คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
ป.วิ.พ. ม. 84

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 2,100 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 656/2530

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ หน้าที่นำสืบของโจทก์: การพิสูจน์ข้อเท็จจริงตามคำฟ้อง
เมื่อศาลกำหนดให้โจทก์มีหน้าที่นำสืบ แต่โจทก์ส่งเพียงเอกสารที่แนบท้ายคำฟ้องโดยมิได้นำสืบให้เห็นว่าจำเลยทั้งสิบห้าคนดำเนินการเลือกกำนันโดยมิชอบด้วยกฎหมายดังที่โจทก์ฟ้อง โจทก์จึงไม่อาจชนะคดีได้
ข้อที่โจทก์ฎีกาว่าระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยการเลือกกำนันพ.ศ. 2524 เป็นระเบียบที่ออกโดยอาศัยอำนาจตามความในมาตรา30 แห่ง พ.ร.บ. ลักษณะปกครองท้องที่ พ.ศ. 2457 และประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้ว ระเบียบดังกล่าวจึงเป็นข้อกฎหมายที่ศาลรู้เองนั้น เมื่อโจทก์มิได้นำสืบในประเด็นที่ตนมีหน้าที่นำสืบข้างต้นฎีกาข้อนี้ของโจทก์จึงไม่เป็นสาระแก่คดีอันควรได้รับการวินิจฉัย.(ที่มา-ส่งเสริมฯ)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 609/2530 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คำให้การขัดแย้งไม่ชัดเจนจำเลยไม่มีประเด็นสืบ โจทก์ต้องนำสืบตามฟ้อง
จำเลยให้การในตอนแรกว่าไม่เคยทำสัญญาเช่ากับโจทก์และไม่ทราบว่าโจทก์วางมัดจำไว้ แต่ตอนหลังกลับให้การว่าจำเลยไม่ต้องคืนเงินมัดจำให้โจทก์เพราะหักเป็นค่าเสียหายที่โจทก์ก่อขึ้นกับห้องเช่าที่ส่งมอบคืน ดังนี้เป็นคำให้การที่ขัดแย้งกันไม่ชัดแจ้งว่าจำเลยให้โจทก์เช่าห้องและรับเงินมัดจำไว้หรือไม่ เป็นคำให้การที่ไม่ชอบด้วย ป.วิ.พ. มาตรา 177 วรรคสอง จำเลยไม่มีประเด็นนำสืบตามคำให้การ แต่คำให้การดังกล่าวเป็นที่เข้าใจได้ว่าเป็นการปฏิเสธฟ้องโจทก์โดยสิ้นเชิง คดียังมีประเด็นข้อพิพาท โจทก์ต้องนำสืบให้ได้ความตามฟ้องจึงจะชนะคดีได้.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 565/2530

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ หน้าที่นำสืบของโจทก์: การส่งเอกสารไม่อาจทดแทนการสืบพยานหลักฐานในประเด็นที่ฟ้อง
เมื่อศาลกำหนดให้โจทก์มีหน้าที่นำสืบ แต่โจทก์ส่งเพียงเอกสารที่แนบท้ายคำฟ้องโดยมิได้นำสืบให้เห็นว่าจำเลยทั้งสิบห้าคนดำเนินการเลือกกำนันโดยมิชอบด้วยกฎหมายดัง ที่โจทก์ฟ้อง โจทก์จึงไม่อาจชนะคดีได้ ข้อที่โจทก์ฎีกาว่าระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยการเลือกกำนัน พ.ศ. 2524 เป็นระเบียบที่ออกโดยอาศัยอำนาจตามความในมาตรา 30 แห่ง พ.ร.บ. ลักษณะปกครองท้องที่พ.ศ. 2457 และประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้ว ระเบียบดังกล่าวจึงเป็นข้อกฎหมายที่ศาลรู้เองนั้น เมื่อโจทก์มิได้นำสืบในประเด็นที่ตนมีหน้าที่นำสืบข้างต้นฎีกาข้อนี้ของโจทก์จึงไม่เป็นสาระแก่คดีอันควรได้รับการวินิจฉัย.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 503/2530

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจฟ้องเจ้าพนักงานท้องถิ่นรื้อถอนอาคารผิดกฎหมาย และอายุความตามกฎหมายพิเศษ
ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นเจ้าพนักงานท้องถิ่น มีอำนาจยื่นคำขอต่อศาลให้มีการรื้อถอนอาคารได้ตามเงื่อนไขของกฎหมาย ตามพระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ. 2522 มาตรา 42 และเมื่อหัวหน้าเขตผู้รับมอบอำนาจจากผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครพบว่าจำเลยต่อเติมอาคารผิดข้อบัญญัติกรุงเทพมหานครโดยไม่สามารถแก้ไขเปลี่ยนแปลงให้ถูกต้องได้ และมีคำสั่งให้จำเลยรื้อถอนอาคารภายในเวลาที่กำหนดแล้ว ดังนี้ ข้อบัญญติกรุงเทพมหานครเป็นข้อกฎหมายที่ศาลรู้เอง เมื่อโจทก์นำสืบว่าได้ปฏิบัติตามครบทุกขั้นตอนแล้ว แม้ไม่นำสืบผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครอีกก็ไม่ทำให้อำนาจฟ้องเสียไป
การฟ้องคดีให้ผู้ต่อเติมอาคารโดยไม่ได้รับอนุญาตรื้อถอนอาคารตามพระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ. 2522 นั้นมิใช่เรื่องจำเลยกระทำละเมิดต่อโจทก์ และกฎหมายมิได้บัญญัติเรื่องอายุความไว้ จึงต้องใช้อายุความ10 ปี ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 164 มิใช่อายุความตามมาตรา448.(ที่มา-เนติ)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 359/2530 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ผลของสัญญาเดินรถไฟระหว่างสยามกับรัฐมาเลเซีย และอำนาจศาลในการพิจารณาคดีที่เกิดขึ้นในต่างประเทศ
ประกาศกระแสพระบรมราชโองการให้ใช้สัญญาว่าด้วยการเดิน รถไฟระหว่างพระราชอาณาจักรสยามกับกลันตันไทรบุรีเปอร์ลิศและสหรัฐมลายู ลงวันที่ 24 ธันวาคม พ.ศ. 2467 ของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 เป็นกฎหมายเมื่อได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้วศาลรู้เอง.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 320/2530

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิเรียกค่าทดแทนจากการเป็นชู้ แม้ยังมิได้ฟ้องหย่า และภาระการพิสูจน์กรณีคู่ความอ้างว่าโจทก์รู้เห็นเป็นใจ
การล่วงเกินในทำนองชู้สาวตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา1523 วรรคสองมีความหมายรวมถึงการทำชู้ด้วย สิทธิเรียกค่าทดแทนนี้มิได้มีเงื่อนไขว่าสามีจะต้องฟ้องหย่าภริยาเสียก่อนจึงจะฟ้องเรียกค่าทดแทนจากผู้ล่วงเกินภริยาในทำนองชู้สาวได้และค่าทดแทนในกรณีนี้เป็นค่าเสียหายอย่างหนึ่งที่ชายชู้ต้องรับผิด ศาลมีอำนาจกำหนดให้ตามฐานานุรูปแห่งผู้ต้องได้รับความเสียหาย ซึ่งรวมถึงความเสียหายแก่ชื่อเสียงและเกียรติคุณของโจทก์ด้วย
โจทก์ฟ้องเรียกค่าทดแทนจากจำเลยอ้างว่าจำเลยเป็นชู้กับ น.ผู้ตายซึ่งเป็นภริยาโจทก์ จำเลยให้การต่อสู้ข้อหนึ่งว่าหากน. เป็นภริยาโจทก์โจทก์ก็รู้เห็นเป็นใจให้ภริยามีชู้ ดังนี้ประเด็นที่ว่าโจทก์รู้เห็นเป็นใจให้จำเลยเป็นชู้กับผู้ตายนั้น ภาระการพิสูจน์ตกแก่จำเลย.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 320/2530 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิเรียกค่าทดแทนจากการล่วงเกินทำชู้ ไม่ต้องฟ้องหย่าก่อน และศาลมีอำนาจกำหนดค่าทดแทนตามความเสียหาย
การล่วงเกินในทำนองชู้สาว ตาม ป.พ.พ. มาตรา 1523 วรรคสองมีความหมายรวมถึงการทำชู้ ด้วย สิทธิเรียกค่าทดแทนตามความในวรรคสองของมาตรา 1523 นี้ มิได้มีเงื่อนไขว่าสามีจะต้องฟ้องหย่าภริยาเสียก่อนจึงจะฟ้องเรียกค่าทดแทนจากผู้ล่วงเกินได้ ค่าทดแทนในกรณีนี้เป็นค่าเสียหายอย่างหนึ่งที่กฎหมายกำหนดให้ชายชู้ ต้องรับผิด ศาลมีอำนาจกำหนดให้ตามฐานานุรูปแห่งผู้ต้องได้รับความเสียหาย ซึ่งรวมถึงความเสียหายแก่ชื่อ เสียง และเกียรติคุณของโจทก์ด้วย โจทก์ฟ้องเรียกค่าทดแทนจากจำเลยซึ่งเป็นชู้ กับภริยาโจทก์จำเลยให้การว่าโจทก์รู้เห็นเป็นใจให้จำเลยเป็นชู้ กับผู้ตาย ซึ่งถ้าเป็นจริงโจทก์จะเรียกค่าทดแทนไม่ได้ ตาม ป.พ.พ. มาตรา 1523 วรรคสามประเด็นข้อนี้ภาระการพิสูจน์ตก แก่จำเลย.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 320/2530 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิเรียกค่าทดแทนจากการเป็นชู้: สามีมีอำนาจฟ้องแม้ยังมิได้หย่า และภาระการพิสูจน์อยู่ที่จำเลย
การล่วงเกินในทำนองชู้สาวตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1523 วรรคสองมีความหมายรวมถึงการทำชู้ด้วย สิทธิเรียกค่าทดแทนนี้มิได้มีเงื่อนไขว่าสามีจะต้องฟ้องหย่าภริยาเสียก่อนจึงจะฟ้องเรียกค่าทดแทนจากผู้ล่วงเกินภริยาในทำนองชู้สาวได้ และค่าทดแทนในกรณีนี้เป็นค่าเสียหายอย่างหนึ่งที่ชายชู้ต้องรับผิด ศาลมีอำนาจกำหนดให้ตามฐานานุรูปแห่งผู้ต้องได้รับความเสียหาย ซึ่งรวมถึงความเสียหายแก่ชื่อเสียงและเกียรติคุณของโจทก์ด้วย
โจทก์ฟ้องเรียกค่าทดแทนจากจำเลยอ้างว่าจำเลยเป็นชู้กับ น.ผู้ตายซึ่งเป็นภริยาโจทก์ จำเลยให้การต่อสู้ข้อหนึ่งว่าหาก น. เป็นภริยาโจทก์โจทก์ก็รู้เห็นเป็นใจให้ภริยามีชู้ ดังนี้ประเด็นที่ว่าโจทก์รู้เห็นเป็นใจให้จำเลยเป็นชู้กับผู้ตายนั้น ภาระการพิสูจน์ตกแก่จำเลย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 61/2530

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญากู้ยืม: ภาระการพิสูจน์, การต่อสู้เรื่องการถูกบังคับ, และการคิดดอกเบี้ย
โจทก์ฟ้องให้จำเลยชำระเงินตามสัญญากู้ยืมซึ่งจำเลยให้การว่าลงชื่อโดยถูกบังคับหรือหลอกลวงโดยในสัญญากู้มิได้กรอกข้อความใดและไม่เคยรับเงิน จึงเป็นการต่อสู้ว่าสัญญากู้เงินไม่สมบูรณ์ ภาระการพิสูจน์ตกแก่โจทก์ และโจทก์มีหน้าที่นำสืบก่อน แต่เมื่อโจทก์นำสืบได้ความว่ามีการกู้ยืมแล้ว จำเลยจึงต้องมีภาระการพิสูจน์ให้ศาลเห็นตามข้อต่อสู้
ผู้เข้ามาเป็นคู่ความแทนที่จำเลยเพียงแต่มีหน้าที่ดำเนินกระบวนพิจารณาต่อไปแทนจำเลยซึ่งถึงแก่กรรมในระหว่างพิจารณาเท่านั้น ศาลจะพิพากษาให้ต้องรับผิดในหนี้ของจำเลยแทนจำเลยด้วยไม่ได้ กรณีต้องบังคับเอาจากกองมรดกของจำเลย
แม้คำฟ้องจะมิได้บรรยายว่าคิดดอกเบี้ยในอัตราร้อยละเท่าใดแต่ตามสัญญากู้ยอมให้คิดดอกเบี้ยอัตราตามกฎหมาย และโจทก์มีคำขอดอกเบี้ยในอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปี เมื่อเห็นว่าดอกเบี้ยที่โจทก์คิดมาเกินอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีศาลฎีกามีอำนาจแก้ให้ถูกต้องได้.(ที่มา-ส่งเสริม)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4708/2529

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การได้กรรมสิทธิ์โดยการครอบครองปรปักษ์ เมื่อผู้คัดค้านยอมรับการครอบครองครบ 10 ปี
เมื่อผู้คัดค้านยอมรับว่าผู้ร้องได้ครอบครองที่พิพาทมาโดยความสงบเปิดเผยด้วยเจตนาเป็นเจ้าของครบ10ปีแล้วจึงต้องฟังว่าผู้ร้องได้กรรมสิทธิ์ในที่พิพาทตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา1382แล้วผู้ร้องไม่จำต้องนำพยานเข้าสืบเพื่อพิสูจน์ในประเด็นข้อนี้อีก ผู้คัดค้านได้กรรมสิทธิ์ในที่พิพาทมาโดยการรับมรดกจึงมิใช่บุคคลภายนอกผู้ได้กรรมสิทธิ์มาโดยเสียค่าตอบแทนตามที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา1299วรรคสองผู้ร้องย่อมยกกรรมสิทธิ์ในที่พิพาทอันได้มาโดยการครอบครองปรปักษ์แต่ยังมิได้จดทะเบียนขึ้นต่อสู้ผู้คัดค้านได้.
of 210