คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
ยง โรจนสุพจน์

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 124 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3221/2522 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การกระทำความผิดฐานกรรโชก แม้ฟ้องฐานปล้นทรัพย์ ศาลต้องยกฟ้องตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา
จำเลยที่ 2 ร่วมกับพวกขู่เข็ญผู้เสียหายเรียกเอาเงิน 6,000 บาท โดยอ้างว่ามีผู้ร้องเรียนไปทางกรมตำรวจว่าผู้เสียหายเป็นพระจรจัด จะเอาเงินไปปิดปากผู้ร้องเรียน ผู้เสียหายบอกว่าไม่มีเงิน จำเลยที่ 2 ว่ามีเท่าใดให้เอามาก่อน พร้อมกับทำมือแสดงอาการฮึดฮึดไม่พอใจลักษณะจะทำร้าย ผู้เสียหายกลัว จึงชี้บอกเงิน 2,000 บาท ใส่ซองวางไว้บนโต๊ะให้เอาไปก่อน เช่นนี้ กรณีเป็นความผิดฐานกรรโชกตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 337
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานปล้นทรัพย์ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 340,340 ตรี แต่ข้อเท็จจริงตามทางพิจารณาได้ความว่าจำเลยกระทำผิดฐานกรรโชกซึ่งแตกต่างกับข้อเท็จจริงดังกล่าวในฟ้อง จึงลงโทษจำเลยไม่ได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 192 วรรคสอง และวรรคสามซึ่งแก้ไขใหม่ก็ไม่ได้ เพราะเป็นการนำเอากฎหมายที่อกใช้ภายหลังมาลงโทษจำเลยซึ่งฟ้องไว้ก่อนแล้ว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3221/2522

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การกระทำที่เข้าข่ายกรรโชก แม้ฟ้องในข้อหาปล้นทรัพย์ ศาลต้องยกฟ้องตามข้อหาเดิม
จำเลยที่ 2 ร่วมกับพวกขู่เข็ญผู้เสียหายเรียกเอาเงิน 6,000 บาทโดยอ้างว่ามีผู้ร้องเรียนไปทางกรมตำรวจว่าผู้เสียหายเป็นพระจรจัด จะเอาเงินไปปิดปากผู้ร้องเรียน ผู้เสียหายบอกว่าไม่มีเงิน จำเลยที่ 2ว่ามีเท่าใดให้เอามาก่อน พร้อมกับทำมือแสดงอาการฮึดฮัดไม่พอใจลักษณะจะทำร้าย ผู้เสียหายกลัว จึงชี้บอกเงิน 2,000 บาทใส่ซองวางไว้บนโต๊ะให้เอาไปก่อน เช่นนี้ กรณีเป็นความผิดฐานกรรโชกตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 337
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานปล้นทรัพย์ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 340, 340 ตรี แต่ข้อเท็จจริงตามทางพิจารณาได้ความว่าจำเลยกระทำผิดฐานกรรโชก ซึ่งแตกต่างกับข้อเท็จจริงดังกล่าวในฟ้อง จึงลงโทษจำเลยไม่ได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 192 วรรคสอง และจะลงโทษจำเลยในความผิดฐานกรรโชกตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 192 วรรคสอง และวรรคสามซึ่งแก้ไขใหม่ก็ไม่ได้ เพราะเป็นการนำเอากฎหมายที่ออกใช้ภายหลังมาลงโทษจำเลยซึ่งฟ้องไว้ก่อนแล้ว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3073/2522

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเลิกจ้างที่ไม่เป็นธรรม การแก้ไขข้อตกลงสภาพการจ้าง และอำนาจสั่งจ่ายค่าเสียหายของคณะกรรมการแรงงานสัมพันธ์
การที่นายจ้างกับลูกจ้างจะทำข้อตกลงกันใหม่หรือแก้ไขเพิ่มเติมข้อตกลงเกี่ยวกับสภาพการจ้างนั้นทั้งสองฝ่ายจะต้องกระทำให้ถูกต้องตามพระราชบัญญัติแรงงานสัมพันธ์ พ.ศ.2518มาตรา 13 แล้วดำเนินการตามบทบัญญัติที่เกี่ยวข้องกับมาตรา 13 ด้วย นายจ้างไม่อาจกระทำได้ฝ่ายเดียว
การที่ลูกจ้างเล่นการพนันในบริเวณโรงงานเป็นครั้งแรกไม่ถือว่าลูกจ้างฝ่าฝืนคำสั่งอันชอบด้วยกฎหมายของนายจ้างในกรณีที่ร้ายแรง นายจ้างจึงไม่มีสิทธิเลิกจ้าง โดยมิได้ว่ากล่าวและตักเตือนเป็นหนังสือก่อน ตามพระราชบัญญัติแรงงานสัมพันธ์ พ.ศ.2518 มาตรา 123(3)
ในการชี้ขาดคำร้องตามมาตรา 125 เมื่อคณะกรรมการแรงงานสัมพันธ์เห็นว่าการกระทำของนายจ้างตามที่ถูกลูกจ้างยื่นคำร้องกล่าวหาเป็นการกระทำอันไม่เป็นธรรมคณะกรรมการแรงงานสัมพันธ์ก็มีอำนาจสั่งให้นายจ้างจ่ายค่าเสียหายได้ โดยไม่ต้องมีคำขอเรียกร้องค่าเสียหาย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3073/2522 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแก้ไขข้อตกลงสภาพการจ้าง และสิทธิในการเลิกจ้างลูกจ้างที่เล่นการพนันนายจ้างต้องปฏิบัติตามข้อตกลงเดิม
การที่นายจ้างกับลูกจ้างจะทำข้อตกลงกันใหม่หรือแก้ไขเพิ่มเติมข้อตกลงเกี่ยวกับสภาพการจ้างนั้นทั้งสองฝ่ายจะต้องกระทำให้ถูกต้องตามพระราชบัญญัติแรงงานสัมพันธ์ พ.ศ. 2518 มาตรา 13 แล้วดำเนินการตามบทบัญญัติที่เกี่ยวข้องกับมาตรา 13 ด้วย นายจ้างไม่อาจกระทำได้ฝ่ายเดียว
การที่ลูกจ้างเล่นการพนันในบริเวณโรงงานเป็นครั้งแรก ไม่ถือว่าลูกจ้างฝ่าฝืนคำสั่งอันชอบด้วยกฎหมายของนายจ้างในกรณีที่ร้ายแรง นายจ้างจึงไม่มีสิทธิเลิกจ้างโดยมิได้ว่ากล่าวและตักเตือนเป็นหนังสือก่อน ตามพระราชบัญญัติแรงงานสัมพันธ์ พ.ศ. 2518 มาตรา 123 (3)
ในการการชี้ขาดคำร้องตามมารา 125 เมื่อคณะกรรมการแรงงานสัมพันธ์เห็นว่าการกระทำของนายจ้างตามที่ถูกลูกจ้างยื่นคำร้องกล่าวหาเป็นการกระทำอันไม่เป็นธรรม คณะกรรมการแรงงานสัมพันธ์ก็มีอำนาจสั่งให้นายจ้างจ่ายค่าเสียหายได้ โดยไม่ต้องมีคำขอเรียกร้องค่าเสียหาย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2943/2522 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การชำระหนี้โดยตัวแทนโดยปริยายและการไม่ขาดอายุความ
ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 172 การรับสภาพหนี้จะต้องกระทำโดยลูกหนี้ก็จริง แต่ลูกหนี้อาจตั้งตัวแทนให้ชำระหนี้ก็ได้ ซึ่งย่อมต้องถือว่าเป็นการชำระหนี้ของลูกหนี้นั้นเอง
น้องชายลูกหนี้ได้ชำระหนี้แทนลูกหนี้ แม้เจ้าหนี้จะมิได้นำสืบว่าน้องชายเป็นตัวแทนของลูกหนี้ก็ตาม แต่การที่น้องชายชำระหนี้แทนพี่ชาย และเจ้าหนี้ยอมรับชำระหนี้ของลูกหนี้จากน้องชายของลูกหนี้หลายครั้งติดต่อกันมา ถือได้ว่าน้องชายเป็นตัวแทนของลูกหนี้โดยปริยาย
น้องชายลูกหนี้ชำระหนี้แทนลูกหนี้ครั้งหลังสุดเมื่อวันที่ 16 มิถุนายน 2518 เจ้าหนี้ขอรับชำระหนี้เมื่อวันที่ 21 ตุลาคม 2519 หนี้รายนี้จึงไม่ขาดอายุความ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2943/2522

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การชำระหนี้โดยตัวแทนโดยปริยาย และผลต่ออายุความของหนี้
ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 172 การรับสภาพหนี้จะต้องกระทำโดยลูกหนี้ก็จริง แต่ลูกหนี้อาจตั้งตัวแทนให้ชำระหนี้ก็ได้ ซึ่งย่อมต้องถือว่าเป็นการชำระหนี้ของลูกหนี้นั้นเอง
น้องชายลูกหนี้ได้ชำระหนี้แทนลูกหนี้ แม้เจ้าหนี้จะมิได้นำสืบว่าน้องชายเป็นตัวแทนของลูกหนี้ก็ตาม แต่การที่น้องชายชำระหนี้แทนพี่ชาย และเจ้าหนี้ยอมรับชำระหนี้ของลูกหนี้จากน้องชายของลูกหนี้หลายครั้งติดต่อกันมา ถือได้ว่าน้องชายเป็นตัวแทนของลูกหนี้โดยปริยาย
น้องชายลูกหนี้ชำระหนี้แทนลูกหนี้ครั้งหลังสุดเมื่อวันที่16 มิถุนายน 2518 เจ้าหนี้ขอรับชำระหนี้เมื่อวันที่ 21 ตุลาคม 2519 หนี้รายนี้จึงไม่ขาดอายุความ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2557/2522 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจศาลในการสั่งคืนของกลางเมื่อไม่ริบ: ศาลมีอำนาจสั่งคืนของกลางที่เป็นของจำเลยได้ แม้โจทก์เพียงขอให้ริบ
คำพิพากษาหรือคำสั่งของศาล ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 186 (9) ให้มีคำวินิจฉัยของศาลในเรื่องของกลางเท่านั้น ไม่มีบทบัญญัติเป็นข้อจำกัดว่าหากศาลเห็นว่ายังไม่สมควรริบของกลาง จะสั่งได้แต่เพียงว่าไม่ริบของกลางอย่างเดียว อาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนของกลางเป็นของจำเลยและไม่ใช่ของที่มีไว้โดยผิดกฎหมาย เมื่อโจทก์ขอให้ริบ ศาลเห็นว่าไม่สมควรริบก็ย่อมมีอำนาจสั่งให้คืนจำเลยได้ ถึงแม้จะสั่งแต่เพียงว่าไม่ริบของกลาง ก็คงมีผลว่า จะต้องคืนของกลางให้แก่จำเลยผู้เป็นเจ้าของเช่นกัน กรณีเช่นนี้หาใช่ศาลพิพากษาหรือมีคำสั่งเกินคำขอดังโจทก์ฎีกาไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2524/2522

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดกรรมเดียวจากการปลูกและครอบครองกัญชา
จำเลยปลูกกัญชาจำนวน 5 ต้น และครอบครองกัญชาที่ปลูกดังกล่าว กัญชาที่จำเลยปลูกไว้กับที่จำเลยมีไว้ในครอบครองดังกล่าวจึงเป็นรายเดียวกัน การกระทำของจำเลยเป็นความผิดกรรมเดียว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2523/2522

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดกรรมเดียวจากการมียาสูบไม่ปิดแสตมป์ ทั้งในครอบครองและเพื่อขาย ศาลใช้บทลงโทษหนักสุด
การมียาสูบผลิตในต่างประเทศที่มิได้ปิดแสตมป์ยาสูบไว้ในความครอบครอง กับการมียาสูบที่มิได้ปิดแสตมป์ยาสูบรายเดียวกันนั้นไว้เพื่อขาย เป็นความผิดกรรมเดียวผิดต่อกฎหมายหลายบทต้องใช้กฎหมายบทที่มีโทษหนักที่สุดลงโทษจำเลย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2523/2522 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ กรรมเดียวผิดหลายบท: ยาสูบไม่ปิดแสตมป์ มีไว้ครอบครองและขายลงโทษบทหนักสุด
การมียาสูบผลิตในต่างประเทศที่มิได้ปิดแสตมป์ยาสูบไว้ในครอบครองกับการที่ยาสูบที่มิได้ปิดแสตมป์ยาสูบรายเดียวกันนั้นไว้เพื่อขาย เป็นความผิดกรรมเดียวผิดต่อกฎหมายหลายบท ต้องใช้กฎหมายบทที่มีโทษหนักที่สุดลงโทษจำเลย
of 13