พบผลลัพธ์ทั้งหมด 825 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 884/2523
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิจำนองโดยสุจริตและการได้มาซึ่งอสังหาริมทรัพย์โดยทางอื่น: การคุ้มครองสิทธิของบุคคลภายนอก
ศาลพิพากษาให้จำเลยชำระหนี้จำนอง จำเลยไม่ปฏิบัติตามคำบังคับ โจทก์จึงนำเจ้าพนักงานบังคับคดียึดที่ดินที่จำนองเพื่อขายทอดตลาดเอาเงินชำระหนี้ตามคำพิพากษา ผู้ร้องยื่นคำร้องว่า ที่ดินที่โจทก์นำยึดดังกล่าวผู้ร้องมีกรรมสิทธิ์อยู่ด้วยส่วนหนึ่ง โดยผู้ร้องได้ครอบครองโดยความสงบเปิดเผยด้วยเจตนาเป็นเจ้าของติดต่อกันเป็นเวลาเกิน 10ปีแล้วตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1382 จึงขอให้ปล่อยการยึดที่ดินเฉพาะส่วนที่เป็นกรรมสิทธิ์ของผู้ร้องโจทก์ให้การว่าโจทก์รับจำนองไว้โดยสุจริตเสียค่าตอบแทนข้ออ้างของผู้ร้องจึงยกขึ้นต่อสู้โจทก์ไม่ได้ ดังนี้ตามข้ออ้างของผู้ร้องเป็นเพียงการได้มาซึ่งสิทธิอันเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์โดยทางอื่นอันมิใช่เป็นการได้มาโดยทางนิติกรรม แต่ผู้ร้องไม่ได้จดทะเบียนสิทธิของตนไว้ จึงไม่อาจทำให้มีการเปลี่ยนแปลงทางทะเบียนได้ ทั้งต้องห้ามมิให้ยกเป็นข้อต่อสู้บุคคลภายนอกผู้ได้สิทธิมาโดยเสียค่าตอบแทนและได้จดทะเบียนสิทธิโดยสุจริตแล้วดังที่บัญญัติไว้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1299 ส่วนปัญหาว่าโจทก์รับจำนองไว้โดยสุจริตหรือไม่ ผู้ร้องก็ไม่ได้กล่าวอ้างหรือยกเป็นประเด็นเพื่อการนำสืบไว้ในคำร้องทั้ง ๆ ที่ภาระการพิสูจน์ตกแก่ฝ่ายตนที่จะหักล้างข้อสันนิษฐานอันเป็นคุณแก่โจทก์ว่า บุคคลทุกคนกระทำการโดยสุจริตตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 6 คดีจึงไม่มีประเด็น ข้อพิพาทว่าโจทก์รับจำนองโดยสุจริตหรือไม่ข้อเท็จจริงฟังได้ตามคำร้องและคำให้การของโจทก์แล้วว่าโจทก์รับจำนองที่พิพาทโดยเสียค่าตอบแทนและโดยสุจริตและได้จดทะเบียนสิทธิโดยสุจริตแล้ว จึงได้รับความคุ้มครองตามมาตรา 1299 วรรคสอง ผู้ร้องย่อมไม่มีสิทธิขอให้ปล่อยทรัพย์พิพาท
ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์หยิบยกประเด็นเรื่องโจทก์รับจำนองไว้โดยสุจริตหรือไม่ขึ้นวินิจฉัย เป็นการไม่ชอบ ถือว่าเป็นข้อที่ไม่ได้ว่ากล่าวกันมาในศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ ผู้ร้องฎีกาในปัญหาข้อนี้จึงเป็นฎีกานอกประเด็นที่ไม่ได้ว่ากล่าวกันมาในศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัยให้
ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์หยิบยกประเด็นเรื่องโจทก์รับจำนองไว้โดยสุจริตหรือไม่ขึ้นวินิจฉัย เป็นการไม่ชอบ ถือว่าเป็นข้อที่ไม่ได้ว่ากล่าวกันมาในศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ ผู้ร้องฎีกาในปัญหาข้อนี้จึงเป็นฎีกานอกประเด็นที่ไม่ได้ว่ากล่าวกันมาในศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัยให้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 884/2523 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิจำนอง vs. สิทธิครอบครองปรปักษ์: บุคคลภายนอกผู้ได้สิทธิโดยสุจริตและเสียค่าตอบแทนย่อมได้รับการคุ้มครอง
ศาลพิพากษาให้จำเลยชำระหนี้จำนอง จำเลยไม่ปฏิบัติตามคำบังคับ โจทก์จึงนำเจ้าพนักงานบังคับคดียึดที่ดินที่จำนองเพื่อขายทอดตลาดเอาเงินชำระหนี้ตามคำพิพากษาผู้ร้องยื่นคำร้องว่า ที่ดินที่โจทก์นำยึดดังกล่าวผู้ร้องมีกรรมสิทธิ์อยู่ด้วยส่วนหนึ่ง โดยผู้ร้องได้ครอบครองโดยความสงบเปิดเผยด้วยเจตนาเป็นเจ้าของติดต่อกันเป็นเวลาเกิน 10 ปี แล้วตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1382 จึงขอให้ปล่อยการยึดที่ดินเฉพาะส่วนที่เป็นกรรมสิทธิ์ของผู้ร้อง โจทก์ให้การว่าโจทก์จับจำนองไว้โดยสุจริตเสียค่าตอบแทนข้ออ้างของผู้ร้องจึงยกขึ้นต่อสู้โจทก์ไม่ได้ ดังนี้ ตามข้ออ้างของผู้ร้องเป็นเพียงการได้มาซึ่งสิทธิอันเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์โดยทางอื่น อันมิใช่เป็นการได้มาโดยทางนิติกรรม แต่ผู้ร้องไม่ได้จดทะเบียนสิทธิของตนได้ จึงไม่อาจทำให้มีการเปลี่ยนแปลงทางทะเบียนได้ ทั้งต้องห้ามมิให้ยกเป็นข้อต่อสู้บุคคลภายนอกผู้ได้สิทธิมาโดยเสียค่าตอบแทนและได้จดทะเบียนสิทธิโดยสุจริตแล้วดังที่บัญญัติไว้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1299 ส่วนปัญหาว่าโจทก์รับจำนองไว้โดยสุจริตหรือไม่ ผู้ร้องก็ไม่ได้กล่าวอ้างหรือยกเป็นประเด็นเพื่อการนำสืบไว้ในคำร้อง ทั้ง ๆ ที่ภาระการพิสูจน์ตกแก่ฝ่ายตนที่จะหักล้างข้อสันนิษฐานอันเป็นคุณแก่โจทก์ว่า บุคคลทุกคนกระทำการโดยสุจริตตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 6 คดีจึงไม่มีประเด็นข้อพิพาทว่าโจทก์รับจำนองโดยสุจริตหรือไม่ ข้อเท็จจริงฟังได้ตามคำร้องและคำให้การของโจทก์แล้วว่า โจทก์รับจำนองที่พิพาทโดยเสียค่าตอบแทนและโดยสุจริตและได้จดทะเบียนสิทธิโดยสุจริตแล้ว จึงได้รับความคุ้มครองตามมาตรา 1299 วรรคสองผู้ร้องย่อมไม่มีสิทธิขอให้ปล่อยทรัพย์พิพาท
ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์หยิบยกประเด็นเรื่องโจทก์รับจำนองไว้โดยสุจริตหรือไม่ขึ้นวินิจฉัย เป็นการไม่ชอบ ถือว่าเป็นข้อที่ไม่ได้ว่ากล่าวกันมาในศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ ผู้ร้องฎีกาในปัญหาข้อนี้จึงเป็นฎีกานอกประเด็นที่ไม่ได้ว่ากล่าวกันมาในศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัยให้
ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์หยิบยกประเด็นเรื่องโจทก์รับจำนองไว้โดยสุจริตหรือไม่ขึ้นวินิจฉัย เป็นการไม่ชอบ ถือว่าเป็นข้อที่ไม่ได้ว่ากล่าวกันมาในศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ ผู้ร้องฎีกาในปัญหาข้อนี้จึงเป็นฎีกานอกประเด็นที่ไม่ได้ว่ากล่าวกันมาในศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัยให้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 755/2523
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การซื้อขายกระบือและการจดทะเบียนตามประมวลกฎหมายแพ่งฯ มาตรา 456: กระบือที่ยังไม่ได้ใช้งานไม่ต้องจดทะเบียน
สัตว์พาหนะที่กฎหมายบังคับให้มีการจดทะเบียนการซื้อขายต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 456นั้น ต้องเป็นสัตว์พาหนะตามพระราชบัญญัติสัตว์พาหนะ พ.ศ.2482 มาตรา 4 อันได้แก่ช้าง ม้า โค กระบือ ล่อลา ซึ่งได้ทำ หรือต้องทำตั๋วรูปพรรณตามพระราชบัญญัตินี้
สัตว์พาหนะดังกล่าวที่กฎหมายบังคับให้ต้องทำตั๋วรูปพรรณมีบัญญัติไว้ในพระราชบัญญัติที่กล่าวนั้น มาตรา 8(3) ว่าได้แก่สัตว์ใดที่ได้ใช้ขับขี่ลากเข็น หรือใช้งานแล้ว
กระบือรายพิพาทที่โจทก์ขายให้จำเลยไม่มีตั๋วรูปพรรณแม้จะมีอายุ 4 ปีแล้ว แต่ไม่ปรากฏว่าเป็นกระบือที่ใช้งานแล้ว จึงไม่อยู่ในบังคับที่ต้องทำตั๋วรูปพรรณ ดังนั้น การซื้อขายกระบือรายพิพาท ไม่จำต้องจดทะเบียนซื้อขาย ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 456 การซื้อขายนี้ไม่เป็นโมฆะ
สัตว์พาหนะดังกล่าวที่กฎหมายบังคับให้ต้องทำตั๋วรูปพรรณมีบัญญัติไว้ในพระราชบัญญัติที่กล่าวนั้น มาตรา 8(3) ว่าได้แก่สัตว์ใดที่ได้ใช้ขับขี่ลากเข็น หรือใช้งานแล้ว
กระบือรายพิพาทที่โจทก์ขายให้จำเลยไม่มีตั๋วรูปพรรณแม้จะมีอายุ 4 ปีแล้ว แต่ไม่ปรากฏว่าเป็นกระบือที่ใช้งานแล้ว จึงไม่อยู่ในบังคับที่ต้องทำตั๋วรูปพรรณ ดังนั้น การซื้อขายกระบือรายพิพาท ไม่จำต้องจดทะเบียนซื้อขาย ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 456 การซื้อขายนี้ไม่เป็นโมฆะ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 737/2523
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเพิกถอนการให้เนื่องจากประพฤติเนรคุณ: การสืบพยานนอกฟ้อง
โจทก์ฟ้องขอให้เพิกถอนการให้เพราะเหตุจำเลยประพฤติเนรคุณโดยกล่าวในฟ้องว่าจำเลยด่าว่าโจทก์และทำร้ายร่างกายโจทก์จนได้รับบาดเจ็บเป็นการเนรคุณโจทก์ ดังนี้ ข้อที่จำเลยไม่ยอมให้สิ่งจำเป็นเลี้ยงชีวิตแก่โจทก์เพราะความยากไร้ของโจทก์ และจำเลยสามารถที่จะให้ได้ ซึ่งเป็นเหตุหนึ่งของการประพฤติเนรคุณนั้น โจทก์มิได้บรรยายยกเป็นประเด็นในคำฟ้อง แม้โจทก์จะได้นำสืบในข้อนี้ก็เป็นการสืบนอกฟ้องนอกประเด็นรับวินิจฉัยให้ไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 730/2523
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาขนส่ง: ข้อจำกัดความรับผิดในใบรับเป็นโมฆะหากผู้รับไม่แสดงเจตนา
จำเลยรับจ้างโจทก์ขนส่งถังแก๊สเปล่าจากตราดไปกรุงเทพฯโดยมีค่าระวางพาหนะและใบรับของ เป็นสัญญารับขนของอันเป็นบทบัญญัติเฉพาะ จะนำเอาลักษณะทั่วไปของสัญญามาใช้บังคับไม่ได้ ดังนั้นข้อความที่ยกเว้นหรือจำกัดความรับผิดในใบรับที่จำเลยผู้ขนส่งออกให้แก่โจทก์ โดยโจทก์มิได้แสดงถึงข้อตกลงนั้นด้วยข้อจำกัดความรับผิดในสัญญาดังกล่าวจึงตกเป็นโมฆะตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 625
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 643/2523
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การบรรยายฟ้องความผิดเจ้าพนักงานโดยมิชอบ ต้องพิจารณาความหมายโดยรวมของฟ้อง
คำบรรยายฟ้องที่ครบองค์ประกอบความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157,201 ซึ่งชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 158(5)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 541/2523
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การบังคับคดีและการห้ามฎีกาในข้อเท็จจริงของผู้เช่าและบริวาร กรณีคดีเดิมต้องห้ามฎีกา
คดีบังคับบริวารของผู้เช่าที่ศาลพิพากษาขับไล่จากอสังหาริมทรัพย์ ถ้าคู่ความเดิมในคดีฟ้องขับไล่นั้นต้องห้ามมิให้ฎีกาในข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 248 วรรคสองผู้ร้องซึ่งถูกบังคับคดีในฐานะเป็นบริวารของผู้เช่าก็ต้องห้ามมิให้ฎีกาในข้อเท็จจริงด้วย ตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา248 วรรคสาม
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 495/2523
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ขอบเขตความรับผิดทางละเมิด: ค่าใช้จ่ายในการสร้างฮวงซุ้ยหลังเสียชีวิต
จำเลยขับรถประมาทชนสามีโจทก์ตาย นอกเหนือจากค่าใช้จ่ายในการทำศพแล้วโจทก์ได้สร้างเจดีย์รอบฮวงซุ้ยสำหรับเก็บศพผู้ตายอันเป็นประเพณีของคนทั่วไปที่มาฝังศพที่ฮวงซุ้ยแห่งนั้น โจทก์ย่อมเรียกค่าใช้จ่ายส่วนนี้ได้ตามสมควรแก่ฐานะของผู้ตาย แต่เนื่องจากเจดีย์รอบฮวงซุ้ยของผู้ตายนี้ ผู้ตายได้สร้างมาก่อนสำหรับเก็บศพบรรพบุรุษและตัวผู้ตายเอง สร้างยังไม่เสร็จก็ตายเสียก่อน เมื่อผู้ตายตายแล้วก็ได้มีการก่อสร้างต่อจนเสร็จและได้นำศพผู้ตายไปฝังไว้ ณ ฮวงซุ้ยแห่งนั้น ดังนี้ ค่าใช้จ่ายในการก่อสร้างเจดีย์และฮวงซุ้ยก่อนผู้ตายตายจึงมิใช่ค่าเสียหายโดยตรงที่จำเลยจะต้องรับผิด แต่ค่าใช้จ่ายภายหลังจากที่ผู้ตายตายจนกระทั่งการก่อสร้างเจดีย์รอบฮวงซุ้ยแล้วเสร็จ เป็นค่าเสียหายที่เกิดขึ้นโดยตรงซึ่งจำเลยจะต้องรับผิด และเมื่อโจทก์มิได้นำสืบให้เห็นว่าค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมที่ได้ก่อสร้างหลังจากผู้ตายได้ตายแล้วเป็นเงินเท่าใด ศาลก็กำหนดให้ตามที่เห็นสมควรได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 457/2523
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อายุความฟ้องเรียกคืนของให้เนื่องจากประพฤติเนรคุณ นับแต่วันที่ทราบเหตุ
โจทก์ฟ้องคดีเรียกถอนคืนการให้เพราะเหตุจำเลยประพฤติเนรคุณ เมื่อพ้นหกเดือนนับแต่วันที่โจทก์ทราบเหตุเช่นนั้นฟ้องของโจทก์จึงขาดอายุความตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา533
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 453/2523
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การลงโทษตามมาตรา 340 ตรี มิใช่ความผิดเพิ่ม แต่เป็นเหตุให้โทษหนักขึ้น การลงโทษประหารชีวิตแล้ว ไม่สามารถปรับโทษตามมาตรานี้ได้
ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา340 ตรี เป็นเพียงเหตุที่ทำให้ผู้กระทำความผิดตามมาตราที่ระบุไว้ได้รับโทษหนักขึ้นเท่านั้น หาได้เป็นความผิดต่างหากอีกบทหนึ่งไม่ และไม่ใช่เรื่องของการเพิ่มโทษดังนั้นเมื่อลงโทษให้ประหารชีวิตแล้วก็ไม่มีทางที่จะระวางโทษหนักกว่าหรือหนักขึ้นกึ่งหนึ่งตามที่ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 340 ตรี บัญญัติไว้ได้ จึงนำ มาตรา 340 ตรี นี้มาปรับด้วยไม่ได้