารัษฎากร (ฉบับที่ 21) พ.ศ.2509 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชกฤษฎีกานี้ ทั้งนี้ เฉพาะที่ผลิตในราชอาณาจักร" และตามพระราชกฤษฎีกาดังกล่าวระบุ"ผลิตภัณฑ์ชงดื่ม" ไว้ในบัญชีที่ 1 หมวด 1 อาหารเครื่องดื่ม (3) ดังนี้ เมื่อข้อเท็จจริงฟังได้ว่าโจทก์เก็บใบชามาจากต้นแล้วนำไปผึ่งลม คั่ว นวดและอบ ตามลำดับ  แล้วนำไปคัดเลือกแยกออกเป็นใบชาชนิดอ่อน ใบชาชนิดแก่และก้านชา สำหรับใบชาชนิดแก่และก้านชานี้โจทก์นำไปคั่วและบดให้เป็นผงเรียกว่าชาผง ใบชาชนิดอ่อนและชาผงโจทก์จำหน่ายให้แก่องค์การคลังสินค้า  ซึ่งผู้ที่ซื้อต่อไปใช้ชงดื่มได้ทันที  แต่ไม่เป็นที่นิยมกันเพราะรสชาติไม่เป็นที่นิยม และความสะอาดไม่ดีนัก ใบชาและชาผงดังกล่าวจึงถือได้ว่าเป็นผลิตภัณฑ์ชงดื่มตามบัญชีท้ายพระราชกฤษฎีกาดังกล่าวแล้วเพราะอยู่ในสภาพที่ใช้ชง และนำน้ำที่ชงนั้นมาดื่มหรือบริโภคได้ โจทก์จึงไม่ได้รับยกเว้นภาษีการค้าสำหรับใบชาและชาผงนั้น
                                    คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1832/2520
                            ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
                            การอ่านคำพิพากษาลับหลังจำเลย และการยื่นฎีกาแทนจำเลย
                        
                        ศาลอ่านคำพิพากษาลับหลังจำเลยเพราะไม่ได้ตัวมาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา  มาตรา 182 ถือว่าจำเลยฟังคำพิพากษาโดยชอบ ทนายจำเลยลงชื่อยื่นฎีกาแทนจำเลยได้
                                    คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1795/2520
                            ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
                            ตัวแทนบริษัทต่างประเทศเสียภาษีการค้าเหมือนผู้ประกอบการ ค่าระวางเรือหักลดหย่อนได้
                        
                        ตัวแทนในประเทศไทยของบริษัทต่างประเทศต้องเสียภาษีการค้าดุจเป็นผู้ประกอบการค้าเอง  เจ้าพนักงานประเมินเรียกเก็บภาษีจากตัวแทนรวมกันทุกบริษัทได้ โดยไม่ต้องแยกแต่ละบริษัทที่ตัวแทนทำการแทน ในส่วนค่าระวางเรือที่ได้รับส่วนแบ่งคืน(REBATE หรือ DISCOUNT)นั้น ถือเป็นค่าระวางส่วนหนึ่ง หักออกก่อนยื่นระบุเป็นค่าระวางไม่ได้
                                    คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1734/2520
                            ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
                            การไถ่ถอนขายฝากไม่สมบูรณ์ ผู้ซื้อไม่รับชำระหนี้
                        
                        ขายฝากที่ดินไว้ 32,000 บาท ผู้ขายมีเงินไปขอไถ่เพียง 10,700 บาท ผู้ซื้อไม่ยอมรับไถ่ได้
                                    คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1692/2520
                            ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
                            ประมาทเลินเล่อร่วม รถชนรับผิดกึ่งหนึ่ง
                        
                        จำเลยประมาทเลินเล่อ และเกิดเหตุรถชนกันขึ้นโดยคนขับรถของโจทก์ประมาทเลินเล่อด้วย  ศาลให้จำเลยรับผิดกึ่งหนึ่งตามพฤติการณ์และความร้ายแรงแห่งละเมิด
                                    คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1676/2520 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
                            ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
                            เจตนาทำลายทรัพย์สินเป็นองค์ประกอบสำคัญของความผิดฐานทำให้เสียทรัพย์ แม้ตัดต้นไม้แต่หากมีเหตุผลสมควรและไม่มีเจตนาทำลายทรัพย์สินก็ไม่เป็นความผิด
                        
                        ความผิดฐานทำให้เสียทรัพย์ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 358 นั้น  ผู้กระทำจะต้องมีเจตนากระทำให้ทรัพย์ของผู้อื่นเสียหายจึงจะเป็นผิด  จำเลยตัดต้นไผ่ของผู้เสียหายส่วนที่งอกรุกล้ำเข้าไปในทางสาธารณะออก เพื่อให้โค กระบือเดินผ่าน  จำเลยมิได้มีเจตนากระทำเพื่อให้ทรัพย์ของผู้เสียหายได้รับความเสียหาย  การกระทำของจำเลยไม่เป็นความผิดฐานทำให้เสียทรัพย์ (อ้างคำพิพากษาฎีกาที่ 705/2507 ประชุมใหญ่)
                                    คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1676/2520
                            ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
                            เจตนาทำให้เสียทรัพย์สำคัญกว่าการกระทำ หากไม่มีเจตนาทำให้เสียหาย ไม่เป็นความผิดฐานทำให้เสียทรัพย์
                        
                        ความผิดฐานทำให้เสียทรัพย์ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 358นั้นผู้กระทำจะต้องมีเจตนากระทำให้ทรัพย์ของผู้อื่นเสียหายจึงจะเป็นผิด จำเลยตัดต้นไผ่ของผู้เสียหายส่วนที่งอกรุกล้ำเข้าไปในทางสาธารณะออก เพื่อให้โค กระบือเดินผ่าน  จำเลยมิได้มีเจตนากระทำเพื่อให้ทรัพย์ของผู้เสียหายได้รับความเสียหาย  การกระทำของจำเลยไม่เป็นความผิดฐานทำให้เสียทรัพย์ (อ้างคำพิพากษาฎีกาที่ 705/2507 ประชุมใหญ่)
                                    คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1628/2520
                            ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
                            การบังคับคดีและการอายัดเงินเดือน โดยคำนึงถึงฐานะครอบครัวของลูกหนี้
                        
                        จำเลยผู้แพ้คดีเป็นลูกจ้างการไฟฟ้านครหลวง ศาลสั่งอายัดเงินเดือนโดยพิเคราะห์ฐานะทางครอบครัว แล้วกำหนดเงินที่อายัดตามสมควร
                                    คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1618-1621/2520
                            ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
                            การบอกเลิกสัญญาเช่า: ประเด็นการแจ้งบอกเลิกและการปฏิบัติตามระยะเวลาที่กำหนด
                        
                        จำเลยให้การว่าโจทก์ไม่เคยบอกเลิกสัญญาเช่า ดังนี้ ไม่มีประเด็นว่าโจทก์บอกเลิกการเช่าไม่ถูกตามระยะเวลาที่บังคับไว้ให้ต้องบอกล่วงหน้าตาม มาตรา 566
                                    คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1575/2520
                            ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
                            ขอบเขตการบังคับใช้ พ.ร.บ.ศุลกากร: การขนถ่ายสินค้าออกจากเรือและการนำเข้าผ่านแดน
                        
                        พระราชบัญญัติศุลกากร (ฉบับที่ 9) พ.ศ.2482 มาตรา 11,12เป็นเรื่องขนของออกจากเรือ  และยื่นใบขอเปิดตรวจสินค้าไม่ใช่กรณีนำของผ่านแดนเข้ามาทางบก  ซึ่งต้องมีบัญชีสินค้ายื่นต่อพนักงานด่านพรมแดนและด่านศุลกากรพร้อมกับของเพื่อเสียภาษีตาม พระราชบัญญัติ ฉบับที่ 7 พ.ศ.2480 มาตรา 7