พบผลลัพธ์ทั้งหมด 427 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 979/2523 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ลูกระเบิดเป็นเครื่องกระสุนปืนตามกฎหมาย ฟ้องไม่เคลือบคลุมหากบรรยายการกระทำความผิดครบถ้วน
พระราชบัญญัติอาวุธปืน ฯ พ.ศ. 2490 มาตรา 4(2) บัญญัติไว้ชัดแจ้งว่า เครื่องกระสุนปืนหมายความรวมตลอดถึงลูกระเบิดด้วย ฉะนั้น ลูกระเบิดตามสภาพจึงเป็นเครื่องกระสุนปืน ตามกฎหมายอยู่ในตัวแล้ว ไม่ว่าจะเป็นลูกระเบิดชนิดที่มีคุณสมบัติคล้ายคลึงกับเครื่องกระสุนปืน หรือไม่ก็ตาม
ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานมีลูกระเบิด ซึ่งเป็นเครื่องกระสุนปืนตามกฎหมายไว้ในความครอบครอง โดยไม่ได้รับใบอนุญาต อันเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติอาวุธปืน พ.ศ. 2490 มาตรา 7 แม้ไม่บรรยายฟ้องว่าลูกระเบิดที่จำเลยมีไว้ในความครอบครองเป็นเครื่องกระสุนปืนที่จำเลยใช้กับอาวุธปืนที่ตนไม่ได้รับใบอนุญาตให้มีและใช้ ก็ไม่เป็นฟ้องเคลือบคลุม
ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานมีลูกระเบิด ซึ่งเป็นเครื่องกระสุนปืนตามกฎหมายไว้ในความครอบครอง โดยไม่ได้รับใบอนุญาต อันเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติอาวุธปืน พ.ศ. 2490 มาตรา 7 แม้ไม่บรรยายฟ้องว่าลูกระเบิดที่จำเลยมีไว้ในความครอบครองเป็นเครื่องกระสุนปืนที่จำเลยใช้กับอาวุธปืนที่ตนไม่ได้รับใบอนุญาตให้มีและใช้ ก็ไม่เป็นฟ้องเคลือบคลุม
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 955/2523
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาประนีประนอมยอมความ - การปฏิบัติตามสัญญา - การโอนรถยนต์
เมื่อสัญญาประนีประนอมยอมความมีเพียงว่า หากโจทก์จำเลยจะอยู่กินฉันสามีภริยากันต่อไปโจทก์จะโอนรถยนต์ให้แก่จำเลย โดยมิได้ตกลงว่าจะต้องอยู่กินกันตลอดไปแล้วการที่โจทก์กับจำเลยได้กลับไปอยู่กินฉันสามีภริยากันภายหลังจากทำสัญญาประนีประนอมยอมความนั้นนับว่าจำเลยได้ปฏิบัติตรงตามสัญญาดังกล่าวแล้ว หาจำต้องอยู่กันตลอดไปไม่โจทก์จึงต้องโอนรถยนต์ให้จำเลยตามสัญญาโจทก์ไม่มีสิทธิในฐานะเจ้าของในรถยนต์นั้นอีกการชำระค่าเช่าซื้อไม่ใช่เงื่อนไขของสัญญา เป็นคนละตอนกับข้อตกลงให้รถยนต์เป็นของจำเลย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 914/2523
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ที่ดินสาธารณสมบัติ โจทก์ยึดครองเองไม่แจ้งจับจอง ไม่มีสิทธิเรียกร้องค่าชดเชย
ที่พิพาทเป็นที่รกร้างว่างเปล่าอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดิน โจทก์เข้าไปยึดถือครอบครองโดยมิได้ปฏิบัติตามพระราชบัญญัติออกโฉนดที่ดิน (ฉบับที่ 6) พ.ศ. 2497 กล่าวคือมิได้ขออนุญาตจับจองและได้รับอนุญาตให้จับจองจากพนักงานเจ้าหน้าที่ ถึงแม้ต่อมาเมื่อมีพระราชบัญญัติให้ใช้ประมวลกฎหมายที่ดิน พ.ศ.2497 มาตรา 5วรรคแรก จะบัญญัติให้ผู้ที่ได้ครอบครองที่ดินและทำประโยชน์อยู่ก่อนประมวลกฎหมายที่ดินใช้บังคับโดยไม่มีหนังสือสำคัญแสดงกรรมสิทธิ์ที่ดินแจ้งการครอบครอง และโจทก์ได้แจ้งการครอบครองแล้วก็ตาม แต่โจทก์ได้แจ้งการครอบครองว่าได้ที่พิพาทโดยหักล้างถางพงเอาเอง การแจ้งการครอบครองของโจทก์จึงไม่ก่อให้เกิดสิทธิขึ้นใหม่ ต้องถือว่าที่ดินยังเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา1304(1) การที่จำเลยเข้าครอบครองที่พิพาทตามอำนาจหน้าที่ที่กำหนดไว้ในพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งนิคมสร้างตนเอง อันถือว่าเป็นการกระทำของรัฐ โจทก์จึงไม่มีสิทธิจะเรียกเอาค่าชดเชยที่ดินจากจำเลย
การที่จำเลยแจ้งว่าสมควรจะจ่ายเงินทดแทนให้โจทก์ แต่ให้รอไว้ก่อนนั้น เป็นเรื่องที่ทางราชการประสงค์จะบรรเทาความเดือดร้อนให้โจทก์ มิใช่เป็นเรื่องที่โจทก์มีสิทธิเรียกร้องเอาจากจำเลยตามกฎหมาย
การที่จำเลยแจ้งว่าสมควรจะจ่ายเงินทดแทนให้โจทก์ แต่ให้รอไว้ก่อนนั้น เป็นเรื่องที่ทางราชการประสงค์จะบรรเทาความเดือดร้อนให้โจทก์ มิใช่เป็นเรื่องที่โจทก์มีสิทธิเรียกร้องเอาจากจำเลยตามกฎหมาย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 914/2523 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ที่สาธารณสมบัติ การครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และสิทธิเรียกร้องค่าชดเชย
ที่พิพาทเป็นที่รกร้างว่างเปล่าอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดิน โจทก์เข้าไปยึดถือครอบครองโดยมิได้ปฏิบัติตามพระราชบัญญัติออกโฉนดที่ดิน (ฉบับที่ 6) พ.ศ.2479 กล่าวคือมิได้ขออนุญาตจับจองและได้รับอนุญาตให้จับจองจากพนักงานเจ้าหน้าที่ ถึงแม้ต่อมาเมื่อมีพระราชบัญญัติให้ใช้ประมวลกฎหมายที่ดิน พ.ศ.2497 มาตรา 5 วรรคแรก จะบัญญัติให้ผู้ที่ได้ครอบคอรงที่ดินและทำประโยชน์อยู่ก่อนประมวลกฎหมายที่ดินใช้บังคับ โดยไม่มีหนังสือสำคัญแสดงกรรมสิทธิ์ที่ดินแจ้งการครอบครอง และโจทก์ได้แจ้งการครอบครองแล้วก็ตาม แต่โจทก์ได้แจ้งการครอบครองว่าได้ที่พิพาทโดยหักล้างถางพงเอาเอง การแจ้งการครอบครองของโจทก์จึงไม่ก่อให้เกิดสิทธิขึ้นใหม่ ต้องถือว่าที่ดินยังเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1304 (1) การที่จำเลยเข้าครอบครองที่พิพาทตามอำนาจหน้าที่ที่กำหนดไว้ในพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งนิคมสร้างตนเอง อันถือว่าเป็นการกระทำของรัฐโจทก์จึงไม่มีสิทธิจะเรียกเอาค่าชดเชยที่ดินจากจำเลย
การที่จำเลยแจ้งว่าสมควรจะจ่ายเงินทดแทนให้โจทก์ แต่ให้รอไว้ก่อนนั้นเป็นเรื่องที่ทางราชการประสงค์จะบรรเทาความเดือดร้อนให้โจทก์ มิใช่เป็นเรื่องที่โจทก์มีสิทธิเรียกร้องเอาจากจำเลยตามกฎหมาย
การที่จำเลยแจ้งว่าสมควรจะจ่ายเงินทดแทนให้โจทก์ แต่ให้รอไว้ก่อนนั้นเป็นเรื่องที่ทางราชการประสงค์จะบรรเทาความเดือดร้อนให้โจทก์ มิใช่เป็นเรื่องที่โจทก์มีสิทธิเรียกร้องเอาจากจำเลยตามกฎหมาย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 891/2523
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเปลี่ยนแปลงโทษจำคุกและผลกระทบต่อการฎีกาในคดีอาวุธปืน
ศาลชั้นต้น พิพากษา ว่า จำเลย มี ความผิด 2 กระทง รวม โทษ แต่ละ กระทง และ ลด แล้ว คง จำคุก 6 เดือน ปรับ 1,500 บาท รอการลงโทษ จำคุก ไว้ 2 ปี ศาลอุทธรณ์ พิพากษาแก้ เป็น จำคุก 6 เดือน โดย ไม่รอการลงโทษ ดังนี้ ต้องห้าม ฎีกา ใน ปัญหาข้อเท็จจริง ตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 219
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 858/2523 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจ้าพนักงานแสดงความเห็นตามหน้าที่สุจริต ไม่เป็นความผิดฐานหมิ่นประมาทหรือปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ
เจ้าพนักงานกล่าวแสดงความคิดเห็นโดยสุจริต ในฐานะเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติการตามหน้าที่ ไม่เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157, 326
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 858/2523
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจ้าพนักงานแสดงความเห็นตามหน้าที่สุจริต ไม่เป็นความผิดหมิ่นประมาท/ปฏิบัติหน้าที่มิชอบ
เจ้าพนักงานกล่าวแสดงความคิดเห็นโดยสุจริต ในฐานะเป็น เจ้าพนักงานปฏิบัติการตามหน้าที่ ไม่เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157,326
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 838/2523
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อายุความมรดก: การครอบครองมรดกโดยทายาทและผู้ครอบครองแทนกันต่อเนื่อง แม้พ้นกำหนดอายุความตามกฎหมาย
เมื่อบิดาถึงแก่กรรม ทายาทมิได้ขอแบ่งมรดกหากแต่มารดา ได้ครอบครองที่ดินพิพาททั้งเพื่อตนเองและแทนบุตรทุกคน เมื่อมารดา ถึงแก่กรรมแล้ว โจทก์ กับ ส.ซึ่งต่างก็เป็นบุตรยังคงครอบครองที่ดินพิพาทร่วมกันและแทนกันตลอดมา โจทก์จึงมีสิทธิที่จะฟ้องให้แบ่งที่ดินพิพาทอันเป็นมรดกของบิดามารดาได้ตาม มาตรา1748แม้ว่าจะเป็นเวลาภายหลังที่บิดามารดาถึงแก่กรรมไปแล้ว 40 ปีเศษและ 4 ปีเศษ ตามลำดับ ล่วงพ้นกำหนดเวลาตาม มาตรา1754 แล้วก็ตาม
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 824/2523 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแบ่งสินสมรสกรณีแต่งงานก่อนใช้ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ และการตกตามพินัยกรรม
สมรสกันก่อนประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ บรรพ 5 ใช้บังคับ โดยฝ่ายหญิงมีสินเดิม ฝ่ายชายไม่มีสินเดิม ต่อมาผัวตายจากไปเมื่อใช้ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ บรรพ 5 แล้ว กรณีเช่นนี้ส่วนแบ่งสินสมรสได้แก่เมีย 2 ส่วน ได้แก่ผัว 1 ส่วนตามกฎหมายลักษณะผัวเมียบทที่ 68 เมื่อผัวทำพินัยกรรมยกทรัพย์ที่เป็นสินสมรสให้บุตร สินสมรสส่วนของผัวนั้นย่อมตกได้แก่บุตรตามพินัยกรรม
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 824/2523
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ส่วนแบ่งสินสมรสก่อน-หลังใช้ประมวลกฎหมายแพ่ง: สิทธิในทรัพย์สินตามพินัยกรรม
สมรสกันก่อนประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ บรรพ5 ใช้บังคับโดยฝ่ายหญิงมีสินเดิม ฝ่ายชายไม่มีสินเดิม ต่อมาผัวตายจากไปเมื่อใช้ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ บรรพ 5 แล้วกรณีเช่นนี้ส่วนแบ่งสินสมรสได้แก่เมีย 2 ส่วน ได้แก่ผัว 1 ส่วน ตามกฎหมายลักษณะผัวเมียบทที่ 68 เมื่อผัวทำพินัยกรรมยกทรัพย์ที่เป็นสินสมรสให้บุตรสินสมรสส่วนของผัวนั้นย่อมตกได้แก่บุตรตามพินัยกรรม