พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,118 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 516/2506
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อายุความครอบครองที่ดิน: การยินยอมสอบเขตไม่ถือเป็นการแย่งการครอบครอง
ที่ดินของโจทก์และจำเลยอยู่ติดกันและเป็นที่ดินมีแต่ใบไต่สวน โจทก์หาว่าจำเลยบุกรุกที่ดินตรงที่พิพาทอำเภอเปรียบเทียบแล้วตกลงกันไม่ได้ อำเภอสั่งให้ทั้งสองฝ่ายไปขอสอบเขต เมื่อปรากฏแน่แล้วว่าเป็นของใครก็จะคืนให้กัน และให้ฝ่ายรุกล้ำเสียค่าเสียหายเป็นข้าวคิดเป็นรายปี ได้ทำบันทึกข้อตกลงกันนี้ไว้และจำเลยเป็นฝ่ายครอบครองที่พิพาทนับแต่นั้นตลอดมา การที่จำเลยยึดถือที่พิพาทนับแต่นั้นย่อมมิใช่เป็นการยึดถือเพื่อแย่งการครอบครองโจทก์จึงไม่จำต้องฟ้องภายใน 1 ปีและในปีต่อๆ มาเมื่อโจทก์นำรังวัดและจำเลยคัดค้านแม้จะเป็นการไม่ยอมรับนับถือสิทธิของโจทก์แต่ก็มิใช่ถือเอาเป็นแน่ว่าที่พิพาทเป็นของจำเลยทีเดียวแม้จะล่วงเลยมาหลายปี แต่ก็ยังอยู่ในระหว่างที่ทั้งสองฝ่ายยินยอมให้สอบเขตตามข้อตกลงดังกล่าวแล้วจำเลยจึงยกเอาเวลาที่ล่วงเลยมานั้นมาตัดฟ้องว่าฟ้องโจทก์ขาดอายุความไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 508/2506 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิผู้ซื้อที่ดินจากการขายทอดตลาด แม้ยังไม่ได้จดทะเบียนโอน ย่อมมีอำนาจฟ้องขับไล่ผู้ครอบครอง
ผู้ซื้อที่ดินจากการขายทอดตลาดตามคำสั่งศาลไว้โดยสุจริต ถึงแม้จะยังไม่ได้ทำนิติกรรมโอนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ ผู้ซื้อย่อมมีสิทธิและมีอำนาจฟ้องขับไล่ผู้ที่อาศัยอยู่ในที่ดินนั้นให้ออกไปได้
ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1330 เป็นบทกฎหมายกำหนดเรื่องการขายทอดตลาดทรัพย์ตามคำสั่งศาลไว้เป็นกรณีพิเศษ ไม่อยู่ในข่ายของการซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ทั่วไปดังที่ได้บัญญัติเรื่องแบบนิติกรรมไว้ตามมาตรา 456
ผู้ครอบครองที่ดินจะรู้หรือไม่ว่ามีการขายทอดตลาดก็หาเป็นเหตุที่จะยกขึ้นต่อสู้สิทธิของผู้ซื้อที่ดินจากการขายทอดตลาดตามคำสั่งศาลได้ไม่
ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1330 เป็นบทกฎหมายกำหนดเรื่องการขายทอดตลาดทรัพย์ตามคำสั่งศาลไว้เป็นกรณีพิเศษ ไม่อยู่ในข่ายของการซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ทั่วไปดังที่ได้บัญญัติเรื่องแบบนิติกรรมไว้ตามมาตรา 456
ผู้ครอบครองที่ดินจะรู้หรือไม่ว่ามีการขายทอดตลาดก็หาเป็นเหตุที่จะยกขึ้นต่อสู้สิทธิของผู้ซื้อที่ดินจากการขายทอดตลาดตามคำสั่งศาลได้ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 508/2506
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิผู้ซื้อที่ดินจากการขายทอดตลาด แม้ยังไม่ได้ทำนิติกรรมโอน ย่อมมีอำนาจฟ้องขับไล่ผู้ครอบครอง
ผู้ซื้อที่ดินจากการขายทอดตลาดตามคำสั่งศาลไว้โดยสุจริตถึงแม้จะยังไม่ได้ทำนิติกรรมโอนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ผู้ซื้อย่อมมีสิทธิและมีอำนาจฟ้องขับไล่ผู้ที่อาศัยอยู่ในที่ดินนั้นให้ออกไปได้
ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1330 เป็นบทกฎหมายกำหนดเรื่องการขายทอดตลาดทรัพย์ตามคำสั่งศาลไว้เป็นกรณีพิเศษไม่อยู่ในข่ายของการซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ทั่วไปดังที่ได้บัญญัติเรื่องแบบนิติกรรมไว้ตามมาตรา 456
ผู้ครอบครองที่ดินจะรู้หรือไม่ว่ามีการขายทอดตลาดก็หาเป็นเหตุที่จะยกขึ้นต่อสู้สิทธิของผู้ซื้อที่ดินจากการขายทอดตลาดตามคำสั่งศาลได้ไม่
ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1330 เป็นบทกฎหมายกำหนดเรื่องการขายทอดตลาดทรัพย์ตามคำสั่งศาลไว้เป็นกรณีพิเศษไม่อยู่ในข่ายของการซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ทั่วไปดังที่ได้บัญญัติเรื่องแบบนิติกรรมไว้ตามมาตรา 456
ผู้ครอบครองที่ดินจะรู้หรือไม่ว่ามีการขายทอดตลาดก็หาเป็นเหตุที่จะยกขึ้นต่อสู้สิทธิของผู้ซื้อที่ดินจากการขายทอดตลาดตามคำสั่งศาลได้ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 390/2506
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การยินยอมให้ปลูกรั้วรุกล้ำที่ดินไม่ได้ทำให้เกิดสิทธิครอบครองปรปักษ์ เจ้าของที่ดินมีสิทธิรื้อถอนได้ทันที
การที่โจทก์ยินยอมอนุญาตให้รั้วของจำเลยยังคงรุกล้ำที่ดินของโจทก์อยู่ได้ต่อไปนั้นจำเลยจะอ้างการครอบครองปรปักษ์ขึ้นเป็นข้อต่อสู้กรรมสิทธิ์ในที่ดินต่อโจทก์หาได้ไม่และเมื่อใดโจทก์ไม่มีความประสงค์จะให้รั้วของจำเลยคงอยู่ในที่ดินของโจทก์ต่อไปแล้ว โจทก์ก็ฟ้องขอให้ศาลบังคับจำเลยรื้อถอนรั้วนั้นออกไปจากที่ดินของโจทก์ได้ทันที หาจำต้องบอกกล่าวแก่จำเลยก่อนฟ้องไม่
โจทก์ฟ้องให้จำเลยรื้อรั้วที่อนุญาตให้สร้างอยู่ในที่ดินของโจทก์ออกไป จำเลยรับสำเนาฟ้องแล้วไม่ยอมรื้อรั้วกลับต่อสู้คดีดังนี้ ถือว่าจำเลยทำละเมิดต่อโจทก์นับแต่วันรับสำเนาฟ้องเป็นต้นไป
โจทก์ฟ้องให้จำเลยรื้อรั้วที่อนุญาตให้สร้างอยู่ในที่ดินของโจทก์ออกไป จำเลยรับสำเนาฟ้องแล้วไม่ยอมรื้อรั้วกลับต่อสู้คดีดังนี้ ถือว่าจำเลยทำละเมิดต่อโจทก์นับแต่วันรับสำเนาฟ้องเป็นต้นไป
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 390/2506 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
รั้วรุกล้ำที่ดิน: ยินยอม ≠ ครอบครองปรปักษ์ เจ้าของที่ดินมีสิทธิรื้อถอนได้ทันทีเมื่อต้องการ
การที่โจทก์ยินยอมอนุญาตให้รั้วของจำเลยยังคงรุกล้ำที่ดินของโจทก์อยู่ได้ต่อไปนั้น จำเลยจะอ้างการครอบครองปกปักษ์ขึ้นเป็นข้อต่อสู้กรรมสิทธิ์ในที่ดินต่อโจทก์หาได้ไม่ และเมื่อใดโจทก์ไม่มีความประสงค์จะให้รั้วของจำเลยคงอยู่ในที่ดินของโจทก์ต่อไปแล้ว โจทก์ก็ฟ้องขอให้ศาลบังคับจำเลยรื้อถอนรั้วออกไปจากที่ดินของโจทก์ได้ทันที หาจำต้องบอกกล่าวแก่จำเลยก่อนฟ้องไม่
โจทก์ฟ้องให้จำเลรื้อรั้วที่อนุญาตให้สร้งอยู่ในที่ดินของโจทก์ออกไป จำเลยรับสำเนาฟ้องแล้วไม่ยอมรื้อรั้วกลับต่อสู้คดี ดังนี้ ถือว่าจำเลยทำละเมิดต่อโจทก์นับแต่วันรับสำเนาฟ้องเป็นต้นไป
โจทก์ฟ้องให้จำเลรื้อรั้วที่อนุญาตให้สร้งอยู่ในที่ดินของโจทก์ออกไป จำเลยรับสำเนาฟ้องแล้วไม่ยอมรื้อรั้วกลับต่อสู้คดี ดังนี้ ถือว่าจำเลยทำละเมิดต่อโจทก์นับแต่วันรับสำเนาฟ้องเป็นต้นไป
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1649/2505
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การยึดถือแทน vs. ยึดถือเพื่อตน: การบอกกล่าวเปลี่ยนแปลงฐานะสำคัญต่อการเริ่มนับระยะเวลาการครอบครองปรปักษ์
จำเลยขออาศัยอยู่ในที่ดินของโจทก์ จึงต้องถือว่าจำเลยยึดถือที่ดินในฐานะเป็นผู้แทนโจทก์ หากจำเลยยึดถือที่ดินในฐานะเป็นผู้แทนโจทก์ หากจำเลยจะเปลี่ยนลักษณะแพ่งการยึดถือเป็นเพื่อตน ก็ต้องบอกกล่าวไปยังโจทก์ว่าไม่เจตนาจะยึกถือที่ดินแทนโจทก์ต่อไปเสียก่อน การเปลี่ยนเจตนายึดถือโดยไม่บอกกล่าว ไม่มีผลให้เปลี่ยนแปลงฐานะจากยึดถือแทนไปได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 794/2505 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การครอบครองที่ดินหลังยอมความ ศาลตัดสินว่าการยอมความยังไม่ทำให้สิทธิครอบครองเปลี่ยนมือ
สามีของจำเลยทำยอมความโอนที่ดินมือเปล่าซึ่งจำเลยและสามีเป็นเจ้าของร่วมกันตีใช้หนี้ให้ผู้ร้อง โดยจะไปโอนทะเบียนให้ ซึ่งศาลพิพากษาตามยอมแล้วนั้น ถือได้ว่ามีเจตนาเพียงจะสละการครอบครองเท่านั้น หากผู้ร้องยังมิได้เข้าครอบครองที่ดินแล้ว ผู้ร้องก็ยังไม่ได้ที่ดินดังกล่าวโดยการครอบครองแต่อย่างใด สิทธิครอบครองที่ดินยังอยู่กับจำเลยและสามีเจ้าหน้อื่นของจำเลยจึงมีสิทธิยึดที่ดินนั้นขายชำระหนี้ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 938/2503
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
กรรมสิทธิ์ร่วมในสินสมรส: การยึดทรัพย์และการปล่อยทรัพย์
ที่ดินที่โจทก์นำยึดเป็นทรัพย์ซึ่งจำเลยกับผู้ร้องตกลงถือกรรมสิทธิ์ร่วมกันสืบไปโดยให้ผู้ร้องเป็นฝ่ายรักษาไว้ เช่นนี้ จำเลยยังไม่ขาดสิทธิเรียกร้องเกี่ยวกับที่ดินนั้น ผู้ร้องจะถือว่าได้สิทธิโดยการครอบครองเกิน 1 ปีหาได้ไม่
โจทก์มีสิทธินำยึดที่ดินซึ่งเป็นทรัพย์ที่จำเลยและผู้ร้องมีกรรมสิทธิ์ร่วมกัน ผู้ร้องจะขอให้ศาลสั่งปล่อยทรัพย์ดังกล่าวนี้หาได้ไม่
โจทก์มีสิทธินำยึดที่ดินซึ่งเป็นทรัพย์ที่จำเลยและผู้ร้องมีกรรมสิทธิ์ร่วมกัน ผู้ร้องจะขอให้ศาลสั่งปล่อยทรัพย์ดังกล่าวนี้หาได้ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 938/2503 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
กรรมสิทธิ์ร่วมในที่ดินหลังหย่า: สิทธิเรียกร้องของผู้ร้องเมื่อถูกยึดทรัพย์
ที่ดินที่โจทก์นำยึดเป็นทรัพย์ซึ่งจำเลยกับผู้ร้องตกลงถือกรรมสิทธิ์ร่วมกันสืบไปโดยให้ผู้ร้องเป็นฝ่ายรักษาไว้ เช่นนี้ จำเลยยังไม่ขาดสิทธิเรียกร้องเกี่ยวกับที่ดินนั้น ผู้ร้องจะถือว่าได้สิทธิโดยการครอบครองเกิน 1 ปีหาได้ไม่
โจทก์มีสิทธินำยึดที่ดินซึ่งเป็นทรัพย์ที่จำเลยและผู้ร้องมีกรรมสิทธิ์ร่วมกัน ผู้ร้องจะขอให้ศาลสั่งปล่อยทรัพย์ดังกล่าวนี้หาได้ไม่
โจทก์มีสิทธินำยึดที่ดินซึ่งเป็นทรัพย์ที่จำเลยและผู้ร้องมีกรรมสิทธิ์ร่วมกัน ผู้ร้องจะขอให้ศาลสั่งปล่อยทรัพย์ดังกล่าวนี้หาได้ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 927/2503 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การครอบครองที่ดินพิพาทและสิทธิในการขอถอนการยึดทรัพย์เมื่อการโอนยังไม่จดทะเบียน
ผู้ร้องและจำเลยได้ครอบครองที่พิพาทซึ่งในโฉนดมีชื่อผู้ตายร่วมกันมา โจทก์นำเจ้าพนักงานบังคับคดียึดที่พิพาทผู้ร้องไม่มีสิทธิที่จะขอให้ถอนการยึด