คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
สุไพศาล วิบุลศิลป์

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 504 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2178/2522

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อายุความหนี้ซื้อขายยางพารา: เจ้าของสวนยางไม่ใช่พ่อค้า ใช้บังคับอายุความ 5 ปี
โจทก์เป็นเจ้าของสวนยางพารา นำผลิตผลในสวนไปขายให้จำเลย โจทก์มิได้ซื้อยางพาราจากบุคคลอื่นไปขาย โจทก์จึงมิใช่พ่อค้ากรณีไม่ เข้าอยู่ในบังคับแห่งอายุความ 2 ปี ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 165(1) อายุความจึงมี 5 ปี ตามมาตรา 165 วรรคท้าย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2177/2522

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การได้มาซึ่งหุ้นจากการบังคับคดี: หน้าที่ของบริษัทในการจดทะเบียนผู้ถือหุ้นใหม่ แม้ขัดต่อข้อบังคับบริษัท
โจทก์ซื้อหุ้นพิพาทของบริษัทจำเลยจากการขายทอดตลาดของเจ้าพนักงานบังคับคดีของศาล โจทก์จึงเป็นบุคคลอื่นผู้มีสิทธิจะได้หุ้นเหล่านั้นมาในเหตุบางอย่าง ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1132 บริษัท จำเลยมีหน้าที่ต้องลงทะเบียนรับโจทก์เป็นผู้ถือหุ้นเหล่านั้นแทนเจ้าของหุ้นเดิมสืบไป จะอ้างว่าโจทก์ได้หุ้นดังกล่าวมาโดยขัดต่อข้อบังคับของบริษัทจำเลยบังคับให้บริษัทจำเลยจดทะเบียนให้โจทก์เป็นผู้ถือหุ้นของบริษัทจำเลยไม่ได้หาชอบไม่ เพราะการโอนหุ้นตามข้อบังคับของบริษัทเป็นคนละเรื่องกับการได้หุ้นมาดังกล่าว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2177/2522 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การซื้อหุ้นจากการขายทอดตลาด: สิทธิของผู้ซื้อ vs. ข้อจำกัดในข้อบังคับบริษัท
โจทก์ซื้อหุ้นพิพาทของบริษัทจำเลยจากการขายทอดตลาดของเจ้าพนักงานบังคับคดีของศาล โจทก์จึงเป็นบุคคลอื่นผู้มีสิทธิจะได้หุ้นเหล่านั้นมาในเหตุบางอย่าง ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1132 บริษัทจำเลยมีหน้าที่ต้องลงทะเบียนรับโจทก์เป็นผู้ถือหุ้นเหล่านั้นแทนเจ้าของหุ้นเดิมสืบไป จะอ้างว่าโจทก์ได้หุ้นดังกล่าวมาโดยขัดต่อข้อบังคับของบริษัทจำเลย บังคับให้บริษัทจำเลยจดทะเบียนให้โจทก์เป็นผู้ถือหุ้นของบริษัทจำเลยไม่ได้ หาชอบไม่ เพราะการโอนหุ้นตามข้อบังคับของบริษัทเป็นคนละเรื่องกับการได้หุ้นมาดังกล่าว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2104/2522

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การประพฤติตนไม่เรียบร้อยในศาลและการละเมิดอำนาจศาล: การทักท้วงของบุคคลภายนอกคดี
ก. นั่งอยู่กับจำเลยในศาล ศาลอ่านคำพยานโจทก์ให้พยานฟังตามที่ศาลจดไว้ว่า ร้านอยู่ห่างกัน 20 วา ทนายโจทก์และพยานแถลงว่าที่ถูกเป็น 20 ห้อง ไม่ใช่ 20 วา ก.ลุกขึ้นพูดว่า "20 วา ไม่ใช่ 20 คูหาเพราะได้จดไว้" ศาลกำชับว่าคนนอกคดีไม่มีสิทธิทำเช่นนั้นก. ก็ไม่ขัดขืนอย่างไร ดังนี้ ยังไม่ถือเป็นประพฤติไม่เรียบร้อยในบริเวณศาล ไม่เป็นละเมิดอำนาจศาล

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2073/2522 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การครอบครองฝิ่นและกล้องสูบฝิ่น: การเสพฝิ่นเองไม่ถือเป็นการครอบครองร่วมกับผู้อื่น
ฝิ่น มูลฝิ่น และกล้องสูบฝิ่นของกลางจับได้ที่บ้าน ม. จำเลยทั้งสองมีบ้านอยู่ต่างหาก ไม่ได้อยู่ที่บ้าน ม. แต่มาเยี่ยม ม. ในวันเกิดเหตุ และไม่ปรากฏว่าจำเลยทั้งสองเกี่ยวข้องกับของกลางดังกล่าวอย่างใด นอกจากการเสพฝิ่นและการที่จำเลยทั้งสองต่างเสพฝิ่นนั้นก็ไม่เป็นการมีกล้องสูบฝิ่นและฝิ่นที่เสพไว้ในความครอบครองร่วมกับ ม. จำเลยทั้งสองจึงไม่มีความผิดฐานมีฝิ่น มูลฝิ่น และกล้องสูบฝิ่นไว้ในความครอบครองด้วย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2073/2522

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การครอบครองฝิ่นและกล้องสูบฝิ่น: การเสพฝิ่นเองไม่ถือเป็นการครอบครองร่วมกับผู้อื่น
ฝิ่น มูลฝิ่น และกล้องสูบฝิ่นของกลางจับได้ที่บ้าน ม. จำเลยทั้งสองมีบ้านอยู่ต่างหาก ไม่ได้อยู่ที่บ้าน ม. แต่มาเยี่ยม ม. ในวันเกิดเหตุ และไม่ปรากฏว่าจำเลยทั้งสองเกี่ยวข้องกับของกลางดังกล่าวอย่างใด นอกจากการเสพฝิ่นและการที่จำเลยทั้งสองต่างเสพฝิ่นนั้นก็ไม่เป็นการมีกล้องสูบฝิ่นและฝิ่นที่เสพไว้ในความครอบครองร่วมกับ ม.จำเลยทั้งสองจึงไม่มีความผิดฐานมีฝิ่น มูลฝิ่น และกล้องสูบฝิ่นไว้ในความครอบครองด้วย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2041/2522 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ กรรมสิทธิ์รถยนต์ถูกริบแล้ว ผู้ซื้อโดยสุจริตก็ไม่ได้รับกรรมสิทธิ์
เมื่อศาลพิพากษาให้ริบรถยนต์ของกลางแล้ว เจ้าของรถไม่มีกรรมสิทธิ์ในรถยนต์คันนั้นอีกต่อไป ผู้ร้องซื้อรถยนต์ของกลางขณะที่ผู้ขายไม่มีกรรมสิทธิ์ในรถยนต์ แม้ผู้ร้องจะซื้อโดยสุจริตและแก้ทะเบียนเป็นของผู้ร้องแล้ว ผู้ร้องก็ไม่ได้กรรมสิทธิ์ในรถยนต์ของกลางไม่มีสิทธิร้องขอรถยนต์ของกลางคืนตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 36

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2041/2522

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ กรรมสิทธิ์ในรถยนต์ถูกริบเมื่อศาลมีคำพิพากษา แม้ซื้อโดยสุจริตก็ไม่ได้รับกรรมสิทธิ์
เมื่อศาลพิพากษาให้ริบรถยนต์ของกลางแล้ว เจ้าของรถไม่มีกรรมสิทธิ์ในรถยนต์คันนั้นอีกต่อไปผู้ร้องซื้อรถยนต์ของกลางขณะที่ผู้ขายไม่มีกรรมสิทธิ์ในรถยนต์ แม้ผู้ร้องจะซื้อโดยสุจริตและแก้ทะเบียนเป็นของผู้ร้องแล้วผู้ร้องก็ไม่ได้กรรมสิทธิ์ในรถยนต์ของกลางไม่มีสิทธิร้องขอรถยนต์ของกลางคืนตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 36

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1984/2522 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความรับผิดของผู้ขนส่งทางทะเลและผู้รับขนส่งช่วงเมื่อสินค้าสูญหาย
จำเลยที่ 1 เป็นผู้รับขนของทางทะเล โจทก์จ้างจำเลยที่ 1 ขนส่งกุ้งแช่เย็นจากจังหวัดตราดไปต่างประเทศ ในการขนส่งกุ้งดังกล่าว จำเลยที่ 1 ทำสัญญาให้จำเลยที่ 2 นำตู้บรรจุสินค้าซึ่งเรียกว่าคอนเทนเนอร์มาบรรจุกุ้งและลากจูงจากจังหวัดตราดไปยังท่าเรือสัตหีบ ปรากฏว่ากุ้งของโจทก์ในรถตู้ลำเลียงหายไปบางส่วน ดังนี้ ย่อมถือได้ว่าจำเลยที่ 1 ได้มอบหมายให้จำเลยที่ 2 นำของที่จำเลยที่ 1 รับขนมายังท่าเรืออันเป็นส่วนหนึ่งของการที่จะให้ธุรกิจของจำเลยที่ 1 ในการรับขนของลุล่วงเป็นผลสำเร็จ เมื่อของที่รับขนสูญหายไป จำเลยที่ 1 ต้องรับผิด ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 617 และเมื่อจำเลยที่ 2 รับขนส่งช่วงจากจำเลยที่ 1 อันถือได้ว่า สินค้าของโจทก์ได้ส่งไปโดยมีผู้ขนส่งหลายคนหลายทอด ซึ่งผู้ขนส่งทั้งนั้นจะต้องร่วมกันรับผิดในกรณีที่สินค้าของโจทก์สูญหายตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 618 จำเลยที่ 2 จึงต้องร่วมรับผิดกับจำเลยที่ 1 ด้วย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1984/2522

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความรับผิดของผู้ขนส่งหลายทอดต่อความเสียหายของสินค้า และขอบเขตความรับผิดของผู้รับขนช่วง
โจทก์จ้างจำเลยที่ 1 ขนส่งของไปต่างประเทศทางทะเล จำเลยที่ 1 ให้จำเลยที่ 2 นำรถลากจูงรถตู้ไปลำเลียงของมาลงเรือ จำเลยที่ 1 ต้องรับผิดต่อโจทก์ในความผิดของจำเลยที่ 2 ที่ของสูญหายไปตาม ป.พ.พ. ม.617 ด้วยป.ว.281 ไม่ทำให้จำเลยที่ 1 พ้นความรับผิด โดยเหตุที่เป็นบริษัทต่างประเทศต้องห้ามรับขนส่งสินค้าทางบกไม่ได้จำเลยที่ 2 รับขนช่วงจากจำเลยที่ 1 เป็นการรับขนโดยผู้ขนส่งหลายคนหลายทอด ผู้ขนส่งต้องรับผิดร่วมกับจำเลยที่1 ในการที่สินค้าของโจทก์สูญหาย
of 51