คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
สนิท อังศุสิงห์

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 825 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2878/2522 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดฐานกระทำอนาจารเด็ก พฤติการณ์ไม่ถึงขั้นพยายามข่มขืน
ผู้เสียหายอายุ 5 ขวบ จำเลยเป็นพี่เขยของบิดาของผู้เสียหาย อยู่บ้านใกล้กัน วันเกิดเหตุผู้เสียหายไปเล่นที่ใต้ถุนบ้านของจำเลย จำเลยเรียกผู้เสียหายขึ้นไปบนบ้านแล้วหาผู้เสียหายไปในครัว จำเลยนั่งบนโต๊ะแล้วเอาผู้เสียหายใส่เอวด้านหน้า ขาคาบเอวของจำเลย และจับก้นของผู้เสียหายกระแทกเช้าออก อวัยวะเพศของผู้เสียหายช้ำบวมเล็กน้อย และไม่มีน้ำหรือเชื้ออสุจิของชายในช่องคลอดของผู้เสียหาย ข้อเท็จจริงแสดงว่าจำเลยมิได้เอาอวัยวะเพศของจำเลยจ่อที่ช่องคลอดของผู้เสียหาย การกระทำของจำเลยจึงไม่เป็นการพยายามข่มขืนกระทำชำเราผู้เสียหาย เป็นเพียงกระทำอนาจารผู้เสียหายเท่านั้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2865/2522

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาเลิกสัญญาซื้อขายเรือยนต์: จำเลยยึดเรือคืน และต้องคืนเงินค่าเรือหักค่าใช้เรือแล้ว
จำเลยขายเรือยนต์แก่โจทก์ โจทก์ชำระราคาเป็นงวด ๆ จำเลยยึดเรือคืนจากโจทก์ โจทก์ปฏิเสธว่าไม่มีหน้าที่ชำระราคาและไม่เรียกเรือกลับคืน เป็นเจตนาเลิกสัญญากันแล้ว จำเลยต้องคืนราคาที่รับไปแก่โจทก์โดยหักเงินเป็นค่าที่โจทก์ได้ใช้เรือของจำเลยมาแล้วออก

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2838/2522

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ หนังสือตกลงหย่าที่มีพยานรับรอง ถือเป็นหลักฐานเพียงพอต่อการฟ้องหย่าได้ แม้จะยังไม่ได้จดทะเบียน
ทำหนังสือหย่าโดยมีผู้ทำบันทึกลงชื่อในฐานะผู้บันทึกข้อความถือว่าผู้ทำบันทึกซึ่งรู้เห็นข้อตกลงเป็นพยานคนหนึ่งโดยไม่ต้องมีคำว่าพยานกำกับไว้ กับมีพยานอีกคนหนึ่งลงลายมือชื่อด้วย สามีฟ้องหย่าให้ภริยาไปจดทะเบียนหย่าได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2829/2522

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การชดเชยค่าก่อสร้างที่สูงขึ้นจากวัสดุราคาแพง ไม่ผูกมัดผู้ว่าจ้าง ผู้รับเหมาพอใจเงินชดเชยแล้ว ฟ้องบังคับไม่ได้
การที่วัสดุก่อสร้างมีราคาสูงขึ้น ไม่เป็นเหตุให้การชำระหนี้ของโจทก์ที่จะต้องก่อสร้างให้แล้วเสร็จภายในระยะเวลาที่กำหนดไว้ในสัญญาเป็นพ้นวิสัย โจทก์จะอ้างเรื่องวัสดุก่อสร้างที่มีราคาสูงขึ้นมาเป็นเหตุให้หลุดพ้นจากความรับผิดตามสัญญาไม่ได้
แม้คณะรัฐมนตรีจะมีมติให้ส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจชดเชยค่าจ้างเหมาก่อสร้างให้ผู้รับเหมา และคณะกรรมการพิจารณาปรับปรุงระบบก่อสร้างสถานที่ราชการและถาวรวัตถุของประเทศจะได้กำหนดแนวทางปฏิบัติในการชดเชยเงินค่าจ้างเหมาก่อสร้างให้ผู้รับเหมาไว้ ซึ่งถ้าถือตามหลักเกณฑ์ดังกล่าวจำเลยควรจ่ายเงินชดเชยค่าจ้างให้แก่โจทก์ตามที่คณะกรรมการได้กำหนด แต่มติคณะรัฐมนตรีและคำวินิจฉัยของคณะกรรมการปรับปรุงระบบการก่อสร้างสถานที่ราชการและและถาวรวัตถุของประเทศหาได้บังคับผู้ว่าจ้างและผู้รับเหมาให้จำต้องปฏิบัติตามโดยเด็ดขาดไม่ เมื่อจำเลยพิจารณาจ่ายเงินชดเชยให้แก่โจทก์น้อยกว่าที่คณะกรรมการได้กำหนด โจทก์มิได้โต้แย้ง จึงถือได้ว่าโจทก์พอใจและตกลงยอมรับในจำนวนเงินดังกล่าวเพียงเท่านั้น โจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้องขอให้ศาลบังคับให้จำเลยใช้เงินชดเชยค่าจ้างเหมาก่อสร้างให้แก่โจทก์ตามคำวินิจฉัยของคณะกรรมการดังกล่าวอีก

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2829/2522 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาก่อสร้าง: การชดเชยค่าจ้างจากภาวะต้นทุนสูง และผลของการยอมรับเงินชดเชยบางส่วน
การที่วัสดุก่อสร้างมีราคาสูงขึ้นไม่เป็นเหตุให้การชำระหนี้ของโจทก์ที่จะต้องก่อสร้างให้แล้วเสร็จในระยะเวลาที่กำหนดไว้ในสัญญาเป็นพ้นวิสัย โจทก์จะอ้างเรื่องวัสดุก่อสร้างที่มีราคาสูงขึ้นมาเป็นเหตุให้หลุดพ้นจากความรับผิดตามสัญญาไม่ได้
แม้คณะรัฐมนตรีจะมีมติให้ส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจชดเชยค่าจ้างเหมาก่อสร้างให้ผู้รับเหมา และคณะกรรมการพิจารณาปรับปรุงระบบการก่อสร้างสถานที่ราชการและถาวรวัตถุของประเทศจะได้กำหนดแนวทางปฏิบัติในการชดเชยเงินค่าจ้างเหมาก่อสร้างให้ผู้รับเหมาไว้ ซึ่งถ้าถือตามหลักเกณฑ์ดังกล่าวจำเลยควรจ่ายเงินชดเชยค่าจ้างเหมาก่อสร้างให้แก่โจทก์ตามที่คณะกรรมการได้กำหนด แต่มติคณะรัฐมนตรีและคำวินิจฉัยของคณะกรรมการปรับปรุงระบบการก่อสร้างสถานที่ราชการและถาวรวัตถุของ ประเทศหาได้บังคับผู้ว่าจ้างและผู้รับเหมาให้จำต้องปฏิบัติตามโดยเด็ดขาดไม่ เมื่อจำเลยพิจารณาจ่ายเงินชดเชยให้แก่โจทก์น้อยกว่าที่คณะกรรมการได้กำหนด โจทก์มิได้โต้แย้ง จึงถือได้ว่าโจทก์พอใจและตกลงยอมรับในจำนวนเงินดังกล่าวเพียงเท่านั้น โจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้องขอให้ศาลบังคับให้จำเลยใช้เงินชดเชยค่าจ้างเหมาก่อสร้างให้แก่โจทก์ตามคำวินิจฉัยของ คณะกรรมการดังกล่าวอีก

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2797/2522

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ข้อพิพาทสัญญาซื้อขายเครื่องจักร: การลดราคาชดใช้ความเสียหายจากสินค้าไม่ตรงตามสัญญา และการคิดค่าปรับ
จำเลยที่ 1 ทำสัญญาซื้อหม้อเคี่ยวน้ำตาลจากโจทก์ ในสัญญาระบุว่าการติดตั้งหม้อเคี่ยวน้ำตาลนั้น โจทก์จะต้องทำคอนเดนเซอร์ด้วย และถ้าหากไม่ทำฐานบ่อน้ำคอนเดนเซอร์แล้ว หม้อเคี่ยวน้ำตาลและคอนเดนเซอร์ก็ไม่สามารถจะใช้การได้ จึงเห็นได้ว่าฐานบ่อน้ำคอนเดนเซอร์เป็นอุปกรณ์ในการติดตั้งหม้อเคี่ยวน้ำตาล ต้องถือว่าการทำฐานบ่อน้ำคอนเดนเซอร์เป็นส่วนหนึ่งของการติดตั้งหม้อเคี่ยวน้ำตาล โจทก์จะเรียกร้องค่าใช้จ่ายในการทำฐานบ่อน้ำคอนเดนเซอร์จากจำเลยที่1 ไม่ได้
สัญญาซื้อขายข้อ 7 ว่า ถ้าผู้ขายไม่ส่งมอบหม้อเคี่ยวน้ำตาลให้ผู้ซื้อถูกต้องครบถ้วนภายในกำหนดเวลาตามสัญญา ผู้ขายยอมให้ผู้ซื้อปรับเป็นเงินร้อยละห้าของราคาที่ยังมิได้ส่งมอบฯ และข้อ 8ว่า นอกจากที่กล่าวแล้วในข้อ 6 และข้อ 7 ถ้าผู้ขายไม่ปฏิบัติให้เป็นไปตามสัญญาด้วยเหตุใด ๆ จนเป็นเหตุให้เกิดความเสียหายแก่ผู้ซื้อแล้ว ผู้ขายรับผิดชดใช้ค่าเสียหายต่าง ๆ ให้แก่ผู้ซื้อโดยสิ้นเชิงด้วย เช่นนี้เมื่อตามสัญญาโจทก์จะต้องใช้จุ๊ปชนิดไม่มีตะเข็บ แต่โจทก์นำจุ๊ปชนิดมีตะเข็บซึ่งมีราคาและคุณภาพต่ำกว่าจุ๊ปชนิดไม่มีตะเข็บมาใช้ย่อมเกิดความเสียหายแก่จำเลยที่ 1 ซึ่งโจทก์ต้องชดใช้ค่าเสียหายต่าง ๆ ให้แก่จำเลยที่ 1 โดยสิ้นเชิงตามสัญญาข้อ 8 ที่จำเลยลดราคาหม้อเคี่ยวน้ำตาลลง 310,409 บาท เป็นเพียงการให้จำเลยคืนราคาจุ๊ปชนิดไม่มีตะเข็บที่จะต้องใช้ตามสัญญา ส่วนที่เกินจากราคาจุ๊ปชนิดมีตะเข็บที่โจทก์นำมาใช้เท่านั้น ส่วนการคิดค่าปรับฐานผิดสัญญาร้อยละ 5 ของเงิน 310,409 บาทต่อเดือนจากวันสิ้นสุดสัญญา การส่งมอบถึงวันที่ทดลองทำการเทสท์เพรสเซอร์ได้ตามกำหนด เป็นการกำหนดให้โจทก์ใช้ค่าเสียหายจากการใช้จุ๊ปที่มีคุณภาพต่ำกว่าจุ๊ปที่ระบุไว้ในสัญญา และจำเลยที่ 1 มีสิทธิที่จะทำได้ตามที่ระบุไว้ในสัญญาข้อ 8 โดยไม่จำต้องให้โจทก์ยินยอม ทั้งไม่เป็นการปรับซ้อนค่าปรับฐานส่งมอบหม้อเคี่ยวน้ำตาลล่าช้า

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2797/2522 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาซื้อขาย - ความเสียหายจากการส่งมอบสินค้าไม่ตรงตามสัญญา - การคิดค่าปรับ - การชดใช้ค่าเสียหาย
จำเลยที่ 1 ทำสัญญาซื้อหม้อเคี่ยวน้ำตาลจากโจทก์ ในสัญญาระบุว่าการติดตั้งหม้อเคี่ยวน้ำตาลนั้น โจทก์จะต้องทำคอนเดนเซอร์ด้วย และถ้าหากไม่ทำฐานบ่อน้ำคอนเดนเซอร์แล้ว หม้อเคี่ยวน้ำตาลและคอนเดนเซอร์ก็ไม่สามารถจะใช้การได้ จึงเห็นได้ว่าฐานบ่อน้ำคอนเดนเซอร์ เป็นอุปกรณ์ในการติดตั้งหม้อเคี่ยวน้ำตาล ต้องถือว่าการทำฐานบ่อน้ำคอนเดนเซอร์เป็นส่วนหนึ่งของการติดตั้งหม้อเคี่ยวน้ำตาล โจทก์จะเรียกร้องค่าใช้จ่ายในการทำฐานบ่อน้ำคอนเดนเซอร์จากจำเลยที่ 1 ไม่ได้
สัญญาซื้อขาย ข้อ 7 ว่า ถ้าผู้ขายไม่ส่งมอบหม้อเคี่ยวน้ำตาลให้ผู้ซื้อถูกต้องครบถ้วนภายในกำหนดเวลาตามสัญญา ผู้ขายยอมให้ผู้ซื้อปรับเงินร้อยละห้าของราคาที่ยังมิได้ส่งมอบฯ และข้อ 8 ว่า นอกจากที่กล่าวแล้วในข้อ 6 และข้อ 7 ถ้าผุ้ขายไม่ปฏิบัติให้เป็นไปตามสัญญาด้วยเหตุใดๆ จนเป็นเหตุให้เกิดความเสียหายแก่ผู้ซื้อแล้ว ผู้ขายรับผิดชดใช้ค่าเสียหายต่างๆ ให้แก่ผู้ซื้อโดยสิ้นเชิงด้วย เช่นนี้เมื่อตามสัญญาโจทก์จะต้องใช้จุ๊ปชนิดไม่มีตะเข็บ แต่โจทก์นำจุ๊ปชนิดมีตะเข็บซึ่งมีราคาและคุณภาพต่ำกว่าจุ๊ปชนิดไม่มีตะเข็บมาใช้ย่อมเกิดความเสียหายแก่จำเลยที่ 1 ซึ่งโจทก์ต้องชดใช้ค่าเสียหายต่างๆ ให้แก่จำเลยที่ 1 โดยสิ้นเชิงตามสัญญาข้อ 8 ที่จำเลยลดราคาหม้อเคี่ยวน้ำตาลลง 310,409 เป็นเพียงการให้จำเลยคืนราคาจุ๊ปชนิดไม่มีตะเข็บที่จะต้องใช้ตามสัญญา ส่วนที่เกินจากราคาจุ๊ปชนิดมีตะเข็บที่โจทก์นำมาใช้เท่านั้น ส่วนการคิดค่าปรับฐานผิดสัญญาร้อยละ 5 ของเงิน 310,409 บาทต่อเดือนจากวันสิ้นสุดสัญญาการส่งมอบถึงวันที่ทดลองทำการเทสทเพรสเซอร์ได้ตามกำหนด เป็นการกำหนดให้โจทก์ใช้ค่าเสียหายจากการใช้จุ๊ปที่มีคุณภาพต่ำกว่าจุ๊ปที่ระบุไว้ในสัญญา และจำเลยที่ 1 มีสิทธที่จะทำได้ตามที่ระบุไว้ในสัญญาข้อ 8 โดยไม่จำต้องให้โจทก์ยินยอม ทั้งไม่เป็นการปรับข้อซ้อนค่าปรับฐานส่งมอบหม้อเคี่ยวน้ำตาลล่าช้า

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2748/2522 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เงินเพิ่มช่วยค่าครองชีพเป็นเงินเดือนตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง ไม่ตกเป็นทรัพย์สินในการบังคับคดี
คำว่าเงินเดือน ตามพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยการจ่ายเงิน ฯลฯ หมายความรวมถึง........เงินอื่นที่กระทรวงการคลังกำหนดให้เบิกจ่ายในลักษณะเงินเดือนและคำว่าเงินที่เพิ่มช่วยค่าครองชีพ ตามพระราชกฤษฎีกาเงินสวัสดิการเกี่ยวกับเงินเพิ่มช่วยค่าครองชีพชั่วคราว พ.ศ. 2521 มาตรา 4 หมายความถึงเงินสวัสดิการเกี่ยวกับเงินเพิ่มค่าครองชีพชั่วคราวที่จ่ายช่วยเหลือข้าราชการหรือลูกจ้างตามภาวะเศรษฐกิจ และตามพระราชกฤษฎีกาดังกล่าว มาตรา 7 ให้นำพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยการจ่ายเงินเดือน ฯลฯ มาใช้บังคับในการจ่ายเงินเพิ่มค่าครองชีพโดยอนุโลม ดังนั้น เงินเพิ่มช่วยค่าครองชีพก็คือ เงินอื่นที่กระทรวงการคลังกำหนดให้เบิกจ่ายแก่ข้าราชการหรือลูกจ้างในลักษณะเงินเดือนจึงเป็นเงินเดือนตามความหมายแห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 286 (2) ไม่ตกอยู่ในความรับผิดแห่งการบังคับคดี

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2748/2522

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เงินเพิ่มช่วยค่าครองชีพ (พ.ช.ค.) เป็นเงินเดือนตามกฎหมาย ไม่ตกเป็นเป้าบังคับคดี
คำว่าเงินเดือน ตามพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยการจ่ายเงินเดือน ฯลฯ หมายความรวมถึง.....เงินอื่นที่กระทรวงการคลังกำหนดให้เบิกจ่ายในลักษณะเงินเดือนและคำว่าเงินเพิ่มช่วยค่าครองชีพ ตามพระราชกฤษฎีกาเงินสวัสดิการ เกี่ยวกับเงินเพิ่มช่วยค่าครองชีพชั่วคราวพ.ศ.2521 มาตรา 4 หมายความถึงเงินสวัสดิการเกี่ยวกับเงินเพิ่มค่าครองชีพชั่วคราวที่จ่ายช่วยเหลือข้าราชการหรือ ลูกจ้างตามภาวะเศรษฐกิจ และตามพระราชกฤษฎีกาดังกล่าว มาตรา 7 ให้นำพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยการจ่ายเงินเดือน ฯลฯ มาใช้บังคับในการจ่ายเงินเพิ่มค่าครองชีพโดยอนุโลม ดังนั้นเงินเพิ่มช่วยค่าครองชีพก็คือเงิน อื่นที่กระทรวงการคลังกำหนดให้เบิกจ่ายแก่ข้าราชการหรือลูกจ้างในลักษณะเงินเดือนจึงเป็นเงินเดือนตามความหมายแห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 286(2) ไม่ตกอยู่ในความรับผิดแห่งการบังคับคดี

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2736/2522

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การริบรถยนต์ที่ใช้ในการกระทำความผิดกรรโชกทรัพย์ ศาลฎีกาพิจารณาจากพฤติการณ์การใช้รถตลอดการกระทำผิด
ใช้รถยนต์พาผู้เสียหายไปขู่เอาทรัพย์โดยเป็นแผนการคบคิดกันไม่เพียงแต่ใช้เป็นยานพาหนะแต่อย่างเดียว ต้องริบรถตาม มาตรา 33(1)
ศาลอุทธรณ์ฟังข้อเท็จจริงไม่ถูก เพราะยังมีข้อเท็จจริงอื่นอีกหลายประการ ศาลฎีกาฟังข้อเท็จจริงใหม่ได้เอง
of 83