คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
ป.พ.พ. ม. 383

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 488 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1851/2535

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เบี้ยปรับสัญญาประกันตัวผู้ต้องหา: ลดลงได้เมื่อผู้ประกันติดตามตัวผู้ต้องหาได้ แม้จะผิดสัญญา
จำนวนเงินที่ระบุไว้ในสัญญาประกันตัวผู้ต้องหาที่ผู้ประกันทำไว้แก่พนักงานสอบสวนว่า ผู้ประกันจะชำระให้แก่พนักงานสอบสวนเมื่อผู้ประกันผิดสัญญาไม่ส่งตัวผู้ต้องหาได้ตามกำหนดนั้น เป็นการกำหนดค่าเสียหายไว้ล่วงหน้า มีลักษณะเป็นเบี้ยปรับ เมื่อปรากฏว่าผู้ประกันผิดสัญญาประกันโดยไม่สามารถนำผู้ต้องหามาส่งให้พนักงานสอบสวนตามกำหนด แต่ต่อมาได้ติดตามตัวผู้ต้องหาจนถึงชี้ตัวให้เจ้าพนักงานตำรวจจับกุมมาดำเนินคดีต่อไปได้ ความเสียหายของพนักงานสอบสวนที่ดำเนินคดีแก่ผู้ต้องหาจึงน้อยลง การที่จะให้ผู้ประกันใช้เงินเต็มตามสัญญาประกันในกรณีเช่นนี้ ย่อมเป็นการกำหนดให้ชำระเบี้ยปรับสูงเกินส่วนศาลย่อมลดเบี้ยปรับลงได้ตามที่เห็นสมควร.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1727/2535

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ หนังสือรับสภาพหนี้มีผลผูกพันตามสัญญาเช่าซื้อ ศาลลดดอกเบี้ยเบี้ยปรับได้
จำเลยตกลงทำหนังสือรับสภาพหนี้ยินยอมใช้ค่าเสียหายให้โจทก์แสดงว่าจำเลยมีเจตนาผูกพันตามนั้น จำเลยจึงมีหน้าที่ต้องชำระค่าเสียหายให้โจทก์ตามหนังสือรับสภาพหนี้ ส่วนดอกเบี้ยที่กำหนดตามหนังสือรับสภาพหนี้ถือเป็นการกำหนดเบี้ยปรับไว้ล่วงหน้า ศาลมีอำนาจลดได้ตาม ป.พ.พ. มาตรา 383.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 948/2535

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาเช่าซื้อระงับเมื่อทรัพย์สินสูญหาย ผู้เช่าซื้อไม่ต้องรับผิดตามสัญญา แต่ข้อตกลงในสัญญาอาจเป็นเบี้ยปรับได้
สัญญาเช่าซื้อเป็นสัญญาเช่าทรัพย์ประเภทหนึ่ง จึงต้องนำบทบัญญัติลักษณะเช่าทรัพย์มาใช้บังคับด้วย เมื่อรถยนต์ที่เช่าซื้อสูญหาย สัญญาเช่าซื้อย่อมระงับตั้งแต่วันที่รถยนต์สูญหาย ตามป.พ.พ. มาตรา 567 ผู้เช่าซื้อไม่ต้องรับผิดชำระค่าเช่าซื้อต่อไปส่วนข้อกำหนดตามสัญญาที่ระบุว่า ถ้าทรัพย์สินที่เช่าซื้อถูกโจรภัย หรือสูญหาย ผู้เช่าซื้อยอมชำระเงินค่าเช่าซื้อทั้งสิ้นจนครบนั้นพอแปลได้ว่าผู้เช่าซื้อยอมชำระค่าเสียหายให้แก่ผู้ให้เช่าซื้อตามจำนวนดังกล่าวอันมีลักษณะเป็นเบี้ยปรับ ซึ่งศาลมีอำนาจที่กำหนดให้ตามที่เห็นสมควร ตาม ป.พ.พ. มาตรา 383 วรรคแรก.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 525/2535

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาเช่าซื้อ: ข้อตกลงกำหนดค่าเสียหายล่วงหน้ามีลักษณะเป็นเบี้ยปรับ มิใช่การเรียกราคาทรัพย์ที่ยังขาด
ข้อตกลงในสัญญาเช่าซื้อที่ว่า เมื่อเจ้าของยึดทรัพย์สินที่เช่าซื้อคืนมาแล้วนำออกขาย หากได้เงินไม่พอชำระค่าใช้จ่ายต่าง ๆ และค่าเช่าซื้อคงเหลือ ผู้เช่าซื้อยอมชำระเงินจำนวนที่ยังขาดอยู่จนครบ เป็นวิธีการกำหนดค่าเสียหายไว้ล่วงหน้าในกรณีผู้เช่าซื้อผิดสัญญา มีลักษณะเป็นเบี้ยปรับ โดยเฉพาะข้อความที่ว่า หากเอาทรัพย์ที่เช่าซื้อออกขายได้เงินไม่พอชำระค่าเช่าซื้อ ผู้เช่าซื้อยอมชำระเงินจำนวนที่ยังขาดอยู่จนครบก็เป็นเพียงวิธีการคำนวณหาจำนวนเบี้ยปรับเท่านั้น มิใช่เป็นการเรียกร้องเอาราคาทรัพย์ที่เช่าซื้อที่ยังขาดอยู่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 506/2535

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาเช่าซื้อระงับเมื่อทรัพย์สินสูญหาย ผู้เช่าซื้อต้องรับผิดตามข้อตกลงชดใช้ค่าเสียหาย
สัญญาเช่าซื้อเป็นสัญญาที่ประกอบด้วยสัญญาเช่าและคำมั่นว่าจะขายทรัพย์สิน เมื่อรถยนต์พิพาทซึ่งเป็นวัตถุแห่งหนี้ตามสัญญาเช่าซื้อสูญหายไป ย่อมมีผลทำให้จำเลยที่ 1 ซึ่งเป็นผู้เช่าซื้อไม่ได้รับประโยชน์ในรถยนต์พิพาท โจทก์ซึ่งเป็นผู้ให้เช่าซื้อก็ไม่อาจจะขายหรือให้รถยนต์พิพาทตกเป็นสิทธิแก่จำเลยที่ 1 ได้ตามคำมั่น สัญญาเช่าซื้อจึงเป็นอันระงับไป โจทก์คงมีสิทธิริบค่าเช่าซื้อที่ส่งไว้แล้ว และกลับเข้าครองครองทรัพย์สินที่ให้เช่าซื้อ แต่ไม่มีสิทธิที่จะเรียกค่าเช่าซื้อที่ค้างอยู่ ข้อตกลงในสัญญาเช่าซื้อว่า ถ้าทรัพย์สินที่เช่าซื้อถูกโจรภัยสูญหาย ผู้เช่าซื้อยอมรับผิดและยอมชำระค่าเช่าซื้อทั้งสิ้นจนครบเป็นข้อตกลงที่จำเลยที่ 1 จะต้องรับผิดต่อโจทก์ที่ได้รับความเสียหายเพราะเหตุที่รถยนต์ที่เช่าซื้อได้หายไปในระหว่างการครอบครองของจำเลยที่ 1 ทำให้โจทก์ไม่สามารถกลับเข้าครอบครองได้ และถือว่าเป็นการกำหนดเบี้ยปรับโดยเอาค่าเช่าซื้อที่ค้างชำระมาเป็นจำนวนค่าเสียหาย ศาลย่อมกำหนดให้โจทก์ได้ตามควรแก่ความเสียหายที่โจทก์ได้รับ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 285/2535 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาเช่าซื้อเลิกได้หากผิดนัด และศาลมีอำนาจปรับลดดอกเบี้ย/ค่าเสียหายที่สูงเกินไปได้
ฟ้องเรียกราคารถซึ่งใกล้เคียงกับค่าเช่าซื้อที่ค้างชำระหากสูงเกินไปศาลมีอำนาจลดลงได้ตามจำนวนที่เห็นสมควร จำเลยที่ 1 ผิดนัดไม่ชำระค่าเช่าซื้อ 1 งวด สัญญาเช่าซื้อระหว่างโจทก์จำเลยต้องเลิกกันทันทีโดยไม่จำต้องบอกกล่าวล่วงหน้าก่อนตามที่กำหนดไว้ในสัญญา เพราะข้อสัญญาดังกล่าวไม่ขัดต่อความสงบเรียบร้อยของประชาชนย่อมมีผลบังคับได้ตามกฎหมาย โจทก์จึงมีสิทธิเรียกค่าเสียหายจากจำเลยที่ 1 ได้ตั้งแต่วันที่สัญญาเลิกกัน ค่าขาดประโยชน์จากการที่โจทก์ไม่ได้ใช้รถเป็นค่าเสียหายอันเกิดจากการผิดสัญญา โจทก์จึงมีสิทธิเรียกดอกเบี้ยตามที่ตกลงกันไว้ในสัญญาได้ แต่ถ้าดอกเบี้ยสูงเกินส่วนศาลกำหนดให้ตามจำนวนที่เห็นสมควร.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 285/2535 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เบี้ยปรับในสัญญาเช่าซื้อ ศาลลดดอกเบี้ยเมื่อสูงเกินส่วน และขอบเขตผลกระทบต่อผู้ค้ำประกัน
สัญญาเช่าซื้อระบุว่า "ถ้าผู้เช่าซื้อผิดนัดชำระค่าเช่าซื้องวดหนึ่งงวดใดก็ดี หรือผู้เช่าซื้อจะต้องชำระเงินใด ๆ แก่เจ้าของตามสัญญาประการใดก็ดี หรือผู้เช่าซื้อจะต้องชดใช้ค่าเสียหายอันเกิดจากการผิดสัญญาประการใดประการหนึ่งก็ดี ผู้เช่าซื้อย่อมเสียดอกเบี้ยสำหรับเงินที่ค้างชำระและหรือค่าเสียหายนับแต่วันผิดนัดเป็นต้นไปในอัตราร้อยละ 18 ต่อปี..." เมื่อเงินค่าขาดประโยชน์จากการที่โจทก์ไม่ได้ใช้รถที่เช่าซื้อเป็นค่าเสียหายอันเกิดจากการผิดสัญญาประการหนึ่ง โจทก์จึงมีสิทธิเรียกร้องให้จำเลยที่ 1 ใช้ดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 18 ต่อปี ตามสัญญาได้แต่ข้อสัญญาดังกล่าวถือได้ว่าเป็นวิธีการกำหนดค่าเสียหายวิธีหนึ่งมีลักษณะเป็นการกำหนดเบี้ยปรับ เมื่อดอกเบี้ยของค่าเสียหายที่โจทก์เรียกมาสูงเกินส่วน ศาลมีอำนาจกำหนดให้ลดลงเป็นจำนวนพอสมควรได้ ศาลอุทธรณ์พิพากษาให้จำเลยทั้งสองชำระดอกเบี้ยนับแต่วันเลิกสัญญาซึ่งเกินคำขอของโจทก์ที่ขอดอกเบี้ย มานับแต่วันฟ้อง ถึงแม้จำเลยที่ 1 จะฎีกาเพียงคนเดียว แต่กรณีเป็นเรื่องเกี่ยวด้วยการชำระหนี้อันไม่อาจแบ่งแยกได้ ศาลฎีกาพิพากษาให้มีผลถึงจำเลยที่ 2 ซึ่งเป็นผู้ค้ำประกันด้วย ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 245(1),247

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 285/2535

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เบี้ยปรับจากสัญญาเช่าซื้อสูงเกินควร ศาลลดดอกเบี้ยให้เหมาะสมกับความเสียหาย
สัญญาเช่าซื้อระบุว่า "ถ้าผู้เช่าซื้อผิดนัดชำระค่าเช่าซื้องวดหนึ่งงวดใดก็ดี หรือผู้เช่าซื้อจะต้องชำระเงินใด ๆ แก่เจ้าของตามสัญญาประการใดก็ดี หรือผู้เช่าซื้อจะต้องชดใช้ค่าเสียหายอันเกิดจากการผิดสัญญาประการใดประการหนึ่งก็ดี ผู้เช่าซื้อยอมเสียดอกเบี้ยสำหรับเงินที่ค้างชำระและหรือค่าเสียหายนับแต่วันผิดนัดเป็นต้นไปในอัตราร้อยละ 18 ต่อปี..." เมื่อเงินค่าขาดประโยชน์จากการที่โจทก์ไม่ได้ใช้รถเป็นค่าเสียหายอันเกิดจากการผิดสัญญาประการหนึ่ง โจทก์จึงมีสิทธิเรียกร้องให้จำเลยที่ 1ใช้ดอกเบี้ยตามสัญญาได้ แต่ข้อสัญญาดังกล่าวถือว่าเป็นวิธีการกำหนดค่าเสียหายวิธีหนึ่งมีลักษณะเป็นการกำหนดเบี้ยปรับเมื่อค่าเสียหายที่โจทก์เรียกมาสูงเกินส่วน ศาลมีอำนาจกำหนดให้ลดลงเป็นจำนวนพอสมควรได้ ศาลอุทธรณ์พิพากษาให้จำเลยทั้งสองชำระดอกเบี้ยเกินคำขอของโจทก์ ถึงแม้จำเลยที่ 1 จะฎีกาเพียงคนเดียว แต่กรณีเป็นเรื่องเกี่ยวด้วยการชำระหนี้อันไม่อาจแบ่งแยกได้ ศาลฎีกาจึงเห็นสมควรพิพากษาให้มีผลถึงจำเลยที่ 2 ซึ่งเป็นผู้ค้ำประกันด้วยตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 245(1),247

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 139/2535 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ค่าปรับในสัญญาประกันตัวผู้ต้องหาที่สูงเกินสมควร ศาลมีอำนาจลดค่าปรับตามกฎหมาย
ค่าปรับตามสัญญาประกันผู้ต้องหาชั้นสอบสวนเป็นเบี้ยปรับถ้าสูงเกินส่วน ศาลลดลงได้ตาม ป.พ.พ. มาตรา 383.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 139/2535

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ค่าปรับสัญญาประกันตัวผู้ต้องหาที่สูงเกินสมควร ศาลลดค่าปรับได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 383
ค่าปรับตามสัญญาประกันผู้ต้องหาชั้นสอบสวนเป็นเบี้ยปรับถ้าสูงเกินส่วน ศาลลดลงได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 383
of 49