พบผลลัพธ์ทั้งหมด 536 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1920/2522
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิเรียกร้องค่าเสียหายแทนผู้เยาว์ แม้ผู้เสียหายไม่ถึงแก่ชีวิต โจทก์มีสิทธิเรียกร้องค่าเสียหายทั้งในฐานะตนเองและฐานะผู้แทนโดยชอบธรรม
จำเลยกระทำละเมิดเป็นเหตุให้ผู้เยาว์ของโจทก์บาดเจ็บสาหัสแม้โจทก์ในฐานะส่วนตัวจะเรียกค่าเสียหายมิได้เพราะบุตรไม่ถึงตายก็ตามแต่โจทก์ก็ยังมีสิทธิที่จะเรียกร้องค่าเสียหายแทนบุตรผู้เยาว์ได้ ดังนั้น การที่โจทก์บรรยายฟ้องว่าบุตรโจทก์ได้รับบาดเจ็บสาหัส ขอคิดค่าเสียหายจึงถือว่าโจทก์เรียกค่าเสียหายแทนบุตรผู้เยาว์แล้ว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1851/2522
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การลดโทษจากความโง่เขลาและอายุมากในคดีส่งออกยาเสพติด
หญิงอายุมากแล้ว ทำผิดฐานส่งเฮโรอีนออกนอกราชอาณาจักรโดยขั้นแรกไม่ยอมร่วมมือ แต่ถูกชักจูงว่าจะให้ส่วนแบ่งจึงร่วมมือโดยความโง่เขลา ศาลลงโทษเบาลง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1847/2522
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อายุความฟ้องค่าสินไหมทดแทนประกันภัย: เริ่มนับจากวันเกิดเหตุวินาศภัย ไม่ใช่จากคำพิพากษา
รถยนต์คันที่โจทก์เอาประกันภัยค้ำจุนไว้กับจำเลยได้ชนกับรถยนต์ของบริษัท ร. เมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2517 โจทก์มาฟ้องคดีขอให้จำเลยรับผิดชดใช้ค่าสินไหมทดแทนตามสัญญาประกันภัยเมื่อวันที่ 19 เมษายน 2521 พ้นกำหนดสองปีนับแต่วันวินาศภัย ฟ้องของโจทก์จึงขาดอายุความตามมาตรา 882 การที่โจทก์ได้ถูกบริษัท ร.ฟ้องและศาลฎีกาพิพากษาให้โจทก์ใช้ค่าสินไหมทดแทนแก่บริษัท ร.เมื่อวันที่ 26 กรกฎาคม 2520 นั้น ไม่ทำให้สิทธิเรียกร้องของโจทก์ตามสัญญาประกันภัยจะเพิ่งมาตั้งหลักฐานขึ้นโดยคำพิพากษาดังกล่าวเพราะสิทธิเรียกร้องของโจทก์ที่จะให้จำเลยใช้ค่าสินไหมทดแทนตามสัญญาประกันภัยเกิดขึ้นนับแต่วันวินาศภัยจึงจะนำอายุความตามมาตรา 168 มาใช้บังคับในกรณีนี้หาได้ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1714/2522
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การลงโทษฐานลักทรัพย์เกินคำขอในฟ้อง ศาลฎีกาแก้ไขโทษให้ถูกต้องตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา
ฟ้องว่าวิ่งราวทรัพย์ ไม่ปรากฏเหตุฉกรรจ์ เป็นฟ้องตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 336 วรรคแรก ได้ความว่าลักทรัพย์ลงโทษตาม มาตรา 335(7) ลักทรัพย์โดยมีอาวุธไม่ได้ ทั้ง มาตรา335(7)มีโทษหนักกว่า มาตรา 336 วรรคแรก ศาลลงโทษตาม มาตรา334
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1604/2522
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความรับผิดของบริษัทต่อการขนแร่เกินปริมาณที่ได้รับอนุญาต โดยลูกจ้างกระทำผิด
ธ. รับจ้างขนแร่ของบริษัทเกินจำนวนในใบอนุญาตให้ขนกว่าร้อยละ 5 บริษัทต้องรับผิดในการกระทำของลูกจ้างตามพระราชบัญญัติแร่ พ.ศ.2510 มาตรา 10 ฉบับที่ 2 พ.ศ.2516 มาตรา 8 ธ. ขนแร่ของตนรวมไปกับแร่ของบริษัท ถือว่าการขนแร่เป็นความผิดที่ผู้รับใบอนุญาตต้องรับผิดเป็นตัวการด้วยและถือเป็นแร่ผิดกฎหมายทั้งหมดตาม มาตรา110 ต้องริบตามมาตรา 154 ฉบับที่ 2 พ.ศ.2516 มาตรา39 ไม่ว่าจะมีผู้ถูกลงโทษหรือไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1542/2522
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การยกที่ดินให้เพื่อตอบแทนการช่วยทำงาน ไม่ถือเป็นการให้โดยเสน่หา ถอนคืนไม่ได้
โจทก์ยกที่พิพาทให้จำเลยโดยจำเลยตอบแทนช่วยทำสวนยางให้โจทก์ ไม่เป็นการยกให้โดยเสน่หา เรียกถอนคืนการให้ไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1539/2522
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การสนับสนุนการกระทำผิดฐานมีไม้แปรรูปโดยไม่ได้รับอนุญาต: ผู้กระทำเป็นลูกจ้างเฝ้าไม้ไม่ได้มีไว้ในความครอบครองเอง
จำเลยเป็นลูกจ้าง ได้ร่วมกับพวกไปตัดฟันไม้มาทำการแปรรูปโดยไม่มีใบอนุญาตขณะถูกจับกุมจำเลยกำลังนอนเฝ้าไม้เหล่านั้นไว้ ดังนี้ การกระทำของจำเลยถือไม่ได้ว่าเป็นผู้มีไม้ของกลางไว้ในความครอบครองอันจะต้องได้รับอนุญาตตามพระราชบัญญัติป่าไม้แต่ถือได้ว่าเป็นการช่วยเหลือหรือให้ความสะดวกแก่นายจ้าง ซึ่งเป็นผู้มีไว้ในความครอบครองจึงมีความผิดฐานเป็นผู้สนับสนุนการกระทำผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 86
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1539/2522 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดฐานมีไม้แปรรูปและไม้ยังไม่แปรรูป ผู้สนับสนุนการกระทำผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๘๖
จำเลยเป็นลูกจ้าง ได้ร่วมกับพวกไปตัดฟันไม้มาทำการแปรรูป โดยไม่มีใบอนุญาตขณะถูกจับกุมจำเลยกำลังนอนเฝ้าไม้เหล่านั้น ดังนี้ การกระทำของจำเลยถือไม่ได้ว่าเป็นผู้มีไม้ของกลางไว้ในครอบครองอันจะต้องได้รับอนุญาติตามพระราชบัญญัติป่าไม้ แต่ถือได้ว่าเป็นการช่วยเหลือหรือให้ความสะดวกแก่นายจ้าง ซึ่งเป็นผู้มีไว้ในครอบครอง จึงไมีความผิดฐานเป็นผู้สนับสนุนการทำผิดตามกฎประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 86
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1536/2522
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
หนี้ร่วมสินสมรส: ภรรยาต้องรับผิดชอบหนี้ที่สามีทำขึ้นระหว่างสมรส หากภรรยามีส่วนรู้เห็นและได้รับประโยชน์จากหนี้นั้น
ผู้ร้องรู้เห็นในการที่จำเลยซึ่งเป็นสามีผู้ร้องเข้าเป็นกรรมการสหกรณ์โจทก์รับดำเนินงานจัดซื้อข้าวโพด โดยมีรายได้จากโจทก์วันละ 30 บาท ผู้ร้องเคยพาผู้อื่นไปขายข้าวโพดกับโจทก์ จึงมีส่วนช่วยในการดำเนินงานดังกล่าวหารายได้จุนเจือครอบครัว หนี้ตามคำพิพากษาเป็นค่าเสียหายเกิดจากจำเลยดำเนินงานดังกล่าวและประพฤติผิดสัญญาต่อโจทก์เป็นหนี้ที่จำเลยก่อขึ้นในระหว่างสมรส ถือได้ว่าเป็นหนี้ที่จำเลยกับผู้ร้องเป็นลูกหนี้ร่วมกันผู้ร้องต้องร่วมรับผิด จึงไม่มีสิทธิขอกันส่วนตามคำร้อง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1531/2522 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฉ้อฉลในการทำสัญญาประกันชีวิตทำให้สัญญาเป็นโมฆียะ ผู้เอาประกันมีสิทธิบอกล้างสัญญาและเรียกคืนเบี้ยประกัน
โจทก์มิได้รับการตรวจสุขภาพ มิได้รับการฉายเอ๊กซเรย์ และตรวจคลื่นหัวใจ และจำเลยที่ 2 ได้หลอกลวงให้โจทก์เอาประกันชีวิต โดยแจ้งว่าไม่ต้องตรวจสุขภาพแล้วจัดหาบุคคลอื่นไปรับการตรวจสุขภาพแทน ทำให้จำเลยที่ 1 เชื่อว่าโจทก์มีสุขภาพดี และรับประกันชีวิตโจทก์ จำเลยที่ 2 จึงทำกลฉ้อฉลหลอกลวงให้โจทก์แสดงเจตนาทำสัญญาประกันชีวิต โดยเข้าใจผิดว่าได้ดำเนินการโดยถูกต้องตามระเบียบแล้ว ซึ่งถ้าโจทก์รู้ว่าเป็นการไม่ชอบก็จะไม่ทำสัญญาด้วย
จำเลยที่ 2 เป็นตัวแทนแสวงหาผู้เอาประกันของจำเลยที่ 1 ขอให้โจทก์เอาประกันชีวิตกับจำเลยที่ 1 ถือได้ว่าสัญญาประกันชีวิตได้มาเพราะการทำฉ้อฉลของจำเลยที่ 1 เมื่อสัญญาประกันชีวิตรายนี้เป็นโมฆียะ โจทก์บอกล้างโดยชอบแล้ว สัญญาดังกล่าวจึงเป็นโมฆะมาแต่แรก โจทก์จำเลยต้องกลับคืนสู่ฐานะเดิม จำเลยทั้งสองต้องร่วมกันรับผิดส่งคืนเบี้ยประกันพร้อมดอกเบี้ยให้โจทก์
จำเลยที่ 2 เป็นตัวแทนแสวงหาผู้เอาประกันของจำเลยที่ 1 ขอให้โจทก์เอาประกันชีวิตกับจำเลยที่ 1 ถือได้ว่าสัญญาประกันชีวิตได้มาเพราะการทำฉ้อฉลของจำเลยที่ 1 เมื่อสัญญาประกันชีวิตรายนี้เป็นโมฆียะ โจทก์บอกล้างโดยชอบแล้ว สัญญาดังกล่าวจึงเป็นโมฆะมาแต่แรก โจทก์จำเลยต้องกลับคืนสู่ฐานะเดิม จำเลยทั้งสองต้องร่วมกันรับผิดส่งคืนเบี้ยประกันพร้อมดอกเบี้ยให้โจทก์