คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
ป.พ.พ. ม. 383

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 488 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 826/2511

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การตีความสัญญาซื้อขาย การบอกสงวนสิทธิ และการลดเบี้ยปรับที่สูงเกินส่วน
สัญญาซื้อขายซึ่งมีข้อความว่า ผู้ขายต้องส่งมอบน้ำตาลทรายแก่ผู้ซื้อภายใน 15 วัน หลังจากโรงงานของผู้ขายเปิดดำเนินการหีบอ้อยประจำปี. และทั้งนี้ไม่ช้ากว่าวันที่ 31 ธันวาคม 2507 นั้น. มีความหมายว่าผู้ขายต้องส่งมอบน้ำตาลทรายแก่ผู้ซื้อให้ครบถ้วนภายใน 15 วันนับแต่วันที่โรงงานของผู้ขายเปิดดำเนินการหีบอ้อยประจำปี. หากเปิดดำเนินการล่าช้า. แม้นับถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2507จะมีเวลาดำเนินการไม่ครบ 15 วัน. ผู้ขายก็จะต้องส่งมอบภายในวันที่ 31 ธันวาคม 2507.
เบี้ยปรับที่สูงเกินส่วนนั้น. ศาลมีอำนาจลดลงเป็นจำนวนที่พอสมควร. โดยพิเคราะห์ถึงทางได้เสียของเจ้าหนี้.
คำฟ้องของโจทก์ซึ่งบรรยายว่า จำเลยส่งมอบน้ำตาลทราย 200กระสอบแก่โจทก์เกินกำหนดระยะเวลาตามสัญญา. จำเลยมีหน้าที่ต้องรับผิดใช้เบี้ยปรับ. โจทก์และทนายโจทก์ได้แจ้งให้จำเลยปฏิบัติตามสัญญาแล้ว. ทั้งโจทก์ยังได้ส่งสำเนาสัญญาซื้อขายและสำเนาหนังสือทนายโจทก์มาท้ายฟ้องด้วย.ย่อมแสดงอยู่ในตัวว่าโจทก์ได้บอกสงวนสิทธิในการที่จะเรียกเบี้ยปรับตามสัญญาจากจำเลย ไม่จำต้องกล่าวในคำฟ้อง.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 826/2511 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การตีความสัญญาซื้อขายกำหนดส่งมอบ, การบอกสงวนสิทธิเรียกร้องค่าปรับ, และการลดเบี้ยปรับตามสมควร
สัญญาซื้อขายซึ่งมีข้อความว่า ผู้ขายต้องส่งมอบน้ำตาลทรายแก่ผู้ซื้อภายใน 15 วัน หลังจากโรงงานของผู้ขายเปิดดำเนินการหีบอ้อยประจำปี และทั้งนี้ไม่ช้ากว่าวันที่ 31 ธันวาคม 2507 นั้นมีความหมายว่าผู้ขายต้องส่งมอบน้ำตาลทรายแก่ผู้ซื้อให้ครบถ้วนภายใน 15 วันนับแต่วันที่โรงงานของผู้ขายเปิดดำเนินการหีบอ้อยประจำปีหากเปิดดำเนินการล่าช้า แม้นับถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2507 จะมีเวลาดำเนินการไม่ครบ 15 วันผู้ขายก็จะต้องส่งมอบภายในวันที่ 31 ธันวาคม 2507
เบี้ยปรับที่สูงเกินส่วนนั้นศาลมีอำนาจลดลงเป็นจำนวนที่พอสมควรโดยพิเคราะห์ถึงทางได้เสียของเจ้าหนี้
คำฟ้องของโจทก์ซึ่งบรรยายว่า จำเลยส่งมอบน้ำตาลทราย 200 กระสอบแก่โจทก์เกินกำหนดระยะเวลาตามสัญญา จำเลยมีหน้าที่ต้องรับผิดใช้เบี้ยปรับโจทก์และทนายโจทก์ได้แจ้งให้จำเลยปฏิบัติตามสัญญาแล้วทั้งโจทก์ยังได้ส่งสำเนาสัญญาซื้อขายและสำเนาหนังสือทนายโจทก์มาท้ายฟ้องด้วยย่อมแสดงอยู่ในตัวว่าโจทก์ได้บอกสงวนสิทธิในการที่จะเรียกเบี้ยปรับตามสัญญาจากจำเลย ไม่จำต้องกล่าวในคำฟ้อง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 672-673/2509 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ข้อตกลงระหว่างคู่ความในชั้นพิจารณาคดีมีผลผูกพันบังคับได้ และศาลมีอำนาจลดเบี้ยปรับที่สูงเกินไปได้
ข้อตกลงของคู่ความที่ศาลได้จดไว้ในรายงานกระบวนพิจารณาในระหว่างพิจารณาคดีว่า หากจำเลยชนะคดีและโจทก์ไม่รื้อถอนสิ่งปลูกสร้างไปภายใน 3 วัน โจทก์ยอมใช้ค่าเสียหายให้วันละ 200 บาทนั้น เป็นเรื่องพิพาทกันในชั้นขอให้คุ้มครองสิทธิของคู่ความในระหว่างคดีก่อนมีคำพิพากษา คู่ความจึงขอให้บังคับตามข้อตกลงในคดีเดิมนั้นได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 264, 260(2)
ส่วนค่าเสียหายตามข้อตกลงนั้นถือว่าเป็นเบี้ยปรับ และศาลมีอำนาจลดลงได้ตามสมควร ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 383.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 672-673/2509

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ข้อตกลงระหว่างคู่ความในชั้นพิจารณาคดีมีผลผูกพันบังคับได้ และศาลมีอำนาจลดเบี้ยปรับที่สูงเกินไปได้
ข้อตกลงของคู่ความที่ศาลได้จดไว้ในรายงานกระบวนพิจารณาในระหว่าง พิจารณาคดีว่า หากจำเลยชนะคดีและโจทก์ไม่รื้อถอนสิ่งปลูกสร้างไปภายใน 3 วัน โจทก์ยอมใช้ค่าเสียหายให้วันละ 200 บาทนั้น เป็นเรื่องพิพาทกันในชั้นขอให้คุ้มครองสิทธิของคู่ความในระหว่างคดีก่อนมีคำพิพากษา คู่ความในระหว่างคดีก่อนมีคำพิพากษา คู่ความจึงขอให้บังคับตามข้อตกลงในคดีเดิมนั้นได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 264,260(2)
ส่วนค่าเสียหายตามข้อตกลงนั้นถือว่าเป็นเบี้ยปรับ และศาลมีอำนาจลดลงได้ตามสมควร ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 383

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 548/2505 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การลดค่าปรับนายประกันจากเหตุผลสมควร ศาลใช้ดุลพินิจตามพฤติการณ์
ในกรณีผิดสัญญาประกันที่ทำไว้ในชั้นอัยการโดยไม่ส่งผู้ต้องหาตามกำหนดนั้น เมื่ออัยการฟ้องขอให้ศาลบังคับให้นายประกันชำระค่าปรับ หากคดีปรากฏพฤติการณ์และเหตุผลตามสมควรแล้ว ศาลจะพิพากษาลดค่าปรับ หากคดีปรากฎพฤติการณ์ และเหตุผลตามสมควรแล้ว ศาลจะพิพากษาลดค่าปรับนายประกันให้รับผิดลดน้อยลงไม่เต็มตามสัญญาที่ทำไว้ก็ได้ (ตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 383)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1197/2504 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจศาลในการลดค่าปรับตามสัญญา แม้จำเลยมิได้ให้การต่อสู้ และผลกระทบต่อลูกหนี้ผู้ไม่ฎีกา
ข้อกำหนดเบี้ยปรับตามสัญญา อยู่ในอำนาจศาลจะพิจารณาให้ตามสัญญาหรือตามที่ศาลเห็นสมควรได้ ถึงแม้จำเลยจะมิได้ให้การต่อสู้ไว้ เมื่อจำเลยอุทธรณ์ฎีกาโต้แย้งมา ศาลฎีการับพิจารณาให้ได้
โจทก์ฟ้องลูกหนี้กับผู้ค้ำประกันให้รับผิดตามสัญญา ผู้ค้ำประกันผู้เดียวฎีกาเมื่อศาลฎีกาพิพากษาให้เป็นคุณแก่ผู้ค้ำประกัน คำพิพากษานั้นย่อมมีผลเป็นคุณแก่ลูกหนี้ด้วย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2009/2500 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฐานะนิติบุคคลของกรมในกองทัพบก และอำนาจศาลในการลดค่าปรับจากสัญญา
กรมพลาธิการทหารบก และกรมยกกระบัตรทหารบก แม้จะเรียกว่า "กรม" แต่ตามกฎหมายถือเพียงเป็นส่วนหนึ่ง ในกองทัพบก ซึ่งเป็นกรมเท่านั้น จึงไม่มีฐานะเป็นนิติบุคคล โจทก์จะฟ้องให้รับผิดชอบฐานเป็นนิติบุคคลไม่ได้
เมื่อศาลคำนวณว่า ค่าปรับที่จำเลยปรับเอาแก่โจทก์ตามสัญญา ในการที่โจทก์ส่งของให้ไม่ถูกต้อง โดยเทียบกับค่าปรับทั้งหมดที่จะปรับเอาแก่โจทก์ได้เมื่อโจทก์ไม่ปฏิบัติตามสัญญาเลย ถ้าเห็นสูงเกินไป ศาลอาจลดค่าปรับลงเท่าที่เห็นสมควรได้.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2009/2500

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สถานะกรมในกองทัพบกและการลดค่าปรับสัญญาซื้อขาย ศาลฎีกาวินิจฉัยว่ากรมไม่ใช่ นิติบุคคล และมีอำนาจลดค่าปรับที่สูงเกินควร
กรมพลาธิการทหารบกและกรมยกกระบัตรทหารบก แม้จะเรียกว่า"กรม" แต่ตามกฎหมายถือเพียงเป็นส่วนหนึ่งในกองทัพบก ซึ่งเป็นกรมเท่านั้น จึงไม่มีฐานะเป็นนิติบุคคล โจทก์จะฟ้องให้รับผิดชอบฐานเป็นนิติบุคคลไม่ได้
เมื่อศาลคำนวณว่าค่าปรับที่จำเลยปรับเอาแก่โจทก์ตามสัญญา ในการที่โจทก์ส่งของให้ไม่ถูกต้อง โดยเทียบกับค่าปรับทั้งหมดที่จะปรับเอาแก่โจทก์ได้ เมื่อโจทก์ไม่ปฏิบัติตามสัญญาเลย ถ้าเห็นสูงเกินไป ศาลอาจลดค่าปรับลงเท่าที่เห็นสมควรได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1774/2500 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เบี้ยปรับสัญญา: ศาลลดหย่อนเบี้ยปรับที่สูงเกินควรได้ตามกฎหมาย
โจทก์จำเลยทำสัญญากันว่าหากจำเลยไม่ปฏิบัติตามสัญญาแล้ว ให้จำเลยเสียเบี้ยปรับจำนวนหนึ่ง เช่นนี้ เป็นการทำสัญญาตามประมวลแพ่งฯ มาตรา 381 (ไม่ใช่380)
เมื่อศาลเห็นว่าเบี้ยปรับที่คู่ความทำสัญญากันไว้ดังกล่าวแล้วสูงเกินสมควรไป ศาลมีอำนาจที่จะกะให้ตามที่ศาลเห็นสมควรตาม มาตรา 383
เบี้ยปรับตามสัญญาเป็นทุนทรัพย์ที่เรียกร้อง ชอบที่ผู้ผิดนัดจะต้องชำระดอกเบี้ยจากจำนวนเงินเบี้ยปรับด้วย.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1774/2500

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เบี้ยปรับตามสัญญา: ศาลมีอำนาจปรับลดหากสูงเกินควร
โจทก์จำเลยทำสัญญากันว่า หากจำเลยไม่ปฏิบัติตามสัญญาแล้ว ให้จำเลยเสียเบี้ยปรับจำนวนหนึ่ง เช่นนี้ เป็นการทำสัญญาตามประมวลแพ่งฯ มาตรา 381 (ไม่ใช่ 380)
เมื่อศาลเห็นว่าเบี้ยปรับที่คู่ความทำสัญญากันไว้ดังกล่าวแล้วสูงเกินสมควรไป ศาลมีอำนาจที่จะกะให้ตามที่ศาลเห็นสมควรตาม มาตรา 383
เบี้ยปรับตามสัญญาเป็นทุนทรัพย์ที่เรียกร้อง ชอบที่ผู้ผิดนัดจะต้องชำระดอกเบี้ยจากจำนวนเงินเบี้ยปรับด้วย
of 49