พบผลลัพธ์ทั้งหมด 536 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 525/2526 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ข้อจำกัดการฎีกาในข้อเท็จจริง และการพิจารณาความประสงค์ของผู้ฎีกาในข้อหาอื่น
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานพยายามฆ่าผู้อื่นตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 80, 288 ศาลชั้นต้นฟังว่าจำเลยไม่มีเจตนาฆ่า พิพากษาลงโทษจำเลยฐานทำร้ายร่างกายถึงสาหัสตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 297 โจทก์อุทธรณ์ขอให้ลงโทษฐานพยายามฆ่า ศาลอุทธรณ์ฟังว่าจำเลยไม่มีเจตนาฆ่าเช่นกันและบาดแผลไม่ถึงสาหัส พิพากษาแก้เป็นให้ลงโทษจำเลย ฐานทำร้ายร่างกาย ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 295 ดังนี้ ข้อหาฐานพยายามฆ่าต้องห้ามมิให้ฎีกาในข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 220 การที่โจทก์ฎีกาขอให้ลงโทษจำเลยฐานพยายามฆ่าตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 80, 288 จึงต้องห้าม คดีของโจทก์จึงไม่อาจขึ้นมาสู่การวินิจฉัยของศาลฎีกา และถือไม่ได้ว่าโจทก์ฎีกาขอให้ลงโทษจำเลยหนักขึ้นในข้อหาฐานทำร้ายร่างกายสาหัสตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 297 ด้วย ศาลฎีกาย่อมพิพากษาให้ยกฎีกาโจทก์ (วินิจฉัยโดยที่ประชุมใหญ่ครั้งที่ 1/2526)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 525/2526
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฎีกาต้องห้ามตามมาตรา 220 และการพิจารณาความหนักของข้อหาในคดีอาญา
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานพยายามฆ่าผู้อื่นตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 80,288 ศาลชั้นต้นฟังว่าจำเลยไม่มีเจตนาฆ่า พิพากษาลงโทษจำเลยฐานทำร้ายร่างกายถึงสาหัสตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 297 โจทก์อุทธรณ์ขอให้ลงโทษฐานพยายามฆ่า ศาลอุทธรณ์ฟังว่าจำเลยไม่มีเจตนาฆ่าเช่นกัน และบาดแผลไม่ถึงสาหัส พิพากษาแก้เป็นให้ลงโทษจำเลย ฐานทำร้ายร่างกาย ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 295 ดังนี้ ข้อหาฐานพยายามฆ่าต้องห้ามมิให้ฎีกาในข้อเท็จจริงตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 220การที่โจทก์ฎีกาขอให้ลงโทษจำเลยฐานพยายามฆ่าตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 80,288 จึงต้องห้ามคดีของโจทก์จึงไม่อาจขึ้นมาสู่การวินิจฉัยของศาลฎีกาและถือไม่ได้ว่าโจทก์ฎีกาขอให้ลงโทษจำเลยหนักขึ้นในข้อหาฐานทำร้ายร่างกายสาหัสตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 297ด้วย ศาลฎีกาย่อมพิพากษาให้ยกฎีกาโจทก์ (วินิจฉัยโดยที่ประชุมใหญ่ครั้งที่ 1/2526)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3879/2525
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การจำกัดความรับผิดของผู้ขนส่งตามประมวลกฎหมายแพ่งฯ และการแบ่งแยกหน้าที่ระหว่างผู้ขนส่งกับการขนถ่ายสินค้า
คำว่า ผู้ขนส่ง ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 610 หมายถึงผู้มีหน้าที่รับผิดชอบในการขนส่งของหรือสินค้า ซึ่งผู้ส่งหรือผู้ตราส่งตกลงให้ผู้ขนส่งนำของหรือสินค้าไปส่งมอบให้แก่ผู้รับตราส่ง ซึ่งต่างกับผู้ทำหน้าที่ขนหรือแบกหามสินค้าจากเรือขึ้นท่าเรือและจากท่าเรือลงบรรทุกในเรือ
(หมายเหตุตามแนวฎีกาที่ 16652525 และฎีกาที่ 3630/2525)
(หมายเหตุตามแนวฎีกาที่ 16652525 และฎีกาที่ 3630/2525)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3879/2525 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การจำกัดความรับผิดของผู้ขนส่งตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์: ผู้ขนส่ง vs ผู้ขนสินค้า
คำว่า "ผู้ขนส่ง" ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 610 หมายถึงผู้มีหน้าที่รับผิดชอบในการขนส่งของหรือสินค้า ซึ่งผู้ส่งหรือผู้ตราส่งตกลงให้ผู้ขนส่งนำของหรือสินค้าไปส่งมอบให้แก่ผู้รับตราส่ง และมีหน้าที่จะต้องเป็นผู้ทำหรือออกใบตราส่งให้ในกรณีที่ผู้ส่งเรียกเอาใบตราส่ง เมื่อข้อเท็จจริงฟังได้ว่าจำเลยเป็นผู้มีหน้าที่รับผิดชอบดังกล่าว จำเลยจึงเป็นผู้ขนส่ง ซึ่งต่างกับผู้ทำหน้าที่ขนหรือแบกหามสินค้าจากเรือขึ้นท่าเรือและจากท่าเรือลงบรรทุกในเรือ
หมายเหตุ ตามแนวฎีกาที่ 1665/2525 และฎีกาที่ 3630/2525
หมายเหตุ ตามแนวฎีกาที่ 1665/2525 และฎีกาที่ 3630/2525
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3796-3797/2525
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ค่าใช้จ่ายบดครั่งและการขายหุ้นต่ำกว่าราคาตลาด: การพิจารณาค่าใช้จ่ายทางภาษีและการมีเหตุอันสมควร
โจทก์มีความผูกพันที่จะต้องออกเงินช่วยค่าบดครั่ง ด้วย ดังนั้น รายการค่าใช้จ่ายส่วนนี้ จึงมิใช่เป็นการให้อันมีสัญญาเป็นการส่วนตัวหรือเป็นการให้โดยเสน่หา ตามประมวลรัษฎากร มาตรา 65 ตรี (3) โจทก์จึงนำมาคิดหักเป็นค่าใช้จ่ายในการคำนวณกำไรสุทธิได้
แม้โจทก์จะโอนขายหุ้นที่ตนเป็นเจ้าของต่ำกว่าราคาตลาดแต่จำนวนหุ้นที่ขายมีเป็นจำนวนมาก และผู้ซื้อหุ้นของโจทก์ก็เป็นบริษัทที่โจทก์เองเป็นผู้ถือหุ้นอยู่ด้วยแล้ว จึงเป็นการขายที่มีเหตุอันสมควรยิ่งกว่าขายให้กับผู้อื่นที่ไม่มีผลประโยชน์เกี่ยวข้องกัน
แม้โจทก์จะโอนขายหุ้นที่ตนเป็นเจ้าของต่ำกว่าราคาตลาดแต่จำนวนหุ้นที่ขายมีเป็นจำนวนมาก และผู้ซื้อหุ้นของโจทก์ก็เป็นบริษัทที่โจทก์เองเป็นผู้ถือหุ้นอยู่ด้วยแล้ว จึงเป็นการขายที่มีเหตุอันสมควรยิ่งกว่าขายให้กับผู้อื่นที่ไม่มีผลประโยชน์เกี่ยวข้องกัน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3796-3797/2525 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ค่าใช้จ่ายบดครั่งและการขายหุ้นต่ำกว่าราคาตลาด: การหักค่าใช้จ่ายทางภาษีและการมีเหตุอันสมควร
โจทก์มีความผูกพันที่จะต้องออกเงินช่วยค่าบดครั่ง ด้วยดังนั้น รายการค่าใช้จ่ายส่วนนี้ จึงมิใช่เป็นการให้อันมีสัญญาเป็นการส่วนตัวหรือเป็นการให้โดยเสน่หา ตามประมวลรัษฎากรมาตรา 65 ตรี (3) โจทก์จึงนำมาคิดหักเป็นค่าใช้จ่ายในการคำนวณกำไรสุทธิได้
แม้โจทก์จะโอนขายหุ้นที่ตนเป็นเจ้าของต่ำกว่าราคาตลาดแต่จำนวนหุ้นที่ขายมีเป็นจำนวนมาก และผู้ซื้อหุ้นของโจทก์ก็เป็นบริษัทที่โจทก์เองเป็นผู้ถือหุ้นอยู่ด้วยแล้ว จึงเป็นการขายที่มีเหตุอันสมควรยิ่งกว่าขายให้กับผู้อื่นที่ไม่มีผลประโยชน์เกี่ยวข้องกัน
แม้โจทก์จะโอนขายหุ้นที่ตนเป็นเจ้าของต่ำกว่าราคาตลาดแต่จำนวนหุ้นที่ขายมีเป็นจำนวนมาก และผู้ซื้อหุ้นของโจทก์ก็เป็นบริษัทที่โจทก์เองเป็นผู้ถือหุ้นอยู่ด้วยแล้ว จึงเป็นการขายที่มีเหตุอันสมควรยิ่งกว่าขายให้กับผู้อื่นที่ไม่มีผลประโยชน์เกี่ยวข้องกัน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3649/2525
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
นิติกรรมอำพรางขายฝากที่ดิน - การนำสืบเปลี่ยนแปลงแก้ไขข้อตกลง
บรรยายฟ้องว่า โจทก์จำเลยประสงค์จะขายฝากที่ดินกันเพียง200 ตารางวา ส่วนที่เหลือไม่ได้ขายฝากเพราะจะต้องแบ่งแยกโฉนดแม้โจทก์จดทะเบียนขายฝากที่ดินไว้กับจำเลยทั้งแปลงโจทก์ก็นำสืบว่าขายฝากเพียง 200 ตารางวา ได้เพราะเป็นเรื่องนิติกรรมอำพรางไม่เป็นการนำสืบเปลี่ยนแปลงแก้ไขอันต้องห้ามตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 94
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3570/2525 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การบรรยายฟ้องคดีแพ่ง ไม่ต้องละเอียดเท่าคดีอาญา คำฟ้องที่ระบุความประมาทเลินเล่อชอบแล้ว
การบรรยายคำฟ้องในคดีแพ่ง ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 172 กำหนดแต่เพียงว่าจะต้องแสดงให้แจ้งชัดซึ่งสภาพแห่งข้อหาทั้งข้ออ้างที่อาศัยเป็นหลักแห่งข้อหาเท่านั้น หาต้องบรรยายถึงข้อเท็จจริงและรายละเอียด เหมือนกับฟ้องในคดีอาญาไม่ การที่โจทก์บรรยายฟ้องว่าจำเลยที่ 1 และจำเลยที่ 3 ซึ่งเป็นนายท้ายควบคุมเรือด่วนเจ้าพระยาและเรือหางยาว ได้กระทำการอันเป็นความประมาทเลินเล่อ ไม่ได้ใช้ความระมัดระวังเท่าที่วิญญูชนจะพึงใช้ ทำให้เรือด่วนเจ้าพระยาชนกับเรือหางยาวเป็นเหตุให้ผู้ตายถึงแก่ความตายจึงชอบด้วยกฎหมายแล้ว ไม่เป็นฟ้องเคลือบคลุม
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3570/2525
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ขอบเขตการบรรยายคำฟ้องแพ่ง: เพียงแสดงสภาพแห่งข้อหา ไม่ต้องละเอียดเหมือนคดีอาญา
การบรรยายคำฟ้องในคดีแพ่ง ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 172 กำหนดแต่เพียงว่าจะต้องแสดงให้แจ้งชัดซึ่งสภาพแห่งข้อหา ทั้งข้ออ้างที่อาศัยเป็นหลักแห่งข้อหาเท่านั้น หาต้องบรรยายถึงข้อเท็จจริงและรายละเอียดเหมือนกับฟ้องในคดีอาญาไม่ การที่โจทก์บรรยายฟ้องว่าจำเลยที่ 1 และจำเลยที่ 3 ซึ่งเป็นนายท้ายควบคุมเรือด่วนเจ้าพระยาและเรือหางยาว ได้กระทำการอันเป็นความประมาทเลินเล่อ ไม่ได้ใช้ความระมัดระวังเท่าที่วิญญูชนจะพึงใช้ ทำให้เรือด่วนเจ้าพระยาชนกับเรือหางยาวเป็นเหตุให้ผู้ตายถึงแก่ความตายจึงชอบด้วยกฎหมายแล้ว ไม่เป็นฟ้องเคลือบคลุม
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3566/2525
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ตัวแทนชำระเบี้ยประกันภัยแทนตัวการ: สิทธิเรียกคืนเงินทดรอง & หักกลบลบหนี้
จำเลยมอบให้โจทก์เป็นผู้หาบริษัทประกันภัยเข้าทำสัญญาประกันภัยกับจำเลย เมื่อสิ้นสุดอายุสัญญาแล้วจำเลยขอให้โจทก์จัดการต่ออายุกรมธรรม์ไปอีก 1 ปี โจทก์ได้จัดการให้และได้ชำระเบี้ยประกันภัยให้แก่บริษัทผู้รับประกันภัยแทนจำเลยไปแล้ว โจทก์จึงฟ้องเรียกเงินจำนวนนี้จากจำเลย ดังนี้จำเลยจะยกข้อตกลงในสัญญาประกันภัยที่ว่าเมื่อจำเลยไม่ส่งเบี้ยประกันภัยในงวดต่อไป ถือว่าสัญญาประกันภัยเป็นอันสิ้นสุดลงนั้น มาต่อสู้โจทก์ซึ่งเป็นผู้ชำระเบี้ยประกันภัยแทนจำเลยไม่ได้ เพราะข้อตกลงดังกล่าวจำเลยจะยกเป็นข้อต่อสู้ได้เฉพาะกับบริษัทผู้รับประกันภัยซึ่งเป็นคู่สัญญาเท่านั้น
การที่โจทก์ฟ้องเรียกเงินจากจำเลยกรณีนี้ เป็นเรื่องตัวแทนเรียกเงินทดรองที่จ่ายไปคืนจากตัวการ มิใช่กรณีที่โจทก์เป็นผู้ค้าในการดูแลกิจการของผู้อื่น หรือรับทำการงานต่าง ๆ เรียกเอาสินจ้างอันจะพึงได้รับในการนั้นรวมทั้งค่าที่ได้ออกเงินทดรองไปตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 165(7) กรณีเป็นเรื่องไม่มีกฎหมายกำหนดอายุความไว้เป็นอย่างอื่น ต้องใช้อายุความ 10 ปี ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 164
บริษัทผู้รับประกันภัยได้จ่ายเงินค่าสินไหมทดแทนในกรณีที่เรือของจำเลยซึ่งเอาประกันภัยไว้ถูกปล้น โดยจ่ายเงินดังกล่าวให้แก่โจทก์ไว้ เมื่อปรากฏข้อเท็จจริงว่าจำเลยยังมิได้ชำระเงินเบี้ยประกันภัยที่โจทก์จ่ายทดรองไปก่อนคืนให้แก่โจทก์ โจทก์ย่อมมีสิทธิยึดหน่วงเงินจำนวนดังกล่าวไว้และมีสิทธินำมาหักกลบลบหนี้กับจำเลยได้ ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 341
การที่โจทก์ฟ้องเรียกเงินจากจำเลยกรณีนี้ เป็นเรื่องตัวแทนเรียกเงินทดรองที่จ่ายไปคืนจากตัวการ มิใช่กรณีที่โจทก์เป็นผู้ค้าในการดูแลกิจการของผู้อื่น หรือรับทำการงานต่าง ๆ เรียกเอาสินจ้างอันจะพึงได้รับในการนั้นรวมทั้งค่าที่ได้ออกเงินทดรองไปตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 165(7) กรณีเป็นเรื่องไม่มีกฎหมายกำหนดอายุความไว้เป็นอย่างอื่น ต้องใช้อายุความ 10 ปี ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 164
บริษัทผู้รับประกันภัยได้จ่ายเงินค่าสินไหมทดแทนในกรณีที่เรือของจำเลยซึ่งเอาประกันภัยไว้ถูกปล้น โดยจ่ายเงินดังกล่าวให้แก่โจทก์ไว้ เมื่อปรากฏข้อเท็จจริงว่าจำเลยยังมิได้ชำระเงินเบี้ยประกันภัยที่โจทก์จ่ายทดรองไปก่อนคืนให้แก่โจทก์ โจทก์ย่อมมีสิทธิยึดหน่วงเงินจำนวนดังกล่าวไว้และมีสิทธินำมาหักกลบลบหนี้กับจำเลยได้ ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 341