พบผลลัพธ์ทั้งหมด 6 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1299/2535
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การพิจารณาคดีเด็กและเยาวชน: ศาลอุทธรณ์แก้ไขโทษจำคุกเป็นมาตรการดูแลความประพฤติโดยผู้ปกครอง และจำเลยไม่สามารถฎีกาในข้อเท็จจริงได้
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 83,297 ลดมาตราส่วนโทษให้กึ่งหนึ่งตาม มาตรา 75 ลงโทษจำคุก6 เดือน ให้เปลี่ยนโทษจำคุกจำเลยเป็นส่งตัวไปฝึกอบรมที่สถานพินิจและคุ้มครองเด็กกลาง ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ให้จัดการแก่จำเลยตาม มาตรา 74(2) โดยมอบตัวให้บิดาจำเลยเป็นผู้ปกครองดูแลระมัดระวังมิให้จำเลยก่อเหตุร้ายหรือกระทำผิดใด ๆ ขึ้นอีกภายในกำหนด 3 ปี พร้อมกับวางเงื่อนไขคุมประพฤติ จำเลยจึงต้องห้ามมิให้ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 218 วรรคแรก
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1299/2535 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การลดโทษและมาตรการกำกับดูแลเยาวชนกระทำผิดอาญา
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตาม ป.อ. มาตรา 83,297 ลดมาตราส่วนโทษให้กึ่งหนึ่งตาม มาตรา 75 ลงโทษจำคุก 6 เดือน ให้เปลี่ยนโทษจำคุกจำเลยเป็นส่งตัวไปฝึกอบรมที่สถานพินิจและคุ้มครองเด็กกลาง ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ให้จัดการแก่จำเลยตาม มาตรา 74 (2) โดยมอบตัวให้บิดาจำเลยเป็นผู้ปกครองดูแลระมัดระวังมิให้จำเลยก่อเหตุร้ายหรือกระทำผิดใด ๆ ขึ้นอีกภายในกำหนด 3 ปี พร้อมกับวางเงื่อนไขคุมประพฤติ จำเลยจึงต้องห้ามมิให้ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงตาม ป.วิ.อ. มาตรา 218 วรรคแรก
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 306/2521
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การอุทธรณ์คดีเด็กและเยาวชน: การเปลี่ยนโทษจำคุกเป็นวิธีการสำหรับเด็กและเยาวชน ไม่ตัดสิทธิอุทธรณ์ข้อเท็จจริง
คดีที่ศาลคดีเด็กและเยาวชนได้พิพากษาหรือมีคำสั่งแล้วนั้นจะต้องห้ามอุทธรณ์ตามพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลคดีเด็กและเยาวชนพ.ศ.2494 มาตรา 27 ตามที่แก้ไขเพิ่มเติมโดยมาตรา 7 แห่งพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลคดีเด็กและเยาวชน (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2506 ก็แต่เฉพาะกรณีที่ศาลใช้ดุลพินิจ เปลี่ยนโทษจำคุกหรือวิธีการเพื่อความปลอดภัยเป็นให้ใช้วิธีการสำหรับเด็กและเยาวชนบางประการเท่านั้น มิได้ห้ามคู่ความที่จะอุทธรณ์ในปัญหาข้อเท็จจริงว่าจำเลยมิได้กระทำการอันกฎหมายบัญญัติว่าเป็นความผิด
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 306/2521 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเปลี่ยนแปลงโทษจากจำคุกเป็นสถานพินิจสำหรับเด็กและเยาวชน ไม่ตัดสิทธิอุทธรณ์ในปัญหาข้อเท็จจริง
คดีที่ศาลคดีเด็กและเยาวชนได้พิพากษาหรือมีคำสั่งแล้วนั้น จะต้องห้ามอุทธรณ์ตามพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลคดีเด็กและเยาวชน พ.ศ. 2494 มาตรา 27 ตามที่แก้ไขเพิ่มเติมโดยมาตรา 7 แห่งพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลคดีเด็กและเยาวชน (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2506 ก็แต่เฉพาะกรณีที่ศาลใช้ดุลพินิจ เปลี่ยนโทษจำคุกหรือวิธีการเพื่อความปลอดภัย เป็นให้ใช้วิธีการสำหรับเด็กและเยาวชนบางประการเท่านั้น มิได้ห้ามคู่ความที่จะอุทธรณ์ในปัญหาข้อเท็จจริงว่าจำเลยมิได้กระทำการอันกฎหมายบัญญัติว่าเป็นความผิด
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 982/2508
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การพิจารณาโทษเด็กและเยาวชนโดยคำนึงถึงอายุ ประวัติ ความประพฤติ และสิ่งแวดล้อม
เมื่อพิจารณาถึงอายุ ประวัติ ความประพฤติและสิ่งแวดล้อมแล้ว ปรากฏว่าจำเลยมีอายุ 18 ปีเศษ กระทำผิดระหว่างมอบตัวแก่มารดาโดยมีเงื่อนไขมิให้ก่อเหตุร้ายตามสำนวนคดีอาญาที่ศาลพิพากษาไปแล้ว และมีบุคคลิกภาพในทางรุกรานชอบพกอาวุธและคบเพื่อนที่มีความประพฤติไม่เหมาะสม สมควรส่งตัวจำเลยไปฝึกอบรมในสถานฝึกอบรมของสถานพินิจและคุ้มครองเด็กกลาง.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 933/2508
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เด็กอาญา ฆ่าโดยเจตนา แต่ศาลใช้ดุลยพินิจลดโทษและส่งสถานพินิจฯ
จำเลยอายุ 17 ปีเศษ เป็นคนเรียบร้อย ไม่เกะกะ ไม่ดื่มสุรา ไม่สูบบุหรี่ ไม่เคยยุ่งเกี่ยวกับโสเภณี ไม่เล่นการพนัน ไม่เที่ยวเตรีกลางคืน จำเลยเชื่อฟังและปฏิบัติตามคำสั่งหัวหน้างานเป็นอย่างดี ขยันทำงานเพื่อเก็บเงินส่งไปให้บิดามารดาและน้อง ๆ เป็นผู้พูดจาสุภาพเรียบร้อย รู้จักกาละเทศะดีมาก เพียงแต่มีนิสัยสู้คน สมควรที่จะใช้วิธีการสำหรับเด็กและเยาวชนแทนการลงโทษทางอาญาแก่จำเลย.