คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
ไพบูลย์ ไวกาสี

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 536 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 692/2524

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฎีกาไม่รับวินิจฉัย กรณีศาลอุทธรณ์แก้ไขคำพิพากษาลดค่าปรับในคดีสัญญาประกัน
โจทก์ทั้งสองในฐานะพนักงานสอบสวนได้ควบคุมตัว พ. กับ จ. ผู้ต้องหาไว้ จำเลยได้ทำสัญญาประกันตัว พ. กับ จ. จำเลยผิดสัญญาประกันคนละฉบับฉบับละ 50,000 บาททุนทรัพย์สำหรับคดีนี้จึงแยกออกตามสัญญาประกันแต่ละฉบับเมื่อศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้คำพิพากษาศาลชั้นต้น ให้ลดค่าปรับลงจากสัญญาละ 35,000 บาทเป็นสัญญาละ 10,000 บาท เป็นการแก้ไขเล็กน้อย ฎีกาของโจทก์จึงเป็นฎีกาดุลพินิจในการลดค่าปรับ ซึ่งเป็นปัญหาข้อเท็จจริงต้องห้ามฎีกาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 248พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง(ฉบับที่ 6) พ.ศ. 2518 มาตรา 6 ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 636/2524

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ หน้าที่การนำสืบของโจทก์ในคดีที่กล่าวอ้างถึงเจตนาไม่สุจริตของจำเลย โจทก์ต้องพิสูจน์ข้อเท็จจริงสนับสนุนคำกล่าวอ้าง
โจทก์เป็นฝ่ายกล่าวอ้างว่าจำเลยมีเจตนาไม่สุจริต ยกเลิกคำสั่งแต่งตั้งให้โจทก์มียศเป็นว่าที่ร้อยตำรวจตรีโดยมิชอบ โจทก์มีหน้าที่นำสืบให้สมฟ้องว่าจำเลยออกคำสั่งยกเลิกคำสั่งดังกล่าวโดยมิชอบอย่างไร แต่โจทก์หาได้นำสืบประการใดไม่ โจทก์จึงไม่มีทางชนะคดี

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 605/2524

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การใช้สิทธิครอบครองที่ดินเพื่อปรับปรุงผลผลิต ไม่ถือเป็นทำลายทรัพย์
ผู้เสียหายไม่มีเงินใช้หนี้ น. จึงยินยอมให้ น.กู้เงินจากจำเลยโดยมอบที่พิพาทซึ่งเป็นของผู้เสียหายให้จำเลยไว้เป็นประกันเงินกู้และทำประโยชน์ต่างดอกเบี้ย กับ ให้จำเลยมีสิทธิใช้ที่พิพาททำประโยชน์ตามที่เห็นสมควรครั้งแรกจำเลยตัดฟันต้นยางพาราพันธุ์เก่าเพื่อปลูกยางพาราพันธุ์ดี เพื่อให้ยางพาราให้ผลดีมากขึ้นในอนาคตผู้เสียหายคัดค้าน แต่มิได้ดำเนินการประการใด การที่จำเลยปลูกต้นยางพาราพันธุ์ดีเพิ่มเติมและตัดฟันต้นยางพาราตาม ฟ้องอีก จึงเป็นการใช้สิทธิในฐานะผู้ครอบครองที่พิพาท ถือไม่ได้ว่ามีเจตนาทำลายทรัพย์หรือทำให้เสียทรัพย์ไม่เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 358

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 604/2524

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เหตุสุดวิสัยขยายระยะเวลาอุทธรณ์: การติดต่อทนายความล่าช้าหลังหมดกำหนด ไม่เป็นเหตุสุดวิสัย
โจทก์ติดต่อขอให้ทนายความทำอุทธรณ์ให้เมื่อล่วงเลยกำหนดระยะเวลาอุทธรณ์แล้ว การที่ทนายความผู้นั้นป่วยและตายในภายหลัง จึงมิใช่เหตุสุดวิสัยที่จะขยายระยะเวลายื่นอุทธรณ์ให้โจทก์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 494/2524

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การส่งหมายเรียกและสำเนาคำฟ้องที่ชอบด้วยกฎหมาย แม้จำเลยอ้างว่าไม่ได้อยู่ภูมิลำเนาตามที่ระบุ
จำเลยทั้งสองรับแล้วว่าในระหว่างที่จำเลยทั้งสองทำสัญญากับโจทก์ จำเลยทั้งสองมีภูมิลำเนาและอาศัยปฏิบัติงานในภูมิลำเนาตามที่โจทก์ฟ้องจริง ดังนั้นการที่โจทก์ระบุภูมิลำเนาของจำเลยทั้งสอง ณ ภูมิลำเนาดังกล่าว และขอให้ส่งสำเนาคำฟ้องตลอดจนหมายนัดแจ้งกำหนดวันสืบพยานโจทก์ให้จำเลยทั้งสองทราบ ณ ภูมิลำเนาดังกล่าว จึงเป็นการชอบ
สำเนาทะเบียนบ้านเป็นเอกสารมหาชน ซึ่งพนักงานเจ้าหน้าที่ได้ทำขึ้นและรับรองว่าถูกต้อง จึงต้องสันนิษฐานไว้ก่อนว่าเป็นของแท้จริงและถูกต้อง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 474/2524

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ค่าขึ้นศาลกรณีบังคับจำนองตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 289 คำร้องมีทุนทรัพย์ต้องเสียค่าขึ้นศาล
ผู้ร้องเป็นผู้รับจำนองที่ดินของจำเลย ซึ่งโจทก์นำยึดไว้ในอีกคดีหนึ่งเพื่อขายทอดตลาด และผู้ร้องขอให้ขายที่ดินนั้นโดยวิธีปลดจำนองแล้วให้นำเงินที่ขายทอดตลาดได้มาชำระหนี้จำนองก่อน ย่อมเป็นคำฟ้องที่ขอให้บังคับจำนองโดยอาศัยบุริมสิทธิของเจ้าหนี้ผู้รับจำนองด้วยวิธีการเป็นพิเศษตามที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 289 เป็นผลให้ผู้ซื้อได้กรรมสิทธิ์ในทรัพย์สินนั้นโดยปลดจำนอง คำร้องขอตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 289 จึงเป็นคดีมีทุนทรัพย์ต้องเสียค่าขึ้นศาลตามจำนวนทุนทรัพย์ที่เรียกร้อง ตามตาราง 1 ข้อ 1 ค. ท้ายประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 382/2524

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องถอนคืนที่ดินเนื่องจากประพฤติเนรคุณ: ฟ้องไม่เคลือบคลุมแม้ไม่ได้ระบุเวลาขอความช่วยเหลือ
โจทก์ฟ้องเรียกถอนคืนการให้ที่ดิน เพราะเหตุจำเลยประพฤติเนรคุณ โดยบรรยายฟ้องว่าโจทก์พยายามพบและพูดกับจำเลยเพื่อขอสิ่งของจำเป็นเลี้ยงชีวิต จำเลยหลีกเลี่ยงไม่ยอมให้พบและไม่ยอมพูดด้วย แม้มิได้กล่าวว่าโจทก์ไปขอสิ่งของจำเป็นเลี้ยงชีวิตจากจำเลยเมื่อใด โจทก์ยากจนเมื่อใดก็ไม่เป็นฟ้องเคลือบคลุม

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 310/2524

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดเกี่ยวพันกับยาเสพติด: ศาลฎีกามีอำนาจยกฟ้องความผิดฐานครอบครอง แม้จำเลยฎีกาไม่ได้ในข้อเท็จจริง
แม้ข้อหาฐานมียาเสพติดให้โทษชนิดเฮโรอีนไว้ในครอบครองจะต้องห้ามมิให้จำเลยฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง แต่ก็เป็นความผิดที่เกี่ยวพันกับความผิดฐานมีเฮโรอีนไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่ายและจำหน่ายเฮโรอีนนั้น เมื่อพยานหลักฐานของโจทก์ชุดเดียวกันเป็นที่สงสัยและเป็นพิรุธ ลงโทษจำเลยไม่ได้ ศาลฎีกาก็มีอำนาจ ตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 185 ยกฟ้องถึงความผิดฐานมีเฮโรอีนไว้ในครอบครองด้วย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 282/2524

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ หนังสือมอบอำนาจฉบับต่างประเทศที่มีคำแปลไทย และการปิดอากรแสตมป์ที่ถูกต้อง
ต้นฉบับหนังสือมอบอำนาจให้ฟ้องคดีที่ทำขึ้นเป็นภาษาต่างประเทศและมีคำแปลเป็นภาษาไทยนั้น เป็นเอกสารที่ทำขึ้นและส่งต่อศาลชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 46 แล้ว ถึงแม้จะปิดอากรแสตมป์ที่ต้นฉบับภาษาต่างประเทศเท่านั้นก็เป็นการปิดอากรแสตมป์ที่ต้นฉบับตราสารชอบด้วยมาตรา 118 แห่งประมวลรัษฎากรแล้ว จึงรับฟังเป็นพยานเอกสารได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 269/2524

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรับปากแล้วไม่ทำตาม ไม่เข้าข่ายความผิดฐานฉ้อโกง หากไม่มีเจตนาหลอกลวงตั้งแต่แรก
โจทก์บรรยายฟ้องเป็นใจความว่า จำเลยนำความเท็จมากล่าวหลอกลวงแก่ประชาชนและโจทก์ โดยจำเลยจัดพิมพ์หนังสือบันทึกเหตุการณ์เขมรฆ่าโหดคนไทย 30 ศพการจำหน่ายหนังสือดังกล่าวจำเลยโฆษณาแก่ประชาชนและโจทก์ว่า จำเลยจะนำเงินรายได้ไปช่วยซื้ออาวุธให้ราษฎรชายแดนคุ้มครองหมู่บ้าน เป็นเหตุให้โจทก์หลงเชื่อตกลงซื้อหนังสือดังกล่าว 2 เล่ม เป็นเงิน40 บาท จำเลยจำหน่ายหนังสือดังกล่าวได้เงิน 200,000บาท จำเลยได้รับเงินค่าหนังสือจากโจทก์แล้วกลับนำเงินดังกล่าวไปเป็นประโยชน์ส่วนตัวและผู้อื่น ไม่นำไปซื้ออาวุธเพื่อแจกจ่ายราษฎรชายแดน ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 341 ดังนี้ ข้อความที่ปรากฏในฟ้องแสดงเพียงว่าจำเลยรับจะทำอะไรแล้วไม่ทำตามรับเท่านั้นการไม่ทำตามรับดังที่โจทก์ฟ้องไม่ใช่ความผิดฐานฉ้อโกง แม้ในฟ้องจะมีคำว่าจำเลยนำความเท็จมากล่าวหลอกลวงแก่ประชาชนและโจทก์ แต่เมื่ออ่านฟ้องโดยตลอดจะพบว่าไม่มีการหลอกลวงอันเป็นความผิดฐานฉ้อโกง
of 54