พบผลลัพธ์ทั้งหมด 166 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1189-1193/2521
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาประนีประนอมยอมความต้องมีหลักฐานเป็นหนังสือ และการทำสัญญาแทนผู้เยาว์ต้องได้รับอนุญาตจากศาล
สัญญาประนีประนอมยอมความต้องมีหลักฐานเป็นหนังสือลงลายมือชื่อฝ่ายที่ต้องรับผิด หรือลายมือชื่อตัวแทนของฝ่ายนั้นจึงจะฟ้องร้องให้บังคับคดีได้ ดังนั้น การตั้งตัวแทนเพื่อทำสัญญาประนีประนอมยอมความก็ต้องมีหลักฐานเป็นหนังสือด้วยตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 798 วรรคสองจึงจะมีผลผูกพันตัวการ
บิดาของผู้เยาว์ถูกทำละเมิดถึงแก่ความตาย ผู้เยาว์ซึ่งเป็นบุตรต้องเสียค่าทำศพไป จึงมีสิทธิได้รับค่าสินไหมทดแทนจากผู้ทำละเมิด ถือว่าผู้เยาว์ได้มาซึ่งทรัพย์สินอย่างหนึ่ง หากมีการทำสัญญาประนีประนอมยอมความกันโดยผู้ใช้อำนาจปกครองจะต้องทำสัญญาแทนผู้เยาว์ผู้ใช้อำนาจปกครองก็จะต้องขออนุญาตศาลก่อน เพราะเป็นการทำสัญญาประนีประนอมยอมความอันเกี่ยวแก่ทรัพย์สินของเด็ก ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1546(4)
บิดาของผู้เยาว์ถูกทำละเมิดถึงแก่ความตาย ผู้เยาว์ซึ่งเป็นบุตรต้องเสียค่าทำศพไป จึงมีสิทธิได้รับค่าสินไหมทดแทนจากผู้ทำละเมิด ถือว่าผู้เยาว์ได้มาซึ่งทรัพย์สินอย่างหนึ่ง หากมีการทำสัญญาประนีประนอมยอมความกันโดยผู้ใช้อำนาจปกครองจะต้องทำสัญญาแทนผู้เยาว์ผู้ใช้อำนาจปกครองก็จะต้องขออนุญาตศาลก่อน เพราะเป็นการทำสัญญาประนีประนอมยอมความอันเกี่ยวแก่ทรัพย์สินของเด็ก ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1546(4)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1170/2521
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คำฟ้องอาญาต้องอ้างบทบัญญัติความผิด แม้ไม่ระบุโทษก็ลงโทษได้ตามบททั่วไป
ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 158(6) คำฟ้องจะต้องอ้างมาตราในกฎหมายซึ่งบัญญัติว่าการกระทำเช่นนั้นเป็นความผิด โจทก์บรรยายฟ้องมาแจ้งชัดแล้วว่า จำเลยร่วมกันส่งยาเสพติดให้โทษเฮโรอีนไปจำหน่ายนอกราชอาณาจักร และอ้างบทมาตรา 4 ทวิ แห่งพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษฯอันเป็นบทห้ามกระทำผิดมาด้วย แม้จะไม่ได้อ้างบทลงโทษมาก็ย่อมลงโทษจำเลยตามมาตรา 20 วรรคสี่ได้ ไม่ใช่เรื่องที่โจทก์ไม่ประสงค์ให้ลงโทษ (อ้างฎีกาที่ 1866/2519 ประชุมใหญ่)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1157/2521
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความรับผิดทางละเมิดจากการขับรถชนทำให้พิการถาวร และการชดใช้ค่ารักษาพยาบาลในอนาคต
โจทก์ถูกจำเลยขับรถชน ร่างกายโจทก์พิการ เดินไม่ได้แขนขวาเป็นอัมพาต ต้องนอนอยู่กับเตียง อันเป็นผลโดยตรงที่เกิดจากการที่จำเลยทำละเมิดขับรถชนโจทก์ ตามลักษณะเห็นได้ว่าร่างกายโจทก์ต้องพิการและเป็นอัมพาตไปตลอดชีวิต โจทก์จะต้องเสียค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลตลอดไป แม้จะเป็นค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นในเวลาอนาคตจำเลยก็ต้องรับผิดตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 444
โจทก์ขอให้จำเลยรับผิดค่าเสียหายในอนาคตเป็นเวลา 5 ปีเมื่อปรากฏว่าโจทก์ถึงแก่กรรมหลังจากวันฟ้อง 3 ปี 1 เดือน ศาลก็กำหนดให้จำเลยรับผิดค่าเสียหายในอนาคตนับจากวันฟ้องไปอีกเพียง 3 ปี 1 เดือน
โจทก์ขอให้จำเลยรับผิดค่าเสียหายในอนาคตเป็นเวลา 5 ปีเมื่อปรากฏว่าโจทก์ถึงแก่กรรมหลังจากวันฟ้อง 3 ปี 1 เดือน ศาลก็กำหนดให้จำเลยรับผิดค่าเสียหายในอนาคตนับจากวันฟ้องไปอีกเพียง 3 ปี 1 เดือน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1132/2521
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ข้อพิพาทสัญญาเช่าซื้อ: ความรับผิดในความเสียหายของรถ, ดอกเบี้ย, และค่าใช้จ่ายในการติดตามหนี้
เช่าซื้อรถ ผิดนัดชำระค่าเช่าซื้อจนผู้ให้เช่าซื้อเลิกสัญญาและติดตามเอารถคืน ผู้ให้เช่าซื้อเรียกค่าเสียหายได้ มิใช่เรียกเอาเงินค่าเช่าซื้อที่ค้างได้ทุกงวด ค่าเสียหายนั้น ถ้าไม่ปรากฏตามที่นำสืบ ศาลกำหนดให้ตามสมควร หนังสือรับสภาพหนี้ไม่ใช่แปลงหนี้ใหม่ ถ้าไม่มีสิทธิเรียกค่าเสียหายตามจำนวนในหนังสือรับสภาพหนี้ ศาลก็ไม่ให้ใช้เงินตามที่รับสภาพไว้ เช็คที่ออกให้ตามสัญญาเช่าซื้อก็ไม่มีมูลหนี้ที่จะต้องชำระ
ค่าซ่อมแซมทรัพย์ที่เช่าซื้อเพราะเสียหายนอกเหนือกว่าการใช้ทรัพย์โดยชอบ ผู้เช่าซื้อต้องรับผิด
ดอกเบี้ยในต้นเงินค่าเช่าซื้อที่ค้างกับค่าติดตามเก็บเงินที่ค้างต้องเสียดอกเบี้ยร้อยละ 15 ตามสัญญา เงินอื่นๆนอกนั้นไม่อยู่ในสัญญา จึงเสียดอกเบี้ยร้อยละ 71/2 ต่อปี
ค่าซ่อมแซมทรัพย์ที่เช่าซื้อเพราะเสียหายนอกเหนือกว่าการใช้ทรัพย์โดยชอบ ผู้เช่าซื้อต้องรับผิด
ดอกเบี้ยในต้นเงินค่าเช่าซื้อที่ค้างกับค่าติดตามเก็บเงินที่ค้างต้องเสียดอกเบี้ยร้อยละ 15 ตามสัญญา เงินอื่นๆนอกนั้นไม่อยู่ในสัญญา จึงเสียดอกเบี้ยร้อยละ 71/2 ต่อปี
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1069/2521
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
กรรมสิทธิ์รถยนต์ซื้อขายมีเงื่อนไข: การโอนกรรมสิทธิ์เมื่อชำระเงินครบถ้วน และสิทธิในการยึดคืนเมื่อผิดนัด
ผู้ร้องซื้อรถยนต์โดยธนาคารชำระราคาแทน กรรมสิทธิ์โอนโดยไม่ต้องจดทะเบียน ผู้ร้องขายรถต่อไปโดยมีเงื่อนไขว่ากรรมสิทธิ์โอนเมื่อชำระราคาเป็นเงินสดครบถ้วน กรรมสิทธิ์ยังไม่โอนจนกว่าจะชำระราคาเสร็จ ถ้าผิดนัดชำระราคา ผู้ร้องกลับเข้าครอบครองรถได้ ผู้ร้องร้องขอรับรถของกลางที่ถูกริบคืนได้ตาม มาตรา36
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1066/2521
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดฐานเบิกความเท็จ: การบรรยายฟ้องผู้เสียหายและข้อผิดพลาดในการอ้างมาตรากฎหมาย
คำบรรยายฟ้องความผิดฐานเบิกความเท็จที่ชอบด้วย ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 158(5)
โจทก์บรรยายฟ้องถึงการกระทำของจำเลยในความผิดฐานเบิกความเท็จอันเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา177 แต่โจทก์มีคำขอท้ายฟ้องให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 180 เป็นเรื่องที่โจทก์อ้างมาตรา ผิด ศาลมีอำนาจลงโทษจำเลยตามความผิดที่ถูกต้องได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 192
โจทก์บรรยายฟ้องถึงการกระทำของจำเลยในความผิดฐานเบิกความเท็จอันเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา177 แต่โจทก์มีคำขอท้ายฟ้องให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 180 เป็นเรื่องที่โจทก์อ้างมาตรา ผิด ศาลมีอำนาจลงโทษจำเลยตามความผิดที่ถูกต้องได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 192
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1063/2521
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การขอคืนทรัพย์ของกลาง: 'วันคำพิพากษาถึงที่สุด' หมายถึงคำพิพากษาคดีริบทรัพย์เดิม แม้มีการฟ้องคดีใหม่
การขอคืนทรัพย์ของกลางตามที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายอาญามาตรา 36 ซึ่งเจ้าของทรัพย์ที่มิได้รู้เห็นเป็นใจด้วยในการกระทำผิด ย่อมมีสิทธิขอคืนต่อศาลได้ภายใน 1 ปี นับแต่วันคำพิพากษาถึงที่สุดนั้น คำว่า"วันคำพิพากษาถึงที่สุด" ย่อมหมายถึงคำพิพากษาในคดีที่ศาลมีคำสั่งให้ริบทรัพย์
โจทก์ฟ้องจำเลยที่ 1 ที่ 2 และที่ 3 ในข้อหาฐานความผิดเดียวกันและมีคำขอให้ริบของกลางมาด้วย จำเลยที่ 1 ที่ 2 ให้การรับสารภาพส่วนจำเลยที่ 3 ให้การปฏิเสธ ศาลชั้นต้นได้มีคำสั่งให้แยกฟ้องจำเลยที่ 3 เป็นคดีใหม่ และพิพากษาลงโทษจำคุกจำเลยที่ 1 ที่ 2 คนละ 9 เดือน ปรับคนละ 4,000 บาท ริบของกลางทั้งหมดคดีถึงที่สุด ต่อมาโจทก์มาฟ้องจำเลยที่ 3 เป็นคดีใหม่ ตามคำสั่งศาลชั้นต้นแม้โจทก์จะได้บรรยายฟ้องกล่าวถึงทรัพย์สินอันเป็นของกลางในคดีก่อนมาด้วยอีก ก็เพื่อให้ฟ้องสมบูรณ์เท่านั้นหาได้นำมาอยู่ในอำนาจศาลในคดีหลังแต่ประการใดไม่ ของกลางดังกล่าวจึงมิใช่ของกลางในคดีหลัง เมื่อผู้ร้องมาร้องขอคืนของกลางภายหลังวันที่คำพิพากษาคดีแรกถึงที่สุดแล้วเกิน 1 ปี จึงเป็นการต้องห้ามตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 36
โจทก์ฟ้องจำเลยที่ 1 ที่ 2 และที่ 3 ในข้อหาฐานความผิดเดียวกันและมีคำขอให้ริบของกลางมาด้วย จำเลยที่ 1 ที่ 2 ให้การรับสารภาพส่วนจำเลยที่ 3 ให้การปฏิเสธ ศาลชั้นต้นได้มีคำสั่งให้แยกฟ้องจำเลยที่ 3 เป็นคดีใหม่ และพิพากษาลงโทษจำคุกจำเลยที่ 1 ที่ 2 คนละ 9 เดือน ปรับคนละ 4,000 บาท ริบของกลางทั้งหมดคดีถึงที่สุด ต่อมาโจทก์มาฟ้องจำเลยที่ 3 เป็นคดีใหม่ ตามคำสั่งศาลชั้นต้นแม้โจทก์จะได้บรรยายฟ้องกล่าวถึงทรัพย์สินอันเป็นของกลางในคดีก่อนมาด้วยอีก ก็เพื่อให้ฟ้องสมบูรณ์เท่านั้นหาได้นำมาอยู่ในอำนาจศาลในคดีหลังแต่ประการใดไม่ ของกลางดังกล่าวจึงมิใช่ของกลางในคดีหลัง เมื่อผู้ร้องมาร้องขอคืนของกลางภายหลังวันที่คำพิพากษาคดีแรกถึงที่สุดแล้วเกิน 1 ปี จึงเป็นการต้องห้ามตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 36
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 939/2521
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาการก่อสร้างชำรุด: ผู้รับจ้างต้องรับผิดหากผู้ว่าจ้างไม่รับมอบโดยไม่อิดเอื้อน แม้พ้นอายุความ ก็หักกลบลบหนี้ได้
ผู้รับจ้างปลูกอาคารโดยชำรุดบกพร่องไม่ต้องรับผิดต่อเมื่อผู้ว่าจ้างรับมอบอาคารโดยไม่อิดเอื้อน เมื่อผู้ว่าจ้างทักท้วงผู้รับจ้างต้องรับผิดโดยมีอายุความ 1 ปี ตาม มาตรา 601 แต่เมื่อแรกที่ผู้ว่าจ้างมีสิทธิเรียกร้องยังอยู่ในกำหนด 1 ปี ฉะนั้นแม้พ้น 1 ปี แล้วผู้ว่าจ้างก็หักกลบลบหนี้ค่าจ้างที่ค้างชำระกับค่าเสียหายที่ผู้ว่าจ้างต้องรับผิดได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 938/2521
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อายุความเช็ค: เริ่มนับจากวันที่ระบุในเช็ค ไม่ใช่วันที่มอบเช็ค
อายุความที่ผู้ทรงเช็คฟ้องเรียกเงินตามเช็คจากผู้สั่งจ่ายต้องนับแต่วันที่เช็คถึงกำหนด หรือวันที่ลงในเช็คตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1002 หาใช่เริ่มนับตั้งแต่วันที่มอบเช็คไม่
โจทก์จำเลยเล่นแชร์กัน จำเลยเป็นนายวงแชร์ การลงแชร์ครั้งแรกลงเงินมือละ 20,000 บาท จำเลยในฐานะเป็นนายวงแชร์ได้รับเงินที่ลงแชร์ไปก่อนโดยไม่ต้องประมูลจำเลยรับเงินของโจทก์ไป 20,000 บาท แล้วออกเช็คให้โจทก์ในเดือนเมษายน 2512 โดยลงวันที่ แต่ไม่ได้ลงเดือนและปีไว้เพื่อใช้คืนให้โจทก์เมื่อโจทก์ประมูลแชร์ได้ซึ่งเป็นที่เห็นได้ว่าเป็นเจตนาของโจทก์และจำเลยผู้สั่งจ่ายที่จะให้เว้นไว้เพื่อให้โจทก์ไปลง (เดือนและปีในเช็ค) เอาเองในภายหลัง เมื่อโจทก์ลงเดือนและปีสั่งจ่ายในเช็คเป็นเดือนสิงหาคม 2518 ธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินตามเช็คในวันที่ 5 กันยายน 2518 และโจทก์นำคดีมาฟ้องในวันที่ 23 กันยายน 2518 ฟ้องโจทก์จึงไม่ขาดอายุความ
โจทก์จำเลยเล่นแชร์กัน จำเลยเป็นนายวงแชร์ การลงแชร์ครั้งแรกลงเงินมือละ 20,000 บาท จำเลยในฐานะเป็นนายวงแชร์ได้รับเงินที่ลงแชร์ไปก่อนโดยไม่ต้องประมูลจำเลยรับเงินของโจทก์ไป 20,000 บาท แล้วออกเช็คให้โจทก์ในเดือนเมษายน 2512 โดยลงวันที่ แต่ไม่ได้ลงเดือนและปีไว้เพื่อใช้คืนให้โจทก์เมื่อโจทก์ประมูลแชร์ได้ซึ่งเป็นที่เห็นได้ว่าเป็นเจตนาของโจทก์และจำเลยผู้สั่งจ่ายที่จะให้เว้นไว้เพื่อให้โจทก์ไปลง (เดือนและปีในเช็ค) เอาเองในภายหลัง เมื่อโจทก์ลงเดือนและปีสั่งจ่ายในเช็คเป็นเดือนสิงหาคม 2518 ธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินตามเช็คในวันที่ 5 กันยายน 2518 และโจทก์นำคดีมาฟ้องในวันที่ 23 กันยายน 2518 ฟ้องโจทก์จึงไม่ขาดอายุความ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 938/2521 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อายุความเช็ค: นับจากวันที่ลงเช็ค ไม่ใช่วันที่มอบเช็ค แม้เช็คลงวันที่ไม่ครบถ้วน ผู้ทรงเช็คมีสิทธิลงเดือนปีภายหลังได้
อายุความที่ผู้ทรงเช็คฟ้องเรียกเงินตามเช็คจากผู้สั่งจ่ายต้องนับแต่วันที่เช็คถึงกำหนด หรือวันที่ลงในเช็คตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1002 หาใช่เริ่มนับตั้งแต่วันที่มอบเช็คไม่
โจทก์จำเลยเล่นแชร์กัน จำเลยเป็นนายวงแชร์ การลงแชร์ครั้งแรกลงเงินมือละ 20,000 บาท จำเลยในฐานะเป็นนายวงแชร์ได้รับเงินที่ลงแชร์ไปก่อน โดยไม่ต้องประมูล จำเลยรับเงินของโจทก์ไป 20,000 บาท แล้วออกเช็คให้โจทก์ในเดือนเมษายน 2512 โดยลงวันที่ แต่ไม่ได้ลงเดือนและปีไว้ เพื่อใช้คืนให้โจทก์เมื่อโจทก์ประมูลแชร์ได้ ซึ่งเป็นที่เห็นได้ว่าเป็นเจตนาของโจทก์และจำเลยผู้สั่งจ่ายที่จะให้เว้นไว้เพื่อให้โจทก์ไปลง (เดือนและปีในเช็ค) เอาเองในภายหลัง เมื่อโจทก์ลงเดือนและปีสั่งจ่ายในเช็คเป็นเดือนสิงหาคม 2518 ธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินตามเช็คในวันที่ 5 กันยายน 2518 และโจทก์นำคดีมาฟ้องในวันที่ 23 กันยายน 2518 ฟ้องโจทก์จึงไม่ขาดอายุความ
โจทก์จำเลยเล่นแชร์กัน จำเลยเป็นนายวงแชร์ การลงแชร์ครั้งแรกลงเงินมือละ 20,000 บาท จำเลยในฐานะเป็นนายวงแชร์ได้รับเงินที่ลงแชร์ไปก่อน โดยไม่ต้องประมูล จำเลยรับเงินของโจทก์ไป 20,000 บาท แล้วออกเช็คให้โจทก์ในเดือนเมษายน 2512 โดยลงวันที่ แต่ไม่ได้ลงเดือนและปีไว้ เพื่อใช้คืนให้โจทก์เมื่อโจทก์ประมูลแชร์ได้ ซึ่งเป็นที่เห็นได้ว่าเป็นเจตนาของโจทก์และจำเลยผู้สั่งจ่ายที่จะให้เว้นไว้เพื่อให้โจทก์ไปลง (เดือนและปีในเช็ค) เอาเองในภายหลัง เมื่อโจทก์ลงเดือนและปีสั่งจ่ายในเช็คเป็นเดือนสิงหาคม 2518 ธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินตามเช็คในวันที่ 5 กันยายน 2518 และโจทก์นำคดีมาฟ้องในวันที่ 23 กันยายน 2518 ฟ้องโจทก์จึงไม่ขาดอายุความ