พบผลลัพธ์ทั้งหมด 133 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 945/2520
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
กรรมสิทธิ์ในทรัพย์สิน, การรับสภาพหนี้, และอายุความในคดีละเมิด
โจทก์มอบให้การไฟฟ้านครหลวงดูแลรักษาซ่อมแซมเสาและโคมไฟฟ้าของโจทก์ที่ติดตั้งตามถนนและซอย ตลอดจนติดตามเรียกค่าเสียหายจากผู้ขับรถชน จำเลยขับรถยนต์ชนเสาและโคมไฟฟ้าของโจทก์เสียหาย ดังนี้ โจทก์เป็นเจ้าของมีกรรมสิทธิ์ในเสาและโคมไฟฟ้า ย่อมมีอำนาจฟ้องเอาค่าสินไหมทดแทนความเสียหายจากจำเลยได้
หนังสือของจำเลยมิได้กล่าวปฏิเสธหรือโต้แย้งถึงจำนวน เงินค่าสินไหมทดแทนตามที่การไฟฟ้านครหลวงทวงไปแต่บอกให้การไฟฟ้านครหลวงติดต่อกับบริษัทที่จำเลยเอาประกันภัยรถยนต์ไว้ ถ้าขัดข้องจำเลยจะจัดการให้เรียบร้อย ดังนี้เป็นการรับสภาพหนี้แล้ว
จำเลยทำละเมิดต่อโจทก์เมื่อวันที่ 9 มิถุนายน 2516 จำเลยทำหนังสือลงวันที่ 22 มกราคม 2517 รับสภาพหนี้ต่อโจทก์อายุความสะดุดหยุดลงในวันนั้นตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 172 โจทก์ฟ้องจำเลยเมื่อวันที่ 15 มกราคม 2518 ยังอยู่ในอายุความ 1 ปีคดีโจทก์ไม่ขาดอายุความฟ้องร้อง
หนังสือของจำเลยมิได้กล่าวปฏิเสธหรือโต้แย้งถึงจำนวน เงินค่าสินไหมทดแทนตามที่การไฟฟ้านครหลวงทวงไปแต่บอกให้การไฟฟ้านครหลวงติดต่อกับบริษัทที่จำเลยเอาประกันภัยรถยนต์ไว้ ถ้าขัดข้องจำเลยจะจัดการให้เรียบร้อย ดังนี้เป็นการรับสภาพหนี้แล้ว
จำเลยทำละเมิดต่อโจทก์เมื่อวันที่ 9 มิถุนายน 2516 จำเลยทำหนังสือลงวันที่ 22 มกราคม 2517 รับสภาพหนี้ต่อโจทก์อายุความสะดุดหยุดลงในวันนั้นตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 172 โจทก์ฟ้องจำเลยเมื่อวันที่ 15 มกราคม 2518 ยังอยู่ในอายุความ 1 ปีคดีโจทก์ไม่ขาดอายุความฟ้องร้อง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 936/2520
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ที่ป่าใช้ประโยชน์ร่วมกันกว่า 40 ปี ถือเป็นสาธารณสมบัติ แม้มีหนังสือสำคัญฯ นายอำเภอสั่งให้ผู้อยู่อาศัยออกจากที่ดินได้
ที่ป่าซึ่งเป็นดอน ชาวบ้านใช้เลี้ยงสัตว์เก็บฟืนมากว่า 40 ปีเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินซึ่งพลเมืองใช้ร่วมกันตาม มาตรา 1304(2)แม้โจทก์ได้รับหนังสือสำคัญ นายอำเภอสั่งให้โจทก์ออกจากที่ดินนั้นได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 664/2520
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเพิ่มโทษจำเลยที่เคยได้รับโทษจำคุกแล้ว และการกำหนดโทษปรับเกินอัตราที่กฎหมายกำหนด
เมื่อปรากฏว่าจำเลยเคยได้รับโทษจำคุกตามพระราชบัญญัติการพนันมาก่อนแล้ว ศาลก็รอการลงโทษจำคุกให้แก่จำเลยมิได้ เป็นการฝ่าฝืนประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 56
การเพิ่มโทษตามพระราชบัญญัติการพนัน พ.ศ.2478 มาตรา 14 ทวิ(2) กฎหมายเพียงแต่บัญญัติให้วางโทษทั้งจำทั้งปรับจึงจะวางโทษโดยเพิ่มโทษปรับเกินกว่าอัตราที่กฎหมายกำหนดไว้ไม่ได้
การที่ศาลชั้นต้นลงโทษปรับจำเลยที่ 1 และเพิ่มโทษจำเลยที่ 3 เกินกว่าอัตราที่กฎหมายกำหนดไว้นั้น ศาลฎีกาย่อมแก้ไขให้ถูกต้องได้
การเพิ่มโทษตามพระราชบัญญัติการพนัน พ.ศ.2478 มาตรา 14 ทวิ(2) กฎหมายเพียงแต่บัญญัติให้วางโทษทั้งจำทั้งปรับจึงจะวางโทษโดยเพิ่มโทษปรับเกินกว่าอัตราที่กฎหมายกำหนดไว้ไม่ได้
การที่ศาลชั้นต้นลงโทษปรับจำเลยที่ 1 และเพิ่มโทษจำเลยที่ 3 เกินกว่าอัตราที่กฎหมายกำหนดไว้นั้น ศาลฎีกาย่อมแก้ไขให้ถูกต้องได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 616/2520
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาปล้นทรัพย์ต้องชัดเจน การกระทำเพียงขู่ด้วยปืนไม่พอฟังว่าเป็นการปล้น
ฟ้องขอให้ลงโทษฐานปล้นทรัพย์ ได้ความว่าจำเลยใช้ปืนขู่ให้ผู้เสียหายซึ่งขี่รถจักรยานยนต์หยุดรถ ผู้เสียหายลดความเร็วลงเตรียมจะจอด พอดีรถจำเลยเสียหลัก ผู้เสียหายเร่งรถหนีไปได้ ไม่พอฟังว่ามีเจตนาปล้น เป็นความผิดตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 309 ซึ่งบรรยายมาในฟ้องเป็นส่วนหนึ่งของการปล้นที่ฟ้อง ศาลลงโทษตาม มาตรา 309 ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 509/2520
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
กรรมเดียวฟ้องซ้ำ สิทธิฟ้องระงับเมื่อมีคำพิพากษาเด็ดขาดแล้ว
โจทก์เป็นบิดาผู้ตาย ฟ้องจำเลยฐานฆ่าผู้ตายไว้ก่อน ต่อมาอัยการเป็นโจทก์ฟ้องจำเลยฐานประมาททำให้ผู้ตายถึงแก่ความตายศาลพิพากษาเสร็จเด็ดขาดลงโทษจำเลย คดีถึงที่สุด ดังนี้เมื่อการกระทำของจำเลยครั้งเดียวเป็นกรรมเดียวแม้จะถูกฟ้องต่างข้อหากัน เมื่อได้มีคำพิพากษาเสร็จเด็ดขาดในความผิดที่อัยการฟ้องแล้วสิทธิฟ้องคดีของโจทก์แม้จะได้ฟ้องไว้ก่อน ก็ต้องถือว่าระงับตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 39(4)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 482/2520 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาเช่ากำหนดสิทธิขับไล่ทันทีเมื่อค้างค่าเช่า ผู้ให้เช่ามีสิทธิฟ้องขับไล่ได้เลย
ข้อสัญญามีว่า ถ้าผู้เช่าค้างชำระค่าเช่า ผู้เช่าทรงไว้ซึ่งสิทธิที่จะขับไล่ผู้เช่ากับบริวาร และเข้ายึดครองสถานที่เช่าได้โดยพลัน โดยให้ถือว่าสัญญาเช่าเป็นอันสิ้นสุดแล้ว เมื่อจำเลยค้างค่าเช่า โจทก์จึงมีสิทธิฟ้องขับไล่จำเลยได้โดยไม่จำต้องบอกเลิกการเช่าก่อนฟ้องอีก ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 560 ซึ่งกำหนดให้ผู้ให้เช่าบอกเลิกสัญญาในกรณีผู้เช่าไม่ชำระค่าเช่านั้น เป็นบทบัญญัติใช้บังคับในกรณีที่คู่สัญญาไม่ได้มีข้อตกลงเรื่องนี้กันไว้เป็นอย่างอื่น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 482/2520
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาเช่าระบุสิทธิขับไล่ทันทีเมื่อค้างค่าเช่า โจทก์มีสิทธิฟ้องขับไล่ได้โดยไม่ต้องบอกเลิกสัญญา
ข้อสัญญามีว่า ถ้าผู้เช่าค้างชำระค่าเช่า ผู้ให้เช่าทรงไว้ซึ่งสิทธิที่จะขับไล่ผู้เช่ากับบริวาร และเข้ายึดครองสถานที่เช่าได้โดยพลัน โดยให้ถือว่าสัญญาเช่าเป็นอันสิ้นสุดแล้วเมื่อจำเลยค้างค่าเช่า โจทก์จึงมีสิทธิฟ้องขับไล่จำเลยได้โดยไม่จำต้องบอกเลิกการเช่าก่อนฟ้องอีก ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 560 ซึ่งกำหนดให้ผู้ให้เช่าบอกเลิกสัญญาในกรณีผู้เช่าไม่ชำระค่าเช่านั้นเป็นบทบัญญัติใช้บังคับในกรณีที่คู่สัญญาไม่ได้มีข้อตกลงเรื่องนี้กันไว้เป็นอย่างอื่น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 473/2520
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความประมาทจากการจอดรถกีดขวางเวลากลางคืนและเสียชีวิต
บรรยายฟ้องว่า จอดรถบนผิวจราจรเวลากลางคืนไม่เปิดไฟท้ายเป็นประมาท เป็นเหตุให้รถมาชนและคนตาย ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 291 พระราชบัญญัติจราจรทางบก ฉบับที่ 4 พ.ศ.2508 มาตรา 7,10 ประกาศคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 59ให้ถอนใบอนุญาตขับขี่ศาลลงโทษตาม พระราชบัญญัติจราจรฯ พ.ศ.2477 มาตรา 23 ซึ่งไม่ได้อ้างมาในคำขอท้ายฟ้องด้วยไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 432/2520 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การอุทธรณ์คำพิพากษาศาลชั้นต้นที่พิพากษาลงโทษเด็กอายุ 12 ปีในคดีลักทรัพย์ ซึ่งถูกจำกัดสิทธิการอุทธรณ์ตามกฎหมาย
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยซึ่งมีอายุ 12 ปี มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 339 ให้ส่งตัวจำเลยไปฝึกและอบรมที่สถานพินิจและคุ้มครองเด็กกลางมีกำหนด 6 ปี แต่อย่าให้เกินกว่าจำเลยมีอายุครบ 18 ปี จำเลยอุทธรณ์ขอให้ศาลดำเนินการตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 74 (2) โดยบิดาจำเลยขอรับตัวไปและจะปฏิบัติตามข้อกำหนดของศาล ดังนี้ เป็นการอุทธรณ์ในปัญหาข้อเท็จจริง และคำพิพากษาของศาลชั้นต้นที่พิพากษาดังกล่าวไม่ต้องด้วยข้อยกเว้นที่จะอุทธรณ์ได้ตามที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 193 ทวิ (1) ถึง (4) พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา (ฉบับที่ 8) พ.ศ. 2517 มาตรา 3
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 432/2520
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การอุทธรณ์คำพิพากษาศาลชั้นต้นเกี่ยวกับเด็กในคดีอาญา: การพิจารณาข้อจำกัดในการอุทธรณ์ตามกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยซึ่งมีอายุ 12 ปี มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 334 ให้ส่งตัวจำเลยไปฝึกและอบรมที่สถานพินิจและคุ้มครองเด็กกลางมีกำหนด 6 ปี แต่อย่าให้เกินกว่าจำเลยมีอายุครบ 18 ปี จำเลยอุทธรณ์ขอให้ศาลดำเนินการตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 74(2) โดยบิดาจำเลยขอรับตัวไปและจะปฏิบัติตามข้อกำหนดของศาล ดังนี้ เป็นการอุทธรณ์ในปัญหาข้อเท็จจริงและคำพิพากษาของศาลชั้นต้นที่พิพากษาดังกล่าวไม่ต้องด้วยข้อยกเว้นที่จะอุทธรณ์ได้ตามที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 193ทวิ(1) ถึง (4) พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา (ฉบับที่ 8) พ.ศ.2517 มาตรา 3