พบผลลัพธ์ทั้งหมด 226 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5927/2531
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การส่งสำเนาเอกสารพยานเพิ่มเติมต้องส่งก่อนวันสืบพยานเอกสารนั้น ไม่ใช่วันสืบพยานครั้งแรก
การส่งสำเนาเอกสารให้แก่คู่ความอีกฝ่ายหนึ่งตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 90 ในกรณีที่มีการระบุพยานเพิ่มเติม หมายถึงให้ส่งสำเนาเอกสารนั้นให้คู่ความอีกฝ่ายหนึ่งก่อนวันที่ทำการสืบพยานเอกสารนั้นไม่น้อยกว่าสามวัน มิใช่ก่อนวันทำการสืบพยานครั้งแรก
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3840/2531 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การรับฟังพยานเอกสารที่ไม่เป็นไปตามมาตรา 90 หากเพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรม
แม้การที่โจทก์ไม่ส่งสำเนาเอกสารทั้งหมดหรือบางส่วนให้แก่จำเลยก่อนสืบพยาน 3 วัน เป็นการฝ่าฝืนประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 90 ก็ตาม แต่กฎหมายก็ไม่ได้บังคับโดยเด็ดขาดตายตัว หากเอกสารที่อ้างนั้นเป็นพยานสำคัญเกี่ยวกับประเด็นสำคัญในคดี เพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรม ศาลก็มีอำนาจรับฟังเอกสารนั้นได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 87 (2)
โจทก์ได้ส่งสำเนาหนังสือมอบอำนาจ และสำเนาบัญชีกระแสรายวันบางส่วนให้แก่จำเลยโดยทางไปรษณีย์ก่อนวันสืบพยานถึง 10 วัน แต่เป็นเพราะการส่งล่าช้า จำเลยจึงได้รับก่อนวันสืบพยานเพียง 1 วัน แสดงให้เห็นว่าโจทก์ไม่มีเจตนาจะเอาเปรียบจำเลย ทั้งโจทก์ก็ได้ยื่นบัญชีระบุพยานอ้างเอกสารดังกล่าวไว้แล้ว ดังนั้นการที่ศาลชั้นต้นรับฟังพยานเอกสารของโจทก์ดังกล่าว ถือได้ว่าศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วเห็นว่าเพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรมจำเป็นต้องสืบพยานเอกสารอันสำคัญนั้น แม้จะฝ่าฝืนประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 90 ก็มีอำนาจรับฟังพยานเอกสารดังกล่าวได้
โจทก์ได้ส่งสำเนาหนังสือมอบอำนาจ และสำเนาบัญชีกระแสรายวันบางส่วนให้แก่จำเลยโดยทางไปรษณีย์ก่อนวันสืบพยานถึง 10 วัน แต่เป็นเพราะการส่งล่าช้า จำเลยจึงได้รับก่อนวันสืบพยานเพียง 1 วัน แสดงให้เห็นว่าโจทก์ไม่มีเจตนาจะเอาเปรียบจำเลย ทั้งโจทก์ก็ได้ยื่นบัญชีระบุพยานอ้างเอกสารดังกล่าวไว้แล้ว ดังนั้นการที่ศาลชั้นต้นรับฟังพยานเอกสารของโจทก์ดังกล่าว ถือได้ว่าศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วเห็นว่าเพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรมจำเป็นต้องสืบพยานเอกสารอันสำคัญนั้น แม้จะฝ่าฝืนประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 90 ก็มีอำนาจรับฟังพยานเอกสารดังกล่าวได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3840/2531
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การรับฟังพยานเอกสารที่ไม่เป็นไปตามมาตรา 90 เพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรม
แม้การที่โจทก์ไม่ส่งสำเนาเอกสารทั้งหมดหรือบางส่วนให้แก่จำเลยก่อนสืบพยาน 3 วัน เป็นการฝ่าฝืนประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 90 ก็ตาม แต่กฎหมายก็ไม่ได้บังคับโดยเด็ดขาดตายตัว หากเอกสารที่อ้างนั้นเป็นพยานสำคัญเกี่ยวกับประเด็นสำคัญในคดี เพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรมศาลก็มีอำนาจรับฟังเอกสารนั้นได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 87(2) โจทก์ได้ส่งสำเนาหนังสือมอบอำนาจ และสำเนาบัญชีกระแสรายวันบางส่วนให้แก่จำเลยโดยทางไปรษณีย์ก่อนวันสืบพยานถึง 10 วันแต่เป็นเพราะการส่งล่าช้า จำเลยจึงได้รับก่อนวันสืบพยานเพียง1 วัน แสดงให้เห็นว่าโจทก์ไม่มีเจตนาจะเอาเปรียบจำเลย ทั้งโจทก์ก็ได้ยื่นบัญชีระบุพยานอ้างเอกสารดังกล่าวไว้แล้ว ดังนั้นการที่ศาลชั้นต้นรับฟังพยานเอกสารของโจทก์ดังกล่าว ถือได้ว่าศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วเห็นว่าเพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรมจำเป็นต้องสืบพยานเอกสารอันสำคัญนั้น แม้จะฝ่าฝืนประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 90 ก็มีอำนาจรับฟังพยานเอกสารดังกล่าวได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3066/2531 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การรับรองเช็คและการไม่จำเป็นต้องส่งสำเนาภาพถ่ายด้านหลังเช็คเมื่อไม่มีข้อพิพาท
โจทก์ฟ้องให้จำเลยชำระเงินตามเช็ค คำให้การของจำเลยก็มิได้ต่อสู้ว่าจำเลยมิได้เป็นผู้สั่งจ่ายเช็คพิพาทคดีไม่มีข้อพิพาทเกี่ยวกับข้อความด้านหลังเช็ค เลย จึงไม่มีความจำเป็นที่โจทก์จะต้องส่งสำเนาภาพถ่ายด้านหลังเช็คให้จำเลยทราบล่วงหน้าก่อนวันสืบพยาน 3 วัน.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3066/2531 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การส่งสำเนาภาพถ่ายด้านหลังเช็คพิพาทไม่จำเป็นหากไม่มีข้อพิพาทเกี่ยวกับผู้สั่งจ่ายหรือข้อความด้านหลังเช็ค
โจทก์ฟ้องให้จำเลยชำระเงินตามเช็ค คำให้การของจำเลยมิได้ต่อสู้ว่าจำเลยมิได้เป็นผู้สั่งจ่ายเช็คพิพาท คดีไม่มีข้อพิพาทเกี่ยวกับข้อความด้านหลังเช็คเลย จึงไม่มีความจำเป็นที่โจทก์จะต้องส่งสำเนาภาพถ่ายด้านหลังเช็คให้จำเลยทราบล่วงหน้าก่อนวันสืบพยาน3 วัน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3066/2531
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การรับรองเช็คและการพิสูจน์หลักฐาน การส่งสำเนาเช็คไม่จำเป็นหากจำเลยยอมรับ
โจทก์ฟ้องให้จำเลยชำระเงินตามเช็ค คำให้การของจำเลยก็มิได้ต่อสู้ว่าจำเลยมิได้เป็นผู้สั่งจ่ายเช็คพิพาทคดีไม่มีข้อพิพาทเกี่ยวกับข้อความด้านหลังเช็คเลย จึงไม่มีความจำเป็นที่โจทก์จะต้องส่งสำเนาภาพถ่ายด้านหลังเช็คให้จำเลยทราบล่วงหน้าก่อนวันสืบพยาน 3 วัน.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4273/2530 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การรับฟังพยานเอกสารที่ไม่ได้ส่งสำเนาให้คู่ความ และการตีความการส่งสำเนาเอกสารตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยทำสัญญากู้เบิกเงินเกินบัญชีและบันทึกต่ออายุสัญญานั้น ตามเอกสารท้ายฟ้องไว้กับโจทก์ เมื่อคำให้การของจำเลยไม่มีข้อความใดปฏิเสธว่าจำเลยไม่ได้ทำสัญญาหรือบันทึกต่ออายุสัญญาดังกล่าว จึงฟังได้ว่าจำเลยได้ทำสัญญาและบันทึกต่ออายุสัญญาตามเอกสารท้ายฟ้องดังกล่าว กรณีจึงไม่ต้องอาศัยพยานเอกสารทั้ง 2 ฉบับที่โจทก์มิได้ปิดอากรแสตมป์ตามกฎหมายมาประกอบการพิจารณาอีก
ศาลย่อมมีดุลพินิจที่จะรับฟังเอกสารที่คู่ความส่งเป็นพยานโดยไม่ได้ส่งสำเนาเอกสารนั้นให้แก่อีกฝ่ายหนึ่งได้โดยอาศัยหลักตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 87 เมื่อเอกสารที่โจทก์อ้างส่งโดยไม่ได้ส่งสำเนาให้แก่จำเลยนั้น จำเลยไม่ได้ปฏิเสธความถูกต้องแท้จริงทั้งยังเป็นพยานหลักฐานอันสำคัญซึ่งเกี่ยวกับประเด็นข้อสำคัญในคดีด้วยแล้วเพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรมศาลย่อมรับฟังพยานเอกสารได้
ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 90 บัญญัติให้คู่ความส่งสำเนาเอกสารให้แก่อีกฝ่ายหนึ่งนั้น ในกรณีที่มีการระบุพยานเพิ่มเติมหมายความถึงให้ส่งสำเนาเอกสารนั้นให้คู่ความอีกฝ่ายหนึ่งก่อนวันที่ทำการนำสืบถึงพยานเอกสารนั้นจริง ๆ ไม่น้อยกว่า 3 วัน มิได้หมายความถึงก่อนวันทำการสืบพยานครั้งแรกของคดี
ศาลย่อมมีดุลพินิจที่จะรับฟังเอกสารที่คู่ความส่งเป็นพยานโดยไม่ได้ส่งสำเนาเอกสารนั้นให้แก่อีกฝ่ายหนึ่งได้โดยอาศัยหลักตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 87 เมื่อเอกสารที่โจทก์อ้างส่งโดยไม่ได้ส่งสำเนาให้แก่จำเลยนั้น จำเลยไม่ได้ปฏิเสธความถูกต้องแท้จริงทั้งยังเป็นพยานหลักฐานอันสำคัญซึ่งเกี่ยวกับประเด็นข้อสำคัญในคดีด้วยแล้วเพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรมศาลย่อมรับฟังพยานเอกสารได้
ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 90 บัญญัติให้คู่ความส่งสำเนาเอกสารให้แก่อีกฝ่ายหนึ่งนั้น ในกรณีที่มีการระบุพยานเพิ่มเติมหมายความถึงให้ส่งสำเนาเอกสารนั้นให้คู่ความอีกฝ่ายหนึ่งก่อนวันที่ทำการนำสืบถึงพยานเอกสารนั้นจริง ๆ ไม่น้อยกว่า 3 วัน มิได้หมายความถึงก่อนวันทำการสืบพยานครั้งแรกของคดี
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4273/2530
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การรับฟังพยานเอกสารที่มิได้ส่งสำเนาให้คู่ความ และการส่งเอกสารเพิ่มเติมก่อนวันสืบพยานตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยทำสัญญากู้เบิกเงินเกินบัญชีและบันทึกต่ออายุสัญญานั้นตามเอกสารท้ายฟ้องไว้กับโจทก์เมื่อคำให้การของจำเลยไม่มีข้อความใดปฏิเสธว่าจำเลยไม่ได้ทำสัญญาหรือบันทึกต่ออายุสัญญาดังกล่าว จึงฟังได้ว่าจำเลยได้ทำสัญญาและบันทึกต่ออายุสัญญาตามเอกสารท้ายฟ้องดังกล่าว กรณีจึงไม่ต้องอาศัยพยานเอกสารทั้ง 2 ฉบับที่โจทก์มิได้ปิดอากรแสตมป์ตามกฎหมายมาประกอบการพิจารณาอีก
ศาลย่อมมีดุลพินิจที่จะรับฟังเอกสารที่คู่ความส่งเป็นพยานโดยไม่ได้ส่งสำเนาเอกสารนั้นให้แก่อีกฝ่ายหนึ่งได้โดยอาศัยหลักตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 87 เมื่อเอกสารที่โจทก์อ้างส่งโดยไม่ได้ส่งสำเนาให้แก่จำเลยนั้น จำเลยไม่ได้ปฏิเสธความถูกต้องแท้จริง ทั้งยังเป็นพยานหลักฐานอันสำคัญซึ่งเกี่ยวกับประเด็นข้อสำคัญในคดีด้วยแล้วเพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรมศาลย่อมรับฟังพยานเอกสารได้
ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 90 บัญญัติให้คู่ความส่งสำเนาเอกสารให้แก่อีกฝ่ายหนึ่งนั้น ในกรณีที่มีการระบุพยานเพิ่มเติมหมายความถึงให้ส่งสำเนาเอกสารนั้นให้คู่ความอีกฝ่ายหนึ่งก่อนวันที่ทำการนำสืบถึงพยานเอกสารนั้นจริง ๆไม่น้อยกว่า 3 วัน มิได้หมายความถึงก่อนวันทำการสืบพยานครั้งแรกของคดี
ศาลย่อมมีดุลพินิจที่จะรับฟังเอกสารที่คู่ความส่งเป็นพยานโดยไม่ได้ส่งสำเนาเอกสารนั้นให้แก่อีกฝ่ายหนึ่งได้โดยอาศัยหลักตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 87 เมื่อเอกสารที่โจทก์อ้างส่งโดยไม่ได้ส่งสำเนาให้แก่จำเลยนั้น จำเลยไม่ได้ปฏิเสธความถูกต้องแท้จริง ทั้งยังเป็นพยานหลักฐานอันสำคัญซึ่งเกี่ยวกับประเด็นข้อสำคัญในคดีด้วยแล้วเพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรมศาลย่อมรับฟังพยานเอกสารได้
ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 90 บัญญัติให้คู่ความส่งสำเนาเอกสารให้แก่อีกฝ่ายหนึ่งนั้น ในกรณีที่มีการระบุพยานเพิ่มเติมหมายความถึงให้ส่งสำเนาเอกสารนั้นให้คู่ความอีกฝ่ายหนึ่งก่อนวันที่ทำการนำสืบถึงพยานเอกสารนั้นจริง ๆไม่น้อยกว่า 3 วัน มิได้หมายความถึงก่อนวันทำการสืบพยานครั้งแรกของคดี
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1197/2530 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เอกสารประกอบคำเบิกความที่ไม่ใช่ประเด็นข้อพิพาท ไม่ต้องส่งสำเนาให้คู่ความ
โจทก์อ้างเอกสารเป็นพยานโดยไม่ได้ส่งสำเนาให้แก่จำเลย แต่ข้อเท็จจริงตามเอกสารนั้นโจทก์เพียงใช้ประกอบคำเบิกความของพยานซึ่งมิได้เป็นประเด็นโต้เถียงกันในคดี ทั้งคำพิพากษาศาลแรงงานกลางที่วินิจฉัยข้อเท็จจริงก็ไม่ได้อ้างถึงหรือนำเอกสารนั้นมาใช้ในการวินิจฉัย ส่วนเอกสารฉบับที่ศาลใช้ในการวินิจฉัยคดี จำเลยก็ยอมรับข้อเท็จจริงตามที่ปรากฏในเอกสารนั้นแล้ว ดังนั้น โจทก์จึงไม่จำต้องส่งสำเนาเอกสารให้จำเลย.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1197/2530 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เอกสารที่ไม่ส่งสำเนาให้คู่ความ ศาลไม่ถือว่าผิด หากไม่ได้ใช้ประกอบการวินิจฉัย
ตามคำฟ้องและคำให้การคดีมีประเด็นข้อพิพาทตามที่ศาลกำหนดเพียงว่า จำเลยมีความรับผิดต้องชำระเงินตามฟ้องแก่โจทก์หรือไม่ส่วนข้อเท็จจริงตามเอกสารที่โจทก์ใช้ประกอบคำเบิกความของพยานมิได้เป็นประเด็นโต้เถียง กันในคดี ทั้งตามคำพิพากษาของศาลที่วินิจฉัยฟังข้อเท็จจริงมา ไม่ปรากฏว่าได้อ้างถึงหรือนำเอกสารที่จำเลยคัดค้านว่ามิได้ส่งสำเนาให้จำเลยมาใช้ในการวินิจฉัยคดีแต่อย่างใด ดังนั้น โจทก์จึงไม่จำต้องส่งสำเนาเอกสารนั้นให้แก่จำเลยก่อน.