พบผลลัพธ์ทั้งหมด 2,100 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6429/2534
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความรับผิดของผู้ขายเมื่อรถยนต์ถูกยักยอก ผู้ขายต้องพิสูจน์ความผิดผู้ซื้อจึงไม่ต้องรับผิด
กรณีที่ผู้ขายจะไม่ต้องรับผิดในการรอนสิทธิตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 482(1) นั้น จะต้องได้ความว่าผู้ขายพิสูจน์ได้ว่าสิทธิของผู้ซื้อได้สูญไปโดยความผิดของผู้ซื้อเอง รถยนต์พิพาทถูกยักยอกมาและได้ถูกเจ้าพนักงานตำรวจศูนย์ป้องกันและปราบปรามการโจรกรรมรถยนต์ติดตามยึดรถไปจากโจทก์ผู้ซื้อด้วยอำนาจของกฎหมาย โดยจำเลยผู้ขายมิได้นำสืบให้เห็นว่าการที่รถยนต์พิพาทถูกยึดไปนั้นเป็นความผิดของโจทก์แต่อย่างใดจำเลยจึงไม่อาจอ้างเอาข้อยกเว้นการรับผิดในการรอนสิทธิตามข้อกฎหมายที่อ้างมานั้นได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6111/2534
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การประเมินภาษีโรงเรือน: อำนาจแก้ไขค่ารายปีและข้อยกเว้นโรงเรือนปิดทำการ
ตาม พระราชบัญญัติภาษีโรงเรือนและที่ดิน มาตรา 8 ให้อำนาจพนักงานเจ้าหน้าที่ที่จะแก้ไขค่ารายปีเสียใหม่ในแต่ละปีที่จะต้องชำระภาษีได้ ถ้าเห็นว่าค่ารายปีที่กำหนดตามค่าเช่าเดิมมิใช่จำนวนอันสมควรจะให้เช่าได้ในปีที่จะเรียกเก็บภาษีนั้นเมื่อพนักงานเจ้าหน้าที่ได้ประเมินค่ารายปีแล้วแต่โจทก์อ้างว่าค่ารายปีที่ประเมินใหม่ไม่ชอบ โจทก์มีหน้าที่ต้องนำสืบให้เห็นว่าค่ารายปีที่ประเมินใหม่สูงกว่าค่าเช่าที่อาจให้เช่าได้ในปีนั้นถ้าโจทก์มิได้นำสืบให้เห็นก็ต้องถือว่าค่ารายปีที่เจ้าพนักงานประเมินใหม่ ชอบแล้ว โรงเรือนที่จะได้รับยกเว้นมิต้องเสียภาษีตาม พระราชบัญญัติภาษีโรงเรือนและที่ดิน มาตรา 9(5) ต้องเป็นโรงเรือนที่ปิดไว้ตลอดปี การที่โรงเรือนพิพาทมิได้ให้เช่าตลอดปีนั้น ยังถือไม่ได้ว่าเป็นโรงเรือนปิดไว้ตลอดปี กรณีไม่ต้องด้วยข้อยกเว้นที่จะได้รับการยกเว้นภาษี.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6111/2534 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจประเมินค่ารายปีภาษีโรงเรือน และข้อยกเว้นภาษีสำหรับโรงเรือนที่ไม่ได้ให้เช่า
ค่ารายปีที่จะใช้ในการคำนวณภาษีนั้น พนักงานเจ้าหน้าที่มีอำนาจที่จะแก้ไขเสียใหม่ในแต่ละปีที่จะต้องชำระภาษีได้ ถ้าเห็นว่าค่ารายปีที่กำหนดตามค่าเช่าเดิมนั้นมิใช่จำนวนอันเป็นการจะให้เช่าได้ในปีที่จะเรียกเก็บภาษีนั้น ฟ้องโจทก์มิได้ยกขึ้นเลยว่าพนักงานเจ้าหน้าที่ไม่มีเหตุที่จะกำหนดค่ารายปีเพิ่มขึ้น จึงต้องถือว่าพนักงานเจ้าหน้าที่มีเหตุพึงกำหนดค่ารายปีเพิ่มขึ้น ส่วนที่กำหนดเพิ่มใหม่จะเป็นค่ารายปีที่ชอบหรือไม่นั้น โจทก์มีหน้าที่นำสืบให้เห็นว่า ค่ารายปีที่ประเมินใหม่นั้นเป็นค่ารายปีที่สูงกว่าค่าเช่าที่อาจให้เช่าได้ในปีนั้น โจทก์มิได้นำสืบในข้อนี้กรณีต้องฟังว่าค่ารายปีที่เจ้าพนักงานประเมินใหม่นั้นเป็นการประเมินที่ชอบ โรงเรือนที่จะได้รับการยกเว้นมิต้องเสียภาษีตาม พ.ร.บ.ภาษีโรงเรือนและที่ดินฯ มาตรา 9(5) จะต้องเป็นโรงเรือนที่ปิดไว้ตลอดปี และเจ้าของมิได้อยู่เองหรือให้ผู้อื่นอยู่ นอกจากคนเฝ้าในโรงเรือน โรงเรือนที่พิพาทนั้นมิใช่โรงเรือนที่โจทก์ซึ่งเป็นเจ้าของอยู่เอง การที่ข้อเท็จจริงยุติเพียงว่า โรงเรือนที่พิพาทมิได้ให้เช่านั้นมิได้หมายความว่าโรงเรือนนั้นจะมิได้ใช้ประโยชน์อย่างอื่นอันจะถือได้เหมือนกับเป็นโรงเรือนซึ่งปิดไว้ตลอดปี ดังนั้นโรงเรือนที่พิพาทของโจทก์จึงไม่อยู่ในข้อยกเว้นที่จะได้รับยกเว้นภาษีโรงเรือน.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6022/2534
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ข้อตกลงการสืบพยานร่วมและการวินิจฉัยตามคำเบิกความ มีผลผูกพันคู่ความ
ทางพิจารณาคู่ความตกลงกันว่า ขอสืบ ส.เป็นพยานร่วมเพียงปากเดียว หาก ส.เบิกความเป็นอย่างไรก็ให้ศาลพิพากษาคดีไปตามนั้นและหาก ส.เบิกความไม่สมฝ่ายใด ก็ถือว่าโจทก์จำเลยไม่ติดใจสืบพยานให้ศาลพิพากษาไปตามประเด็นแห่งคดี เมื่อคำเบิกความของ ส.สอดคล้องเจือสมกับคำฟ้องของโจทก์ที่ว่าโจทก์มีส่วนในการซื้อที่ดินคืนไม่ใช่จำเลยซื้อเพียงคนเดียว จำเลยจึงต้องแพ้คดีตามที่ตกลงกันในรายงานกระบวนพิจารณา.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6007/2534
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สินสมรส: ภาระการพิสูจน์อยู่ที่ผู้อ้างว่าเป็นสินส่วนตัวของผู้ตาย
ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1474 บัญญัติให้ทรัพย์สินที่ได้มาระหว่างสมรสเป็นสินสมรส ถ้ากรณีเป็นที่สงสัยว่าทรัพย์สินอย่างหนึ่งอย่างใดเป็นสินสมรสหรือมิใช่ ให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่าเป็นสินสมรส ผู้ร้องซึ่งอ้างว่าทรัพย์สินที่โจทก์นำยึดเป็นสินส่วนตัวของผู้ตาย ผู้ร้องจึงมีภาระการพิสูจน์.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5951/2534
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจฟ้อง, หนังสือมอบอำนาจ, น้ำหนักสินค้า, การชั่งน้ำหนัก, สัญญาซื้อขาย
โจทก์มี น. ผู้รับมอบอำนาจจากโจทก์มาเบิกความยืนยันประกอบหนังสือมอบอำนาจเอกสารแสดงฐานะการเป็นนิติบุคคลของโจทก์และหนังสือรับรองลายมือชื่อโดยโนตารีปับลิก และกงสุลไทยประจำเมืองที่มีการทำหนังสือมอบอำนาจว่า โจทก์ได้มอบอำนาจให้ น. ดำเนินคดีแทนในประเทศไทย จำเลยไม่นำสืบหักล้าง โจทก์จึงไม่จำต้องนำกรรมการผู้มอบอำนาจของโจทก์มาเบิกความประกอบข้อเท็จจริงฟังได้ว่าโจทก์ได้มอบอำนาจให้ น. ดำเนินคดีแทนในประเทศไทยแล้ว และหนังสือมอบอำนาจไม่อยู่ในบังคับที่จะต้องปิดอากรแสตมป์ตามประมวลรัษฎากร การนำพยานบุคคลมาสืบเกี่ยวกับน้ำหนักเหล็กแผ่นพิพาทว่า มีน้ำหนักแตกต่างไปจากน้ำหนักที่ระบุในใบแจ้งราคาเบื้องต้นของเหล็กแผ่น ซึ่งมีรายละเอียดระบุในเอกสารนั้นว่ารายละเอียดต่าง ๆ เช่น น้ำหนัก ราคาเป็นเพียงการประมาณเอาเท่านั้น น้ำหนักแท้จริงน้ำหนักแน่นอนจะแจ้งหนี้ครั้งสุดท้าย ฯลฯ แสดงให้เห็นว่าทั้งปริมาณและราคายังมีการเปลี่ยนแปลงได้ตามเงื่อนไขที่ระบุไว้ในเอกสารดังกล่าว ดังนั้น การสืบพยานโจทก์จึงไม่เป็นการสืบแก้ไขเปลี่ยนแปลงพยานเอกสารตาม ป.วิ.พ. มาตรา 94(ข).
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5468/2534
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การยอมรับหนี้ตามฟ้องทำให้ไม่ต้องสืบพยานเพิ่มเติม แม้เรื่องดอกเบี้ย
ในคดีที่จำเลยขาดนัดยื่นคำให้การ แต่มิได้ขาดนัดพิจารณาเมื่อจำเลยแถลงรับว่าเป็นหนี้โจทก์จริงตามฟ้องเสียแล้ว โจทก์ก็ไม่ต้องนำสืบแต่อย่างใดอีกเพราะข้อเท็จจริงย่อมฟังได้ตามฟ้องตามที่จำเลยแถลงรับอยู่แล้ว แม้จะเป็นเรื่องอำนาจฟ้องหรือการคิดดอกเบี้ยก็ตาม ศาลย่อมพิพากษาไปได้โดยไม่ต้องให้โจทก์นำสืบอีกต่อไป
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4664/2534
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาว่าจ้างก่อสร้าง: การชำระค่างานที่ทำเสร็จแล้ว แม้มีข้อตกลงยึดหน่วงได้ แต่ต้องหักลบกับค่าเสียหายจริงเท่านั้น
โจทก์ซึ่งเป็นฝ่ายผิดสัญญาฟ้องเรียกเอาค่าการงานที่โจทก์ได้ทำให้จำเลยไปแล้ว และการงานนั้นตกได้แก่จำเลยโดยไม่อาจทำให้ คืนสภาพเดิมได้ แม้จะมีข้อสัญญาให้การงานที่ทำไปแล้วตกเป็นของ จำเลยโดยโจทก์ไม่อาจเรียกค่าทดแทนได้ แต่สัญญาข้อดังกล่าวกำหนด ไว้เพื่อเอาการงานที่ทำไปเป็นการประกันหรือชดใช้ค่าเสียหายของ จำเลยส่วนหนึ่งอันจะพึงมีในกรณีที่โจทก์ผิดสัญญาและจำเลยได้บอก เลิกสัญญาแล้ว เมื่อจำเลยมิได้ฟ้องแย้งเรียกค่าเสียหายจากโจทก์ หรือให้การโดยชัดแจ้งว่าจำเลยได้รับความเสียหายเกินกว่าค่าของ การงานที่โจทก์ทำไป ทั้งยังให้การรับว่าค่าการงานที่โจทก์ทำไปตก ได้แก่จำเลยคิดเป็นเงินจำนวนหนึ่ง จำเลยจึงมีหน้าที่ชำระเงิน ในส่วนที่จำเลยได้รับประโยชน์จากค่าการงานของโจทก์ตามที่จำเลย ให้การรับ มาจะยึดหน่วงสินจ้างไว้ทั้งสิ้นหาได้ไม่.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4118/2534
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คำพิพากษาถึงที่สุดผูกพันคู่ความในคดีล้มละลาย แม้จำเลยอ้างหนี้ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ข้อสันนิษฐานหนี้สินล้นพ้นตัวมีผล
เมื่อมีคำพิพากษาให้จำเลยร่วมรับผิดชำระหนี้ 1,000,000 บาทพร้อมดอกเบี้ย คดีถึงที่สุด คำพิพากษาดังกล่าวย่อมผูกพันจำเลยซึ่งเป็นคู่ความตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 145 ต่อมาโจทก์ฟ้องจำเลยเป็นคดีล้มละลายจำเลยจะโต้เถียงว่าไม่ได้เป็นหนี้ตามคำพิพากษาหรือเป็นหนี้ที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายหาได้ไม่ ต้องถือว่าเป็นหนี้ที่แท้จริงและถูกต้อง เมื่อไม่สามารถบังคับคดีเนื่องจากสืบหาทรัพย์สินของจำเลยไม่พบ และโจทก์ได้มีหนังสือทวงถามให้จำเลยชำระหนี้ไม่น้อยกว่าสองครั้ง ซึ่งมีระยะเวลาห่างกันไม่น้อยกว่า30 วัน จำเลยไม่ชำระจึงต้องด้วยข้อสันนิษฐานว่าจำเลยมีหนี้สินล้นพ้นตัว เมื่อจำเลยไม่นำสืบหักล้างข้อสันนิษฐานดังกล่าวข้อเท็จจริงจึงฟังได้ว่าจำเลยเป็นหนี้โจทก์ไม่น้อยกว่า 50,000 บาทเป็นหนี้ที่กำหนดจำนวนได้แน่นอนและจำเลยมีหนี้สินล้นพ้นตัว ทั้งไม่มีเหตุอื่นที่ไม่สมควรให้จำเลยล้มละลาย.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4106/2534
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ข้อตกลงร่วมกันวินิจฉัยข้อเท็จจริงตามคดีอาญาในคดีแพ่ง การประมาทเลินเล่อของทั้งสองฝ่ายทำให้ค่าเสียหายตกเป็นพับ
แม้ว่าโจทก์จะไม่ได้เป็นคู่ความในคดีอาญาที่พนักงานอัยการฟ้อง ขอให้ลงโทษจำเลยในข้อหาขับรถยนต์โดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายแก่กายและทรัพย์สินผู้อื่นเสียหาย จากเหตุที่เกิดขึ้นเหตุเดียวกับคดีนี้ แต่ก็อาจตกลงกับจำเลย ขอให้วินิจฉัยข้อเท็จจริงคดีนี้ไปตามข้อเท็จจริงที่ปรากฏในคดีอาญาดังกล่าวได้ ซึ่งข้อเท็จจริงในคดีอาญาดังกล่าวย่อมหมายถึงข้อเท็จจริงที่ศาลชั้นต้นได้พิจารณาจากพยานหลักฐานที่โจทก์จำเลยนำสืบแล้ววินิจฉัยไว้ในคำพิพากษาว่าเป็นอย่างไร.