คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
ป.พ.พ. ม. 820

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,184 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1425/2534 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแจ้งนัดขายทอดตลาดชอบด้วยกฎหมาย แม้จะแจ้งแก่ตัวการ (จำเลย) แทนตัวแทน (ผู้รับมอบอำนาจ)
การที่จำเลยที่ 1 ได้มอบอำนาจให้ ว. ไปดำเนินการควบคุมการขายทอดตลาดเข้าสู้ราคา คัดค้านราคาและอื่น ๆ จนเสร็จนั้น ว.เป็นเพียงตัวแทน จำเลยที่ 1 เป็นตัวการและยังคงมีฐานะเป็นจำเลยที่ 1อยู่ตามเดิม และในกรณีเช่นนี้ก็ไม่จำเป็นต้องส่งคำคู่ความหรือหมายนัดให้ทั้งสองคน คงเพียงแต่ส่งให้แก่บุคคลหนึ่งคนใด คือ จำเลยที่ 1 หรือ ว. ก็ได้ เมื่อปรากฏว่า การส่งหมายต่าง ๆ ได้ใช้วิธีประกาศทางหนังสือพิมพ์มาตลอดตั้งแต่ชั้นพิจารณาและชั้นบังคับคดี การขายทอดตลาดครั้งที่ 1 ถึงครั้งที่ 3 ก็ได้แจ้งให้จำเลยที่ 1 ทราบโดยประกาศทางหนังสือพิมพ์ จำเลยที่ 1 เองก็ไม่เคยคัดค้านว่าเป็นการส่งที่ไม่ชอบ การส่งหมายให้จำเลยที่ 1 ครั้งที่ 4 โดยวิธีประกาศทางหนังสือพิมพ์จึงชอบแล้ว.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 597/2534

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ตัวการ-ตัวแทน: การเชิดตัวแทนทำสัญญาซื้อวัสดุก่อสร้าง จำเลยต้องรับผิด
จำเลยที่ 1 มอบอำนาจให้ ส. เป็นผู้ทำสัญญาจ้างและรับเงินค่าจ้างแทนจำเลยที่ 1 และมอบหมายให้ ส. เป็นผู้ควบคุมการก่อสร้าง ส. เป็นผู้สั่งซื้อและรับมอบวัสดุอุปกรณ์การก่อสร้างจากโจทก์ โดยนำไปใช้ในการก่อสร้างที่จำเลยที่ 1 เป็นผู้รับจ้างย่อมถือได้ว่าจำเลยที่ 1 เชิด ส. ออกแสดงเป็นตัวแทนของตนในการติดต่อซื้อวัสดุอุปกรณ์การก่อสร้างดังกล่าวไปจากโจทก์จำเลยที่ 1 จึงต้องรับผิดในฐานะเป็นตัวการ.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 538/2534

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การกระทำแทนผู้อื่นไม่ผูกพันจำเลยโดยตรง แม้รับเงินตามเช็ค การรับสภาพหนี้ต้องทำในนามตนเอง
เช็คมิใช่หลักฐานแห่งการกู้ยืม จำเลยเขียนหนังสือรับสภาพหนี้ลงชื่อด้วยตนเอง แต่วงเล็บท้ายลายมือชื่อว่าแทน พ.จึงเป็นการกระทำแทนพ. มิใช่กระทำในนามของจำเลยเอง ตามพฤติการณ์โจทก์ทราบดีว่าจำเลยกระทำการแทน พ.จำเลยจึงไม่ต้องรับผิดต่อโจทก์เป็นส่วนตัว.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 312/2534

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ หนังสือมอบอำนาจไม่ชอบด้วยกฎหมาย และผลของการรับสินค้าโดยปราศจากอำนาจ สัญญาซื้อขาย
คำให้การของจำเลยที่ว่า หนังสือมอบอำนาจของโจทก์ไม่ชอบด้วยกฎหมาย โจทก์ไม่บรรยายฟ้องว่า โจทก์มีใครเป็นกรรมการผู้มีอำนาจกระทำการแทนโจทก์และลายมือชื่อของผู้มอบอำนาจในหนังสือมอบอำนาจท้ายฟ้องเป็นลายมือชื่อของผู้ใด มีอำนาจกระทำการแทนโจทก์ได้หรือไม่อย่างไร ทำให้จำเลยไม่สามารถเข้าใจและให้การแก้คดีได้ถูกต้อง จึงเป็นฟ้องเคลือบคลุมนั้น เป็นการต่อสู้ว่าฟ้องของโจทก์เคลือบคลุมเพียงอย่างเดียวจำเลยมิได้ให้การถึงเหตุที่อ้างว่าหนังสือมอบอำนาจของโจทก์ไม่ชอบด้วยกฎหมายอย่างไรจึงไม่มีประเด็นที่จะต้องวินิจฉัยในปัญหาดังกล่าว การที่ศาลล่างทั้งสองวินิจฉัยในปัญหาข้อนี้ให้เป็นการไม่ชอบด้วยกระบวนพิจารณาศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย โจทก์กล่าวในฟ้องว่า จำเลยที่ 1 ได้สั่งซื้อสินค้าตามฟ้องจากโจทก์ต่อมาโจทก์ได้จัดส่งสินค้าดังกล่าวมาให้จำเลยรับไว้แล้วจำเลยให้การเพียงว่า จำเลยที่ 1 ไม่ได้สั่งซื้อสินค้าตามฟ้องโดยมิได้กล่าวถึงเรื่องที่โจทก์อ้างว่าได้ส่งสินค้ามาให้จำเลยรับไว้แล้ว จึงต้องถือว่าจำเลยที่ 1 ได้รับสินค้าดังกล่าวตามที่โจทก์ส่งมาให้แล้ว ข้อบังคับของจำเลยที่ 1 ซึ่งเป็นนิติบุคคลประเภทบริษัท-จำกัดกำหนดไว้ว่า กรรมการสองคนลงลายมือชื่อร่วมกันและประทับตราสำคัญของบริษัท จึงจะทำการผูกพันบริษัทได้ ดังนั้น การที่กรรมการเพียงคนเดียวของจำเลยที่ 1 สั่งซื้อสินค้าจึงเป็นการกระทำของตัวแทนที่กระทำโดยปราศจากอำนาจ แต่เมื่อจำเลยที่ 1 ยอมรับสินค้าไว้โดยมิได้อิดเอื้อน หรือส่งสินค้าคืนโจทก์ ถือได้ว่าเป็นการให้สัตยาบันอันมีผลผูกพันจำเลยที่ 1 ในฐานะตัวการที่จะต้องชำระราคาสินค้าให้โจทก์ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 823 โจทก์ฟ้องว่า จำเลยที่ 1 สั่งซื้อสินค้าจากโจทก์ การที่โจทก์นำสืบว่า กรรมการของจำเลยที่ 1 เป็นตัวแทนสั่งซื้อสินค้าให้จำเลยที่ 1 ถือว่าอยู่ในประเด็นตามที่โจทก์ฟ้อง หาใช่เป็นการนำสืบนอกฟ้องนอกประเด็นไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 222/2534

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ นิติบุคคลต้องรับผิดต่อบุคคลภายนอกจากการกระทำของผู้แทน หากผู้แทนกระทำภายในขอบอำนาจและเป็นประโยชน์ต่อบริษัท
จำเลยที่ 1 เป็นนิติบุคคล จำเลยที่ 2,3 เป็นผู้มีอำนาจกระทำการแทนจำเลยที่ 1 โดยจำเลยที่ 2 เป็นผู้จัดการ และจำเลยที่ 3เป็นกรรมการรับเงินจากโจทก์ในฐานะดังกล่าว ณ ที่ทำการของจำเลยที่ 1และจำเลยที่ 2,3 ออกเช็คแทนจำเลยที่ 1 จำเลยทั้งสามปฏิบัติต่อเจ้าของเงินที่จำเลยที่ 2,3 รับเงินมารายอื่น ๆ เช่นเดียวกับที่ปฏิบัติต่อโจทก์ด้วย เมื่อจำเลยที่ 1 เป็นนิติบุคคลเจตนาของนิติบุคคลย่อมแสดงออกทางผู้แทนนิติบุคคล เมื่อผู้แทนนิติบุคคลได้แสดงเจตนาซึ่งอยู่ในอำนาจหน้าที่ของนิติบุคคลแล้ว ต้องถือว่าเป็นเจตนาของนิติบุคคล และผูกพันนิติบุคคล พฤติการณ์ของจำเลยทั้งสามทำให้บุคคลภายนอกเชื่อ ว่า การกระทำของจำเลยที่ 2,3 เป็นการกระทำแทนจำเลยที่ 1 ตลอดมา การที่จำเลยที่ 2,3 รับเงินจากโจทก์ แล้วไม่ได้มอบหรือนำเข้าบัญชีให้จำเลยที่ 1 ย่อมเป็นเรื่องที่ตัวแทนไม่ส่งมอบทรัพย์ให้ตัวการ ดังนี้จำเลยที่ 1 จะอ้างเอาการที่จำเลยที่ 2,3 ซึ่งเป็นตัวแทนของตน กระทำการทุจริต หรือไม่ส่งมอบเงินแก่ตนนั้นมาบอกปัดความรับผิดต่อโจทก์ ซึ่งเป็นบุคคลภายนอกผู้สุจริตหาได้ไม่.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4878/2533

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความรับผิดของผู้ว่าจ้างต่อความเสียหายจากการจ้างทำของ กรณีผู้รับจ้างขาดความรู้และควบคุมงาน
การที่จำเลยเป็นผู้นำชี้แนวทำถนนให้ผู้รับจ้าง และควบคุมดูแลการทำถนนตลอดเวลา กับการที่ผู้รับจ้างไม่มีความรู้ในเชิงวิชากาทำถนนที่จะไม่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่สิ่งก่อสร้างข้างเคียงหรือไม่ยอมทำตามวิธีการที่ถูกต้อง พฤติการณ์ดังกล่าวถือได้ว่าจำเลยซึ่งเป็นผู้ว่าจ้างเป็นผู้ผิดในส่วนการงานที่สั่งให้ทำหรือในคำสั่งที่ผู้ว่าจ้างให้ไว้ หรือในการเลือกหาผู้รับจ้างและแม้จำเลยจะมิใช่ผู้ทำสัญญาจ้าง แต่จำเลยก็มอบหมายให้ ป.เป็นผู้ว่าจ้างแทน ป.จึงเป็นตัวแทนของจำเลย เมื่อจำเลยมิได้คัดค้านว่า ป.มิได้ทำไปภายในขอบเขตอำนาจแห่งฐานตัวแทนแล้วจำเลยซึ่งเป็นตัวการย่อมมีความผูกพันต่อบุคคลภายนอกในกิจการทั้งหลายที่ ป.ซึ่งเป็นตัวแทนได้ทำไปภายในขอบอำนาจแห่งฐานตัวแทนตาม ป.พ.พ. มาตรา 820 จำเลยจะปัดความรับผิดโดยเหตุที่ตนมิได้เป็นผู้ทำสัญญาหาได้ไม่.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4878/2533 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความรับผิดของผู้ว่าจ้างต่อความเสียหายจากการจ้างทำของ กรณีผู้รับจ้างขาดความรู้และผู้ว่าจ้างควบคุมดูแล
การที่จำเลยเป็นผู้นำชี้แนวทำถนนให้ผู้รับจ้าง และควบคุมดูแลการทำถนนตลอดเวลา กับการที่ผู้รับจ้างไม่มีความรู้ในเชิงวิชากาทำถนนที่จะไม่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่สิ่งก่อสร้างข้างเคียงหรือไม่ยอมทำตามวิธีการที่ถูกต้อง พฤติการณ์ดังกล่าวถือได้ว่าจำเลยซึ่งเป็นผู้ว่าจ้างเป็นผู้ผิดในส่วนการงานที่สั่งให้ทำหรือในคำสั่งที่ผู้ว่าจ้างให้ไว้ หรือในการเลือกหาผู้รับจ้างและแม้จำเลยจะมิใช่ผู้ทำสัญญาจ้าง แต่จำเลยก็มอบหมายให้ ป.เป็นผู้ว่าจ้างแทน ป.จึงเป็นตัวแทนของจำเลย เมื่อจำเลยมิได้คัดค้านว่า ป.มิได้ทำไปภายในขอบเขตอำนาจแห่งฐานตัวแทนแล้วจำเลยซึ่งเป็นตัวการย่อมมีความผูกพันต่อบุคคลภายนอกในกิจการทั้งหลายที่ ป.ซึ่งเป็นตัวแทนได้ทำไปภายในขอบอำนาจแห่งฐานตัวแทนตาม ป.พ.พ. มาตรา 820 จำเลยจะปัดความรับผิดโดยเหตุที่ตนมิได้เป็นผู้ทำสัญญาหาได้ไม่.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4814/2533 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจฟ้อง, ตัวการตัวแทน, ความรับผิดทางละเมิด: โจทก์ต้องเป็นผู้เสียหายโดยตรงจึงมีอำนาจฟ้องได้
จำเลยที่ 1 ขับรถของจำเลยที่ 2 โดยมีจำเลยที่ 2 ซึ่งเมาสุรานั่งไปด้วย ถือได้ว่าจำเลยที่ 1 ขับรถอันเป็นกิจการของจำเลยที่ 2แทนจำเลยที่ 2 จำเลยที่ 1 จึงเป็นตัวแทนของจำเลยที่ 2 ซึ่งเป็น ตัวการ โจทก์บรรยายฟ้องว่า จำเลยที่ 2 เป็นเจ้าของและผู้ครอบครองรถในขณะเกิดเหตุ ฟ้องของโจทก์จึงเป็นฟ้องที่ให้ จำเลย ที่ 2 รับผิดในฐานะตัวการด้วย ที่ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่า จำเลยที่ 2ต้องร่วมรับผิดกับจำเลยที่ 1 จึงไม่เป็นการวินิจฉัยนอกประเด็น
โจทก์ไม่ใช่เจ้าของรถจักรยานยนต์ที่เสียหาย จึงไม่ใช่ผู้เสียหาย ไม่มีอำนาจฟ้องเรียกร้องค่าเสียหายจากผู้ทำละเมิดข้อนี้แม้จำเลยมิได้ให้การต่อสู้เป็นประเด็นข้อพิพาทว่าโจทก์มิใช่เจ้าของรถคันเกิดเหตุ แต่เรื่องอำนาจฟ้องเป็นข้อกฎหมายเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อย เมื่อปรากฏว่าโจทก์ไม่มีอำนาจฟ้อง ศาลฎีกาเห็นสมควรยกขึ้นวินิจฉัยได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4814/2533

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความรับผิดของตัวการและตัวแทนจากการละเมิด และปัญหาอำนาจฟ้องของโจทก์ที่ไม่ใช่ผู้เสียหายโดยตรง
จำเลยที่ 1 ขับรถของจำเลยที่ 2 โดยมีจำเลยที่ 2 ซึ่งเมาสุรานั่งไปด้วย ถือได้ว่าจำเลยที่ 1 ขับรถอันเป็นกิจการของจำเลยที่ 2แทนจำเลยที่ 2 จำเลยที่ 1 จึงเป็นตัวแทนของจำเลยที่ 2 ซึ่งเป็นตัวการ โจทก์บรรยายฟ้องว่า จำเลยที่ 2 เป็นเจ้าของและผู้ครอบครองรถในขณะเกิดเหตุ ฟ้องของโจทก์จึงเป็นฟ้องที่ให้ จำเลยที่ 2 รับผิดในฐานะตัวการด้วย ที่ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่า จำเลยที่ 2ต้องร่วมรับผิดกับจำเลยที่ 1 จึงไม่เป็นการวินิจฉัยนอกประเด็น โจทก์ไม่ใช่เจ้าของรถจักรยานยนต์ที่เสียหาย จึงไม่ใช่ผู้เสียหาย ไม่มีอำนาจฟ้องเรียกร้องค่าเสียหายจากผู้ทำละเมิดข้อนี้แม้จำเลยมิได้ให้การต่อสู้เป็นประเด็นข้อพิพาทว่าโจทก์มิใช่เจ้าของรถคันเกิดเหตุ แต่เรื่องอำนาจฟ้องเป็นข้อกฎหมายเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อย เมื่อปรากฏว่าโจทก์ไม่มีอำนาจฟ้อง ศาลฎีกาเห็นสมควรยกขึ้นวินิจฉัยได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4812/2533 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความสัมพันธ์ตัวแทน-รับขน: โจทก์เป็นตัวแทนจัดส่งสินค้า ไม่ใช่ผู้รับขน จึงไม่ต้องรับผิดชอบความเสียหายจากการขนส่ง
โจทก์เป็นผู้จัดส่งสินค้าให้จำเลยโดยเป็นผู้ติดต่อสายการบินทำการขนส่งให้ติดต่อเกี่ยวกับพิธี การศุลกากรเป็นการกระทำแทนจำเลยทั้งสิ้น มิใช่กระทำในนามของโจทก์เองโดยตรง ใบตราส่งซึ่งเป็นของสายการบินก็ระบุว่าจำเลยในนามโจทก์เป็นผู้ส่งของทั้งรายการในใบเสร็จรับเงินหมาย ล. 13 ที่โจทก์เรียกเก็บเงินจากจำเลยก็ระบุค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ที่จ่ายแทนจำเลยไว้แยกต่างหากจากค่าบริการของโจทก์ ลักษณะการประกอบกิจการของโจทก์เป็นการให้บริการในการจัดส่งสินค้ายิ่งกว่าเป็นผู้ขนส่งเสียเอง ความสัมพันธ์ระหว่างโจทก์จำเลยมีลักษณะเป็นสัญญาตัวแทนมิใช่รับขน การที่สินค้าของจำเลยสูญหายเสียหายหรือถึงที่หมายล่าช้าเนื่องจากการขนส่งของสายการบินโดยไม่ได้เกิดขึ้นเพราะความประมาทเลินเล่อของโจทก์ โจทก์จึงไม่ต้องรับผิดชอบ.
of 119