คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
ไพบูลย์ ไวกาสี

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 536 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 713/2522

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ส่วนควบของที่ดิน: ห้องแถวที่ปลูกบนที่ดินของผู้อื่น ถือเป็นกรรมสิทธิ์ของเจ้าของที่ดิน เว้นแต่มีข้อยกเว้น
ห้องแถวเป็นส่วนควบของที่ดิน จำเลยปฏิเสธว่าห้องแถวไม่ใช่ของโจทก์ แต่รับว่าปลูกอยู่ในที่ดินของโจทก์ จำเลยมิได้อ้างว่าเหตุใดจึงไม่เป็นส่วนควบ ไม่มีประเด็นที่จำเลยจะนำสืบ ศาลขับไล่จำเลยจากห้องแถวได้
ศาลสั่งก่อนอ่านคำพิพากษาให้โจทก์เสียค่าขึ้นศาลเพิ่มตามราคาทรัพย์ที่พิพาท มิฉะนั้นจะไม่ออกคำบังคับ โจทก์ชำระครบถ้วนตามคำสั่งเป็นการถูกต้องแล้ว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 672/2522

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การครอบครองอาวุธปืนผู้อื่นโดยไม่ได้มีกรรมสิทธิ์หรือครอบครองเพื่อตนเอง ไม่ถือเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.อาวุธปืน
คำว่ามีอาวุธปืน ตามที่บัญญัติไว้ในมาตรา 7 พระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ พ.ศ.2490 นั้นหมายความว่ามีกรรมสิทธิ์หรือมีไว้ในความครอบครอง ดังที่พระราชบัญญัติดังกล่าวบัญญัติไว้ในมาตรา 4(6)
จำเลยยึดถืออาวุธปืนของกลางของผู้อื่นไว้ ไม่ทำให้จำเลยมีกรรมสิทธิ์ในอาวุธปืนนั้น และการยึดถือไว้ให้เจ้าของชั่วขณะที่เจ้าของนั่งดื่มสุราอยู่ใกล้ ๆ นั้นไม่ทำให้จำเลยมีสิทธิครอบครองในอาวุธปืน เพราะจำเลยมิได้ยึดถือเพื่อตน สิทธิครอบครองยังคงอยู่กับเจ้าของ ถือไม่ได้ว่าจำเลยมีอาวุธปืนไว้ในครอบครอง จำเลยไม่มีความผิด

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 672/2522 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การมีอาวุธปืนในความครอบครอง: การยึดถือเพื่อผู้อื่น ไม่ถือว่ามีอาวุธปืนในครอบครอง
คำว่ามีอาวุธปืน ตามที่บัญญัติไว้ในมาตรา 7 พระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ พ.ศ. 2490 นั้น หมายความว่ามีกรรมสิทธิหรือมีไว้ในความครอบครอง ดังที่พระราชบัญญัติดังกล่าวบัญญัติไว้ในมาตรา 4 (6)
จำเลยยึดถืออาวุธปืนของกลางของผู้อื่นไว้ ไม่ทำให้จำเลยมีกรรมสิทธิ์ในอาวุธปืนนั้น และการยึดถือไว้ให้เจ้าของชั่วขณะที่เจ้าของนั่งดื่มสุราอยู่ใกล้ ๆ นั้น ไม่ทำให้จำเลยมีสิทธิครอบครองในอาวุธปืน เพราะจำเลยมิได้ยึดถือเพื่อตน สิทธิครอบครองยังคงอยู่กับเจ้าของ ถือไม่ได้ว่าจำเลยมีอาวุธปืนไว้ในความครอบครอง จำเลยไม่มีความผิด

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 644/2522

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การหักกลบลบหนี้ต้องสุงสิงกัน จำเลยอ้างหักกลบลบหนี้ค่าน้ำมันกับค่ากระแสไฟฟ้า แต่โจทก์ปฏิเสธหนี้ค่ากระแสไฟฟ้า จึงไม่สามารถหักกลบลบกันได้
จำเลยให้การต่อสู้คดีขอหักกลบลบหนี้ค่าน้ำมันของโจทก์กับค่ากระแสไฟฟ้าของจำเลย โจทก์เบิกความว่าโจทก์เป็นลูกหนี้ ค่ากระแสไฟฟ้าของจำเลยได้หักกลบลบหนี้กันแล้วคงเป็นหนี้ตามจำนวนที่ฟ้อง ดังนี้เป็นที่หนี้ที่โจทก์ปฏิเสธจึงมีข้อต่อสู้ หักกลบลบกันไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 587/2522 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินมรดก: ไม่ต้องขออนุญาตศาลหากเป็นไปตามสัญญาก่อนมรณะ
ผู้ร้องในฐานะผู้ใช้อำนาจปกครองของผู้เยาว์ผู้รับมรดกของ ผ. ผู้ตายยื่นคำร้องขอทำนิติกรรมจดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินที่ ผ. ผู้ตายทำสัญญาจะซื้อจะขายไว้ก่อนตายให้แก่ผู้มีชื่อ ตามคำร้องเป็นเรื่องขอทำนิติกรรมจดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินของผู้ตายตามสัญญาจะซื้อจะขายที่ทำกันไว้ ระหว่างผู้ตายกับผู้มีชื่อ มิใช่เรื่องขอทำนิติกรรมขายที่ดินอันเกี่ยวแก่ทรัพย์สินของเด็กตามความในมาตรา 1574 (1) แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ผู้ร้องจึงไม่ต้องขออนุญาตจากศาล

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 587/2522

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินจากมรดก: ไม่ต้องขออนุญาตศาลหากเป็นไปตามสัญญาจะซื้อจะขายของผู้ตาย
ผู้ร้องในฐานะผู้ใช้อำนาจปกครองของผู้เยาว์ผู้รับมรดกของ ผ.ผู้ตาย ยื่นคำร้องขอทำนิติกรรมจดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินที่ ผ. ผู้ตายทำสัญญาจะซื้อจะขายไว้ก่อนตายให้แก่ผู้มีชื่อ ตามคำร้องเป็นเรื่องขอทำนิติกรรมจดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินของผู้ตายตามสัญญาจะซื้อจะขายที่ทำกันไว้ระหว่างผู้ตายกับผู้มีชื่อ มิใช่เรื่องขอทำนิติกรรมขายที่ดินอันเกี่ยวแก่ทรัพย์สินของเด็กตามความในมาตรา 1574(1) แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ผู้ร้องจึงไม่ต้องขออนุญาตจากศาล

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 540/2522

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การขอรับมรดกที่ไม่ใช่ทรัพย์มรดกจริง ไม่มีผลทำให้สิทธิในที่ดินของผู้ครอบครองเดิมเสียไป
โจทก์ครอบครองที่ดินซึ่งซื้อจาก ส. มากว่า 10 ปี แล้วออก น.ส.3 ในชื่อ ส. ส. ตายจำเลยบุตร ส. ขอรับมรดกต่ออำเภอคำขอนี้ไม่ใช่แย่งครอบครอง แม้เกิน 1 ปี ก็ไม่ทำให้โจทก์หมดสิทธิฟ้องตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา1375

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 516/2522

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การขยายระยะเวลายื่นคำให้การ: วันสิ้นสุดระยะเวลาที่ขยายแล้วเริ่มนับจากวันถัดจากวันสุดท้ายของระยะเวลาเดิม แม้จะเป็นวันหยุด
ระยะเวลาสิ้นสุดลงในวันหยุดราชการแต่ศาลสั่งให้ขยายออกไปอีก 5 วัน ต้องเริ่มในวันถัดไป ไม่คำนึงว่าวันสุดท้ายของระยะเวลาเดิมเป็นวันหยุดราชการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 502/2522

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเสนอข้อพิพาทให้อนุญาโตตุลาการชี้ขาดนอกศาล และอำนาจการขอให้ศาลพิพากษาตามคำชี้ขาด
ที่ดินของผู้ร้องถูกเวนคืน อนุญาโตตุลาการฝ่ายผู้ร้องและผู้คัดค้านกำหนดค่าทดแทนราคาที่ดินซึ่งถูกเวนคืนไม่เท่ากัน ผู้ร้องจึงได้ยื่นคำร้องต่อศาลให้มีคำสั่งตั้งประธานศาลชั้นต้นไต่สวนแล้วตั้ง อ. เป็นประธานเพื่อชี้ขาดคำชี้ขาดของอนุญาโตตุลาการ ตลอดระยะเวลาที่ทั้งสองฝ่ายตั้งอนุญาโตตุลาการจนถึงเวลาที่ผู้ร้องร้องขอให้ศาลตั้ง อ.เป็นประธานต่างฝ่ายต่างไม่มีคดีอยู่ในระหว่างการพิจารณาของศาลชั้นต้น อนุญาโตตุลาการที่ทั้งสองฝ่ายตั้งขึ้นจึงเป็นการตั้งกันเองโดยศาลมิได้รับรู้มิใช่เป็นการตั้งตามมาตรา 210 แห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง ถือได้ว่าเป็นกรณีที่เสนอข้อพิพาทให้อนุญาโตตุลาการชี้ขาดนอกศาลแม้ต่อมาศาลชั้นต้นจะได้มีคำสั่งตั้งให้ อ. เป็นประธานเพื่อชี้ขาด ก็ยังถือไม่ได้ว่าไม่เป็นกรณีที่เสนอข้อพิพาทให้อนุญาโตตุลาการชี้ขาดนอกศาลกรณีเช่นนี้ต้องบังคับตามบทบัญญัติมาตรา 221 แห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง เมื่อไม่ปรากฏว่าคู่กรณีฝ่ายใดไม่ยอมปฏิบัติตามคำชี้ขาดของ อ.และอ. มิใช่คู่กรณี อ. จึงไม่มีอำนาจที่จะร้องขอต่อศาลให้มีคำพิพากษาตามคำชี้ขาดของ อ. ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 502/2522 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเสนอข้อพิพาทให้อนุญาโตตุลาการชี้ขาดนอกศาล และอำนาจการขอให้ศาลมีคำพิพากษาตามคำชี้ขาด
ที่ดินของผู้ร้องถูกเวนคืน อนุญาโตตุลาการฝ่ายผู้ร้อง และผู้คัดค้าน กำหนดค่าทดแทนราคาที่ดินซึ่งถูกเวนคืนไม่เท่ากัน ผู้ร้องจึงได้ยื่นคำร้องต่อศาลให้มีคำสั่งตั้งประธาน ศาลชั้นต้นไต่สวนแล้วตั้ง อ. เป็นประธานเพื่อชี้ขาดคำชี้ขาดของอนุญาโตตุลาการตลอดระยะเวลาที่ทั้งสองฝ่ายตั้งอนุญาโตตุลาการ จนถึงเวลาที่ผู้ร้องร้องขอให้ศาลตั้ง อ. เป็นประธานต่างฝ่ายต่างไม่มีคดีอยู่ในระหว่างการพิจารณาของศาลชั้นต้น อนุญาโตตุลาการที่ทั้งสองฝ่ายตั้งขึ้นจึงเป็นการตั้งกันเองโดยศาลมิได้รับรู้ มิใช่เป็นการตั้งตามมาตรา 210 แห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง ถือได้ว่าเป็นกรณีที่เสนอข้อพิพาทให้อนุญาโตตุลาการชี้ขาดนอกศาล แม้ต่อมาศาลชั้นต้นจะได้มีคำสั่งตั้งให้ อ. เป็นประธานเพื่อชี้ขาด ก็ยังถือไม่ได้ว่าไม่เป็นกรณีที่เสนอข้อพิพาทให้อนุญาโตตุลาการชี้ขาดนอกศาล กรณีเช่นนี้ต้องบังคับตามบทบัญญัติมาตรา 221 แห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง เมื่อไม่ปรากฏว่าคู่กรณีฝ่ายใดไม่ยอมปฏิบัติตามคำชี้ขาดของ อ. และอ. มิใช่คู่กรณี อ. จึงไม่มีอำนาจที่จะร้องขอต่อศาลให้มีคำพิพากษาตามคำชี้ขาดของ อ. ได้
of 54