พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,118 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2963/2531
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การได้มาซึ่งที่ดินมือเปล่าโดยการซื้อขายและยกให้ การครอบครองโดยสละสิทธิเดิม
ท. ขายและยกที่ดินพิพาทให้โจทก์ แม้การซื้อขายและยกให้ซึ่งที่พิพาทจะไม่มีการทำหลักฐานเป็นหนังสือ แต่ที่พิพาทเป็นที่ดินมือเปล่าเมื่อโจทก์เข้าครอบครองโดยเจ้าของเดิมได้สละสิทธิครอบครองของตนให้แล้วโจทก์ย่อมได้สิทธิครอบครองในที่พิพาท และหาใช่การครอบครองแทนจำเลยไม่.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2963/2531 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การได้มาซึ่งสิทธิครอบครองที่ดินมือเปล่าจากการซื้อขายและยกให้ แม้ไม่มีหลักฐานเป็นหนังสือ
ท. ขายและยกที่ดินพิพาทให้โจทก์ แม้การซื้อขายและยกให้ซึ่งที่พิพาทจะไม่มีการทำหลักฐานเป็นหนังสือ แต่ที่พิพาทเป็นที่ดินมือเปล่า เมื่อโจทก์เข้าครอบครองโดยเจ้าของเดิมได้สละสิทธิครอบครองของตนให้แล้ว โจทก์ย่อมได้สิทธิครอบครองในที่พิพาท และหาใช่การครอบครองแทนจำเลยไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2832/2531 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิครอบครองที่ดินพิพาทเมื่อมีการครอบครองร่วมกันและสิทธิทางมรดก การซื้อขายที่ดินโดยไม่ชอบ
เดิม ท. กับจำเลยเป็นผู้ครอบครองที่ดินพิพาทร่วมกันถือได้ว่าต่างมีสิทธิครอบครองคนละครึ่ง เมื่อ ท. ตายสิทธิครอบครองในส่วนของ ท. ย่อมเป็นมรดกตกทอดแก่ ว. ผู้เป็นบุตร แม้ ว. จะมิได้เข้าครอบครองก็ตามก็ถือได้ว่าจำเลยเป็นผู้ครอบครองแทน ว. ตลอดมา การที่ ส.ค. 1 มีชื่อ ท.ถือสิทธิครอบครองเพียงผู้เดียว ก็จะถือว่า ท. ตลอดทั้ง ว. ผู้สืบสิทธิทางมรดกมีสิทธิครอบครองที่ดินพิพาทแต่ผู้เดียวหาได้ไม่ เมื่อ ว. มีสิทธิครอบครองเพียงครึ่งหนึ่งแต่ไปขอออกหนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส.3 ก.) สำหรับที่ดินพิพาททั้งแปลงเป็นของ ว. ผู้เดียว จึงไม่ชอบ การจดทะเบียนสิทธิใด ๆ ใน น.ส.3 ก. ที่ทำขึ้นย่อมไม่มีผลในกฎหมายแม้โจทก์ทำสัญญาซื้อขายที่ดินพิพาทมาจาก ว. โดยจดทะเบียนใน น.ส.3 ก. ก็ตาม ก็ไม่ทำให้ได้สิทธิครอบครองในที่ดินพิพาทจึงไม่มีอำนาจฟ้องขับไล่จำเลยผู้ครอบครองที่ดินพิพาทนั้นอยู่.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2832/2531
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิครอบครองที่ดินพิพาท การซื้อขายที่ดินที่ไม่ชอบ และผลกระทบต่อสิทธิของผู้ซื้อ
เดิม ท. กับจำเลยเป็นผู้ครอบครองที่ดินพิพาทร่วมกันถือได้ว่าต่างมีสิทธิครอบครองคนละครึ่ง เมื่อ ท. ตายสิทธิครอบครองในส่วนของ ท.ย่อมเป็นมรดกตกทอดแก่ว. ผู้เป็นบุตร แม้ ว. จะมิได้เข้าครอบครองก็ตามก็ถือได้ว่าจำเลยเป็นผู้ครอบครองแทน ว.ตลอดมาการที่ส.ค.1มีชื่อท.ถือสิทธิครอบครองเพียงผู้เดียว ก็จะถือว่า ท. ตลอดทั้งว. ผู้สืบสิทธิทางมรดกมีสิทธิครอบครองที่ดินพิพาทแต่ผู้เดียวหาได้ไม่ เมื่อ ว. มีสิทธิครอบครองเพียงครึ่งหนึ่งแต่ไปขอออกหนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส.3 ก.) สำหรับที่ดินพิพาททั้งแปลงเป็นของ ว. ผู้เดียว จึงไม่ชอบ การจดทะเบียนสิทธิใด ๆ ใน น.ส.3 ก. ที่ทำขึ้นย่อมไม่มีผลในกฎหมายแม้โจทก์ทำสัญญาซื้อขายที่ดินพิพาทมาจาก ว. โดยจดทะเบียนใน น.ส.3 ก. ก็ตาม ก็ไม่ทำให้ได้สิทธิครอบครองในที่ดินพิพาทจึงไม่มีอำนาจฟ้องขับไล่จำเลยผู้ครอบครองที่ดินพิพาทนั้นอยู่.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2832/2531 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิครอบครองที่ดินร่วม สิทธิครอบครองจากมรดก การออก น.ส.3ก. ที่ไม่ชอบ และผลของการซื้อขายที่ดิน
เดิม ท.กับจำเลยเป็นผู้ครอบครองที่ดินพิพาทร่วมกัน ถือได้ว่าต่างมีสิทธิครอบครองคนละครึ่ง เมื่อ ท.ตายสิทธิครอบครองในส่วนของ ท.ย่อมเป็นมรดกตกทอดแก่ว.ผู้เป็นบุตรแม้ว.จะมิได้เข้าครอบครองก็ตามก็ถือได้ว่าจำเลยเป็นผู้ครอบครองแทนว.ตลอดมาการที่ส.ค.1มีชื่อท.ถือสิทธิครอบครองเพียงผู้เดียว ก็จะถือว่า ท.ตลอดทั้งว. ผู้สืบสิทธิทางมรดกมีสิทธิครอบครองที่ดินพิพาทแต่ผู้เดียวหาได้ไม่ เมื่อ ว. มีสิทธิครอบครองเพียงครึ่งหนึ่งแต่ไปขอออกหนังสือรับรองการทำประโยชน์(น.ส.3ก.) สำหรับที่ดินพิพาท ทั้งแปลงเป็นของ ว. ผู้เดียวจึงไม่ชอบ การจดทะเบียนสิทธิใด ๆ ใน น.ส.3ก. ที่ทำขึ้นย่อมไม่มีผลในกฎหมาย แม้โจทก์ทำสัญญาซื้อขายที่ดินพิพาทมาจาก ว. โดยจดทะเบียนใน น.ส.3ก. ก็ตามก็ไม่ทำให้ได้สิทธิครอบครองในที่ดินพิพาท จึงไม่มีอำนาจฟ้องขับไล่จำเลยผู้ครอบครองที่ดินพิพาทนั้นอยู่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2831/2531 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การสละเจตนาครอบครองที่ดินหลังทำสัญญาซื้อขาย ทำให้ผู้ซื้อได้สิทธิครอบครอง
บ. ทำสัญญาขายที่ดินมีหนังสือรับรองการทำประโยชน์ให้แก่โจทก์แต่ขณะทำสัญญา บ. ป่วยไม่สามารถไปจัดการโอนได้ และได้มอบที่ดินให้โจทก์เข้าครอบครองนับแต่วันทำสัญญา การที่ บ. ยอมให้โจทก์เข้าครอบครองที่ดินดังกล่าวนับเป็นการสละเจตนาครอบครองและไม่ยึดถือที่ดินนั้นต่อไป ดังนั้น ที่โจทก์ได้เข้าครอบครองที่ดินต่อมาจึงเป็นการยึดถือโดยเจตนาจะยึดถือเพื่อตน โจทก์ย่อมได้สิทธิครอบครอง.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2831/2531 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การครอบครองที่ดินโดยเจตนาจะยึดถือเพื่อตนหลังทำสัญญาซื้อขายและผู้ขายมอบการครอบครอง
บ.ทำสัญญาขายที่ดินมีหนังสือรับรองการทำประโยชน์ให้แก่โจทก์ แต่ขณะทำสัญญา บ. ป่วยไม่สามารถไปจัดการโอนได้และได้มอบที่ดินให้โจทก์เข้าครอบครองนับแต่วันทำสัญญา การที่ บ.ยอมให้โจทก์เข้าครอบครองที่ดินดังกล่าวนับเป็นการสละเจตนาครอบครองและไม่ยึดถือที่ดินนั้นต่อไป ดังนั้น ที่โจทก์ได้เข้าครอบครองที่ดินต่อมาจึงเป็นการยึดถือโดยเจตนาจะยึดถือเพื่อตน โจทก์ย่อมได้สิทธิครอบครอง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2831/2531
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การโอนสิทธิครอบครองที่ดินจากการทำสัญญาซื้อขายและการเข้าครอบครอง ยืนสิทธิผู้ซื้อเมื่อผู้ขายสละเจตนา
บ. ทำสัญญาขายที่ดินมีหนังสือรับรองการทำประโยชน์ให้แก่โจทก์แต่ขณะทำสญญา บ. ป่วยไม่สามารถไปจัดการโอนได้ และได้มอบที่ดินให้โจทก์เข้าครอบครองนับแต่วันทำสัญญา การที่บ. ยอมให้โจทก์เข้าครอบครองที่ดินดังกล่าวนับเป็นการสละเจตนาครอบครองและไม่ยึดถือที่ดินนั้นต่อไป ดังนั้น ที่โจทก์ได้เข้าครอบครองที่ดินต่อมาจึงเป็นการยึดถือโดยเจตนาจะยึดถือเพื่อตน โจทก์ย่อมได้สิทธิครอบครอง.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2283/2531
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาจะซื้อจะขายที่ดิน: สิทธิครอบครองเกิดขึ้นเมื่อชำระราคาครบถ้วน การครอบครองก่อนชำระราคาครบถ้วนเป็นการครอบครองแทน
โจทก์ซื้อที่ดินพิพาทซึ่งเป็นที่ดินไม่มีหนังสือสำคัญจาก ช.โดยสัญญามีข้อความว่า "ตามราคาเงินผู้ซื้อได้ตกลงชำระให้กับผู้ขาย 2,000 บาทถ้วน เหลือค้างอยู่ 6,000 บาท ผู้ซื้อยอมชำระให้กับผู้ขายเมื่อทำการโอนกันให้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว" และมีบันทึกในสัญญาว่า "วันที่ 29 ตุลาคม 2507 ให้ไว้อีก 1,500 บาท" ดังนี้สัญญาระหว่าง ช. กับโจทก์ เป็นเพียงสัญญาจะซื้อจะขายที่ดินพิพาทเมื่อโจทก์ยังไม่ได้ชำระราคาที่เหลือให้ ช. แม้โจทก์จะครอบครองทำประโยชน์ในที่ดินพิพาทมานานเพียงไรก็ยังไม่ได้สิทธิครอบครองเพราะการครอบครองของโจทก์เป็นการครอบครองแทน ช. โจทก์จึงไม่มีสิทธิบังคับให้จำเลยซึ่งเป็นทายาทของ ช. จดทะเบียนโอนสิทธิครอบครองในที่ดินพิพาทแก่โจทก์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2283/2531 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาจะซื้อจะขายที่ดิน: สิทธิครอบครองเกิดขึ้นเมื่อชำระราคาครบถ้วน การครอบครองก่อนชำระราคาครบถ้วนเป็นการครอบครองแทน
โจทก์ซื้อที่ดินพิพาทซึ่งเป็นที่ดินไม่มีหนังสือสำคัญจาก ช.โดยสัญญามีข้อความว่า "ตามราคาเงินผู้ซื้อได้ตกลงชำระให้กับผู้ขาย 2,000 บาทถ้วน เหลือค้างอยู่ 6,000 บาท ผู้ซื้อยอมชำระให้กับผู้ขายเมื่อทำการโอนกันให้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว" และมีบันทึกในสัญญาว่า "วันที่ 29 ตุลาคม 2507 ให้ไว้อีก 1,500 บาท" ดังนี้สัญญาระหว่าง ช. กับโจทก์ เป็นเพียงสัญญาจะซื้อจะขายที่ดินพิพาทเมื่อโจทก์ยังไม่ได้ชำระราคาที่เหลือให้ ช. แม้โจทก์จะครอบครองทำประโยชน์ในที่ดินพิพาทมานานเพียงไรก็ยังไม่ได้สิทธิครอบครอง เพราะการครอบครองของโจทก์เป็นการครอบครองแทน ช. โจทก์จึงไม่มีสิทธิบังคับให้จำเลยซึ่งเป็นทายาทของ ช. จดทะเบียนโอนสิทธิครอบครองในที่ดินพิพาทแก่โจทก์