พบผลลัพธ์ทั้งหมด 825 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2705/2523
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ที่ดินสาธารณะ/ราชพัสดุ: การครอบครองโดยมิชอบและการฟ้องขับไล่
ที่ดินและบ้านพิพาทเป็นทรัพย์สินที่กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และราษฎร ได้บริจาคเงินสมทบกับเงินบำรุงอำเภอ ซื้อไว้ใช้ในราชการของอำเภอ โดยเป็นที่พักหรือที่ทำงานปลัดอำเภอประจำตำบลในขณะนั้น ที่ดินและบ้านพิพาทจึงเป็นที่สาธารณะตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1304(3) และเป็นที่ราชพัสดุตามพระราชบัญญัติที่ราชพัสดุ มาตรา 4 ซึ่งตามมาตรา 5 ประกอบด้วยมาตรา 11 ให้กระทรวงการคลังเป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์ที่ราชพัสดุ กรณีไม่ต้องด้วยพระราชบัญญัติลักษณะปกครองท้องที่ มาตรา 132 นายอำเภอจึงไม่มีอำนาจฟ้องขับไล่ผู้อยู่ในที่ดินและบ้านพิพาท เมื่อกระทรวงการคลังโดยโจทก์ร่วมมิได้ฎีกา ก็ต้องยกฟ้อง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2705/2523 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
กรรมสิทธิ์ที่ดินสาธารณะ: ที่ดินที่ได้จากเงินบริจาคของราษฎรเป็นที่ราชพัสดุ กระทรวงการคลังเป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์
ที่ดินและบ้านพิพาทเป็นทรัพย์สินที่กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และราษฎร ได้บริจาคเงินสมทบกับเงินบำรุงอำเภอ ซื้อไว้ใช้ในราชการของอำเภอ โดยเป็นที่พักหรือที่ทำงานปลัดอำเภอประจำตำบลในขณะนั้น ที่ดินและบ้านพิพาทจึงเป็นที่สาธารณะตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1304 (3) และเป็นที่ราชพัสดุตามพระราชบัญญัติที่ราชพัสดุ มาตรา 4 ซึ่งตามมาตรา 5 ประกอบด้ยมาตรา 11 ให้กระทรวงการคลังเป็นผู้ถือกรรสิทธิ์ที่ราชพัสดุ กรณีไม่ต้องด้วยพระราชบัญญัติบักษณะปกครองท้องที่ มาตรา 132 นายอำเภอจึงไม่มีอำนาจฟ้องขัยไล่ผู้อยู่ในที่ดินและบ้านพิพาท เมื่อกระทรวงการคลังโดยโจทก์ร่วมมิได้ฎีกา ก็ต้องยกฟ้อง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2537/2523
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาให้ทรัพย์สินที่ไม่จดทะเบียน: ไม่ผูกพัน แม้ทำสัญญาแบ่งแยกที่ดินเพื่อมนุษยธรรม
โจทก์ขายฝากที่ดินของโจทก์ไว้กับจำเลย ครบกำหนดเวลาไถ่แล้ว จำเลยทำสัญญาว่าจะแบ่งที่ดินคืนให้โจทก์บางส่วนเพื่อมนุษยธรรม สัญญาดังกล่าวไม่ใช่สัญญาประนีประนอมยอมความแต่เป็นสัญญาให้ หรือคำมั่นจะให้ทรัพย์สิน เมื่อไม่จดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ตามมาตรา 526 สัญญานั้นก็ไม่ผูกพันจำเลย โจทก์จะอาศัยสัญญาดังกล่าวมาฟ้องบังคับให้จำเลยแบ่งที่พิพาทให้โจทก์ไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2537/2523 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาให้/คำมั่นจะให้ทรัพย์สินต้องจดทะเบียนจึงมีผลผูกพัน ไม่ใช่สัญญาประนีประนอมยอมความ
โจทก์ขายฝากที่ดินของโจทก์ไว้กับจำเลย ครบกำหนดเวลาไถ่แล้ว จำเลยทำสัญญาว่าจะแบ่งที่ดินคืนให้โจทก์บางส่วนเพื่อมนุษยธรรม สัญญาดังกล่าวไม่ใช่สัญญาประนีประนอมยอมความ แต่เป็นสัญญาให้หรือคำมั่นจะให้ทรัพย์สิน เมื่อไม่จดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ตามมาตรา 526 สัญญานั้นก็ไม่ผูกพันจำเลย โจทก์จะอาศัยสัญญาดังกล่าวมาฟ้องบังคับให้จำเลยแบ่งที่พิพาทให้โจทก์ไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2528/2523
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การรุกล้ำที่ดินโดยไม่สุจริต ศาลไม่จำต้องวินิจฉัยหากจำเลยไม่ได้ยกประเด็นนี้ขึ้น
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยปลูกสร้างอาคารในที่ดินของโจทก์ จำเลยให้การว่าจำเลยมิได้ปลูกสร้างในที่ดินของโจทก์ จำเลยปลูกเรือนอยู่ในที่ดินของจำเลยซึ่งซื้อไว้จากจำเลยร่วมโดยสุจริต เสียค่าตอบแทน และครอบครองจนได้กรรมสิทธิ์ตามกฎหมาย จำเลยมิได้กล่าวในคำให้การว่าได้ปลูกสร้างเรือนในที่พิพาทโดยสุจริต ศาลชั้นต้นตั้งประเด็นข้อพิพาทไว้เพียงไว้เพียงว่า จำเลยได้ปลูกสร้างอาคารอยู่ในที่ดินของโจทก์ตามฟ้องหรือไม่ คดีจึงไม่มีข้อให้วินิจฉัยเลยไปถึงว่า ถ้าอาคารของจำเลยที่ปลูกสร้างไว้ได้รุกล้ำเข้าไปในที่ดินของโจทก์แล้ว จำเลยกระทำโดยสุจริตหรือไม่
ศาลชั้นต้นมีหมายเรียกจำเลยร่วมเข้ามาในคดีตามคำขอของจำเลยแต่จำเลยร่วมไม่ยอมเข้ามาในคดีจนศาลชั้นต้นมีคำสั่งขาดนัดยื่นคำให้การ เมื่อศาลชั้นต้นทำการสอบข้อเท็จจริงแล้วเห็นว่าพอจะวินิจฉัยคดีได้ ศาลชั้นต้นก็ไม่จำต้องทำการสืบพยานต่อไป และไม่จำต้องเรียกจำเลยร่วมมาสอบถาม
ศาลชั้นต้นมีหมายเรียกจำเลยร่วมเข้ามาในคดีตามคำขอของจำเลยแต่จำเลยร่วมไม่ยอมเข้ามาในคดีจนศาลชั้นต้นมีคำสั่งขาดนัดยื่นคำให้การ เมื่อศาลชั้นต้นทำการสอบข้อเท็จจริงแล้วเห็นว่าพอจะวินิจฉัยคดีได้ ศาลชั้นต้นก็ไม่จำต้องทำการสืบพยานต่อไป และไม่จำต้องเรียกจำเลยร่วมมาสอบถาม
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2528/2523 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การปลูกสร้างรุกล้ำที่ดิน โดยประเด็นสำคัญอยู่ที่การตั้งประเด็นข้อพิพาทและสิทธิโดยสุจริต
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยปลูกสร้างอาคารในที่ดินของโจทก์ จำเลยให้การว่าจำเลยมิได้ปลูกสร้างในที่ดินของโจทก์ จำเลยปลูกเรือนอยู่ในที่ดินของจำเลยซึ่งซื้อไว้จากจำเลยร่วมโดยสุจริต เสียค่าตอบแทน และครอบครองจนได้กรรมสิทธิ์ตามกฎหมาย จำเลยมิได้กล่าวในคำให้การว่าได้ปลูกสร้างเรือนในที่พิพาทโดยสุจริต ศาลชั้นต้นตั้งประเด็นข้อพิพาทไว้เพียงว่า จำเลยได้ปลูกสร้างอาคารอยู่ในที่ดินของโจทก์ตามฟ้องหรือไม่ คดีจึงไม่มีข้อให้วินิจฉัยเลยไปถึงว่า ถ้าอาคารของจำเลยที่ปลูกสร้างไว้ได้รุกล้ำเข้าไปในที่ดินของโจทก์แล้ว จำเลยกระทำโดยสุจริตหรือไม่
ศาลชั้นต้นมีหมายเรียกจำเลยร่วมเข้ามาในคดีตามคำของจำเลยแต่จำเลยร่วมไม่ยอมเข้ามาในคดีจนศาลชั้นต้นมีคำสั่งขาดนัดยื่นคำให้การ เมื่อศาลชั้นต้นทำการสอบข้อเท็จจริงแล้วเห็นว่าพอจะวินิจฉัยคดีได้ ศาลชั้นต้นก็ไม่จำต้องทำการสืบพยานต่อไป และไม่จำต้องเรียกจำเลยร่วมมาสอบถาม
ศาลชั้นต้นมีหมายเรียกจำเลยร่วมเข้ามาในคดีตามคำของจำเลยแต่จำเลยร่วมไม่ยอมเข้ามาในคดีจนศาลชั้นต้นมีคำสั่งขาดนัดยื่นคำให้การ เมื่อศาลชั้นต้นทำการสอบข้อเท็จจริงแล้วเห็นว่าพอจะวินิจฉัยคดีได้ ศาลชั้นต้นก็ไม่จำต้องทำการสืบพยานต่อไป และไม่จำต้องเรียกจำเลยร่วมมาสอบถาม
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2487/2523 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คนต่างด้าวซื้อที่ดินผิดกฎหมาย สิทธิในที่ดินเป็นโมฆะ แต่มีผลบังคับใช้ได้ในบางส่วน
โจทก์เป็นคนต่างด้าวร่วมกับพวกซึ่งเป็นคนต่างด้าวอีกคนหนึ่งซื้อที่ดินตาม น.ส.3 แปลงหนึ่งโดยตกลงให้จำเลยมีชื่อถือสิทธิแทน การกระทำดังกล่าวขัดต่อประมวลกฎหมายที่ดิน มาตรา 86 จึงเป็นโมฆะ แต่มาตรา 94 แห่งกฎหมายดังกล่าวให้คนต่างด้าวนั้นจัดการจำหน่ายที่ดินนั้นเสียภาษีภายในเวลาที่อธิบดีกรมที่ดินกำหนดให้ ความเป็นโมฆะดังกล่าวจึงไม่เสียเปล่า ยังมีผลตามกฎหมายอยู่ หากแต่ว่าคนต่างด้าวจะถือสิทธิเอาที่ดินเป็นของตนไม่ได้เท่านั้น เพราะฉะนั้นโจทก์ย่อมนำสืบได้ว่า จำเลยซึ่งมีชื่อถือสิทธิในที่ดินนั้นถือสิทธิทดแทนตนและบังคับจำเลยให้นำที่ดินออกขายทอดตลาดเอาเงินมาแบ่งให้แก่ตนได้แต่จะขอให้แสดงกรรมสิทธิ์และให้จำเลยโอนที่พิพาทให้แก่ตนไม่ได้
ฎีกาจำเลยกล่าวแต่เพียงว่ามีความสงสัยในคำวินิจฉัยของศาลล่างมิได้กล่าวอ้างข้อเท็จจริงโดยชัดแจ้งในข้อโต้แย้งคำวินิจฉัยของศาลล่างว่าไม่ถูกต้องอย่างไร เป็นฎีกาที่ไม่ชอบ ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัยให้
ฎีกาจำเลยกล่าวแต่เพียงว่ามีความสงสัยในคำวินิจฉัยของศาลล่างมิได้กล่าวอ้างข้อเท็จจริงโดยชัดแจ้งในข้อโต้แย้งคำวินิจฉัยของศาลล่างว่าไม่ถูกต้องอย่างไร เป็นฎีกาที่ไม่ชอบ ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัยให้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2487/2523
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การซื้อที่ดินโดยคนต่างด้าว การถือครองแทน และสิทธิในการบังคับจำหน่าย
โจทก์เป็นคนต่างด้าวร่วมกับพวกซึ่งเป็นคนต่างด้าวอีกคนหนึ่งซื้อที่ดินตาม น.ส.3 แปลงหนึ่งโดยตกลงให้จำเลยมีชื่อถือสิทธิแทน การกระทำดังกล่าวขัดต่อประมวลกฎหมายที่ดิน มาตรา 86 จึงเป็นโมฆะ แต่มาตรา 94 แห่งกฎหมายดังกล่าวให้คนต่างด้าวนั้นจัดการจำหน่ายที่ดินนั้นเสียภายในเวลาที่อธิบดีกรมที่ดินกำหนดให้ ความเป็นโมฆะดังกล่าวจึงไม่เสียเปล่า ยังมีผลตามกฎหมายอยู่หากแต่ว่าคนต่างด้าวจะถือสิทธิเอาที่ดินเป็นของตนไม่ได้เท่านั้น เพราะฉะนั้นโจทก์ย่อมนำสืบได้ว่า จำเลยซึ่งมีชื่อถือสิทธิในที่ดินนั้นถือสิทธิแทนตนและบังคับจำเลยให้นำที่ดินออกขายทอดตลาดเอาเงินมาแบ่งให้แก่ตนได้แต่จะขอให้ แสดงกรรมสิทธิ์และให้จำเลยโอนที่พิพาทให้แก่ตนไม่ได้
ฎีกาจำเลยกล่าวแต่เพียงว่ามีความสงสัยในคำวินิจฉัยของศาลล่าง มิได้กล่าวอ้างข้อเท็จจริงโดยชัดแจ้งในข้อโต้แย้งคำวินิจฉัยของศาลล่างว่า ไม่ถูกต้องอย่างไร เป็นฎีกาที่ไม่ชอบ ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัยให้
ฎีกาจำเลยกล่าวแต่เพียงว่ามีความสงสัยในคำวินิจฉัยของศาลล่าง มิได้กล่าวอ้างข้อเท็จจริงโดยชัดแจ้งในข้อโต้แย้งคำวินิจฉัยของศาลล่างว่า ไม่ถูกต้องอย่างไร เป็นฎีกาที่ไม่ชอบ ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัยให้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2470/2523
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คำสั่งไม่รับคำให้การตามมาตรา 199 พ.ร.บ.วิธีพิจารณาความแพ่ง: ห้ามอุทธรณ์ระหว่างพิจารณา
คำสั่งศาลชั้นต้นที่เมื่อไต่สวนแล้วเห็นว่าจำเลยจงใจขาดนัดยื่นคำให้การ จึงมีคำสั่งไม่รับคำให้การมิใช่คำสั่งไม่รับคำคู่ความตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 18 แต่เป็นการสั่งตาม มาตรา199 เป็นคำสั่งโดยปกติในระหว่างการพิจารณาของศาลก่อนที่จะได้มีคำพิพากษาหรือคำสั่งชี้ขาดตัดสินคดีอันไม่เข้ากรณีที่ระบุเป็นข้อยกเว้นไว้ตาม มาตรา227,228 จึงต้องห้ามมิให้อุทธรณ์คำสั่งนั้นในระหว่างพิจารณาศาลอุทธรณ์รับอุทธรณ์ของจำเลยไว้พิจารณาแล้วพิพากษาคดีไปนั้นจึงไม่ชอบ และหามีผลแต่ประการใดไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2423/2523
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การมีไว้เพื่อจำหน่ายยาเสพติด การซื้อขายและส่งมอบของยังไม่สมบูรณ์ ไม่ถือเป็นความผิดฐานจำหน่าย
สายลับวางเงินมัดจำค่าเฮโรอีนไว้แล้วส่วนในวันจับกุมไม่ได้เตรียมเงินไปชำระอีกจับกุมได้ขณะจำเลยนำสายลับไปเอาของยังฟังไม่ได้ว่ามีการซื้อขายและส่งมอบของที่ซื้อขายกันเฮโรอีนของกลางยังคงอยู่ในความครอบครองของจำเลยในขณะนั้นจำเลยยังไม่มีความผิดฐานจำหน่ายเฮโรอีน