พบผลลัพธ์ทั้งหมด 769 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3054/2525 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาประกันภัยไม่ผูกพันผู้ไม่มีส่วนได้เสียในทรัพย์ที่เอาประกันภัย
ห้างโจทก์มิใช่เป็นเจ้าของรถยนต์คันที่โจทก์ได้เอาประกันภัยไว้แก่จำเลยและห้างโจทก์ไม่ได้เป็นผู้ใช้รถหรือรับประโยชน์จากการใช้รถคันนี้เลย รถยนต์ดังกล่าว ส.เป็นผู้เช่าซื้อและได้นำมาเข้าร่วมกับห้างโจทก์เพื่อขอจดทะเบียนวิ่งในนามของห้างโจทก์ ส่วนรายได้ในการบรรทุกก็ดีหรือเมื่อรถเกิดเสียหายก็ดี ส.เป็นผู้รับผิดชอบ เหตุที่โจทก์เอาประกันภัยก็เพียงเพื่อช่วยให้ ส. ได้ใช้รถในนามของโจทก์ซึ่งทำการขอส่งอยู่แล้ว เพื่อส่งเสริมให้บริษัทขายรถบรรทุกแห่งหนึ่งขายรถได้ดีขึ้นเท่านั้น โจทก์จึงมิได้เป็นผู้มีส่วนได้เสียในเหตุที่เอาประกันภัยสัญญาประกันภัยย่อมไม่ผูกพันคู่สัญญาตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 863 จำเลยจึงไม่ต้องรับผิดต่อโจทก์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3016/2525
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ที่ดินไม่มีโฉนด ศาลไม่อาจสั่งให้สิทธิครอบครองได้ หากยังไม่มีผู้มีกรรมสิทธิ์เดิม
ที่ดินที่มีแต่หนังสือรับรองการทำประโยชน์ ยังไม่มีโฉนดหรือยังไม่เคยมีผู้ใดมีกรรมสิทธิ์ ไม่อาจขอให้ศาลสั่งว่าผู้ใดมีกรรมสิทธิ์ในที่ดินนั้นได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3016/2525 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ที่ดินไม่มีโฉนด สิทธิครอบครองไม่สามารถฟ้องขอเป็นกรรมสิทธิ์ได้
ที่ดินที่มีแต่หนังสือรับรองการทำประโยชน์ ยังไม่มีโฉนดหรือยังไม่เคยมีผู้ใดมีกรรมสิทธิ์ ไม่อาจขอให้ศาลสั่งว่าผู้ใดมีกรรมสิทธิ์ในที่ดินนั้นได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2960/2525
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยนอกประเด็นข้อพิพาทเดิม การตั้งปัญหาและวินิจฉัยเรื่องแย่งการครอบครองเป็นอธิษฐานขัดต่อกฎหมาย
ปัญหาว่าจำเลยได้แย่งการครอบครองที่ดินแปลงพิพาทส่วนของโจทก์แล้วหรือไม่ เป็นข้อเท็จจริง มิใช่ข้อกฎหมายอันเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชนที่ศาลจะยกขึ้นวินิจฉัยเองได้ ดังนี้ เมื่อประเด็นในชั้นอุทธรณ์มีเพียงว่าที่ดินแปลงพิพาทเป็นทรัพย์มรดกของบิดามารดาโจทก์จำเลย หรือเป็นทรัพย์ของจำเลยซึ่งได้มาโดยหักร้างถางป่า และเรื่องค่าเสียหาย เท่านั้น การที่ศาลอุทธรณ์ตั้งปัญหาขึ้นเองว่าจำเลยได้แย่งการครอบครองที่ดินแปลงพิพาทในส่วนของโจทก์หรือไม่ และวินิจฉัยว่าจำเลยได้แย่งการครอบครอง โจทก์หมดสิทธิในที่ดินแปลงพิพาทส่วนของโจทก์เพราะมิได้ฟ้องเอาคืนซึ่งการครอบครองภายในหนึ่งปีนั้น จึงเป็นการขัดต่อกฎหมายและเป็นคำวินิจฉัยที่มิชอบ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2960/2525 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจศาลอุทธรณ์ในการวินิจฉัยประเด็นนอกฟ้อง การครอบครองที่ดิน และสิทธิในทรัพย์มรดก
ปัญหาว่าจำเลยได้แย่งการครอบครองที่ดินแปลงพิพาทส่วนของโจทก์แล้วหรือไม่ เป็นข้อเท็จจริง มิใช่ข้อกฎหมายอันเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชนที่ศาลจะยกขึ้นวินิจฉัยเองได้ ดังนี้ เมื่อประเด็นในชั้นอุทธรณ์มีเพียงว่าที่ดินแปลงพิพาทเป็นทรัพย์มรดกของบิดามารดาโจทก์จำเลย หรือเป็นทรัพย์ของจำเลยซึ่งได้มาโดยหักร้างถางป่า และเรื่องค่าเสียหาย เท่านั้น การที่ศาลอุทธรณ์ตั้งปัญหาขึ้นเองว่าจำเลยได้แย่งการครอบครองที่ดินแปลงพิพาทในส่วนของโจทก์หรือไม่ และวินิจฉัยว่าจำเลยได้แย่งการครอบครอง โจทก์หมดสิทธิในที่ดินแปลงพิพาทส่วนของโจทก์เพราะมิได้ฟ้องเอาคืนซึ่งการครอบครองภายในหนึ่งปีนั้น จึงเป็นการขัดต่อกฎหมายและเป็นคำวินิจฉัยที่มิชอบ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2948/2525 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ค่าบำเหน็จนายหน้า: การชี้ช่องให้ผู้ซื้อติดต่อจำเลยโดยตรง ทำให้การซื้อขายสำเร็จ ถือเป็นการชี้ช่องที่ทำให้เกิดสัญญา
จำเลยตกลงให้โจทก์เป็นนายหน้าขายที่ดินของจำเลย โดยจำเลยจะให้ค่านายหน้าร้อยละ 5 ของราคาที่ขายได้ จำเลยได้มอบนามบัตรของจำเลยมีที่อยู่และเลขหมายโทรศัพท์ที่บ้านจำเลยกับได้มอบแผนที่หลังโฉนดให้โจทก์ไว้ด้วย ต่อมามี ต. และ บ. มาถามซื้อที่ดินบริเวณนั้น โจทก์จึงพาคนทั้งสองไปดูที่ดินของจำเลย ต่อมา คนทั้งสองดังกล่าวได้พา พ. และ ย. มาดูที่ดินจำเลย พ. กับพวกตกลงจะซื้อ ต. และ บ. จึงขอนามบัตรของจำเลยและแผนที่หลังโฉนดจากโจทก์มอบให้ พ. กับพวกไปติดต่อกับจำเลยเอง ในที่สุด พ. ได้ทำสัญญาซื้อที่ดินดังกล่าวกับจำเลย ดังนี้ ถือได้ว่า การซื้อขายที่ดินรายนี้เป็นผลสำเร็จได้ก็เนื่องแต่ผลแห่งการที่โจทก์ซึ่งเป็นนายหน้าได้ชี้ช่องนั่นเองโจทก์จึงมีสิทธิได้รับค่าบำเหน็จจากจำเลย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2922/2525
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อายุความฟ้องร้องอาญา: การรู้ความผิดและตัวผู้กระทำผิดเป็นจุดเริ่มต้นนับอายุความ
บริษัทผู้เสียหายรู้เรื่องจำเลยพนักงานขายรับเงินจากลูกค้าแล้วไม่นำส่งบริษัทก่อนวันที่ 3 กันยายน 2522 อันเป็นวันที่บริษัททำหนังสือมอบอำนาจให้ น. ร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนการที่ น. ไปร้องทุกข์เมื่อวันที่ 11 เมษายน 2523 จึงเกินกำหนด 3 เดือน คดีขาดอายุความตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 96
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2802/2525 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแบ่งแยกกรรมสิทธิ์ที่ดินและการเช่าปากเปล่า ศาลมีอำนาจงดสืบพยานและพิพากษาคดีได้
โจทก์จำเลยแถลงรับกันว่าที่พิพาทได้แบ่งแยกกรรมสิทธิ์ออกโฉนดเป็นส่วนสัดแล้วจำเลยไม่โต้แย้งกรรมสิทธิ์ของโจทก์ จำเลยเป็นผู้อาศัยอยู่ในที่พิพาท ประสงค์จะขอทำกินต่อไปอีก 5 ปี โจทก์ไม่ยินยอม คำแถลงของโจทก์จำเลยตามที่ศาลชั้นต้นจดไว้ในรายงานกระบวนพิจารณาดังกล่าว มิใช่เป็นการแถลงข้อเท็จจริงเพื่อประโยชน์ที่จะทำการเปรียบเทียบให้คู่ความได้ตกลงหรือประนีประนอมยอมความกันในข้อพิพาทตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 20 เท่านั้น แต่เป็นการแถลงรับข้อเท็จจริงบางประการอันเป็นประเด็นข้อพิพาทเมื่อศาลเห็นว่าข้อเท็จจริงฟังเป็นยุติไม่จำต้องสืบพยานโจทก์จำเลยต่อไป ก็ย่อมมีอำนาจที่จะสั่งงดสืบพยานโจทก์จำเลยและพิพากษาคดีไปได้
จำเลยให้การต่อสู้คดีว่ามีสิทธิเหนือพื้นดินในที่พิพาทโดยให้ค่าตอบแทนโจทก์เป็นรายปี เท่ากับเป็นเรื่องจำเลยเช่าที่พิพาทของโจทก์ เมื่อการเช่าไม่มีหลักฐานเป็นหนังสือแม้จำเลยจะกล่าวอ้างว่าโจทก์ยอมให้อยู่ในที่พิพาทอีก 15 ปีก็ตามจำเลยก็ไม่อาจยกสิทธิที่เกี่ยวกับสัญญาเช่าขึ้นต่อสู้โจทก์ผู้ให้เช่าได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 538 การที่จำเลยอาศัยอยู่ในที่พิพาทจึงเป็นการละเมิดสิทธิของโจทก์ โจทก์มีสิทธิฟ้องขับไล่จำเลยได้
จำเลยให้การต่อสู้คดีว่ามีสิทธิเหนือพื้นดินในที่พิพาทโดยให้ค่าตอบแทนโจทก์เป็นรายปี เท่ากับเป็นเรื่องจำเลยเช่าที่พิพาทของโจทก์ เมื่อการเช่าไม่มีหลักฐานเป็นหนังสือแม้จำเลยจะกล่าวอ้างว่าโจทก์ยอมให้อยู่ในที่พิพาทอีก 15 ปีก็ตามจำเลยก็ไม่อาจยกสิทธิที่เกี่ยวกับสัญญาเช่าขึ้นต่อสู้โจทก์ผู้ให้เช่าได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 538 การที่จำเลยอาศัยอยู่ในที่พิพาทจึงเป็นการละเมิดสิทธิของโจทก์ โจทก์มีสิทธิฟ้องขับไล่จำเลยได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2801/2525
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การขยายระยะเวลาวางเงินค่าธรรมเนียม: ศาลไม่ต้องไต่สวน และต้องมีพฤติการณ์พิเศษ
กรณีที่ศาลมีคำสั่งยกคำร้องขอขยายระยะเวลาของคู่ความนั้นประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 23 มิได้บัญญัติไว้ว่าศาลจะต้องทำการไต่สวนเสียก่อน และการขยายระยะเวลาจะพึงกระทำได้ต่อเมื่อมีพฤติการณ์พิเศษเท่านั้น
โจทก์ยื่นคำร้องขอขยายระยะเวลานำเงินค่าธรรมเนียมมาวางศาลโดยอ้างว่าผู้จะซื้อที่ดินจากโจทก์ผิดนัดในการชำระค่าที่ดินและโจทก์ไม่มีเงินรายได้อื่นเพียงพอที่จะนำเงินค่าธรรมเนียมมาวางศาล ข้ออ้างดังกล่าวไม่นับว่าเป็นพฤติการณ์พิเศษที่ศาลจะสั่งขยายระยะเวลาวางเงินค่าธรรมเนียมได้
โจทก์ยื่นคำร้องขอขยายระยะเวลานำเงินค่าธรรมเนียมมาวางศาลโดยอ้างว่าผู้จะซื้อที่ดินจากโจทก์ผิดนัดในการชำระค่าที่ดินและโจทก์ไม่มีเงินรายได้อื่นเพียงพอที่จะนำเงินค่าธรรมเนียมมาวางศาล ข้ออ้างดังกล่าวไม่นับว่าเป็นพฤติการณ์พิเศษที่ศาลจะสั่งขยายระยะเวลาวางเงินค่าธรรมเนียมได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2776/2525
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฎีกาต้องห้าม: การโต้เถียงข้อเท็จจริงเรื่องการชำระหนี้และการหักกลบลบหนี้ โดยอ้างอิงมาตรา 653 ไม่ถือเป็นฎีกาในข้อกฎหมาย
โจทก์ฎีกาความว่า การที่ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ยอมฟังข้อนำสืบของจำเลยแต่เพียงวาจาว่าเป็นเรื่องหักกลบลบหนี้โดยไม่มีพยานเอกสารใด ๆ นำสืบสนับสนุนให้น่าเชื่อ เป็นเหตุให้โจทก์เสียเปรียบในเชิงคดีทั้ง ๆ ที่สัญญากู้ยังมิได้เวนคืน แทงเพิกถอนหรือมีการจดแจ้งว่าได้ชำระหนี้แล้ว โจทก์เห็นว่าการรับฟังข้อเท็จจริงดังกล่าวยังขาดเหตุและผลอยู่ ข้อสำคัญที่ปรากฏในสำนวนคดีนี้ก็คือ หนี้ในสัญญากู้นั้นมิได้มีการเวนคืนเอกสารสัญญากู้หรือเพิกถอนตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 653 กรณีจึงรับฟังไม่ได้ว่าได้มีการชำระหนี้ให้แก่โจทก์แล้วดังที่จำเลยกล่าวอ้างนำสืบมาแต่ต้น ข้อความในฎีกาดังกล่าว เป็นการฎีกาโต้เถียงข้อเท็จจริงว่าจำเลยยังมิได้ชำระหนี้ให้แก่โจทก์ เพียงแต่อ้างมาตรา 653 มาหักล้างข้อเท็จจริงที่จำเลยนำสืบในข้อที่ว่าได้หักกลบลบหนี้กับโจทก์แล้วเท่านั้นหาได้เป็นข้อกฎหมายที่ยกขึ้นอ้างอิงในฎีกาเพื่อเอาชนะคดีโดยชัดแจ้งไม่ จึงเป็นฎีกาในข้อเท็จจริง ซึ่งต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 248