คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
ป.วิ.พ. ม. 87

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 663 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 168/2503 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การไม่ยื่นบัญชีระบุพยานตามกำหนดและการไม่อนุญาตให้สืบพยานเพิ่มเติมเพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรม
ตามทางไต่สวนฟังได้ว่า จำเลยมิได้ยื่นบัญชีระบุพยานไว้ จนกระทั่งสืบพยานโจทก์ไป 2 ปากแล้ว โจทก์ยื่นคำร้องให้ศาลทราบเมื่อศาลสอบถาม ฝ่ายจำเลยกลับยืนยันว่าได้ยื่นบัญชีระบุพยานไว้แล้ว ซึ่งไม่เป็นความจริง เมื่อไม่มีเหตุพิเศษ ก็ไม่สมควรที่จะอนุญาตให้จำเลยอ้างพยานหลักฐานมาสืบอีก

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 168/2503

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การไม่ยื่นบัญชีระบุพยานตามกำหนดและข้อจำกัดในการรับฟังพยานหลักฐานเพิ่มเติม
ตามทางไต่สวนฟังได้ว่า จำเลยมิได้ยื่นบัญชีระบุพยานไว้จนกระทั่งสืบพยานโจทก์ไป 2 ปากแล้ว โจทก์ยื่นคำร้องให้ศาลทราบ เมื่อศาลสอบถาม ฝ่ายจำเลยกลับยืนยันว่าได้ยื่นบัญชีระบุพยานไว้แล้ว ซึ่งไม่เป็นความจริง เมื่อไม่มีเหตุพิเศษ ก็ไม่สมควรที่จะอนุญาตให้จำเลยอ้างพยานหลักฐานมาสืบอีก

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1234/2501 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาค้ำประกันที่ปิดอากรแสตมป์ไม่ครบถ้วนแต่แก้ไขครบก่อนฟ้อง ใช้เป็นหลักฐานได้
สัญญาค้ำประกันปิดอากรแสตมป์ในวันทำสัญญาไม่ครบถ้วน แต่ก่อนยื่นฟ้องได้ปิดเพิ่มเติมครบถ้วนและขีดฆ่าแล้ว ดังนี้ย่อมใช้สัญญาค้ำประกันนั้นเป็นพยานหลักฐานในคดีได้ ส่วนการที่จะต้องรับผิดเสียอากรเพิ่มนั้น เป็นอีกเรื่องหนึ่งต่างหาก

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1234/2501

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาค้ำประกันใช้เป็นพยานหลักฐานได้แม้ปิดอากรแสตมป์ไม่ครบถ้วนในวันทำสัญญา แต่ได้แก้ไขให้ถูกต้องก่อนฟ้อง
สัญญาค้ำประกันปิดอากรแสตมป์ในวันทำสัญญาไม่ครบถ้วนแต่ก่อนยื่นฟ้องได้ปิดเพิ่มเติมครบถ้วนและขีดฆ่าแล้ว ดังนี้ย่อมใช้สัญญาค้ำประกันนั้นเป็นพยานหลักฐานในคดีได้ ส่วนการที่จะต้องรับผิดเสียอากรเพิ่มนั้น เป็นอีกเรื่องหนึ่งต่างหาก

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1775/2500 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ข้อเท็จจริงนอกสำนวนห้ามนำมาใช้ประกอบการพิจารณาคดีแพ่ง แม้มีคำพิพากษาอาญา
แม้มีคำพิพากษาคดีอาญาแล้วโจทก์มาฟ้องจำเลยให้รับผิดทางแพ่งโดยอาศัยมูลจากคำชี้ขาดทางอาญานั้น แต่ไม่มีการอ้างอิงสำนวนคดีอาญาเป็นพยาน ดังนี้ข้อเท็จจริงในสำนวนคดีอาญาเรื่องนั้นเป็นข้อเท็จจริงนอกสำนวน.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1775/2500

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ข้อเท็จจริงนอกสำนวน: ศาลไม่สามารถนำข้อเท็จจริงจากสำนวนคดีอาญามาใช้ตัดสินคดีแพ่งได้หากไม่ได้มีการนำสืบในสำนวน
แม้มีคำพิพากษาคดีอาญาแล้วโจทก์มาฟ้องจำเลยให้รับผิดทางแพ่งโดยอาศัยมูลจากคำชี้ขาดทางอาญานั้น แต่ไม่มีการอ้างอิงสำนวนคดีอาญาเป็นพยาน ดังนี้ ข้อเท็จจริงในสำนวนคดีอาญาเรื่องนั้นเป็นข้อเท็จจริงนอกสำนวน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1371/2500 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การระบุพยานล่าช้า: ศาลอนุญาตได้หากไม่ทำให้คู่ความเสียเปรียบ และมีเหตุผลสมควร
โจทก์มีหน้าที่นำสืบก่อน ได้หลงลืมมิได้ระบุพยานให้ถูกต้องตามกฏหมาย ครั้นล่วงเลยมา 2 วัน โจทก์นึกได้รีบยื่นคำร้องขอระบุพยานโดยมีเหตุผลแสดงความสมควร เพราะความเข้าใจผิด เช่นนี้ เมื่อคำนึงว่าหากถ้าศาลอนุญาตคู่ความก็ไม่มีทางเสียรัดเสียเปรียบกัน ศาลก็อนุญาตให้ระบุพยานได้.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1371/2500

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การระบุพยานล่าช้า: ศาลอนุญาตได้หากมีเหตุสมควรและไม่ทำให้คู่ความเสียเปรียบ
โจทก์มีหน้าที่นำสืบก่อนได้หลงลืมมิได้ระบุพยานให้ถูกต้องตามกฎหมาย ครั้นล่วงเลยมา 2 วันโจทก์นึกได้รีบยื่นคำร้องขอระบุพยานโดยมีเหตุผลแสดงความสมควรเพราะความเข้าใจผิดเช่นนี้ เมื่อคำนึงว่าหากถ้าศาลอนุญาต คู่ความก็ไม่มีทางเสียรัดเสียเปรียบกัน ศาลก็อนุญาตให้ระบุพยานได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 569/2500

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเช่าเพื่ออยู่อาศัย พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่าฯ และผลของการระบุเงื่อนไขในสัญญาเช่าเพื่อหลีกเลี่ยงกฎหมาย
การเช่าอสังหาริมทรัพย์ธรรมดาโดยหลักกฎหมายธรรมดาศาลต้องวินิจฉัยข้อความตามที่ปรากฏในสัญญาเช่าแต่เมื่อการเช่านั้นจำเลยอ้างว่าเช่าอยู่อาศัยได้รับความคุ้มครองตาม พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่าในภาวะคับขันฯ ซึ่งเป็นกฎหมายพิเศษคุ้มครองการเช่าเคหะเพื่ออยู่อาศัยศาลจึงไม่ต้องแปลข้อความในเอกสารการเช่าเพราะกฎหมายไม่ประสงค์ที่จะให้เลี่ยงพ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่าฯ ศาลต้องวินิจฉัยตามสภาพที่เป็นจริงแห่งการเช่าว่าเป็นการเช่าเพื่ออยู่อาศัยตามพ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่าฯหรือไม่เท่านั้น
เมื่อโจทก์รับว่าจำเลยอยู่อาศัยดังนี้ศาลก็ต้องพิพากษายกฟ้องโจทก์เสียได้แล้ว ไม่ต้องสืบพยานต่อไป การที่ศาลชั้นต้นสั่งอนุญาตให้จำเลยสืบพยานต่อไปได้คำสั่งเช่นนี้จะเป็นการขัดต่อ ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 87-88 หรือไม่นั้น ก็ไม่ทำให้โจทก์ชนะคดีได้ ฎีกาโจทก์ข้อนี้ จึงเป็นข้ออ้างที่ไม่เป็นสาระแก่คดีอันควรต้องวินิจฉัยตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 242(1) และ 147 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง (ฉบับที่ 5) มาตรา 22 และ 24
การที่ผู้ให้เช่าพิมพ์ข้อความกล่าวอ้างความยินยอมของผู้เช่าที่จะออกจากห้องเช่าของโจทก์ไว้ล่วงหน้าในสัญญาเช่า เป็นการผูกมัดผู้เช่าเพื่อเลี่ยง พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่าฯจึงไม่ใช่ความยินยอมของผู้เช่าตาม พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่าฯ 2489 มาตรา16(5)
เมื่อจำเลยดำเนินคดีเองจึงไม่มีค่าทนายที่โจทก์ควรจะต้องใช้แทนจำเลย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1065/2499

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การไม่อนุญาตให้สืบพยานเพิ่มเติมในคดีล้มละลายเมื่อมีคำพิพากษาในคดีอาญาแล้ว
จำเลยกับพวกเคยถูกอัยการฟ้องในความผิดฐานฉ้อโกง ศาลได้ลงโทษจำคุกจำเลยและให้จำเลยคืนเงินแก่บรรดาผู้เสียหายที่ได้ร้องทุกข์ซึ่งปรากฏว่าโจทก์เป็นผู้ร้องทุกข์คนหนึ่งด้วย
ต่อมาโจทก์ฟ้องจำเลยในคดีแพ่ง จำเลยขอยื่นบัญชีระบุพยานและการพิพากษาคดีส่วนแพ่งนั้นศาลจำต้องถือข้อเท็จจริงตามที่ปรากฏในคำพิพากษาส่วนอาญาดังนี้ย่อมตัดบทมิให้จำเลยสืบพยานผิดเพี้ยนไปอย่างใดอีก เมื่อจำเลยไม่อ้างข้อกฎหมายให้ชัดแจ้งว่าควรอนุญาตให้จำเลยยื่นบัญชีระบุพยานด้วยเหตุใดจึงให้ยกเสีย
of 67