คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
ป.พ.พ. ม. 1367

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,118 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1387/2534

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อายุความมรดกและการครอบครองร่วม สิทธิในการขอออกโฉนดที่ดิน และการบังคับคดีตามคำพิพากษา
โจทก์ที่ 1 กับพวกและจำเลยเป็นทายาทของ พ.เมื่อพ. ตายจำเลยยื่นคำร้องขอรับมรดกในที่ดินพิพาท แต่ถูกโจทก์ที่ 1 กับพวกคัดค้าน เจ้าพนักงานที่ดินให้คู่กรณีไปฟ้องร้องกันภายใน 60 วันเพราะตกลงกันไม่ได้ จำเลยมิได้ฟ้องร้องภายในกำหนดจนเจ้าพนักงานที่ดินได้จดทะเบียนให้โจทก์ที่ 1 กับพวกและจำเลยเป็นผู้รับมรดกของ พ. ร่วมกัน ดังนี้ แม้จำเลยจะอยู่ในที่พิพาทตลอดมาก็แสดงว่าจำเลยยอมละเสียซึ่งประโยชน์แห่งอายุความมรดกตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 192 วรรคแรก โจทก์ที่ 1 กับพวกมีสิทธิร่วมกับจำเลยในที่ดินพิพาท เมื่อโจทก์ที่ 1 กับพวกขอออกโฉนดที่ดินพิพาท แต่ไม่สามารถดำเนินการได้ เพราะจำเลยมิได้ยื่นคำร้องต่อเจ้าพนักงานที่ดินด้วย ย่อมทำให้สิทธิของโจทก์ที่ 1 กับพวกถูกกระทบกระเทือน และจำเลยมีหน้าที่ต้องอนุมัตตามความต้องการของเจ้าของส่วนข้างมาก โจทก์ที่ 1 มีสิทธิฟ้องขอให้ถือเอาคำพิพากษาแสดงเจตนาของจำเลยได้.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1149/2534

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแบ่งแยกกรรมสิทธิ์รวม: สิทธิครอบครองเป็นสัดส่วนและการไม่จำเป็นต้องแสดงเจตนาใหม่
ในคดีฟ้องขอแบ่งแยกกรรมสิทธิ์รวม เมื่อโจทก์ได้บรรยายฟ้องว่าโจทก์ได้กรรมสิทธิ์รวมมาโดย ล.เจ้าของกรรมสิทธิ์รวมเดิมได้โอนขายเฉพาะส่วนของตนให้แก่โจทก์ และโจทก์ได้เข้าครอบครองเป็นสัดส่วนตลอดมา เช่นนี้ หาใช่เป็นการกล่าวอ้างว่า โจทก์ได้กรรมสิทธิ์มาด้วยการครอบครองปรปักษ์ไม่ ดังนั้น โจทก์จึงไม่จำต้องบรรยายฟ้องว่าได้เปลี่ยนเจตนาการครอบครอง และคำขอท้ายฟ้องก็ไม่จำต้องขอให้ศาลสั่งแสดงกรรมสิทธิ์ หรือขอให้นำทรัพย์ออกขายทอดตลาดนำเงินมาแบ่งปันกันแต่อย่างใด โจทก์ฟ้องอ้างว่า โจทก์เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ร่วมกับจำเลยในที่ดินมีโฉนดตามฟ้อง และได้ครอบครองเป็นสัดส่วนตลอดมาตามรูปที่ดินท้ายฟ้อง โจทก์ได้บอกกล่าวให้จำเลยไปทำการแบ่งแยกกรรมสิทธิ์รวมแล้ว จำเลยไม่ยินยอม ขอให้ศาลพิพากษาแบ่งแยกกรรมสิทธิ์รวมจำเลยให้การว่าโจทก์เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ร่วมกับจำเลยจริงแต่ปฏิเสธว่าโจทก์มิได้ครอบครองเป็นสัดส่วน รูปที่ดินท้ายฟ้องไม่ถูกต้อง และจำเลยไม่เคยได้รับคำบอกกล่าวให้ไปแบ่งแยก ดังนี้ การที่ศาลชั้นต้นชี้สองสถานกำหนดประเด็นข้อพิพาทว่า "โจทก์เป็นเจ้าของผู้ครอบครองที่ดินตามเส้นสีดำ หมายสีเขียว หมายเลข 4 ในแผนที่พิพาทหรือไม่" จึงเป็นการถูกต้อง มิได้ทำให้จำเลยเสียเปรียบแต่อย่างใด ส่วนประเด็นว่าโจทก์ได้บอกกล่าวให้จำเลยไปแบ่งแยกกรรมสิทธิ์รวมแล้วหรือไม่ นั้น แม้ศาลชั้นต้นจะมิได้กำหนดเป็นประเด็นพิพาทไว้ก็ตาม แต่ก็ได้ความว่าก่อนที่ ล. จะโอนกรรมสิทธิ์เฉพาะส่วนของตนให้แก่โจทก์ ล. ได้เคยมีการยื่นคำร้องขอแบ่งแยกที่ดินทางทิศเหนือเป็นของ ล. แล้ว แต่ยังไม่ได้ดำเนินการ ล.ก็ขายที่ดินเฉพาะส่วนของตนที่ขอแบ่งแยกให้แก่โจทก์เสียก่อน และโจทก์ได้เข้าครอบครองโดยปลูกบ้านและทำรั้วเป็นสัดส่วนตามรูปที่ดินในแผนที่พิพาทตลอดมาโดยจำเลยมิได้คัดค้าน เมื่อโจทก์ยืนยันว่าได้บอกกล่าวให้จำเลยซึ่งเป็นผู้ถือโฉนดที่ดินไปแบ่งแยกกรรมสิทธิ์รวมแล้ว และไม่ปรากฏว่าการขอแบ่งแยกกรรมสิทธิ์รวมนี้ได้กระทำในเวลาที่ไม่เป็นโอกาสอันควร โจทก์ย่อมฟ้องขอให้ศาลพิพากษาแบ่งแยกกรรมสิทธิ์รวมและศาลชั้นต้นพิพากษาไปตามรูปคดีได้ ไม่ถือว่าเป็นการพิพากษานอกฟ้อง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 629/2534

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การครอบครองที่ดิน: การอนุญาตให้ครอบครองเพื่อทำกิน ไม่ถือเป็นการยกให้สิทธิครอบครอง
โจทก์มิได้ยกที่ดินพิพาทตามหนังสือรับรองการทำประโยชน์ให้จำเลยโจทก์เพียงแต่อนุญาตให้จำเลยเข้าครอบครองทำกินเท่านั้น การที่จำเลยครอบครองที่ดินพิพาทจึงถือไม่ได้ว่าเป็นการครอบครองเพื่อตนแต่เป็นการครอบครองแทนโจทก์ สิทธิครอบครองที่ดินยังเป็นของโจทก์โจทก์มีสิทธิให้จำเลยออกไปเสียจากที่ดินพิพาทได้.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 344/2534

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การได้กรรมสิทธิ์ที่ดินจากการครอบครองปรปักษ์ แม้มีสัญญาจะซื้อจะขายแต่สละเจตนาครอบครองแล้ว
โจทก์ซื้อที่ดินพิพาทจาก ฉ. เพราะมีวัตถุประสงค์ที่จะใช้ขุดเป็นทางระบายน้ำเข้าที่ดินของโจทก์ แม้โจทก์จะไม่ได้ปลูกบ้านอยู่อาศัยในที่ดินพิพาท แต่การที่โจทก์ได้เข้าทำประโยชน์โดยปลูกต้นไม้ ขุดคูน้ำ ทำทางเดินไปทำนา และโจทก์คงใช้ประโยชน์ดังกล่าวในที่ดินพิพาทติดต่อกันมาจนถึงปัจจุบัน กรณีเช่นนี้ย่อมถือว่าโจทก์มีเจตนายึดถือครอบครองที่ดินพิพาท สัญญาจะซื้อจะขายมีข้อตกลงจะจดทะเบียนโอนเมื่อแบ่งแยกโฉนดเรียบร้อยแล้ว แม้ว่าโจทก์กับ ฉ. จะปล่อยเวลาล่วงเลยไปนานมิได้ดำเนินการอย่างหนึ่งอย่างใดในเวลาอันสมควรเพื่อแบ่งแยกโฉนดโดย ฉ. ยอมให้โจทก์เข้าทำประโยชน์แสดงตนเป็นเจ้าของอย่างเต็มที่แสดงว่าทั้งโจทก์และ ฉ. มิได้คำนึงถึงการที่จะทำการจดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินพิพาทให้ถูกต้องตามกฎหมายกันต่อไป ถือได้ว่าฉ. สละการครอบครองที่ดินพิพาทให้แก่โจทก์โดยเด็ดขาด การครอบครองของโจทก์จึงเป็นการครอบครองอย่างเป็นเจ้าของ หาใช่ครอบครองตามสัญญาจะซื้อจะขาย ดังนี้ เมื่อครบสิบปีโจทก์ย่อมได้กรรมสิทธิ์.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5985/2533

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การครอบครองปรปักษ์: การเปลี่ยนแปลงเจตนาครอบครองจากอาศัยสิทธิผู้อื่นเป็นเจ้าของ และการได้มาซึ่งกรรมสิทธิ์
เจ้าของโฉนดที่ดินพิพาทได้จำนำโฉนดที่ดินพิพาทไว้แก่บุคคลอื่นการที่ มารดา ของผู้คัดค้านซึ่งอยู่ในที่ดินพิพาทโดยอาศัยสิทธิของเจ้าของที่ดินได้ไถ่โฉนดที่ดินพิพาทแทนเจ้าของโฉนดยังไม่อาจฟังว่าเป็นการแสดงเจตนาเปลี่ยนแปลงการครอบครองที่ดินพิพาทจากการอาศัยสิทธิของผู้อื่นเป็นการครอบครองเพื่อตนเอง เพราะอาจเป็นการไถ่โดยเจตนาที่จะอาศัยอยู่ในที่ดินพิพาทต่อไป ถือว่ามารดาของผู้คัดค้านและผู้คัดค้านครอบครองที่ดินพิพาทต่อมาโดยอาศัยสิทธิของเจ้าของที่ดินดังนั้นแม้ว่าจะครอบครองมานานเพียงใด ผู้คัดค้านย่อมไม่ได้กรรมสิทธิ์.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5985/2533 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การครอบครองปรปักษ์ต้องแสดงเจตนาเป็นเจ้าของ การไถ่โฉนดที่ดินไม่ได้แปลเจตนาเปลี่ยนเป็นครอบครองเพื่อตนเอง
เจ้าของโฉนดที่ดินพิพาทได้จำนำโฉนดที่ดินพิพาทไว้แก่บุคคลอื่น การที่มารดาของผู้คัดค้านซึ่งอยู่ในที่ดินพิพาทโดยอาศัยสิทธิของเจ้าของที่ดินได้ไถ่โฉนดที่ดินพิพาทแทนเจ้าของโฉนดยังไม่อาจฟังว่าเป็นการแสดงเจตนาเปลี่ยนแปลงการครอบครองที่ดินพิพาทจากการอาศัยสิทธิของผู้อื่นเป็นการครอบครองเพื่อตนเอง เพราะอาจเป็นการไถ่โดยเจตนาที่จะอาศัยอยู่ในที่ดินพิพาทต่อไป ถือว่ามารดาของผู้คัดค้านและผู้คัดค้านครอบครองที่ดินพิพาทต่อมาโดยอาศัยสิทธิของเจ้าของที่ดิน ดังนั้นแม้ว่าจะครอบครองมานานเพียงใด ผู้คัดค้านย่อมไม่ได้กรรมสิทธิ์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5904/2533 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิครอบครองที่ดิน: การเพิกถอนหนังสือรับรองการทำประโยชน์ที่ออกโดยไม่ชอบ และการดำเนินการออกหนังสือรับรองการทำประโยชน์ใหม่
อ. เป็นผู้มีสิทธิครอบครองที่ดินพิพาทซึ่งเป็นที่ดินมือเปล่า แม้จำเลยไปขอออกหนังสือรับรองการทำประโยชน์และเจ้าพนักงานที่ดินได้ออกให้แล้วด้วยความเข้าใจผิดว่าจำเลยมีสิทธิโจทก์ก็จะขอบังคับจำเลยให้ไปจดทะเบียนเปลี่ยนชื่อจากจำเลยเป็นชื่ออ. หากไม่ปฏิบัติตามให้ถือเอาคำพิพากษาแทนการแสดงเจตนามิได้เพราะหนังสือรับรองการทำประโยชน์ในที่ดิน พิพาทออกมาโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย ศาลชอบที่จะเพิกถอนให้ได้เท่านั้น เป็นเรื่องที่ อ.จะไปดำเนินการขอออกหนังสือรับรองการทำประโยชน์ในที่ดินพิพาทเอง.
(อ้างคำพิพากษาฎีกาที่ 3661/2525).

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5904/2533

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิครอบครองที่ดิน: การเพิกถอนหนังสือรับรองการทำประโยชน์ที่ออกโดยไม่ชอบ และหน้าที่ของผู้มีสิทธิในการดำเนินการออกหนังสือรับรองใหม่
อ. เป็นผู้มีสิทธิครอบครองที่ดินพิพาทซึ่งเป็นที่ดินมือเปล่า แม้จำเลยไปขอออกหนังสือรับรองการทำประโยชน์และเจ้าพนักงานที่ดินได้ออกให้แล้วด้วยความเข้าใจผิดว่าจำเลยมีสิทธิโจทก์ก็จะขอบังคับจำเลยให้ไปจดทะเบียนเปลี่ยนชื่อจากจำเลยเป็นชื่ออ. หากไม่ปฏิบัติตามให้ถือเอาคำพิพากษาแทนการแสดงเจตนามิได้เพราะหนังสือรับรองการทำประโยชน์ในที่ดินพิพาทออกมาโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย ศาลชอบที่จะเพิกถอนให้ได้เท่านั้น เป็นเรื่องที่ อ.จะไปดำเนินการขอออกหนังสือรับรองการทำประโยชน์ในที่ดินพิพาทเอง. (อ้างคำพิพากษาฎีกาที่ 3661/2525).

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5549/2533

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การได้กรรมสิทธิ์ในที่ดินจากการครอบครองหลังการยกให้และเงื่อนไขไม่สมบูรณ์
ห.คงมีแต่เพียงสิทธิครอบครองในที่ดินพิพาทเท่านั้นขณะที่ยกที่ดินดังกล่าวให้จำเลย เมื่อ ห.ส่งมอบการครอบครองที่ดินพิพาทให้จำเลยเข้าครอบครอง ถือได้ว่าสละเจตนาที่จะครอบครองที่ดินดังกล่าว และการยกให้มีผลสมบูรณ์ทันที ไม่ต้องไปจดทะเบียนทำนิติกรรมการยกให้ต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ จำเลยย่อมได้สิทธิครอบครองที่ดินพิพาท หลังจาก ห.ยกที่ดินพิพาทให้จำเลยแล้ว ได้มีการออกโฉนดสำหรับที่ดินพิพาทในนามของ ห.แม้ห.ยังมิได้จดทะเบียนโอนให้จำเลย แต่จำเลยได้ครอบครองที่ดินดังกล่าวโดยสงบเปิดเผย และด้วยเจตนาเป็นเจ้าของมาตลอดจนถึงวันที่โจทก์ฟ้องเรียกคืนเป็นเวลากว่า10 ปีแล้ว จำเลยจึงได้กรรมสิทธิ์ในที่ดินพิพาทโดยการครอบครองตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1382

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5549/2533 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การครอบครองปรปักษ์และการโอนสิทธิครอบครองที่ดิน แม้ไม่มีการจดทะเบียน ก็สามารถทำให้ได้กรรมสิทธิ์
ห.คงมีแต่เพียงสิทธิครอบครองในที่ดินพิพาทเท่านั้น ขณะที่ยกที่ดินดังกล่าวให้จำเลย เมื่อ ห.ส่งมอบการครอบครองที่ดินพิพาทให้จำเลยเข้าครอบครอง ถือได้ว่าสละเจตนาที่จะครอบครองที่ดินดังกล่าว และการยกให้มีผลสมบูรณ์ทันที ไม่ต้องไปจดทะเบียนทำนิติกรรมการยกให้ต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ จำเลยย่อมได้สิทธิครอบครองที่ดินพิพาท
หลังจาก ห.ยกที่ดินพิพาทให้จำเลยแล้ว ได้มีการออกโฉนดสำหรับที่ดินพิพาทในนามของ ห. แม้ ห.ยังมิได้จดทะเบียนโอนให้จำเลย แต่จำเลยได้ครอบครองที่ดินดังกล่าวโดยสงบเปิดเผย และด้วยเจตนาเป็นเจ้าของมาตลอดจนถึงวันที่โจทก์ฟ้องเรียกคืนเป็นเวลากว่า 10 ปีแล้วจำเลยจึงได้กรรมสิทธิ์ในที่ดินพิพาทโดยการครอบครองตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา1382
of 112