คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
ป.วิ.พ. ม. 90

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 226 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1713/2535

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรับพยานหลักฐานขัดต่อ ป.วิ.พ. มาตรา 90 แต่เพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรม ศาลมีอำนาจรับได้ตาม มาตรา 87(2)
ใบเสร็จรับเงินภาษีบำรุงท้องที่เป็นพยานหลักฐานสำคัญซึ่งเกี่ยวกับประเด็นข้อสำคัญในคดีที่ว่าที่ดินพิพาทเป็นของโจทก์โดยการครอบครองหรือไม่ แม้โจทก์จะมิได้ส่งให้แก่จำเลยซึ่งสำเนาเอกสารนั้นก่อนวันสืบพยานไม่น้อยกว่า 3 วันตาม ป.วิ.พ. มาตรา 90แต่เพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรม ศาลจึงชอบที่จะให้รับเอกสารดังกล่าวเป็นพยานหลักฐานได้ตาม มาตรา 87(2).

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2732/2534

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การครอบครองที่ดินพิพาท: ศาลรับฟังพยานเอกสารแม้ไม่ส่งให้คู่ความก่อน แต่เพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรม
พยานเอกสารของจำเลยแม้เป็นเพียงภาพถ่าย แต่ตรงกับเอกสารที่ส่งมาตามหนังสือของสำนักงานที่ดินตามที่จำเลยขอให้ศาลมีคำสั่งเรียก ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้รับรองสำเนาถูกต้องแล้วและแม้จำเลยมิได้ส่งสำเนาเอกสารดังกล่าวให้โจทก์ก่อนวันสืบพยานไม่น้อยกว่าสามวันก็ตาม แต่เพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรมศาลย่อมรับฟังเอกสารดังกล่าวได้.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2603/2534

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การชำระหนี้ด้วยเช็คและการระงับซึ่งหนี้เดิม ผู้ค้ำประกันมีหน้าที่รับผิดชอบหนี้
มูลหนี้เดิมระหว่างโจทก์กับจำเลยที่ 1 คือหนี้ตามสัญญาขายลดตั๋วสัญญาใช้เงินที่จำเลยที่ 1 ได้ทำไว้กับโจทก์ โดยมีจำเลยที่ 2เป็นผู้ค้ำประกัน และยอมรับผิดอย่างลูกหนี้ร่วม จำเลยที่ 1ได้ชำระหนี้ดังกล่าวด้วยเช็คดังนี้ มูลหนี้ตามสัญญาขายลดตั๋วสัญญาใช้เงินจะระงับสิ้นไปก็ต่อเมื่อได้มีการชำระเงินตามเช็คนั้นแล้วตาม ป.พ.พ. มาตรา 321 วรรคสาม ปรากฏว่าเมื่อเช็คถึงกำหนด โจทก์นำไปเรียกเก็บเงินตามเช็ค แต่ธนาคารตามเช็คปฏิเสธการจ่ายเงิน ฉะนั้น มูลหนี้เดิมตามสัญญาขายลดตั๋วสัญญาใช้เงินที่จำเลยที่ 1 ได้ทำไว้กับโจทก์จึงยังไม่ระงับ โจทก์จึงฟ้องขอให้จำเลยที่ 1 รับผิดตามมูลหนี้เดิมและให้จำเลยที่ 2 ในฐานะผู้ค้ำประกันให้รับผิดอย่างลูกหนี้ร่วมได้ โจทก์ระบุอ้างตั๋วสัญญาใช้เงินต่อศาลไว้แล้ว แต่มิได้ส่งสำเนาให้จำเลยที่ 2 ก่อนวันสืบพยานไม่น้อยกว่า 3 วัน ถ้าศาลชั้นต้นเห็นว่าเพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรมจำเป็นจะต้องสืบพยานหลักฐานอันสำคัญซึ่งเกี่ยวกับประเด็นข้อสำคัญในคดีศาลมีอำนาจรับฟังพยานหลักฐานนั้นได้ตาม ป.วิ.พ. มาตรา 87(2).

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2158/2534 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สำเนาเอกสารทางแพ่ง: การรับฟังพยานหลักฐานจากสำเนาที่ไม่ใช่การถ่ายเอกสาร
ป.วิ.พ. มาตรา 90 วรรคแรก มิได้บังคับว่า สำเนาเอกสารที่ส่งให้แก่คู่ความอีกฝ่ายหนึ่งนั้นจะต้องเป็นเอกสารที่ถ่าย จากต้นฉบับ ดังนั้น สำเนาเอกสารที่ทนายโจทก์พิมพ์ข้อความลงในแบบพิมพ์สัญญากู้ซึ่งเป็นแบบพิมพ์อย่างเดียวกับต้นฉบับสัญญากู้ และมีข้อความเช่นเดียวกับสัญญากู้เงินต้นฉบับ โดยทนายโจทก์ลงชื่อรับรองสำเนาถูกต้อง ก็ถือเป็นสำเนาเอกสารตามบทกฎหมายดังกล่าวแล้วเมื่อโจทก์ได้แนบสำเนาเอกสารดังกล่าวมาท้ายฟ้องและส่งให้จำเลยพร้อมสำเนาคำฟ้องแล้ว สัญญากู้เงินต้นฉบับ จึงรับฟังเป็นพยานหลักฐานได้.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2158/2534

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สำเนาเอกสารทางแพ่ง: รูปแบบและข้อกำหนดการส่งเอกสารในกระบวนการพิจารณาคดี
ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 90 วรรคแรก มิได้ บังคับว่า สำเนาเอกสารที่ส่งให้แก่คู่ความอีกฝ่ายหนึ่งจะต้อง เป๋ย เอกสารที่ถ่ายจากต้นฉบับ สำเนาเอกสารที่ทนายโจทก์พิมพ์ ข้อความ ลง ในแบบพิมพ์สัญญากู้ซึ่งเป็นแบบพิมพ์อย่างเดียวกับ ต้นฉบับ สัญญากู้ และ มีข้อความเช่นเดียวกัน โดยทนายโจทก์ลงชื่อ รับรองสำเนาถูกต้อง ถือเป็นสำเนา เอกสารตามบทกฎหมายดังกล่าวแล้ว.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1354/2534

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การชำระหนี้แทนและสิทธิเรียกร้องช่วงสิทธิ รวมถึงอัตราดอกเบี้ยที่โจทก์มีสิทธิได้รับ
สำเนาใบเสร็จรับเงินเป็นเอกสารที่อยู่ในความครอบครองของบุคคลภายนอก โจทก์จึงไม่จำต้องส่งสำเนาเอกสารดังกล่าวให้แก่จำเลยตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 90(2)ก็รับฟังเป็นพยานได้ เมื่อโจทก์เข้ารับช่วงสิทธิของธนาคารอาคารสงเคราะห์ที่มีอยู่กับจำเลย โจทก์ย่อมต้องรับช่วงสิทธิในส่วนของอัตรา ดอกเบี้ยร้อยละ 15 ต่อปี ที่จำเลยต้องชำระให้แก่ธนาคารตามสัญญามาเรียกเอากับจำเลยด้วยตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 224 วรรคแรกประกอบมาตรา 226 วรรคแรก จำเลยจึงต้องรับผิดชำระดอกเบี้ย ร้อยละ 15 ต่อปี ในระหว่างผิดนัด

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 270/2534

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเพิกถอนนิติกรรมการโอนทรัพย์เพื่อหลีกเลี่ยงการบังคับคดี เจ้าหนี้มีสิทธิขอเพิกถอนได้
จำเลยที่ 2 ภริยาของจำเลยที่ 1 จดทะเบียนยกบ้านพิพาทให้ผู้ร้องซึ่งเป็นบุตรของจำเลยทั้งสองภายหลังจากที่จำเลยทั้งสองนำบ้านพิพาทไปประกันเงินกู้ให้โจทก์ ระยะเวลาห่างกันประมาณเดือนเศษ หลังจากโอนบ้านพิพาทให้ผู้ร้องแล้ว จำเลยที่ 2 ยังคงอยู่ตามเดิมพฤติการณ์ดังกล่าวแสดงว่าจำเลยที่ 2 จดทะเบียนยกบ้านให้ผู้ร้องเพื่อหลีกเลี่ยงการบังคับคดีเท่านั้น เมื่อปรากฎว่านอกจากบ้านพิพาทแล้ว จำเลยที่ 2 ไม่มีทรัพย์อย่างอื่นอีก การกระทำดังกล่าวจึงเป็นการกระทำโดยไม่สุจริตเป็นเหตุให้เจ้าหนี้ของจำเลยที่ 2 เสียเปรียบ อันเป็นเหตุให้โจทก์ผู้เป็นเจ้าหนี้ขอให้เพิกถอนนิติกรรมการโอนรายนี้ได้ ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 237 คดีนี้เป็นการพิจารณาชั้นบังคับคดีเจตนารมณ์ของการบังคับคดียอมให้ว่ากล่าวเรื่องดังกล่าวได้ภายหลังการยึดทรัพย์แล้วศาลจึงมีอำนาจชี้ขาดตามความในบทบัญญัติมาตราดังกล่าวได้โดยมิพักต้องให้โจทก์ไปดำเนินการฟ้องร้องขอให้เพิกถอนการฉ้อฉลเสียก่อน การที่โจทก์มิได้ส่งสำเนาเอกสารสัญญากู้ระหว่างจำเลยทั้งสองกับโจทก์ให้ผู้ร้องก่อนวันสืบพยาน 3 วัน เป็นเพราะผู้ร้องเป็นบุตรของจำเลยทั้งสอง และเป็นผู้รับโอนบ้านพิพาทจากจำเลยที่ 2โจทก์จึงเข้าใจว่าผู้ร้องคงทราบเรื่องที่จำเลยทั้งสองกู้เงินโจทก์ตามฟ้องแล้ว ถือไม่ได้ว่าเป็นการเอาเปรียบผู้ร้อง เมื่อศาลชั้นต้นเห็นว่าเพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรม จำเป็นจะต้องสืบพยานหลักฐานอันสำคัญซึ่งเกี่ยวกับประเด็นแห่งคดี สมควรรับฟังสัญญากู้ดังกล่าว การรับฟังพยานหลักฐานของศาลชั้นต้นโดยอาศัยอำนาจตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 87(2) จึงชอบแล้ว.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5778/2533

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ จำกัดความรับผิดของผู้รับขน การรับฟังพยาน และข้อต่อสู้เรื่องค่าเสียหาย
ผู้ส่งสินค้ามิได้แสดงความตกลงด้วยชัดแจ้งในการยกเว้นหรือจำกัดความผิดตามประกาศที่ผู้รับขนปิดไว้ที่ที่ทำการของผู้รับขน ข้อยกเว้นหรือจำกัดความรับผิดของผู้รับขนจึงตกเป็นโมฆะตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 625 พยานหลักฐานอันสำคัญที่เกี่ยวกับประเด็นสำคัญในคดีแม้ไม่ส่งสำเนาต่อศาลก่อนวันสืบพยานสามวัน ศาลก็มีอำนาจรับฟังพยานหลักฐานนั้นได้เพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรม คำให้การของจำเลยเพียงแต่ปฏิเสธจำนวนค่าเสียหายตามฟ้องเท่านั้น ข้อที่จำเลยอุทธรณ์ว่าผู้ส่งสินค้าไม่แจ้งให้จำเลยไปร่วมตรวจสอบเป็นเหตุให้จำเลยไม่ต้องรับผิดหรือรับผิดน้อยลง จึงเป็นข้อที่มิได้ยกขึ้นว่ากันมาแล้วในศาลชั้นต้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4276/2532

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การส่งหมายเรียก/สำเนาคำฟ้องที่ผิดที่อยู่ และผลกระทบต่อการขาดนัดยื่นคำให้การ/ไม่มาศาล
ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 88,90การยื่นบัญชีระบุพยานและการส่งสำเนาเอกสารนั้นใช้บังคับเฉพาะการสืบพยานหลักฐานที่สนับสนุนข้ออ้างข้อเถียงในประเด็นแห่งคดีที่พิพาทไม่ใช้บังคับในการไต่สวนคำร้องที่ไม่เกี่ยวกับประเด็นข้อพิพาทในคดี ก่อนฟ้องคดีโจทก์รู้ว่าจำเลยอยู่บ้านเลขที่ 1274/27 ดังนั้นเมื่อส่งหมายเรียกสำเนาคำฟ้องให้จำเลยที่บ้านเลขที่ 1274/115อันเป็นสำนักทำการงานของจำเลยไม่ได้โจทก์ก็ชอบที่จะขอให้ส่งหมายเรียกและสำเนาฟ้องให้จำเลย ณ บ้านเลขที่ 1274/27อันเป็นภูมิลำเนาของจำเลย การที่ศาลอนุญาตให้ส่งหมายเรียกและสำเนาคำฟ้องโดยประกาศโฆษณาทางหนังสือพิมพ์เป็นการดำเนินกระบวนพิจารณาไม่ชอบ ถือไม่ได้ว่าจำเลยทราบคำฟ้องและวันนัดสืบพยาน กรณีมีเหตุที่จะให้พิจารณาใหม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3382/2532

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเพิกถอนโฉนดที่ดินทับที่สาธารณประโยชน์ ไม่ถือเป็นการละเมิด เจ้าหน้าที่ศาลรับฟังพยานหลักฐานได้
การที่จำเลยใช้อำนาจตามประมวลกฎหมายที่ดิน มาตรา 61 มีคำสั่งให้เพิกถอนโฉนดที่ดินซึ่งออกทับที่สาธารณประโยชน์นั้น เป็นการใช้อำนาจตามกฎหมาย เพื่อจุดประสงค์ในการสงวนและรักษาไว้ซึ่งสาธารณสมบัติของแผ่นดิน เพื่อประโยชน์ของประชาชนโดยส่วนรวมหาใช่เป็นการใช้สิทธิอันมีแต่จะก่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นไม่จำเลยจึงมิได้กระทำละเมิดต่อโจทก์ผู้ถือกรรมสิทธิ์ที่ดินตามโฉนดดังกล่าว เอกสารที่จำเลยยื่นต่อศาลเพื่อส่งสำเนาให้แก่โจทก์ เป็นพยานที่เกี่ยวกับประเด็นอันสำคัญในคดี แม้จะยังมิได้ส่งสำเนาให้โจทก์ก่อนวันสืบพยานไม่น้อยกว่า 3 วัน เพราะความพลั้งเผลอของเจ้าหน้าที่ศาล แต่เพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรมศาลมีอำนาจรับฟังพยานหลักฐานดังกล่าวได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 87(2).
of 23