คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
สนิท อังศุสิงห์

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 825 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 313/2521

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความรับผิดของผู้สั่งจ่ายและผู้สลักหลังเช็ค แม้ธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงิน
เมื่อเช็คพิพาทมีรายการครบถ้วนตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 988 แม้ธนาคารจะปฏิเสธการจ่ายเงินแล้วก็ยังเป็นเช็คตามความหมายแห่งมาตรา 987 อันจำเลยที่ 1 ผู้สั่งจ่ายต้องรับผิดตามเนื้อความในเช็คนั้นตาม มาตรา 900 เมื่อจำเลยที่ 2 เอาเช็คดังกล่าวมาแลกเงินจากโจทก์และสลักหลังมอบเช็คนั้นให้โจทก์โจทก์ย่อมเป็นผู้มีเช็คไว้ในความครอบครองในฐานเป็นผู้รับสลักหลัง โจทก์จึงเป็นผู้ทรงเช็คพิพาทตามมาตรา 904 และเมื่อเช็คดังกล่าวเป็นเช็คซึ่งสั่งให้ใช้เงินแก่ผู้ถือจำเลยที่ 2 ซึ่งเป็นผู้สลักหลังย่อมเป็นประกัน(อาวัล) สำหรับจำเลยที่ 1 ผู้สั่งจ่ายมี ความรับผิดอย่างเดียวกับบุคคลซึ่งตนประกันตาม มาตรา 921,940 ประกอบด้วยมาตรา 989 และจะต้องร่วมกับจำเลยที่ 1 ผู้สั่งจ่ายรับผิดตามเช็คพิพาทต่อโจทก์ ตามมาตรา 967 ประกอบด้วย 989 แม้จำเลยที่ 2 จะสลักหลังเช็คหลังจากที่ธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินตามเช็คนั้นแล้ว ก็ไม่ทำให้จำเลยที่ 2 หลุดพ้นจากความรับผิดตามเช็คพิพาทต่อโจทก์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 313/2521 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความรับผิดของผู้สั่งจ่ายและผู้สลักหลังเช็ค แม้ธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงิน
เมื่อเช็คพิพาทมีรายการครบถ้วนตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 988 แม้ธนาคารจะปฏิเสธการจ่ายเงินแล้วก็ยังเป็นเช็คตามความหมายแพ่งมาตรา 987 อันจำเลยที่ 1 ผู้สั่งจ่ายต้องรับผิดตามเนื้อความในเช็คนั้นตาม มาตรา 900 เมื่อจำเลยที่ 2 เอาเช็คดังกล่าวมาแลกเงินจากโจทก์และสลักหลังมอบเช็คนั้นให้โจทก์ โจทก์ย่อมเป็นผู้มีเช็คไว้ในความครอบครองในฐานเป็นผู้รับสลักหลัง โจทก์จึงเป็นผู้ทรงเช็คพิพาทตามมาตรา 905 และเมื่อเช็คดังกล่าวเป็นเช็คซึ่งสั่งให้ใช้เงินแก่ผู้ถือ จำเลยที่ 2 ซึ่งเป็นผู้สลักหลังย่อมเป็นประกัน (อาวัล) สำหรับจำเลยที่ 1 ผู้สั่งจ่ายมีความรับผิดอย่างเดียวกับบุคคลซึ่งตนประกันตาม มาตรา 921, 940 ประกอบด้วยมาตรา 989 และจะต้องร่วมกับจำเลยที่ 1 ผู้สั่งจ่ายรับผิดตามเช็คพิพาทต่อโจทก์ ตามมาตรา 967 ประกอบด้วย 989 แม้จำเลยที่ 2 จะสลักหลังเช็คหลังจากที่ธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินตามเช็คนั้นแล้ว ก็ไม่ทำให้จำเลยที่ 2 หลุดพ้นจากความผิดตามเช็คพิพาทต่อโจทก์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 234/2521

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การวางโทษประหารชีวิตและลดโทษจากรับสารภาพ: ข้อจำกัดในการเพิ่มโทษตามมาตรา 340 ตรี
การกระทำของจำเลยทั้งสองต้องตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 340 วรรคท้าย มาตรา 340 ตรี ซึ่งมาตรา 340 ตรีเป็นเรื่องที่จะต้องวางโทษจำเลยหนักกว่าที่บัญญัติไว้กึ่งหนึ่งหาใช่เป็นเรื่องการเพิ่มโทษไม่ สำหรับคดีนี้จำเลยทั้งสองได้รับโทษถึงประหารชีวิตตามมาตรา 340 วรรคท้าย แล้วจึงไม่อาจวางโทษให้หนักขึ้นกว่านี้อีกกึ่งหนึ่งได้กรณีไม่อาจนำประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 54 มาปรับแก่คดีนี้ได้ เมื่อจำเลยทั้งสองให้การรับสารภาพอันเป็นเหตุบรรเทาโทษก็ต้องลดโทษให้จำเลยทั้งสองตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 181/2521

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การย้ายภูมิลำเนาไม่สมบูรณ์ และการพิพากษาคดีล้มละลายตามภูมิลำเนาเดิม รวมถึงการพิจารณาหนี้สินล้นพ้นตัว
การแจ้งทะเบียนสำมะโนครัวย้ายที่อยู่ยังไม่เป็นการย้ายภูมิลำเนาจนกว่าจะได้ย้ายถิ่นที่อยู่เปลี่ยนภูมิลำเนาจริงก่อนครบ 1 ปี หลังจากย้ายภูมิลำเนา เจ้าหนี้ยังฟ้องคดีล้มละลายต่อศาลตามภูมิลำเนาเดิม ของลูกหนี้ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 122/2521

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ กรรมสิทธิ์ในอิฐที่ยังมิได้ส่งมอบ: การแยกนับจำนวนที่รับมอบแล้วทำให้กรรมสิทธิ์โอนไปได้
เดิมโจทก์ทำสัญญาซื้ออิฐไว้จากผู้ขาย ชำระราคาแล้ว แต่ยังไม่มีการแยกนับและส่งมอบ ต่อมาโจทก์ได้ให้จำเลยไปรับอิฐบางส่วนจากผู้ขายดังกล่าวเพื่อถวายวัด จำเลยรับอิฐเกินไปจากที่โจทก์สั่ง แล้วนำอิฐส่วนที่เกินนี้ไปขายเสียเอง การที่จำเลยไปรับอิฐแทนโจทก์นั้นถือว่าได้มีการแยกนับจำนวนแน่นอนเป็นครั้งคราวเฉพาะอิฐจำนวนที่จำเลยรับไปนั้นได้โอนเป็นกรรมสิทธิ์ของโจทก์ไปแล้วตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 460 การที่จำเลยนำอิฐที่รับเกินไปขายโดยไม่มีอำนาจย่อมเป็นการกระทำโดยปราศจากอำนาจและเมื่อทำให้โจทก์ได้รับความเสียหาย โจทก์ย่อมมีอำนาจฟ้องบังคับได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 812

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 113/2521

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ รายงานกระบวนพิจารณา: การไม่ลงลายมือชื่อไม่ทำให้รายงานเสียความน่าเชื่อถือ หากศาลบันทึกเหตุผลไว้
การที่โจทก์ไม่ยอมลงลายมือชื่อ เพื่อแสดงการรับรู้รายงานกระบวนพิจารณาของศาล ไม่ทำให้รายงานกระบวนพิจารณานั้นเสียไปเพราะศาลได้จดแจ้งเหตุที่ไม่มีลายมือชื่อโจทก์ไว้ในรายงานกระบวนพิจารณานั้นแล้ว ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 50(2)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 111/2521

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การประชุมผู้ถือหุ้นที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายและการละเมิดชื่อเสียงจากการถอดถอนกรรมการ
โจทก์เป็นประธานกรรมการของบริษัท จึงเป็นประธานการประชุมใหญ่เมื่อไม่มีข้อบังคับของบริษัทกำหนดเป็นอย่างอื่นเมื่อประธานบอกเลิกประชุม การประชุมก็สิ้นสุดลงกรรมการอื่นประชุมต่อไปโดยไม่นัดประชุมใหม่โดยบอกกล่าวก่อนตามข้อบังคับ เป็นการไม่ชอบด้วยข้อบังคับและ มาตรา 1174, 1175 รายงานการประชุมครั้งนี้ถอดประธานกรรมการโดยอ้างว่าทำความเสียหายแก่บริษัท จำเลยนำไปขอจดทะเบียน จึงทำให้โจทก์เสียชื่อเสียง เป็นละเมิดต่อโจทก์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4/2521

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การประเมินภาษีเงินได้จากการจำหน่ายกำไรออกนอกประเทศ ต้องเป็นผู้จำหน่ายกำไรจริง และเป็นกำไรสุทธิหลังหักต้นทุน
กรมสรรพากรมีคำสั่งให้โจทก์เสียภาษี โจทก์อุทธรณ์คำสั่งต่อคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์ จำเลยที่ 2 ที่ 3 และที่ 4 ซึ่งเป็นกรรมการพิจารณาอุทธรณ์สั่งยกอุทธรณ์ของโจทก์ดังนี้ นับว่ามีข้อโต้แย้งเกี่ยวกับสิทธิหรือหน้าที่แล้วโจทก์ย่อมมีอำนาจฟ้อง (อ้างคำพิพากษาฎีกาที่ 2683/2517)
ผู้ที่ต้องเสียภาษีเงินได้ในการจำหน่ายเงินกำไรออกไปจากประเทศไทยตามประมวลรัษฎากร มาตรา 70ทวิ นั้น ต้องเป็นผู้จำหน่ายเงินกำไร และเงินที่จำหน่ายนั้นต้องเป็นกำไรโดยแท้จริงซึ่งหักต้นทุนออกแล้ว โจทก์เป็นผู้ติดต่อกับลูกค้าในประเทศไทยของบริษัท ม. ในประเทศญี่ปุ่นให้ได้รับความสะดวกในการสั่งซื้อสินค้าจากบริษัท ม. ลูกค้าเป็นผู้สั่งซื้อสินค้าและชำระเงินค่าสินค้าต่อบริษัท ม. ในประเทศญี่ปุ่นโดยตรง โจทก์ยื่นรายการและเสียภาษีเงินได้ของบริษัท ม. ในประเทศญี่ปุ่นเฉพาะกำไรสุทธิที่ทำการค้าในประเทศไทยดังนี้ ไม่ปรากฏว่าโจทก์เป็นผู้จำหน่ายเงินกำไร เงินที่ลูกค้าส่งไปให้แก่บริษัท ม. ในประเทศญี่ปุ่นเป็นเงินค่าซื้อสินค้า ไม่ใช่กำไร โจทก์จึงไม่มีหน้าที่และความรับผิดในการยื่นรายการและเสียภาษีเงินได้ในการจำหน่ายเงินกำไรออกไปจากประเทศไทยด้วย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4/2521 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การประเมินภาษีเงินได้จากการจำหน่ายกำไรออกนอกประเทศ ต้องเป็นผู้จำหน่ายกำไรจริง และเป็นกำไรสุทธิที่หักต้นทุนแล้ว
กรมสรรพากรมีคำสั่งให้โจทก์เสียภาษี โจทก์อุทธรณ์คำสั่งต่อคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์ จำเลยที่ 2 ที่ 3 และที่ 4 ซึ่งเป็นกรรมการพิจารณาอุทธรณ์สั่งยกอุทธรณ์ของโจทก์ ดังนี้ นับว่ามีข้อโต้แย้งเกี่ยวกับสิทธิหรือหน้าที่แล้ว โจทก์ย่อมมีอำนาจฟ้อง (อ้างคำพิพากษาฎีกาที่ 2683/2517)
ผู้ที่ต้องเสียภาษีเงินได้ในการจำหน่ายเงินกำไรออกไปจากประเทศไทยตามประมวลรัษฎากร มาตรา 70 ทวิ นั้น ต้องเป็นผู้จำหน่ายเงินกำไร และเงินที่จำหน่ายนั้นต้องเป็นกำไรโดยแท้จริงซึ่งหักต้นทุนออกแล้ว โจทก์เป็นผู้ติดต่อกับลูกค้าในประเทศไทยของบริษัท ม. ในประเทศญี่ปุ่นให้ได้รับความสะดวกในการสั่งซื้อสินค้าจากบริษัท ม. ลูกค้าเป็นผู้สั่งซื้อสินค้าและชำระเงินค่าสินค้าต่อบริษัท ม. ในประเทศญี่ปุ่นโดยตรง โจทก์ยื่นรายการและเสียภาษีเงินได้ของบริษัท ม. ในประเทศญี่ปุ่นเฉพาะกำไรสุทธิที่ทำการค้าในประเทศไทย ดังนี้ ไม่ปรากฏว่าโจทก์เป็นผู้จำหน่ายเงินกำไร เงินที่ลูกค้าส่งไปให้แก่บริษัท ม. ในประเทศญี่ปุ่นเป็นเงินค่าซื้อสินค้า ไม่ใช่กำไร โจทก์จึงไม่มีหน้าที่และความรับผิดในการยื่นรายการและเสียภาษีเงินได้ในการจำหน่ายเงินกำไรออกไปจากประเทศไทยด้วย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2700/2520

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาในการขอเฉลี่ยทรัพย์ แม้คดีไม่ถึงที่สุด
ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 290 ได้บัญญัติถึงสิทธิของเจ้าหนี้ที่จะยื่นคำขอเฉลี่ยทรัพย์ไว้แต่เพียงว่าจะต้องเป็นเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาและให้ยื่นคำขอก่อนสิ้นระยะเวลาสิบสี่วันนับแต่วันขายทอดตลาดหรือจำหน่ายทรัพย์สิน หาได้กำหนดว่าจะต้องเป็นเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาเมื่อคดีถึงที่สุดไม่กรณีจึงไม่จำเป็นต้องรอให้คดีถึงที่สุดเสียก่อนเจ้าหนี้ก็มีสิทธิเพื่อที่จะยังให้ได้รับรองคุ้มครองและบังคับตามสิทธิของตนโดยบทบัญญัติของมาตราดังกล่าวได้
เมื่อผู้ร้องยื่นคำร้องขอเฉลี่ยทรัพย์แล้ว โจทก์มิได้โต้แย้งหรือคัดค้านคำร้องขอเฉลี่ยทรัพย์ในประเด็นที่ว่า จำเลยยังมีทรัพย์สินอื่นอีกหลายอย่างที่ผู้ร้องสามารถเอาชำระหนี้ได้คดีของโจทก์จึงไม่มีประเด็นในข้อนี้ แม้โจทก์จะได้นำสืบถึงไว้ก็เป็นการนำสืบนอกประเด็น
of 83