พบผลลัพธ์ทั้งหมด 769 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3141/2525 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คดีฟ้องขับไล่ผู้เช่าที่มีทุนทรัพย์ไม่เกิน 50,000 บาท ห้ามฎีกาในข้อเท็จจริงตามมาตรา 248 ป.วิ.พ.
คดีฟ้องขับไล่ผู้เช่าออกจากอสังหาริมทรัพย์อันมีค่าเช่าในขณะยื่นคำฟ้องไม่เกินเดือนละ 5,000 บาท จำเลยมิได้กล่าวแก้เป็นข้อพิพาทด้วยกรรมสิทธิ์และมิได้ยกข้อโต้เถียงในเรื่องแปลความหมายแห่งข้อความในสัญญาที่ก่อให้เกิดสิทธิอยู่บนอสังหาริมทรัพย์นั้นแต่ประการใด แม้โจทก์จะเรียกค่าเสียหายเป็นรายเดือนเข้ามาด้วยเป็นจำนวนเงิน 15,000 บาทก็ตาม ก็ถือได้ว่าเป็นการเรียกค่าเช่าที่คำนวณเป็นค่าเสียหายเข้ามาด้วยอันเกี่ยวพันกันกับฟ้องขับไล่ผู้เช่าออกจากอสังหาริมทรัพย์นั้นเอง เมื่อจำนวนทุนทรัพย์ที่เรียกนั้นไม่เกิน 50,000 บาทและศาลอุทธรณ์พิพากษาเพียงแต่แก้ไขเล็กน้อยเฉพาะในจำนวนเงินที่เรียกนั้นเท่านั้นจึงเป็นคดีที่ห้ามมิให้คู่ความฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3141/2525
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คดีฟ้องขับไล่ผู้เช่า: ทุนทรัพย์ไม่เกิน 50,000 บาท ห้ามฎีกาในข้อเท็จจริงตามมาตรา 248
คดีฟ้องขับไล่ผู้เช่าออกจากอสังหาริมทรัพย์อันมีค่าเช่าในขณะยื่นคำฟ้องไม่เกินเดือนละ 5,000 บาท จำเลยมิได้กล่าวแก้เป็นข้อพิพาทด้วยกรรมสิทธิ์และมิได้ยกข้อโต้เถียงในเรื่องแปลความหมายแห่งข้อความในสัญญาที่ก่อให้เกิดสิทธิอยู่บนอสังหาริมทรัพย์นั้นแต่ประการใด แม้โจทก์จะเรียกค่าเสียหายเป็นรายเดือนเข้ามาด้วยเป็นจำนวนเงิน 15,000 บาทก็ตาม ก็ถือได้ว่าเป็นการเรียกค่าเช่าที่คำนวณเป็นค่าเสียหายเข้ามาด้วยอันเกี่ยวพันกันกับฟ้องขับไล่ผู้เช่าออกจากอสังหาริมทรัพย์นั้นเอง เมื่อจำนวนทุนทรัพย์ที่เรียกนั้นไม่เกิน 50,000 บาทและศาลอุทธรณ์พิพากษาเพียงแต่แก้ไขเล็กน้อยเฉพาะในจำนวนเงินที่เรียกนั้นเท่านั้นจึงเป็นคดีที่ห้ามมิให้คู่ความฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3139/2525
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องขับไล่หลังสัญญาเช่าสิ้นสุด โดยผู้รับโอนสิทธิเช่ามีอำนาจฟ้องได้ และประเด็นอายุความละเมิดที่ไม่ได้ยกขึ้นในชั้นศาล
ห้องพิพาทเป็นของโจทก์โดยรับโอนมาจากมารดาซึ่งจำเลยเช่าห้องพิพาทอยู่ก่อน การเช่าตกทอดมายังโจทก์เท่ากับโจทก์เป็นคู่สัญญากับจำเลย เมื่อครบสัญญาเช่าแล้วโจทก์ผู้เป็นคู่สัญญาย่อมมีอำนาจฟ้องขับไล่จำเลยได้
ในการชี้สองสถานศาลชั้นต้นมิได้กำหนดเรื่องอายุความละเมิดเป็นประเด็นข้อพิพาทไว้ และจำเลยมิได้โต้แย้งคัดค้าน จึงไม่มีประเด็นข้อพิพาทเรื่องอายุความละเมิด แม้ศาลอุทธรณ์จะได้วินิจฉัยมาก็เป็นการนอกประเด็นข้อพิพาท
ในการชี้สองสถานศาลชั้นต้นมิได้กำหนดเรื่องอายุความละเมิดเป็นประเด็นข้อพิพาทไว้ และจำเลยมิได้โต้แย้งคัดค้าน จึงไม่มีประเด็นข้อพิพาทเรื่องอายุความละเมิด แม้ศาลอุทธรณ์จะได้วินิจฉัยมาก็เป็นการนอกประเด็นข้อพิพาท
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3139/2525 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การสิ้นสุดสัญญาเช่าและการมีอำนาจฟ้องขับไล่: สัญญาเช่าตกทอดไปยังผู้รับโอนสิทธิ
ห้องพิพาทเป็นของโจทก์โดยรับโอนมาจากมารดาซึ่งจำเลยเช่าห้องพิพาทอยู่ก่อน การเช่าตกทอดมายังโจทก์เท่ากับโจทก์เป็นคู่สัญญากับจำเลย เมื่อครบสัญญาเช่าแล้วโจทก์ผู้เป็นคู่สัญญาย่อมมีอำนาจฟ้องขับไล่จำเลยได้
ในการชี้สองสถานศาลชั้นต้นมิได้กำหนดเรื่องอายุความละเมิดเป็นประเด็นข้อพิพาทไว้ และจำเลยมิได้โต้แย้งคัดค้าน จึงไม่มีประเด็นข้อพิพาทเรื่องอายุความละเมิด แม้ศาลอุทธรณ์จะได้วินิจฉัยมาก็เป็นการนอกประเด็นข้อพิพาท
ในการชี้สองสถานศาลชั้นต้นมิได้กำหนดเรื่องอายุความละเมิดเป็นประเด็นข้อพิพาทไว้ และจำเลยมิได้โต้แย้งคัดค้าน จึงไม่มีประเด็นข้อพิพาทเรื่องอายุความละเมิด แม้ศาลอุทธรณ์จะได้วินิจฉัยมาก็เป็นการนอกประเด็นข้อพิพาท
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3126/2525
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
หลักฐานการจองที่ดินยังไม่ถือเป็นสัญญาจะซื้อขาย ต้องทำสัญญาเป็นหนังสือและจำเลยสงวนสิทธิในการวางเงื่อนไข
หลักฐานการจองที่ดินและตึกพิพาทระหว่างโจทก์กับจำเลยมีข้อความว่า '1. การจองนี้มีผลผูกพันบริษัท ฯ ภายใน15 วัน นับจากวันจอง 2. หลักฐานนี้เป็นเพียงหลักฐานการจอง บริษัท ฯ จะออกใบรับเงินที่ถูกต้องในวันทำสัญญา3.บริษัท ฯ สงวนสิทธิในการพิจารณาทำสัญญาตามเงื่อนไขและข้อกำหนดของบริษัท ฯ ' ข้อความในข้อ 2 และข้อ3 แสดงว่าโจทก์และจำเลยจะต้องทำสัญญาจะซื้อขายเป็นหนังสือกันอีก โดยจำเลยสงวนสิทธิเป็นผู้พิจารณาวางเงื่อนไขและข้อกำหนดในสัญญาดังกล่าว กรณีจึงต้องตามบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 366 วรรคสอง เมื่อโจทก์และจำเลยยังไม่ได้ทำสัญญาจะซื้อขายกันในวันที่กำหนดไว้สัญญาจะซื้อขายทรัพย์รายพิพาทระหว่างโจทก์กับจำเลยจึงยังไม่เกิดขึ้น โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องบังคับให้จำเลยขายทรัพย์พิพาทให้แก่โจทก์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3126/2525 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
หลักฐานการจองที่ดินยังไม่ถือเป็นสัญญาจะซื้อขาย จำเป็นต้องมีสัญญาเป็นหนังสืออีกครั้ง
หลักฐานการจองที่ดินและตึกพิพาทระหว่างโจทก์กับจำเลยมีข้อความว่า "1. การจองนี้มีผลผูกพันบริษัท ฯ ภายใน 15 วัน นับจากวันจอง 2. หลักฐานนี้เป็นเพียงหลักฐานการจอง บริษัท ฯ จะออกใบรับเงินที่ถูกต้องในวันทำสัญญา 3. บริษัท ฯ สงวนสิทธิในการพิจารณาทำสัญญาตามเงื่อนไขและข้อกำหนดของบริษัท ฯ " ข้อความในข้อ 2 และข้อ 3 แสดงว่าโจทก์และจำเลยจะต้องทำสัญญาจะซื้อขายเป็นหนังสือกันอีก โดยจำเลยสงวนสิทธิเป็นผู้พิจารณาวางเงื่อนไขและข้อกำหนดในสัญญาดังกล่าว กรณีจึงต้องตามบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 366 วรรคสอง เมื่อโจทก์และจำเลยยังไม่ได้ทำสัญญาจะซื้อขายกันในวันที่กำหนดไว้สัญญาจะซื้อขายทรัพย์รายพิพาทระหว่างโจทก์กับจำเลยจึงยังไม่เกิดขึ้น โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องบังคับให้จำเลยขายทรัพย์พิพาทให้แก่โจทก์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3098/2525
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การรับของโจรที่มีความผิดไม่ร้ายแรง และการพิจารณาโทษของพระภิกษุที่มีประวัติอันดี
จำเลยซื้อพระเครื่อง 11 องค์ซึ่งส่วนมากทำเป็นเหรียญจากเด็กที่นำมาขายในราคา 20 บาท โดยจำเลยสะสมไว้เป็นของชำร่วยให้กับผู้บริจาคเงินทำบุญซ่อมกุฏิของวัด จำเลยบวชมานาน 30 พรรษาเป็นครูสอนปริยัติธรรม เป็นผู้ช่วยเจ้าอาวาส ควรรอการลงโทษให้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3078/2525 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การใช้แผ่นป้ายทะเบียนรถยนต์ของผู้อื่น แม้มีเจตนาทำให้ผู้อื่นหลงเชื่อ ไม่ถือเป็นความผิดฐานปลอมแปลงหรือใช้เอกสารปลอม หากเป็นเอกสารที่ออกให้ถูกต้อง
การที่จำเลยนำแผ่นป้ายทะเบียนรถยนต์หมายเลข น. 0311 พังงา ซึ่งเป็นแผ่นป้ายทะเบียนรถยนต์ที่ทางราชการออกให้แก่รถยนต์ของ ส. นำไปใช้ติดกับรถยนต์จำเลยซึ่งเป็นรถยนต์อีกคันหนึ่ง แม้จะโดยมีเจตนาแสดงให้ผู้อื่นหลงเชื่อว่ารถยนต์ของจำเลยเป็นรถยนต์ที่มีหมายเลขทะเบียน น. 0311 พังงา ก็ตามเมื่อแผ่นป้ายทะเบียนรถยนต์ดังกล่าวเป็นแผ่นป้ายทะเบียนรถยนต์ที่แท้จริงซึ่งทางราชการออกให้แก่รถยนต์คันอื่น จำเลยย่อมไม่มีความผิดฐานปลอมเอกสารหรือใช้เอกสารราชการปลอม
(อ้างคำพิพากษาฎีกาที่ 1181/2523
(อ้างคำพิพากษาฎีกาที่ 1181/2523
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3078/2525
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การใช้แผ่นป้ายทะเบียนรถยนต์ของผู้อื่น แม้มีเจตนาทำให้ผู้อื่นหลงเชื่อ ไม่ถือเป็นความผิดฐานปลอมเอกสารหรือใช้เอกสารปลอม
การที่จำเลยนำแผ่นป้ายทะเบียนรถยนต์หมายเลข น.0311พังงาซึ่งเป็นแผ่นป้ายทะเบียนรถยนต์ที่ทางราชการออกให้แก่รถยนต์ของ ส. นำไปใช้ติดกับรถยนต์จำเลยซึ่งเป็นรถยนต์อีกคันหนึ่ง แม้จะโดยมีเจตนาแสดงให้ผู้อื่นหลงเชื่อว่ารถยนต์ของจำเลยเป็นรถยนต์ที่มีหมายเลขทะเบียน น.0311 พังงา ก็ตามเมื่อแผ่นป้ายทะเบียนรถยนต์ดังกล่าวเป็นแผ่นป้ายทะเบียนรถยนต์ที่แท้จริงซึ่งทางราชการออกให้แก่รถยนต์คันอื่น จำเลยย่อมไม่มีความผิดฐานปลอมเอกสารหรือใช้เอกสารราชการปลอม (อ้างคำพิพากษาฎีกาที่ 1141/2523)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3054/2525
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาประกันภัยไม่ผูกพันผู้ไม่มีส่วนได้เสียในรถยนต์ แม้เป็นผู้เอาประกันภัย
ห้างโจทก์มิใช่เป็นเจ้าของรถยนต์คันที่โจทก์ได้เอาประกันภัยไว้แก่จำเลยและห้างโจทก์ไม่ได้เป็นผู้ใช้รถหรือรับประโยชน์จากการใช้รถคันนี้เลย รถยนต์ดังกล่าว ส. เป็นผู้เช่าซื้อและได้นำมาเข้าร่วมกับห้างโจทก์เพื่อขอจดทะเบียนวิ่งในนามของห้างโจทก์ ส่วนรายได้ในการบรรทุกก็ดีหรือเมื่อรถเกิดเสียหายก็ดี ส. เป็น ผู้รับผิดชอบ เหตุที่โจทก์เอาประกันภัยก็เพียงเพื่อช่วยให้ ส. ได้ใช้รถในนามของโจทก์ซึ่งทำการขนส่งอยู่แล้วเพื่อส่งเสริมให้บริษัทขายรถบรรทุกแห่งหนึ่งขายรถได้ดีขึ้นเท่านั้น โจทก์จึงมิได้เป็นผู้มีส่วนได้เสียในเหตุที่เอาประกันภัยสัญญาประกันภัยย่อมไม่ผูกพันคู่สัญญาตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 863 จำเลยจึงไม่ต้องรับผิดต่อโจทก์