พบผลลัพธ์ทั้งหมด 536 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 423/2522
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การกระทำความผิดต่อเจ้าพนักงาน: ผู้ช่วยสรรพากรจังหวัดไม่ใช่เจ้าพนักงานผู้มีหน้าที่ตรวจสอบบัญชีโดยตรง
จำเลยเรียกร้องเงินจาก ต.ซ. และ จ. โดยอ้างว่าบัญชีของบุคคลดังกล่าวผิดและใบเสร็จรับเงินไม่ลงชื่อผู้รับเงิน จำเลยจะเอาเงินไปให้ ป. ซึ่งเป็นผู้ช่วยสรรพากรจังหวัดไม่ให้ไปตรวจสอบ ต. จึงมอบเงิน2,000 บาทให้จำเลยไปดังนี้ เมื่อข้อเท็จจริงปรากฏว่าป. ไม่มีหน้าที่ตรวจสอบแต่ทำหน้าที่ธุรการ ดังนั้นหน้าที่ตรวจสอบบัญชีจึงหาใช่หน้าที่โดยตรงอันสืบเนื่องมาจากการเป็นผู้ช่วยสรรพากรจังหวัดของ ป. ซึ่งทำหน้าที่ธุรการไม่ ป. จึงไม่ใช่เจ้าพนักงานที่จำเลยจะพึงให้กระทำการหรือไม่กระทำการในหน้าที่ คือตรวจสอบบัญชีอันเป็นคุณหรือเป็นโทษแก่บุคคลใดอันเป็นองค์ประกอบแห่งความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 143 ได้ การกระทำของจำเลยจึงไม่เป็นความผิดตามบทกฎหมายดังกล่าว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 423/2522 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การกระทำความผิดฐานให้เจ้าพนักงานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ต้องพิสูจน์ว่าเจ้าพนักงานมีหน้าที่ตรวจสอบโดยตรง
จำเลยเรียกร้องเงินจาก ต. ช. และ จ. โดยอ้างว่าบัญชีของบุคคลดังกล่าวผิดและใบเสร็จรับเงินไม่ลงชื่อผู้รับเงิน จำเลยจะเอาเงินไปให้ ป. ซึ่งเป็นผู้ช่วยสรรพากรจังหวัดไม่ให้ไปตรวจสอบ ต. จึงมอบเงิน 2,000 บาท ให้จำเลยไป ดังนี้ เมื่อข้อเท็จจริงปรากฏว่า ป. ไม่มีหน้าที่ตรวจสอบแต่ทำหน้าที่ธุรการ ดังนั้นหน้าที่ตรวจสอบบัญชีจึงหาใช่หน้าที่โดยตรงอันสืบเนื่องมาจากการเป็นผู้ช่วยสรรพากรจังหวัดของ ป. ซึ่งทำหน้าที่ธุรการไม่ ป.จึงไม่ใช่เจ้าพนักงานที่จำเลยจะพึงให้กระทำการหรือไม่กระทำการในหน้าที่ คือตรวจสอบบัญชีอันเป็นคุณหรือเป็นโทษแก่บุคคลใด อันเป็นองค์ประกอบแห่งความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 143 ได้ การกระทำของจำเลยจึงไม่เป็นความผิดตามบทกฎหมายดังกล่าว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 367/2522
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เบี้ยปรับสัญญาลาศึกษา: ศาลลดเบี้ยปรับได้หากสูงเกินส่วนเมื่อเทียบกับระยะเวลาที่ขาดราชการ
สัญญาว่า ถ้าผู้ที่ลาไปศึกษากลับมารับราชการไม่ครบตามเวลาที่ตกลงกันไว้ ต้องใช้เงิน 3 เท่าของเงินที่ได้รับไปข้อตกลงนี้มีลักษณะเป็นเบี้ยปรับ ศาลลดลงได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 199/2522 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องแย้งที่มิชอบ เมื่อจำเลยปฏิเสธความเป็นผู้รับประกันภัย และการเรียกบุคคลภายนอกเข้าเป็นจำเลยตามฟ้องแย้ง
โจทก์ฟ้องว่า โจทก์รับประกันวินาศภัยรถยนต์คันเกิดเหตุ และรับช่วงสิทธิจากผู้เอาประกันมาฟ้องเรียกค่าเสียหายจากจำเลยที่ 2 ในฐานะนายจ้างให้ร่วมรับผิดกันจำเลยที่ 1 ซึ่งเป็นลูกจ้างขับรถโดยประมาทชนรถที่เอาประกันเสียหาย จำเลยที่ 2 ให้การปฏิเสธว่าโจทก์มิได้เป็นผู้รับประกันภัยรถยนต์คันดังกล่าว กรมธรรม์ประกันภัยเป็นเอกสารปลอม ความเสียหายเกิดเพราะความประมาทของลูกจ้างผู้เอาประกัน ฟ้องแย้งเรียกค่าเสียหาย และขอให้เรียกผู้เอาประกันกับลูกจ้างเข้ามาเป็นจำเลยตามฟ้องแย้งด้วย ดังนี้ เมื่อจำเลยที่ 2 ปฏิเสธฟ้องว่า โจทก์มิใช่ผู้รับประกันภัย จึงไม่มีมูลที่จำเลยที่ 2 จะฟ้องแย้งโจทก์ตามสัญญาประกันภัยเพราะมิได้เกี่ยวกับฟ้องเดิม เมื่อศาลไม่รับฟ้องแย้งของจำเลย จึงไม่อาจเรียกบุคคลภายนอกเข้ามาเป็นจำเลยตามฟ้องแย้งได้เช่นกัน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 199/2522
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องแย้งเรียกค่าเสียหายต้องเชื่อมโยงกับฟ้องเดิม หากปฏิเสธการรับประกันภัย ฟ้องแย้งต่อบริษัทประกันภัยจึงไม่ชอบ
โจทก์ฟ้องว่า โจทก์รับประกันวินาศภัยรถยนต์คันเกิดเหตุ และรับช่วงสิทธิจากผู้เอาประกันมาฟ้องเรียกค่าเสียหายจากจำเลยที่ 2 ในฐานะนายจ้างให้ร่วมรับผิดกับจำเลยที่ 1 ซึ่งเป็นลูกจ้างขับรถโดยประมาทชนรถที่เอาประกันเสียหายจำเลยที่ 2 ให้การปฏิเสธว่าโจทก์มิได้เป็นผู้รับประกันภัยรถยนต์คันดังกล่าว กรมธรรม์ประกันภัยเป็นเอกสารปลอม ความเสียหายเกิดเพราะความประมาทของลูกจ้างผู้เอาประกัน ฟ้องแย้งเรียกค่าเสียหาย และขอให้เรียกผู้เอาประกันกับลูกจ้างเข้ามาเป็นจำเลยตามฟ้องแย้งด้วย ดังนี้เมื่อจำเลยที่ 2ปฏิเสธฟ้องว่า โจทก์มิใช่ผู้รับประกันภัย จึงไม่มีมูลที่จำเลยที่ 2 จะฟ้องแย้งโจทก์ตามสัญญาประกันภัยเพราะมิได้เกี่ยวกับฟ้องเดิม เมื่อศาลไม่รับฟ้องแย้งของจำเลยจึงไม่อาจเรียกบุคคลภายนอกเข้ามาเป็นจำเลยตามฟ้องแย้งได้เช่นกัน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 195/2522
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแจ้งความไม่มีเจตนาให้ดำเนินคดี ถือไม่ได้เป็นคำร้องทุกข์
คำแจ้งความว่าจำเลยออกเช็คไม่มีเงินในธนาคาร จึงมาแจ้งให้ตำรวจทราบไว้เป็นหลักฐาน ไม่มีเจตนาให้พนักงานสอบสวนดำเนินคดีกับจำเลยที่จะให้จำเลยได้รับโทษ ไม่เป็นคำร้องทุกข์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 165/2522
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ภารจำยอมย่อมมีอยู่แม้จำเลยซื้อที่ดินโดยสุจริตและจดทะเบียนสิทธิ โดยไม่ทราบถึงภารจำยอม
โจทก์ใช้ทางผ่านที่ดินจำเลยมากว่า 10 ปี ได้ภารจำยอมจำเลยอ้างว่าจดทะเบียนซื้อที่ดินมาโดยสุจริตไม่ทราบว่ามีทางภารจำยอมไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 82/2522
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความรับผิดร่วมกันของเจ้าของรถและผู้ขับขี่ กรณีอาสาขับรถ ความรับผิดตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 437
จำเลยที่ 1 อาสาขับรถให้จำเลยที่ 3 โดยมีจำเลยที่ 3 เจ้าของรถนั่งไปด้วย ระหว่างทางจำเลยที่ 1 ขับรถโดยประมาทชนรถยนต์ของโจทก์เสียหาย กรณีเช่นนี้จำเลยที่ 1 ไม่ใช่ตัวแทนจำเลยที่ 3 เพราะมิใช่เป็นกิจการที่ทำแทนตัวการต่อบุคคลที่ 3 เป็นกิจการในระหว่างจำเลยที่ 3 เจ้าของรถกับจำเลยที่ 1 ผู้อาสา จำเลยที่ 3 ผู้ครอบครองและจำเลยที่ 1 ผู้ควบคุมรถยนต์อันเดินด้วยกำลังเครื่องจักรกลจึงต้องร่วมกันรับผิดชดใช้ค่าเสียหายอันเกิดแต่ยานพาหนะนั้น ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 437
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 82/2522 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความรับผิดร่วมกันของเจ้าของรถและผู้ขับขี่จากการประมาททางรถยนต์ แม้ไม่มีความสัมพันธ์ตัวการตัวแทน
จำเลยที่ 1 อาสาขับรถให้จำเลยที่ 3 โดยมีจำเลยที่ 3 เจ้าของรถนั่งไปด้วย ระหว่างทางจำเลยที่ 1 ขับรถโดยประมาทชนรถยนต์ของโจทก์เสียหาย กรณีเช่นนี้จำเลยที่ 1 ไม่ใช่ตัวแทนจำเลยที่ 3 เพราะมิใช่เป็นกิจการที่ทำแทนตัวการต่อบุคคลที่ 3 เป็นกิจการในระหว่างจำเลยที่ 3 เจ้าของรถกับจำเลยที่ 1 ผู้อาสา จำเลยที่ 3 ผู้ครอบครองและจำเลยที่ 1 ผู้ควบคุมรถยนต์อันเดินด้วยกำลังเครื่องจักรกลจึงต้องร่วมกันรับผิดชดใช้ค่าเสียหายอันเกิดแก่ยานพาหนะนั้น ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 437
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 71/2522
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อายุความหนี้จากการจ้างทำของในคดีล้มละลาย ศาลพิจารณาเหตุไม่สมควรให้ล้มละลายได้ แม้จำเลยไม่ได้ยกข้อต่อสู้
จำเลยว่าจ้างโจทก์ให้ทำการโฆษณาสินค้าและภาพยนตร์ซึ่งเป็นการจ้างทำของ หนี้รายนี้จึงมีอายุความให้ฟ้องร้องได้ภายในกำหนด 2 ปี ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา165(1) เมื่อนับจากวันที่หนี้รายนี้เกิดขึ้นถึงวันที่โจทก์ฟ้องขอให้จำเลยล้มละลายเนื่องจากค้างชำระสินจ้างดังกล่าวเป็นเวลาเกินสองปีแล้ว หนี้ที่โจทก์นำมาฟ้องจึงขาดอายุความ
คดีล้มละลายจำเลยไม่จำต้องให้การสู้คดีเช่นคดีแพ่งสามัญจึงไม่มีประเด็นอย่างใดเกิดขึ้น. การพิจารณาคดีล้มละลายผิดแผกแตกต่างกับการพิจารณาคดีแพ่งสามัญ เพราะพระราชบัญญัติล้มละลายเป็นกฎหมายที่เกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยของประชาชนมีผลในทางตัดสิทธิและเสรีภาพของผู้ที่ถูกศาลพิพากษาให้เป็นบุคคลล้มละลาย ศาลจึงต้องพิจารณาเอาความจริงตามมาตรา 14 แห่งพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ.2483 ว่าคดีมีเหตุที่ควรหรือไม่ควรให้ลูกหนี้ล้มละลายหรือไม่ฉะนั้น แม้จำเลยจะมิได้ยกข้อต่อสู้ว่าฟ้องโจทก์ขาดอายุความ เมื่อทางพิจารณาได้ความว่าหนี้ตามฟ้องของโจทก์ขาดอายุความ จึงเป็นหนี้ที่เจ้าหนี้ไม่มีสิทธิที่จะได้รับชำระหนี้ตามมาตรา 94(1) ถือได้ว่าเป็นเหตุที่ไม่ควรให้ลูกหนี้ล้มละลายตามมาตรา 14 ดังกล่าวศาลย่อมพิพากษายกฟ้องโจทก์เสียได้
คดีล้มละลายจำเลยไม่จำต้องให้การสู้คดีเช่นคดีแพ่งสามัญจึงไม่มีประเด็นอย่างใดเกิดขึ้น. การพิจารณาคดีล้มละลายผิดแผกแตกต่างกับการพิจารณาคดีแพ่งสามัญ เพราะพระราชบัญญัติล้มละลายเป็นกฎหมายที่เกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยของประชาชนมีผลในทางตัดสิทธิและเสรีภาพของผู้ที่ถูกศาลพิพากษาให้เป็นบุคคลล้มละลาย ศาลจึงต้องพิจารณาเอาความจริงตามมาตรา 14 แห่งพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ.2483 ว่าคดีมีเหตุที่ควรหรือไม่ควรให้ลูกหนี้ล้มละลายหรือไม่ฉะนั้น แม้จำเลยจะมิได้ยกข้อต่อสู้ว่าฟ้องโจทก์ขาดอายุความ เมื่อทางพิจารณาได้ความว่าหนี้ตามฟ้องของโจทก์ขาดอายุความ จึงเป็นหนี้ที่เจ้าหนี้ไม่มีสิทธิที่จะได้รับชำระหนี้ตามมาตรา 94(1) ถือได้ว่าเป็นเหตุที่ไม่ควรให้ลูกหนี้ล้มละลายตามมาตรา 14 ดังกล่าวศาลย่อมพิพากษายกฟ้องโจทก์เสียได้