พบผลลัพธ์ทั้งหมด 488 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1721/2532
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ดอกเบี้ยสัญญาเช่าซื้อ-ค่าเสียหาย-เบี้ยปรับ: ศาลลดเบี้ยปรับที่สูงเกินไปได้
ค่าเสียหายที่โจทก์ขายทรัพย์สินที่เช่าซื้อ ไม่ได้ราคาเท่ากับราคาค่าเช่าซื้อ ไม่ใช่เงินที่ผู้เช่าซื้อค้างชำระตาม ความหมายของ"ค้างเงินใด ๆ แก่เจ้าของ" ตาม สัญญาเช่าซื้อระหว่างโจทก์จำเลยข้อที่ 9 ที่ว่า "ถ้า ผู้เช่าซื้อผิดนัดไม่ชำระหนี้หรือค้างเงินใด ๆแก่เจ้าของ ผู้เช่าซื้อยอมเสียดอกเบี้ย สำหรับเงินที่ค้างนับแต่วันผิดนัดในอัตราร้อยละ 15 ต่อปี..." ดังนั้น โจทก์จึงไม่มีสิทธิเรียกร้องให้จำเลยที่ 1 ใช้ ดอกเบี้ย ในอัตราร้อยละ 15 ต่อปีคงมีสิทธิเรียกร้องให้จำเลยที่ 1 ใช้ ดอกเบี้ย ในอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 224 เท่านั้น สัญญาเช่าซื้อข้อ 10 ที่ว่า "...แต่ ถ้า เจ้าของได้ ขายทรัพย์สินที่เช่าซื้อ ไปแล้ว ยังไม่คุ้ม ราคาค่าเช่าซื้อที่ต้อง ชำระทั้งหมดตาม สัญญานี้กับค่าเสียหายอื่น ๆ ที่เกิดขึ้น ผู้เช่าซื้อจะชดใช้ให้เจ้าของจนครบ" นั้น เป็นวิธีการกำหนดค่าเสียหายวิธีหนึ่งมีลักษณะเป็นการกำหนดเบี้ยปรับ เมื่อโจทก์ขอมาสูงเกินไปศาลก็ชอบที่จะลดเบี้ยปรับลงได้ ตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 383.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 990/2532
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาเช่าซื้อผิดนัด ค่าเสียหาย/เบี้ยปรับสูงเกินควร ศาลลดค่าเสียหายได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 383
ตามข้อตกลงในสัญญาเช่าซื้อที่ว่า เมื่อผู้เช่าซื้อผิดนัดผู้ให้เช่าซื้อมีสิทธินำรถที่ได้คืนมาออกขาย ถ้าได้เงินไม่พอชำระราคาค่าเช่าซื้อที่ยังคงเหลืออยู่ ผู้เช่าซื้อยอมชำระเงินจำนวนที่ยังขาดอยู่จนครบและยอมเสียดอกเบี้ยในค่าเสียหายอัตราร้อยละ18 ต่อปีนั้น เป็นวิธีการกำหนดค่าเสียหายวิธีหนึ่งมีลักษณะเป็นการกำหนดเบี้ยปรับ หากกำหนดไว้สูงเกินส่วนศาลอาจลดลงเป็นจำนวนที่พอสมควรได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 383
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 850/2532
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความรับผิดของผู้ประกันเมื่อจำเลยหลบหนี - แม้ศาลยกฟ้อง ก็ไม่ปลดเปลื้องความรับผิด
การที่ผู้ประกันไม่สามารถส่งตัวจำเลยต่อศาลได้ภายในเวลาที่ศาลกำหนด จนศาลได้มีคำสั่งปรับนายประกันและออกหมายจับจำเลยไปแล้ว ครั้นเมื่อศาลชั้นต้นนัดฟังคำพิพากษาศาลฎีกา ผู้ประกันก็ไม่สามารถนำตัวจำเลยมาศาลได้ เป็นเหตุให้ศาลต้องเลื่อนการอ่านไปและออกหมายจับจำเลยอีก ต่อมาเมื่อศาลอ่านคำพิพากษาศาลฎีกาลับหลังจำเลยไปแล้ว โดยศาลฎีกาพิพากษายกฟ้องโจทก์ ผู้ประกันจึงเพิ่งนำตัวจำเลยมาส่งศาลและขอลดค่าปรับ พฤติการณ์เช่นนี้แสดงว่าจำเลยเจตนาหลบหนีไม่มาฟังคำพิพากษาแม้ศาลฎีกาจะพิพากษายกฟ้องโจทก์ก็ไม่ทำให้ผู้ประกันพ้นความรับผิดตามสัญญาประกันไปได้ เพราะผลของคำพิพากษาไม่เป็นเหตุที่จะนำมาประกอบการพิจารณาว่าผู้ประกันผิดสัญญาประกันหรือไม่ ทั้งการไม่ได้ตัวผู้กระทำผิดมาพิจารณาพิพากษาไม่ว่าจำเลยจะต้องถูกลงโทษหรือไม่ก็ตาม ย่อมทำให้เสียหายแก่การยุติธรรม จึงไม่มีเหตุที่จะลดหย่อนค่าปรับให้.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 850/2532 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาประกันภัย: ความรับผิดของผู้ประกันเมื่อจำเลยหลบหนีไม่มาศาล แม้ศาลยกฟ้อง
ผู้ประกันไม่สามารถส่งตัวจำเลยต่อศาลได้ภายในเวลาที่ศาลกำหนด จนศาลได้มีคำสั่งปรับผู้ประกันและออก หมายจับจำเลยไปแล้ว ครั้นเมื่อศาลชั้นต้นนัดฟังคำพิพากษาศาลฎีกาผู้ประกันก็ไม่สามารถนำตัวจำเลยมาศาลได้ เป็นเหตุให้ศาลต้องเลื่อนการอ่านไปและออก หมายจับจำเลยอีก ต่อมาเมื่อศาลอ่านคำพิพากษาศาลฎีกาลับหลังจำเลยไปแล้ว โดยศาลฎีกาพิพากษายกฟ้องโจทก์ผู้ประกันจึงเพิ่งนำตัวจำเลยมาส่งศาลและขอลดค่าปรับพฤติการณ์เช่นนี้แสดงว่าจำเลยเจตนาหลบหนีไม่มาฟังคำพิพากษา แม้ศาลฎีกาจะพิพากษายกฟ้องโจทก์ ก็ไม่ทำให้ผู้ประกันพ้นความรับผิดตามสัญญาประกันไปได้เพราะผลของคำพิพากษาไม่เป็นเหตุที่จะนำมาประกอบการพิจารณา ว่าผู้ประกันผิดสัญญาประกันหรือไม่ ทั้งการไม่ได้ตัวผู้กระทำผิดมาพิจารณา พิพากษาไม่ว่าจำเลยจะต้องถูกลงโทษหรือไม่ก็ตามย่อมทำให้เสียหายแก่การยุติธรรม ทั้งผู้ประกันนำจำเลยมาส่งศาลหลังจากที่ศาลได้ออก หมายจับจำเลยไปแล้วนานถึงแปดเดือนเศษและเป็นเวลาภายหลังจากที่ทราบผลคำพิพากษาศาลฎีกาแล้ว จึงไม่มีเหตุที่จะลดหย่อนค่าปรับให้.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 586/2532
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาเช่าซื้อรถยนต์สูญหาย ศาลลดค่าเสียหายตามสมควร โดยคำนึงถึงระยะเวลาการใช้งาน
จำเลยเช่าซื้อรถยนต์จากโจทก์ราคา 334,614 บาท ต่อมารถคันดังกล่าวสูญหายโจทก์ได้รับชดใช้จากบริษัทผู้รับประกันภัย 230,000 บาท เหลือราคารถยนต์ที่ยังไม่ได้ชำระอีก 104,614บาท แม้สัญญาเช่าซื้อระบุไว้ว่าถ้าทรัพย์สินที่เช่าซื้อสูญหายผู้เช่าซื้อยอมชำระค่าเช่าซื้อจนครบ ก็เป็นการกำหนดเบี้ยปรับไว้ล่วงหน้า ศาลมีอำนาจลดลงเป็นจำนวนพอสมควรได้ตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 383 เมื่อจำเลยได้ใช้ประโยชน์จากรถที่เช่าซื้อเพียงเดือนเศษ การที่ศาลอุทธรณ์กำหนดให้จำเลยชดใช้เงินให้โจทก์อีก 75,614 บาท จึงนับว่าเป็นค่าเสียหายที่สมประโยชน์แก่โจทก์.(ที่มา-ส่งเสริม)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 540/2532 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เบี้ยปรับสัญญาก่อสร้างสูงเกินส่วน ศาลลดลงได้, ความล่าช้าจากทั้งสองฝ่าย, ค่าเสียหายจากหนังสือค้ำประกัน
โจทก์มีสิทธิปรับจำเลยที่ 1 เป็นรายวันจนกว่าการก่อสร้างจะแล้วเสร็จโดยการกระทำของผู้รับจ้างคนใหม่ ถือได้ว่าเป็นเบี้ยปรับที่คู่สัญญากำหนดกันไว้ล่วงหน้า การที่งานก่อสร้างล่าช้าเป็นเพราะการดำเนินการของโจทก์ด้วย โจทก์จ้างผู้รับจ้างคนใหม่ทำงานงวดที่เหลือในวงเงินเท่ากับที่จะต้องชำระให้จำเลยที่ 1 ดังนี้ เมื่อพิเคราะห์ประกอบกับเหตุแห่งความล่าช้าค่าจ้างก่อสร้างและระยะเวลาที่ผู้รับจ้างคนใหม่ใช้ในการก่อสร้างแล้ว เบี้ยปรับดังกล่าวสูงเกินส่วน ศาลมีอำนาจลดลงได้ตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 383
ตามสัญญาจ้างไม่มีการวางเงินมัดจำมีแต่หนังสือค้ำประกันความรับผิดของธนาคาร ดังนี้ เงินที่ธนาคารผู้ค้ำประกันชำระให้แก่ผู้ว่าจ้างเป็นส่วนหนึ่งของค่าเสียหายฐานผิดสัญญา.(ที่มา-ส่งเสริม)
ตามสัญญาจ้างไม่มีการวางเงินมัดจำมีแต่หนังสือค้ำประกันความรับผิดของธนาคาร ดังนี้ เงินที่ธนาคารผู้ค้ำประกันชำระให้แก่ผู้ว่าจ้างเป็นส่วนหนึ่งของค่าเสียหายฐานผิดสัญญา.(ที่มา-ส่งเสริม)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 540/2532 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ค่าปรับสัญญา, เบี้ยปรับสูงเกินส่วน, ความล่าช้าของผู้รับจ้าง-ผู้ว่าจ้าง, การชำระค่าเสียหายจากค้ำประกัน
แม้ตามสัญญาโจทก์จะมีสิทธิปรับจำเลยที่ 1 เป็นรายวันจนกว่าการก่อสร้างจะแล้วเสร็จโดยการกระทำของผู้รับจ้างคนใหม่ แต่ค่าปรับที่ระบุไว้ในสัญญาถือได้ว่าเป็นเบี้ยปรับที่คู่สัญญากำหนดกันไว้ล่วงหน้า ทั้งการที่งานก่อสร้างเสร็จล่าช้าเป็นเพราะการดำเนินการของโจทก์ด้วยส่วนหนึ่งประกอบกับโจทก์จ้างผู้รับจ้างคนใหม่ทำงานงวดที่เหลือต่อในวงเงินเท่ากับที่จะต้องชำระให้จำเลยที่ 1 หากจำเลยก่อสร้างเสร็จตามสัญญา เบี้ยปรับที่จะพึงริบตามสัญญาจึงสูงเกินส่วนศาลมีอำนาจลดลงได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 383 ตามสัญญาจ้างไม่มีการวางเงินมัดจำ แต่มีการทำหนังสือค้ำประกันความรับผิดของธนาคารภายในวงเงินร้อยละ 5 ของค่าจ้าง ซึ่งตามสัญญาผู้ว่าจ้างจะคืนเงินประกันหรือหนังสือค้ำประกันของธนาคารให้แก่ผู้รับจ้างเงินที่ธนาคารผู้ค้ำประกันชำระให้แก่ผู้ว่าจ้างเมื่อผู้รับจ้างผิดสัญญาไม่ใช่เงินมัดจำ แต่ถือเป็นส่วนหนึ่งของค่าเสียหายฐานผิดสัญญา
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 540/2532
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เบี้ยปรับสัญญา, การลดเบี้ยปรับ, ค่าเสียหายจากผิดสัญญา, หนังสือค้ำประกัน, การกระทำของคู่สัญญา
แม้ตาม สัญญาโจทก์จะมีสิทธิปรับจำเลยที่ 1 เป็นรายวันจนกว่าการก่อสร้างจะแล้วเสร็จโดย การกระทำของผู้รับจ้างคนใหม่แต่ ค่าปรับที่ระบุไว้ในสัญญาถือได้ว่าเป็นเบี้ยปรับที่คู่สัญญากำหนดกันไว้ล่วงหน้า ทั้งการที่งานก่อสร้างเสร็จล่าช้าเป็นเพราะการดำเนินการของโจทก์ด้วย ส่วนหนึ่ง ประกอบกับโจทก์จ้าง ผู้รับจ้างคนใหม่ทำงานงวดที่เหลือต่อ ในวงเงินเท่ากับที่จะต้อง ชำระให้จำเลยที่ 1 หากจำเลยก่อสร้างเสร็จตาม สัญญา เบี้ยปรับที่จะพึงริบตามสัญญาจึงสูงเกินส่วนศาลมีอำนาจลดลงได้ ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 383 ตาม สัญญาจ้างไม่มีการวางเงินมัดจำ แต่ มีการทำหนังสือค้ำประกันความรับผิดของธนาคารภายในวงเงินร้อยละ 5 ของค่าจ้าง ซึ่ง ตาม สัญญาผู้ว่าจ้างจะคืนเงินประกันหรือหนังสือค้ำประกันของธนาคารให้แก่ผู้รับจ้าง เงินที่ธนาคารผู้ค้ำประกันชำระให้แก่ผู้ว่าจ้างเมื่อผู้รับจ้างผิดสัญญาไม่ใช่เงินมัดจำ แต่ ถือ เป็นส่วนหนึ่งของค่าเสียหายฐาน ผิดสัญญา.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 214/2532 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาประกันตัว: ความเข้าใจผิดในกระบวนการยุติธรรมไม่เป็นเหตุลดค่าปรับ หากผู้ประกันไม่ปฏิบัติตามสัญญา
ผู้ประกันทำสัญญาประกันจำเลยทั้งสองไว้ต่อศาลชั้นต้น เมื่อศาลชั้นต้นมีคำสั่งนัดพร้อมหรือฟังคำพิพากษา ผู้ประกันทราบนัดแล้วจึงมีหน้าที่ต้องนำส่งจำเลยทั้งสองตามนัด ความเข้าใจผิดของผู้ประกันเกี่ยวกับการดำเนินกระบวนพิจารณาของศาลไม่เป็นเหตุอันสมควรที่ศาลจะลดค่าปรับให้ และเมื่อนับตั้งแต่วันผู้ประกันทราบหมายนัดของศาลให้นำเงินไปชำระค่าปรับจนถึงวันที่ผู้ประกันยื่นคำร้องขอลดค่าปรับเป็นเวลา ถึง 2 ปีเศษผู้ประกันก็ไม่นำจำเลยทั้งสองไปศาล แสดงว่าผู้ประกันไม่ได้พยายามที่จะปฏิบัติให้เป็นไปตามสัญญาประกัน จึงไม่มีเหตุที่จะลดค่าปรับให้ผู้ประกัน.(ที่มา-ส่งเสริม)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 166/2532 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาจ้างเหมา การบอกเลิกสัญญา ค่าปรับ และสิทธิเรียกร้องหลังบอกเลิกสัญญา
เมื่อโจทก์บอกเลิกสัญญากับจำเลยแล้ว สัญญาจ้างระหว่างโจทก์กับจำเลยย่อมระงับลง โจทก์จำเลยจึงต้องกลับคืนสู่ฐานะดังที่เป็นอยู่เดิม ดังนั้น โจทก์จึงหามีสิทธิที่จะได้รับเงินค่าปรับตามสัญญาจากจำเลยอีกต่อไปไม่ โจทก์คงมีสิทธิเรียกร้องค่าเสียหายดังที่ระบุไว้ในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 391 วรรคสี่เท่านั้น
จำเลยส่งมอบงานงวดที่ 9 ให้แก่โจทก์เมื่อพ้นกำหนดเวลาตามสัญญาไป 97 วัน โจทก์จึงจ่ายเงินค่าจ้างงานงวดดังกล่าวให้จำเลยไม่เต็มโดยหักค่าปรับที่ส่งมอบงานล่าช้าตามสัญญาวันละ 2,000 บาทออกโดยจำเลยมิได้โต้แย้งไว้ ถือได้ว่าจำเลยได้ชำระค่าปรับในการส่งมอบงานงวดที่ 9 ล่าช้าให้แก่โจทก์ไปแล้ว สิทธิเรียกร้องขอลดค่าปรับก็เป็นอันขาดไปตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 383 วรรคแรก ศาลจะหยิบยกค่าปรับส่วนนี้มาวินิจฉัยลดให้จำเลยอีกย่อมเป็นการไม่ชอบ.(ที่มา-ส่งเสริม)
จำเลยส่งมอบงานงวดที่ 9 ให้แก่โจทก์เมื่อพ้นกำหนดเวลาตามสัญญาไป 97 วัน โจทก์จึงจ่ายเงินค่าจ้างงานงวดดังกล่าวให้จำเลยไม่เต็มโดยหักค่าปรับที่ส่งมอบงานล่าช้าตามสัญญาวันละ 2,000 บาทออกโดยจำเลยมิได้โต้แย้งไว้ ถือได้ว่าจำเลยได้ชำระค่าปรับในการส่งมอบงานงวดที่ 9 ล่าช้าให้แก่โจทก์ไปแล้ว สิทธิเรียกร้องขอลดค่าปรับก็เป็นอันขาดไปตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 383 วรรคแรก ศาลจะหยิบยกค่าปรับส่วนนี้มาวินิจฉัยลดให้จำเลยอีกย่อมเป็นการไม่ชอบ.(ที่มา-ส่งเสริม)