พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,118 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2871/2523
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจฟ้องคดีเกี่ยวกับที่ดินในเขตป่าสงวนฯ บุคคลไม่มีสิทธิยึดถือครอบครองย่อมไม่มีอำนาจให้เช่าหรือฟ้องขับไล่
ที่พิพาทอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ โจทก์ซึ่งเป็นบุคคลธรรมดาไม่มีอำนาจนำที่พิพาทให้จำเลยเช่าจึงไม่มีอำนาจฟ้องขับไล่จำเลยออกจากที่พิพาทและเรียกค่าเช่าจากจำเลย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2745/2523
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ที่ดินในเขตป่าสงวนฯ ไม่อาจโอนได้ การกระทำไม่ถึงฐานโกงเจ้าหนี้
แม้จำเลยที่ 1 และที่ 2 จะเป็นผู้ครอบครองที่ดินซึ่งอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดิน จำเลยทั้งสองก็ไม่มีสิทธิครอบครองอันจะนำไปโอนให้แก่จำเลยที่ 3 หรือบุคคลอื่นได้ตามกฎหมาย การกระทำของจำเลยทั้งสามจึงไม่เป็นความผิดฐานโกงเจ้าหนี้ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 350
เมื่อศาลฎีกาวินิจฉัยว่าการกระทำของจำเลยไม่เป็นความผิดแล้ว ที่จำเลยฎีกาว่าศาลอุทธรณ์วินิจฉัยนอกฟ้องอุทธรณ์ของโจทก์จึงเป็นปัญหาข้อกฎหมายที่ไม่เป็นสาระแก่คดีอันควรได้รับการวินิจฉัย
เมื่อศาลฎีกาวินิจฉัยว่าการกระทำของจำเลยไม่เป็นความผิดแล้ว ที่จำเลยฎีกาว่าศาลอุทธรณ์วินิจฉัยนอกฟ้องอุทธรณ์ของโจทก์จึงเป็นปัญหาข้อกฎหมายที่ไม่เป็นสาระแก่คดีอันควรได้รับการวินิจฉัย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2745/2523 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ที่ดินในเขตป่าสงวนแห่งชาติ การโอนไม่ชอบด้วยกฎหมาย ไม่เป็นความผิดฐานโกงเจ้าหนี้
แม้จำเลยที่ 1 และที่ 2 จะเป็นผู้ครอบครองที่ดินซึ่งอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดิน จำเลยทั้งสองก็ไม่มีสิทธิครอบครองอันจะนำไปโอนให้แก่จำเลยที่ 3 หรือบุคคลอื่นได้ตามกฎหมาย การกระทำของจำเลยทั้งสามจึงไม่เป็นความผิดฐานโกงเจ้าหนี้ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 350
เมื่อศาลฎีกาวินิจฉัยว่าการกระทำของจำเลยไม่เป็นความผิดแล้ว ที่จำเลยฎีกาว่าศาลอุทธรณ์วินิจฉัยนอกฟ้องอุทธรณ์ของโจทก์ จึงเป็นปัญหาข้อกฎหมายที่ไม่เป็นสาระแก่คดีอันควรได้รับการวินิจฉัย
เมื่อศาลฎีกาวินิจฉัยว่าการกระทำของจำเลยไม่เป็นความผิดแล้ว ที่จำเลยฎีกาว่าศาลอุทธรณ์วินิจฉัยนอกฟ้องอุทธรณ์ของโจทก์ จึงเป็นปัญหาข้อกฎหมายที่ไม่เป็นสาระแก่คดีอันควรได้รับการวินิจฉัย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2689/2523
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิครอบครองที่ดินพิพาท - ป่าสงวน - การฟ้องขับไล่
เมื่อโจทก์เป็นผู้มีสิทธิครอบครองในที่ดินพิพาทการที่จำเลยบุกรุกเข้ามาทำประโยชน์ ปลูกข้าวโพด ถั่วเหลือง ในที่พิพาทโดยไม่ได้รับอนุญาต จึงเป็นการกระทำละเมิดต่อโจทก์แต่ที่ดินซึ่งเป็นป่าสงวนแห่งชาตินั้น โจทก์ไม่อาจยึดถือหรือครอบครองได้ เมื่อจำเลยเป็นฝ่ายครอบครองอยู่โจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้องขับไล่จำเลย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1367/2523
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิการครอบครองบ้านและการเช่าที่ดิน กรณีจำเลยต่อเติมโดยพลการ
โจทก์ครอบครองบ้านของบิดาอยู่ก่อนบิดายกบ้านนั้นให้โจทก์และโอนสิทธิการเช่าที่ดินให้โจทก์ โจทก์ทำสัญญาเช่ากับผู้ให้เช่าที่ดินโจทก์ไม่ประสงค์ให้จำเลยซึ่งอาศัยบิดาอยู่ด้วยเพราะต่อเติมบ้านโดยพลการโจทก์ฟ้องขับไล่จำเลยได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1246/2523
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การรบกวนการครอบครองและการใช้ทรัพย์สิน การละเมิดสิทธิในทรัพย์สิน และสิทธิในการใช้ประเพณีท้องถิ่น
โจทก์จำเลยทำนาเกลือโดยต่างขุดลำรางชักน้ำจากทะเลสู่นาเกลือของตน แม้จำเลยเคยขุดลอกลำรางของโจทก์ ก็เพื่อความสะดวกในการชักน้ำเป็นครั้งคราวกรณียังฟังไม่ได้ว่าจำเลยยึดถือเพื่อตน จำเลยจึงไม่ได้สิทธิครอบครองลำรางของโจทก์
การที่จำเลยขุดฝังท่อลอดใต้ลำรางของโจทก์โดยไม่ได้รับอนุญาตย่อมเป็นการรบกวนการครอบครองและการใช้ทรัพย์ของโจทก์ เป็นการกระทำโดยจงใจให้โจทก์ได้รับความเสียหาย หรือมีแต่จะเกิดความเสียหายแก่โจทก์ถือได้ว่าเป็นการละเมิดสิทธิของโจทก์ จำเลยจะอ้างว่ามีสิทธิทำได้ตามประเพณีแห่งท้องถิ่นไม่ได้
การที่จำเลยขุดฝังท่อลอดใต้ลำรางของโจทก์โดยไม่ได้รับอนุญาตย่อมเป็นการรบกวนการครอบครองและการใช้ทรัพย์ของโจทก์ เป็นการกระทำโดยจงใจให้โจทก์ได้รับความเสียหาย หรือมีแต่จะเกิดความเสียหายแก่โจทก์ถือได้ว่าเป็นการละเมิดสิทธิของโจทก์ จำเลยจะอ้างว่ามีสิทธิทำได้ตามประเพณีแห่งท้องถิ่นไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 777/2523
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การได้สิทธิครอบครองโดยอายุความ แม้พินัยกรรมไม่สมบูรณ์ โจทก์ครอบครองเพื่อตนเอง ไม่ใช่แทนทายาท
บ.ซึ่งเป็นบิดาจำเลยทำพินัยกรรมยกนาพิพาทให้โจทก์โจทก์ได้เข้าครอบครองทำนาพิพาทตั้งแต่นั้นมา แม้พินัยกรรมจะไม่สมบูรณ์โจทก์ไม่ได้สิทธิตามพินัยกรรม แต่เมื่อบ.ตายโจทก์ได้ครอบครองที่พิพาทเพื่อตนเอง ไม่ได้ครอบครองแทนทายาทของ บ.. โจทก์ย่อมได้สิทธิครอบครองโดยไม่จำต้องบอกกล่าวเปลี่ยนลักษณะแห่งการยึดถือ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 777/2523 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การได้สิทธิครอบครองโดยไม่จำต้องบอกกล่าวเปลี่ยนลักษณะการยึดถือ แม้พินัยกรรมไม่สมบูรณ์ หากครอบครองเพื่อตนเองหลังผู้ยกมรดกเสียชีวิต
บ.ซึ่งเป็นบิดาจำเลยทำพินัยกรรมยกนาพิพาทให้โจทก์ โจทก์ได้เข้าครอบครองทำนาพิพาทตั้งแต่นั้นมา แม้พินัยกรรมจะไม่สมบูรณ์ไม่ได้สิทธิตามพินัยกรรม แต่เมื่อ บ.ตายโจทก์ได้ครอบครองที่พิพาทเพื่อตนเอง ไม่ได้ครอบครองแทนทายาทของบ. โจทก์ย่อมได้สิทธิครอบครองโดยไม่จำต้องบอกกล่าวเปลี่ยนลักษณะแห่งการยึดถือ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 529/2523
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความรับผิดจากทรัพย์อันตราย การประมาทเลินเล่อของผู้ผลิตไฟฟ้าและผู้ต้องเสียหาย
กระแสไฟฟ้าเป็นทรัพย์อันเกิดอันตรายได้โดยสภาพ ซึ่งการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคจำเลยผู้ผลิตและจำหน่ายเป็นผู้มีไว้ในครอบครองจะต้องรับผิดชอบเพื่อการเสียหายที่เกิดขึ้นตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา437 การที่กระแสไฟฟ้าลัดวงจรไหม้ทรัพย์สินของโจทก์เพราะเหตุที่ต้นมะพร้าวอยู่ใกล้ชิดกับแนวสายไฟฟ้าเป็นเหตุให้ทางมะพร้าวพาดไปถูกสายไฟฟ้าเมื่อมีลมพัด มิใช่เหตุสุดวิสัยเพราะจำเลยอาจป้องกันได้ถ้าตัดต้นมะพร้าวหรือแจ้งให้โจทก์ตัดอันเป็นหน้าที่จำเลย แต่โจทก์ไม่สนใจตัดต้นมะพร้าวในที่ดินที่โจทก์เช่าหรือแจ้งให้จำเลยตัดถือได้ว่าโจทก์มีส่วนทำความผิดก่อให้เกิดความเสียหายด้วยไม่ยิ่งหย่อนกว่าจำเลยที่ 1 จำเลยที่ 1 จึงควรรับผิดในความเสียหายที่เกิดขึ้นเพียงครึ่งหนึ่ง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 478/2523
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความรับผิดของผู้จำหน่ายไฟฟ้าเมื่อสายไฟฟ้าชำรุดเป็นเหตุให้เกิดอันตรายต่อประชาชน มิใช่เหตุสุดวิสัย
จำเลยเป็นผู้จำหน่ายและครอบครองกระแสไฟฟ้าซึ่งพาดสายไปตามถนน มีหน้าที่ ๆ จะต้องระมัดระวังมิให้สายไฟฟ้าชำรุดบกพร่องอันจะเกิดอันตรายแก่ประชาชน เมื่อจำเลยละเลยไม่ตรวจตราดูแลแก้ไขให้สายไฟฟ้าอยู่ในสภาพดีอยู่ตลอดเวลาจนเกิดมีการตายเพราะถูกกระแสไฟฟ้า จึงไม่ใช่เหตุสุดวิสัย จำเลยจึงต้องรับผิด