คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
ป.วิ.พ. ม. 87

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 663 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 883/2505

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การขอเฉลี่ยเงินจากการยึดทรัพย์ ต้องแสดงหลักฐานการมอบอำนาจที่ชัดเจนและนำสืบ หากคู่ความไม่ติดใจสืบพยาน ศาลจะไม่รับฟังพยานนอกเหนือจากที่นำสืบ
นายอร่ามผู้ยื่นคำร้องขอเฉลี่ยกับโจทก์แถลงไม่ติดใจสืบพยาน ขอให้ศาลวินิจฉัยไปตามคำร้องขอเฉลี่ย กับคำคัดค้านของโจทก์ เมื่อคำร้องขอเฉลี่ยไม่ได้ระบุว่าได้รับมอบอำนาจจากผู้ใด (โดยกล่าวลอย ๆ แต่ว่า เป็นผู้รับมอบอำนาจ) ทั้งไม่มีหนังสือมอบอำนาจด้วย ก็ถือไม่ได้ว่านายอร่ามเป็นผู้รับมอบอำนาจจากผู้อื่น
แม้จะกล่าวในคำร้องว่าจำเลยเป็นลูกนี้ผู้ร้องในคดีแดงที่ 354/2504 แต่โจทก์ก็ปฏิเสธว่าจำเลยไม่ได้เป็นหนี้นายอร่ามผู้ร้อง เมื่อนายอร่ามไม่นำสืบ ก็รับฟังไม่ได้
การที่ศาลจะนำข้อเท็จจริงในคดีที่ผู้ร้องอ้างมาขอเฉลี่ยมาวินิจฉัยคดีนี้หรือคู่ใบมอบอำนาจในคดีดังกล่าวนั้นย่อมเป็นการรับฟังสำนวนหรือเอกสารในสำนวนนั้นเป็นพยาน เมื่อคู่ความแถลงไว้ว่าไม่ติดใจสื่บพยาน ทั้งขอให้ศาลวินิจฉัยไปตามคำร้องและคำคัดค้านด้วย ศาลก็จะรับฟังพยานดังกล่าวไม่ได้.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 324/2505

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเพิกถอนการให้โดยเสน่หาเนื่องจากประพฤติเนรคุณ การชั่งน้ำหนักพยานในคดีแพ่ง
การชั่งน้ำหนักพยานหลักฐานในคดีแพ่งควรเป็นไปโดยลักษณะความแพ่งกล่าวคือเทียบเคียงน้ำหนักคำพยานประกอบด้วยพฤติการณ์แห่งคดีว่าจะควรเชื่อฟังเป็นความจริงตามโจทก์ฟ้องได้เพียงใดจะถือเอาเพียงข้อแตกต่างแห่งคำพยานโจทก์บางคนที่เบิกความไม่ตรงกันมาเป็นเหตุยกฟ้องนั้นสำหรับคดีนี้ไม่ชอบ
บุตรได้ด่ามารดาว่า อีดอกทอง อีแก่เจ้าเล่ห์ เป็นคนร้อยลิ้นไม่นับถือเป็นแม่ ถือว่าเป็นถ้อยคำด่าหมิ่นประมาทอย่างร้ายแรงเป็นการประพฤติเนรคุณต่อมารดาผู้ให้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 531(2) แล้วมารดาเรียกทรัพย์ที่ให้บุตรโดยเสน่หาคืนได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 256/2505 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เอกสารรับรองการจัดการงานและเงินทดรอง ไม่ใช่สัญญากู้ยืม ไม่ต้องปิดอากรแสตมป์
เอกสารที่จำเลยทำให้โจทก์มีข้อความรับรองการที่โจทก์จัดการงานให้จำเลยและต้องออกเงินทดรองไป รวมทั้งสัญญามอบทรัพย์สินของจำเลยให้โจทก์มีอำนาจจัดการใช้สิทธิได้ด้วยนั้น มิใช่เป็นสัญญากู้ยืมเงิน จึงไม่ต้องปิดอากรแสตมป์ และรับฟังเป็นพยานหลักฐานในคดีได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 119/2505 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การยื่นบัญชีระบุพยานเกินกำหนดเนื่องจากวันหยุดราชการ ศาลพิจารณาเจตนาและประโยชน์แห่งความยุติธรรม
่วัดสุดท้ายที่มีสิทธิยื่นบัญชีระบุพยาน เป็นวันหยุดราชการซึ่งหยุดติดต่อกัน 3 วัน เมื่อครบกำหนดวันหยุด ผู้ร้องก็ยื่นบัญชีระบุพยานทันที แล้วนำพยานมาให้สืบในวันนัดด้วยนั้น เห็นได้ว่าผู้ร้องไม่จงใจฝ่าฝืน ฉะนั้น เพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรม ควรให้รับบัญชีระบุพยานนั้นได้ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 87 (2)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 74/2505 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การโอนสิทธิครอบครองที่ดินและเรือน การยกทรัพย์สินให้ผู้อื่น และการพิสูจน์ความเป็นเจ้าของ
เมื่อคดีไม่มีประเด็นหรือไม่ได้นำสืบกันมาว่าที่พิพาทเป็นที่บ้านที่สวนตามกฎหมายลักษณะเบ็ดเสร็จ บทที่ 42 ศาลจะยกคำให้การของผู้ตายซึ่งเป็นเจ้าของที่ดินรายนี้ในคดีก่อนมาฟังว่า เป็นที่บ้านที่สวนโดยคู่ความคดีนี้มิได้อ้างเป็นพยานและไม่ใช่พยานของศาลด้วย ไม่ได้
ในกรณีเช่นนี้ ต้องถือว่าเป็นที่บ้านที่สวนมือเปล่าธรรมดา ที่ต้องบังคับตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชน์ ผู้ยึดถือมีแต่สิทธิครอบครอง เมื่อสละและโอนการครอบครองให้ผู้รับยกให้เกิน 1 ปี แล้ว ย่อมขาดสิทธิ แม้การยกให้จำทำไม่ถูกแบบตามมาตรา 525 ผู้รับได้สิทธิครอบครองแล้ว (อ้างฎีกาที่ 1101/2504)
การยกไม้ 3 ตันให้เขาออกทุนปลูกเรือนขึ้นโดยตกลงกันให้เจ้าของไม่ได้อยู่อาศัยด้วยจนตลอดชีวิตนั้น เป็นเรื่องยกไม้ให้เขา ไม่ใช่ยกเรือนให้ เรือนนั้นจึงเป็นของผู้ออกทุนปลูกสร้างฝ่ายเดียว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1330/2504 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ขอบเขตการนำสืบพยานในประเด็นสัญญาประนีประนอม และสถานที่ชำระหนี้
ศาลจดรายงานกระบวนพิจารณาวันชี้สองสถานเพียงว่า ประเด็นเรื่องบอกกล่าวนี้ โจทก์กล่าวอ้าง จำเลยปฏิเสธโจทก์จึงมีหน้าที่นำสืบก่อน ได้นัดสืบพยานโจทก์ไป เช่นนี้ หาใช่ศาลกะให้คู่ความนำสืบเพียงประเด็นเดียวไม่ หากจำเลยให้การต่อสู้ไว้ประเด็นอื่นอีก จำเลยก็นำสืบได้
สัญญามิได้มีข้อกำหนดชัดเจนว่า ให้ชำระเงิน ณ ที่ใด คู่ความย่อมสืบได้ว่ามีการตกลงในเรื่องนี้ไว้อย่างไรอีกต่างหาก ไม่เป็นการสืบเพิ่มเติมเอกสารและหากได้ความว่ามีการตกลงชำระเงินกัน ณ สถานที่แห่งอื่นแล้ว ก็ไม่ต้องนำเงินชำระ ณ ภูมิลำเนาปัจจุบันของเจ้าหนี้ ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 324
ระบุพยานว่า ชื่อ "นายซ้ง" แต่พยานเบิกความว่ามีชื่อว่า "ซัง" อีกชื่อหนึ่งก็ไม่เป็นผิดตัวเป็นคนละคนแต่อย่างใด

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 720/2504 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรับฟังพยานหลักฐานเดิมหลังศาลยกเลิกคำพิพากษาเดิมและให้พิจารณาใหม่
เดิมศาลชั้นต้นสั่งว่าจำเลยขาดนัดและให้สืบพยานโจทก์ไปฝ่ายเดียว ต่อมาศาลอุทธรณ์พิพากษาให้ยกคำพิพากษาศาลชั้นต้น ให้ศาลชั้นต้นดำเนินการพิจารณาต่อไปแล้วพิพากษาใหม่ ในการพิจารณาใหม่เช่นนี้ แม้โจทก์จะขาดนัดพิจารณาศาลก็มีอำนาจรับฟังพยานหลักฐานของโจทก์ที่ได้เคยสืบไว้แต่เดิมนั้นได้ เพราะในคำพิพากษาศาลอุทธรณ์มิได้สั่งให้ยกเลิกกระบวนพิจารณาเรื่องพยานหลักฐานที่สืบมาก่อนแล้ว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 324/2504 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเพิกถอนการให้ทรัพย์สินเนื่องจากประพฤติเนรคุณ การชั่งน้ำหนักพยานในคดีแพ่ง
การชั่งน้ำหนักพยานหลักฐานในคดีแพ่งความเป็นไปโดยลักษณะความแพ่ง กล่าวคือเทียบเคียงน้ำหนักคำพยานประกอบด้วยพฤติการณ์แห่งคดีว่าจะควรเชื่อฟังเป็นความจริงตามโจทก์ฟ้องได้เพียงใด จะถือเอาเพียงข้อแตกต่างแห่งคำพยานโจทก์บางคนที่เบิกความไม่ตรงกันมาเป็นเหตุยกฟ้องนั้นไม่ชอบ
บุตรได้ค่ามาตราว่า อีดอกทอง อีแก่เจ้าเล่ห์ เป็นคนร้อยลิ้นไม่นับถือเป็นแม่ ถือว่าเป็นถ้อยคำด่าหมิ่นประมาทอย่างร้ายแรง เป็นการประพฤติเนรคุณต่อมารดาผู้ให้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 531 (2) แล้ว มารดาเรียกทรัพย์ที่ให้บุตรโดยเสน่หาคืนได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 696/2503 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ หน้าที่นำสืบและการใช้พยานผู้เชี่ยวชาญ: ศาลต้องเปิดโอกาสให้คู่ความนำสืบพยานหลักฐานอื่นประกอบ แม้ผู้เชี่ยวชาญจะมีความเห็นแล้ว
เมื่อคู่ความฝ่ายใดรับจะนำสืบก่อนฝ่ายนั้นก็ต้องนำสืบก่อน โดยไม่ต้องคำนึงว่าตามรูปคดีเป็นหน้าที่ของฝ่ายใดจะต้องนำสืบก่อน
แม้โจทก์เป็นฝ่ายขอให้ผู้เชี่ยวชาญตรวจพิสูจน์ลายเซ็นต์ผู้ทำพินัยกรรม แต่ถ้าโจทก์จำเลยมิได้ตกลงท้ากันให้ถือเอาความเห็นของผู้เชี่ยวชาญเป็นข้อแพ้ชนะคดีเช่นนี้ จะถือเอาผลการตรวจพิสูจน์นั้น เป็นเด็ดขาดไม่ได้ ความเห็นของผู้เชี่ยวชาญเช่นนี้ เป็นแต่เพียงพยานหลักฐานอันหนึ่งในบรรดาพยานหลักฐานทั้งหลายอื่นที่โจทก์อาจนำสืบเพื่อแสดงว่าพินัยกรรมนั้นปลอม ลำพังแต่เพียงความเห็นของผู้เชี่ยวชาญดังกล่าว ยังไม่เป็นเหตุเพียงพอที่ศาลจะชี้ขาดความแท้จริงหรือความถูกต้องแห่งพินัยกรรมตาม ป.วิ.พ. มาตรา 126

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 696/2503

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ หน้าที่นำสืบเมื่อรับจะนำสืบก่อน และการใช้ผลตรวจลายมือชื่อเป็นพยานหลักฐานประกอบคดี
เมื่อคู่ความฝ่ายใดรับจะนำสืบก่อนฝ่ายนั้นก็ต้องนำสืบก่อนโดยไม่ต้องคำนึงว่าตามรูปคดีเป็นหน้าที่ของฝ่ายใดจะต้องนำสืบก่อน
แม้โจทก์เป็นฝ่ายขอให้ผู้เชี่ยวชาญตรวจพิสูจน์ลายเซ็นผู้ทำพินัยกรรมแต่ถ้าโจทก์จำเลยมิได้ตกลงท้ากันให้ถือเอาความเห็นของผู้เชี่ยวชาญเป็นข้อแพ้ชนะคดีเช่นนี้ จะถือเอาผลการตรวจพิสูจน์นั้นเป็นเด็ดขาดไม่ได้ความเห็นของผู้เชี่ยวชาญเช่นนี้ เป็นแต่เพียงพยานหลักฐานอันหนึ่งในบรรดาพยานหลักฐานทั้งหลายอื่นที่โจทก์อาจนำสืบเพื่อแสดงว่าพินัยกรรมนั้นปลอมลำพังแต่เพียงความเห็นของผู้เชี่ยวชาญดังกล่าว ยังไม่เป็นเหตุเพียงพอที่ศาลจะชี้ขาดความแท้จริงหรือความถูกต้องแห่งพินัยกรรมตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 126
of 67