คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
ป.พ.พ. ม. 1367

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,118 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1153/2501

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิในที่ดินมือเปล่าหลังพ.ร.บ.แพ่งฯ บรรพ 4: อายุความครอบครองและการฟ้องคืนสิทธิ
เมื่อที่พิพาทไม่ใช่ที่บ้าน ที่สวนตามกฎหมายลักษณะเบ็ดเสร็จ และโจทก์โก่นสร้างที่พิพาทหลังจากที่ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ บรรพ 4 ประกาศใช้แล้วคดีต้องบังคับตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ บรรพ 4 หากปรากฏว่าที่พิพาทเป็นที่ดินมือเปล่าผู้ยึดถือก็มีแต่สิทธิครอบครอง เมื่อถูกแย่งการครอบครองโดยมิชอบด้วยกฎหมาย ผู้ครอบครองก็ต้องฟ้องคดีเพื่อเอาคืนซึ่งการครอบครองนั้นภายใน 1 ปี นับแต่เวลาถูกแย่งการครอบครองตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1367,1375 มิฉะนั้นหมดสิทธิที่จะฟ้องเรียกที่พิพาทคืนตาม มาตรา 1375

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1153/2501 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิครอบครองที่ดินมือเปล่าและการฟ้องเรียกคืนภายใน 1 ปี หากถูกแย่งการครอบครอง
เมื่อที่พิพาทไม่ใช่ที่บ้าน ที่สวนตามกฎหมายลักษณะเบ็ดเสร็จ และโจทก์โก่นสร้างที่พิพาทหลังจากที่ ป.พ.พ.บรรพ 4 ประกาศใช้แล้วคดีต้องบังคับตาม ป.พ.พ.บรรพ 4 หากปรากฎว่าที่พิพาทเป็นที่ดินมือเปล่า ผู้ยึดถือก็มีแต่สิทธิครอบครองเมื่อถูกแย่งการครอบครองโดยมิชอบด้วยกฎหมาย ผู้ครอบครองก็ต้องฟ้องคดีเพื่อเอาคืนซึ่งการครอบครองนั้นภายใน 1 ปี นับแต่เวลาถูกแย่งการครอบครองตาม ป.พ.พ.มาตรา 1367,1375 มิฉะนั้นหมดสิทธิที่จะฟ้องเรียกที่พิพาทคืนตาม มาตรา 1375

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1084/2501 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การอุทิศที่ดินมีเงื่อนไขยังไม่ถือเป็นการสละสิทธิ การทำนบขวางทางน้ำถือเป็นการละเมิด
การที่โจทก์อุทิศที่ดินให้ทำเป็นถนนหรือทางสาธารณะโดยมีเงื่อนไขว่า เมื่อจะทำถนนผ่านที่ของโจทก์ จะต้องทำสพานระหว่างที่ลำลาดให้น้ำไหลไปได้ และการจะทำสพานอย่างไรต้องปรึกษากันก่อน เมื่อถนนสาธารณะตามที่โจทก์อุทิศที่ดินให้ ก็ยังไม่ได้ทำขึ้นแล้วจำเลยมาทำทำนบปิดกั้นน้ำในลำลาดในที่นาของโจทก์เสีย อันเป็นการกระทำซึ่งผิดวัตถุประสงค์ที่โจทก์อุทิศ ดังนี้ ยังถือไม่ได้ว่าการอุทิศที่ดินของโจทก์เป็นการเสร็จเด็ดขาด อย่างมากถือได้เพียงว่าเจตนาจะอุทิศเท่านั้น โจทก์ยังไม่ขาดสิทธิครอบครองในที่รายนี้ เมื่อจำเลยบังอาจเข้ามาขุดดินทำทำนบกั้นน้ำและขุดดินทำลำเหมืองในที่ของโจทก์โดยพละการย่อมเป็นละเมิดสิทธิโจทก์ๆมีสิทธิจะขอให้บังคับจำเลย ให้ทำลายทำนบถมลำเหมืองและถมดินที่จำเลยขุดในนาของโจทก์ให้เป็นไปตามสภาพเดิม ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1084/2501

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การอุทิศที่ดินมีเงื่อนไขยังไม่ถือเป็นการสละสิทธิ การเข้ายึดครองโดยไม่ชอบเป็นละเมิด
การที่โจทก์อุทิศที่ดินให้ทำเป็นถนนหรือทางสาธารณะ โดยมีเงื่อนไขว่า เมื่อจะทำถนนผ่านที่ของโจทก์ จะต้องทำสะพานระหว่างที่ลำลาดให้น้ำไหลไปได้ และการจะทำสะพานอย่างไรต้องปรึกษากันก่อน เมื่อถนนสาธารณะตามที่โจทก์อุทิศที่ดินให้ ก็ยังไม่ได้ทำขึ้น แล้วจำเลยมาทำทำนบปิดกั้นน้ำในลำลาดในที่นาของโจทก์เสีย อันเป็นการกระทำซึ่งผิดวัตถุประสงค์ที่โจทก์อุทิศดังนี้ ยังถือไม่ได้ว่าการอุทิศที่ดินของโจทก์เป็นการเสร็จเด็ดขาด อย่างมากถือได้เพียงว่าเจตนาจะอุทิศเท่านั้น โจทก์ยังไม่ขาดสิทธิครอบครองในที่รายนี้ เมื่อจำเลยบังอาจเข้ามาขุดดินทำทำนบกั้นน้ำและขุดดินทำลำเหมืองในที่ของโจทก์โดยพละการย่อมเป็นละเมิดสิทธิโจทก์ โจทก์มีสิทธิจะขอให้บังคับจำเลยให้ทำลายทำนบถมลำเหมืองและถมดินที่จำเลยขุดในนาของโจทก์ให้เป็นไปตามสภาพเดิมได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 624/2501 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิครอบครองที่ดินไม่มีหนังสือสำคัญเหนือสิทธิการสับสร้างเดิม แม้โจทก์เคยยื่นยกกรรมสิทธิ์ให้จำเลย
ข้อเท็จจริงฟังได้ว่าโจทก์ได้โก่นสร้างที่พิพาทแล้วครอบครองเป็นเจ้าของมาแต่แรกแต่ปรากฎตามคำพยานโจทก์เองว่าเมื่อ พ.ศ.2492 โจทก์ยื่นคำร้องยกกรรมสิทธิ์ที่ดินให้แก่บุคคลที่สาม จำเลยคัดค้านว่าที่ดินนั้นเป็นของจำเลยสับสร้างมา อำเภอจึงไม่ทำการโอนให้และโจทก์หาได้เรียกคืนการครอบครองจากจำเลยและต่อมาโจทก์กลับไปอาศัยจำเลยอยู่อีก ที่พิพาทเป็นที่ดินไม่มีหนังสือสำคัญ จำเลยย่อมได้สิทธิโดยการครอบครอง โจทก์ฟ้องขับไล่ไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 624/2501

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การได้มาซึ่งสิทธิในที่ดินโดยการครอบครอง การสับสร้าง และผลของการยกกรรมสิทธิ์ที่ดินให้ผู้อื่น
ข้อเท็จจริงฟังได้ว่าโจทก์ได้โก่นสร้างที่พิพาทแล้วครอบครองเป็นเจ้าของมาแต่แรก แต่ปรากฏตามคำพยานโจทก์เองว่าเมื่อ พ.ศ.2492โจทก์ยื่นคำร้องยกกรรมสิทธิ์ที่ดินให้แก่บุคคลที่สาม จำเลยคัดค้านว่าที่ดินนั้นเป็นของจำเลยสับสร้างมา อำเภอจึงไม่ทำการโอนให้และโจทก์หาได้เรียกคืนการครอบครองจากจำเลยและต่อมาโจทก์กลับไปอาศัยจำเลยอยู่อีก ที่พิพาทเป็นที่ดินไม่มีหนังสือสำคัญ จำเลยย่อมได้สิทธิโดยการครอบครอง โจทก์ฟ้องขับไล่ไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1808/2500 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การครอบครองปรปักษ์ที่ดินมีโฉนด แม้เพียงตัดฟืนและเก็บผลผลิต ก็ถือเป็นการครอบครองตามกฎหมาย
โจทก์ซื้อที่ดินมีโฉนดแล้วแต่มิได้ไปทำหนังสือซื้อขายหรือจดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ แต่ได้เข้าตัดฟื้นเก็บพุดซา และให้คนเช่าที่เพื่อเก็บพุดซาไปขาย แต่ไม่ได้เพาะปลูกสิ่งใดเพิ่มขึ้น คงทิ้งให้ที่รกรุงรังอย่างเจ้าของเดิมเคยปล่อยไว้ เช่นนี้ถือว่าโจทก์ได้เข้าครอบครองที่พิพาทตามนัยแห่งประมวลแพ่งฯ มาตรา 1382 แล้ว เมื่อครอบครองมาเกิน 10 ปีก็ย่อมได้กรรมสิทธิ์.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1808/2500

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การครอบครองปรปักษ์ที่ดินมีโฉนด แม้ไม่ได้เพาะปลูก เพียงเข้าใช้ประโยชน์ก็ถือเป็นการครอบครองได้ หากครอบครองเกิน 10 ปี ได้กรรมสิทธิ์
โจทก์ซื้อที่ดินมีโฉนดแล้วแต่มิได้ไปทำหนังสือซื้อขายหรือจดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ แต่ได้เข้าตัดฟืนเก็บพุทรา และให้คนเช่าที่เพื่อเก็บพุทราไปขายแต่ไม่ได้เพาะปลูกสิ่งใดเพิ่มขึ้น คงทิ้งให้ที่รกรุงรังอย่างเจ้าของเดิมเคยปล่อยไว้ เช่นนี้ถือว่าโจทก์ได้เข้าครอบครองที่พิพาทตามนัยแห่งประมวลแพ่งฯ มาตรา 1382 แล้ว เมื่อครอบครองมาเกิน 10 ปีก็ย่อมได้กรรมสิทธิ์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1540/2500

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ หน้าที่นำสืบและการอุทธรณ์คำสั่งศาลชั้นต้นในคดีครอบครองที่ดิน
เมื่อศาลชั้นต้นสั่งหน้าที่นำสืบตกแก่จำเลย จำเลยได้โต้แย้งคำสั่งนั้นไว้ จำเลยจึงมีสิทธิอุทธรณ์ฎีกาได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 226(2)
โจทก์ฟ้องว่าที่พิพาทเป็นของโจทก์ แม้จำเลยต่อสู้ว่าเดิมที่พิพาทเป็นของโจทก์จริงแต่ได้ขายให้แก่จำเลยแล้วก็ตาม เมื่อปรากฏว่าที่พิพาทเป็นที่ไม่มีหนังสือสำคัญสำหรับที่ และจำเลยเป็นผู้ครอบครองอยู่ ดังนี้ หน้าที่นำสืบจึงตกแก่โจทก์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1540/2500 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ หน้าที่นำสืบตกแก่ใคร: กรณีที่ดินไม่มีหนังสือสำคัญและจำเลยครอบครอง
เมื่อศาลขั้นต้นสั่งหน้าที่นำสืบตกแก่จำเลย ๆ ได้โต้แย้งคำสั่งนั้นไว้ จำเลยจึงมีสิทธิอุทธรณ์ฎีกาได้ตาม ป.วิ.แพ่ง มาตรา226 (2)
โจทก์ฟ้องว่าที่พิพาทเป็นของโจทก์ แม้จำเลยต่อสู้ว่าเดิมที่พิพาทเป็นของโจทก์จริงแต่ได้ขายให้แก่จำเลยแล้วก็ตาม เมื่อปรากฎว่าที่พิพาทเป็นที่ไม่มีหนังสือสำคัญสำหรับที่ และจำเลยเป็นผู้ครอบครองอยู่ดังนี้ หน้าที่นำสืบจึงตกแก่โจทก์.
of 112