พบผลลัพธ์ทั้งหมด 427 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3101/2524 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิในการจดทะเบียนเครื่องหมายการค้า: การใช้ก่อนย่อมมีสิทธิมากกว่า แม้ผู้ขอจดทะเบียนรายหลังจะยื่นคำขอจดทะเบียนก่อน
จำเลยใช้เครื่องหมายการค้าที่จำเลยขอจดทะเบียนในการโฆษณาสินค้าซึ่งจำเลยเป็นตัวแทนจำหน่ายรวมทั้งสินค้าสีมาก่อนโจทก์ จำเลยจึงมีสิทธิในการขอจดทะเบียนดีกว่าโจทก์แม้เครื่องหมายการค้านั้นเกือบเหมือนเครื่องหมายการค้าของโจทก์ และโจทก์จะยื่นคำขอจดทะเบียนก่อนก็ตาม
โจทก์ใช้เครื่องหมายการค้าดังกล่าวทำให้จำเลยเสียหายเพราะทำให้ผู้ซื้อสินค้าเข้าใจผิดว่าสินค้าของโจทก์เป็นสินค้าสีของจำเลย จึงเป็นการทำละเมิดต่อจำเลยและต้องชดใช้ค่าเสียหาย
โจทก์ใช้เครื่องหมายการค้าดังกล่าวทำให้จำเลยเสียหายเพราะทำให้ผู้ซื้อสินค้าเข้าใจผิดว่าสินค้าของโจทก์เป็นสินค้าสีของจำเลย จึงเป็นการทำละเมิดต่อจำเลยและต้องชดใช้ค่าเสียหาย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3093-3094/2524
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
นิติกรรมอำพราง: สัญญาขายฝากเป็นโมฆะ หากมีเจตนาซ่อนเร้นการกู้เงิน
โจทก์ทำสัญญาขายฝากแก่จำเลย โดยโจทก์ยังไม่ได้รับเงินเป็นการอำพรางนิติกรรมการกู้เงินที่จะกู้เป็นงวด ๆ ในจำนวนใกล้เคียงกับจำนวนเงินในสัญญาขายฝาก สัญญาขายฝากจึงเป็นโมฆะตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 118 วรรคแรก ส่วนนิติกรรมสัญญากู้เงินตามงวดที่ถูกอำพรางไว้เป็นอันใช้บังคับได้ แม้การกู้เงินบางงวดมิได้มีหลักฐานเป็นหนังสือก็ย่อมถือได้ว่า เอกสารการขายฝากเป็นนิติกรรมสัญญากู้เงินที่ทำไว้เป็นลายลักษณ์อักษร เมื่อนิติกรรมขายฝากเป็นโมฆะ จำเลยชอบที่จะคืนทรัพย์ตามสัญญาขายฝากและรับเงิน จำนวนที่ให้กู้ไว้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2975/2524
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจศาลในการจำหน่ายคดีและการแสดงเจตนาดำเนินคดีของโจทก์
ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 132 เป็นบทบัญญัติที่ให้ศาลใช้ดุลพินิจในกรณีที่ศาลจะสั่งจำหน่ายคดีเสียจากสารบบความ มิได้บังคับเด็ดขาดว่าต้องจำหน่ายคดี
โจทก์ไม่จัดการนำส่งหมายเรียกให้แก่จำเลยภายในกำหนด 7วัน นับแต่วันออกหมายตามที่ศาลชั้นต้นสั่ง ก่อนศาลชั้นต้นสั่งจำหน่ายคดีโจทก์ได้ยื่นคำร้องว่าจะนำส่งหมายเรียกให้จำเลย ขอเลื่อนวันนัดสืบพยานโจทก์เพื่อให้ระยะเวลาการส่งหมายเรียกให้จำเลยเป็นไปโดยถูกต้องตามกฎหมาย แสดงว่าโจทก์ยังติดใจดำเนินคดีต่อไป เป็นพฤติการณ์ที่ยังไม่สมควรจำหน่ายคดี
โจทก์ไม่จัดการนำส่งหมายเรียกให้แก่จำเลยภายในกำหนด 7วัน นับแต่วันออกหมายตามที่ศาลชั้นต้นสั่ง ก่อนศาลชั้นต้นสั่งจำหน่ายคดีโจทก์ได้ยื่นคำร้องว่าจะนำส่งหมายเรียกให้จำเลย ขอเลื่อนวันนัดสืบพยานโจทก์เพื่อให้ระยะเวลาการส่งหมายเรียกให้จำเลยเป็นไปโดยถูกต้องตามกฎหมาย แสดงว่าโจทก์ยังติดใจดำเนินคดีต่อไป เป็นพฤติการณ์ที่ยังไม่สมควรจำหน่ายคดี
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2913/2524
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อุทธรณ์ข้อเท็จจริงใหม่หลังรับสารภาพ ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ศาลอุทธรณ์ไม่มีอำนาจสั่งสืบพยานเพิ่มเติม
ศาลชั้นต้นพิพากษาโดยไม่ต้องสืบพยานหลักฐานว่าจำเลยมีความผิดและลงโทษตามฟ้องโจทก์โดยจำเลยให้การรับสารภาพตามฟ้องทุกข้อหาซึ่งมีข้อหาฐานมีลูกระเบิดไว้ในความครอบครองรวมอยู่ด้วยเช่นนี้ การที่จำเลยอุทธรณ์ว่าลูกระเบิดไม่มีดินระเบิดและเชื้อปะทุจำเลยย่อมไม่มีความผิดข้อหามีลูกระเบิดจึงเป็นการยกข้อเท็จจริงขึ้นใหม่ซึ่งมิได้ว่ากล่าวกันมาในศาลชั้นต้นและเป็นอุทธรณ์ที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย
เมื่อข้อเท็จจริงรับฟังได้เป็นยุติตามฟ้องแล้วศาลอุทธรณ์จึงไม่มีอำนาจสั่งให้ศาลชั้นต้นสอบโจทก์เกี่ยวกับรายงานการตรวจพิสูจน์ของกลางหรือสืบพยานผู้ตรวจพิสูจน์ของกลางอีกต่อไป
เมื่อข้อเท็จจริงรับฟังได้เป็นยุติตามฟ้องแล้วศาลอุทธรณ์จึงไม่มีอำนาจสั่งให้ศาลชั้นต้นสอบโจทก์เกี่ยวกับรายงานการตรวจพิสูจน์ของกลางหรือสืบพยานผู้ตรวจพิสูจน์ของกลางอีกต่อไป
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2876/2524
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อุทธรณ์ที่ไม่ชัดเจนเกี่ยวกับเอกสารหลักฐาน ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย
จำเลยอุทธรณ์ว่าการอ้างส่งพยานเอกสารของโจทก์ไม่ชอบด้วยกฎหมายแต่มิได้กล่าวไว้ชัดแจ้งในอุทธรณ์ว่าเอกสารที่โจทก์อ้างส่งไม่ชอบนั้นเป็นเอกสารอะไร ฉบับใดส่งเมื่อใด เมื่อปรากฏว่าโจทก์อ้างและส่งเอกสารถึง 138 ฉบับทั้งส่งต่อศาลหลายครั้ง จึงเป็นอุทธรณ์ที่ไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 225
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2876/2524 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อุทธรณ์ที่ไม่ชัดเจนเกี่ยวกับเอกสารหลักฐาน ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย
จำเลยอุทธรณ์ว่าการอ้างส่งพยานเอกสารของโจทก์ไม่ชอบด้วยกฎหมายแต่มิได้กล่าวไว้ชัดแจ้งในอุทธรณ์ว่าเอกสารที่โจทก์อ้างส่งไม่ชอบนั้นเป็นเอกสารอะไรฉบับใดส่งเมื่อใด เมื่อปรากฏว่าโจทก์อ้างและส่งเอกสารถึง 138 ฉบับทั้งส่งต่อศาลหลายครั้ง จึงเป็นอุทธรณ์ที่ไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 225
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2827/2524
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาซื้อขายที่ดิน: การชำระด้วยเงินสดตามสัญญา และการบอกเลิกสัญญา
สัญญาจะซื้อขายระบุว่าผู้ซื้อจะนำเงินสดไปชำระในวันนัดโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินครั้นถึงวันนัดโอนผู้ซื้อสั่งจ่ายเช็คเงินสดไปชำระ ผู้ขายไม่ยอมรับและไม่ยอมโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินให้ถือได้ว่าผู้ซื้อไม่ปฏิบัติให้ถูกต้องตามสัญญา ผู้ซื้อจึงเป็นฝ่ายผิดสัญญา ผู้ขายมีสิทธิบอกเลิกสัญญาและริบมัดจำได้
การบอกเลิกสัญญาจะซื้อขายที่ดินนั้น กฎหมายมิได้บัญญัติให้ทำเป็นหนังสือเพียงแต่แสดงเจตนาต่อกันก็สมบูรณ์แล้วหนังสือบอกเลิกสัญญาที่จำเลยมอบอำนาจให้บุตรจำเลยบอกเลิกและส่งให้โจทก์มีลายพิมพ์นิ้วมือของจำเลย โดยไม่มีพยานรับรองลายพิมพ์นิ้วมือพอถือได้ว่าจำเลยแสดงเจตนาเลิกสัญญาแก่โจทก์แล้ว
การบอกเลิกสัญญาจะซื้อขายที่ดินนั้น กฎหมายมิได้บัญญัติให้ทำเป็นหนังสือเพียงแต่แสดงเจตนาต่อกันก็สมบูรณ์แล้วหนังสือบอกเลิกสัญญาที่จำเลยมอบอำนาจให้บุตรจำเลยบอกเลิกและส่งให้โจทก์มีลายพิมพ์นิ้วมือของจำเลย โดยไม่มีพยานรับรองลายพิมพ์นิ้วมือพอถือได้ว่าจำเลยแสดงเจตนาเลิกสัญญาแก่โจทก์แล้ว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2827/2524 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาจะซื้อขายที่ดิน: การชำระหนี้ด้วยเช็คไม่ตรงตามสัญญา ผู้ซื้อผิดสัญญา
สัญญาจะซื้อขายระบุว่าผู้ซื้อจะนำเงินสดไปชำระในวันนัดโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินครั้นถึงวันนัดโอนผู้ซื้อสั่งจ่ายเช็คเงินสดไปชำระ ผู้ขายไม่ยอมรับและไม่ยอมโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินให้ถือได้ว่าผู้ซื้อไม่ปฏิบัติให้ถูกต้องตามสัญญา ผู้ซื้อจึงเป็นฝ่ายผิดสัญญา ผู้ขายมีสิทธิบอกเลิกสัญญาและริบมัดจำได้
การบอกเลิกสัญญาจะซื้อขายที่ดินนั้น กฎหมายมิได้บัญญัติให้ทำเป็นหนังสือเพียงแต่แสดงเจตนาต่อกันก็สมบูรณ์แล้วหนังสือบอกเลิกสัญญาที่จำเลยมอบอำนาจให้บุตรจำเลยบอกเลิกและส่งให้โจทก์มีลายพิมพ์นิ้วมือของจำเลย โดยไม่มีพยานรับรองลายพิมพ์นิ้วมือพอถือได้ว่าจำเลยแสดงเจตนาเลิกสัญญาแก่โจทก์แล้ว
การบอกเลิกสัญญาจะซื้อขายที่ดินนั้น กฎหมายมิได้บัญญัติให้ทำเป็นหนังสือเพียงแต่แสดงเจตนาต่อกันก็สมบูรณ์แล้วหนังสือบอกเลิกสัญญาที่จำเลยมอบอำนาจให้บุตรจำเลยบอกเลิกและส่งให้โจทก์มีลายพิมพ์นิ้วมือของจำเลย โดยไม่มีพยานรับรองลายพิมพ์นิ้วมือพอถือได้ว่าจำเลยแสดงเจตนาเลิกสัญญาแก่โจทก์แล้ว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2618/2524
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
กรรมสิทธิ์ร่วมในทรัพย์สินก่อนสมรส และสิทธิในการกันส่วนเงินจากการขายทอดตลาด
ผู้ร้องกับจำเลยจดทะเบียนสมรสเมื่อ พ.ศ.2520 แต่อยู่กินกันมาประมาณ 30 ปีแล้ว จำเลยกับผู้ร้องร่วมกันสร้างบ้านพิพาทก่อนจดทะเบียนสมรส จึงมีกรรมสิทธิ์ร่วมกันคนละครึ่ง และถือว่าเป็นสินส่วนตัวของผู้ร้องครึ่งหนึ่ง หนี้ตามฟ้องจำเลยก่อให้เกิดขึ้นก่อนสมรส จึงมิใช่เป็นหนี้ร่วมตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา1490(4) ผู้ร้องมีสิทธิขอกันส่วนเงินที่ได้จากการขายทอดตลาด บ้านพิพาทได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2581/2524
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเพิกถอนการชำระหนี้ก่อนล้มละลายเมื่อเจตนาให้เจ้าหนี้บางรายได้เปรียบ
การที่จำเลยประกาศทางหนังสือพิมพ์ให้เจ้าหนี้ไปรับชำระหนี้โดยกำหนดจำนวนเงินที่จะชำระหนี้แก่เจ้าหนี้แต่ละรายไว้แม้จะมีเจ้าหนี้ไปขอรับชำระหนี้หลายราย แต่ก็มีเจ้าหนี้อีกหลายรายที่ไม่ได้รับชำระหนี้ พฤติการณ์ของจำเลยแสดงว่าจำเลยรู้ดีอยู่แล้วว่าตนมีหนี้สินล้นพ้นตัว การกระทำของจำเลยจึงเป็นการมุ่งหมายให้เจ้าหนี้คนหนึ่งคนใดได้เปรียบเจ้าหนี้อื่น และอยู่ในระหว่างระยะเวลา 3 เดือนก่อนมีการขอให้ล้มละลาย ศาลชอบที่จะสั่งเพิกถอนการชำระหนี้ดังกล่าวเสียได้