คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
สุทิน เลิศวิรุฬห์

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 769 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2078/2523

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อายุความฟ้องเรียกค่าเสียหายจากประกันภัย: การใช้สิทธิไล่เบี้ยและข้อยกเว้นอายุความตามมาตรา 448
รถชนกันเมื่อวันที่ 27 มีนาคม 2519 โจทก์ฟ้องเมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2520 โดยวันที่ 27 มีนาคม 2520 ตรงกับวันอาทิตย์ และจำเลยที่ 1 ได้ขอให้ศาลชั้นต้นมีหมายเรียกจำเลยร่วมซึ่งเป็นผู้รับประกันภัยรถยนต์คันที่เกิดเหตุเข้ามาในคดีเพื่อให้ร่วมรับผิดเมื่อเกินกำหนด 1 ปีนับแต่วันละเมิดเป็นเรื่องจำเลยที่ 1 ขอให้ศาลเรียกจำเลยร่วมเข้ามาในคดีตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 57(3) เพื่อการใช้สิทธิไล่เบี้ยเพราะจำเลยร่วมจะต้องรับผิดตามสัญญาประกันภัยจะนำบทบัญญัติ มาตรา 448 แห่ง ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ซึ่งเป็นเรื่องการใช้สิทธิเรียกร้องของผู้ต้องเสียหายในมูลละเมิดซึ่งมีอายุความ 1 ปี มาบังคับไม่ได้คดีของโจทก์ไม่ขาดอายุความ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1837/2523

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาประนีประนอมยอมความเกี่ยวกับละเมิดของเด็กเยาว์ต้องได้รับอนุญาตศาลจึงจะมีผลผูกพัน
บิดาเด็กชาย บ. โจทก์ทำสัญญาประนีประนอมยอมความกับบิดาเด็กชาย ว. ผู้ทำละเมิดต่อผู้เยาว์โดยมิได้รับอนุญาตจากศาลมูลละเมิดที่เด็กชาย ว. ก่อขึ้นหามีผลระงับไปตามสัญญาประนีประนอมยอมความอันเป็นโมฆะไม่และไม่มีผลผูกพันเด็กชาย บ. โจทก์ โจทก์จึงมีอำนาจฟ้อง
ปัญหาดังกล่าวเป็นปัญหาข้อกฎหมายอันเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยของประชาชนแม้โจทก์จะมิได้ยกขึ้นกล่าวอ้างในศาลชั้นต้นศาลอุทธรณ์ก็มีอำนาจยกขึ้นวินิจฉัยได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1833/2523 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การบุกรุกหลังสิ้นสุดสัญญาเช่ารายวัน แม้ไม่มีสัญญาเช่าเป็นลายลักษณ์อักษรก็ถือเป็นการบุกรุกได้
เดิมตลาดที่เกิดเหตุเป็นของมารดาผู้เสียหาย จำเลยเป็นพ่อค้าเปิดพะโล้และลูกชิ้นทอด เข็นรถเข้าไปตั้งขายตรงทางเดินอันเป็นส่วนหนึ่งของตลาดดังกล่าวมาหลายปี โดยชำระค่าเช่าเป็นรายวันไม่ได้ทำสัญญาเช่ากัน ต่อมามรดกผู้เสียหายถึงแก่กรรมได้ทำพินัยกรรมยกตลาดให้ผู้เสียหาย จำเลยชำระค่าเช่าบ้างไม่ชำระบ้าง ผู้เสียหายจึงให้เจ้าพนักงานตำรวจเรียกจำเลยมาแจ้งไม่ให้เข้าไปขายของในตลาดพิพาท จำเลยยังขืนนำรถเข็นเข้าไปขายของดังที่เคยทำมา เช่นนี้การเช่าของจำเลยเป็นการเช่ารายวัน และพอสิ้นวันหนึ่ง ๆ จำเลยก็ได้ออกไปจากตลาด การครอบครองของจำเลยจึงสิ้นสุดลงเป็นวัน ๆ เมื่อผู้เสียหายไม่ยอมให้จำเลยเข้าไปขายของในตลาดอีกต่อไป จำเลยยังขืนเข้าไป การกระทำของจำเลยจึงเป็นความผิดบุกรุกตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 362

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1833/2523

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การบุกรุกตลาดหลังสิ้นสุดสัญญาเช่ารายวัน แม้ไม่มีสัญญาเช่าเป็นลายลักษณ์อักษรก็ถือเป็นความผิด
เดิมตลาดที่เกิดเหตุเป็นของมารดาผู้เสียหาย จำเลยเป็นพ่อค้าเป็ดพะโล้และลูกชิ้นทอดเข็นรถเข้าไปตั้งขายตรงทางเดินอันเป็นส่วนหนึ่งของตลาดดังกล่าวมาหลายปี โดยชำระค่าเช่าเป็นรายวันไม่ได้ทำสัญญาเช่ากัน ต่อมามารดาผู้เสียหายถึงแก่กรรมได้ทำพินัยกรรมยกตลาดให้ผู้เสียหายจำเลยชำระค่าเช่าบ้างไม่ชำระบ้าง ผู้เสียหายจึงให้เจ้าพนักงานตำรวจเรียกจำเลยมาแจ้งไม่ให้เข้าไปขายของในตลาดพิพาท จำเลยยังขืนนำรถเข็นเข้าไปขายของดังที่เคยทำมา เช่นนี้การเช่าของจำเลยเป็นการเช่ารายวัน และพอสิ้นวันหนึ่ง ๆ จำเลยก็ได้ออกไปจากตลาด การครอบครองของจำเลยจึงสิ้นสุดลงเป็นวัน ๆ เมื่อผู้เสียหายไม่ยอมให้จำเลยเข้าไปขายของในตลาดอีกต่อไป จำเลยยังขืนเข้าไป การกระทำของจำเลยจึงเป็นความผิดฐานบุกรุกตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 362

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1821/2523 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การยื่นคำร้องประนอมหนี้หลังกำหนดเวลาตามกฎหมายล้มละลาย ศาลต้องพิพากษาล้มละลายตามกฎหมาย
จำเลยมิได้ยื่นคำขอประนอมหนี้ เป็นหนังสือต่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ภายในเวลาตามที่เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ได้กำหนด เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ จึงได้ประชุมเจ้าหนี้ครั้งแรก และเจ้าหนี้ ได้ลงมติขอให้ศาลพิพากษาให้จำเลยล้มละลาย เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์รายงานมติในการประชุมดังกล่าวในศาลทราบตาม พระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ. 2483 มาตรา 61 ซึ่งตาม พระราชบัญญัติดังกล่าวบังคับให้ศาลพิพากษาให้ลูกหนี้ล้มละลาย ศาลจะงดพิพากษาหรือพิพากษาเป็นอย่างอื่นไม่ได้ ดังนั้น การที่จำเลยมายื่นคำร้องขอประนอมหนี้ก่อนล้มละลายเมื่อพ้นกำหนดระยะเวลาตามมาตรา 45 แล้ว ศาลจะสั่งงดอ่านคำพิพากษาโดยให้จำเลยไปดำเนินการขอประนอมหนี้ต่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ไม่ได้ ต้องยกคำร้องของ จำเลยและพิพากษาให้จำเลยล้มละลายตามความที่บัญญัติไว้ในมาตรา 61

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1821/2523

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การยื่นคำร้องประนอมหนี้หลังกำหนดเวลาตามกฎหมายล้มละลาย ศาลต้องพิพากษาล้มละลายตามมาตรา 61
จำเลยมิได้ยื่นคำขอประนอมหนี้เป็นหนังสือต่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ภายในเวลาตามที่เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ได้กำหนด เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์จึงได้ประชุมเจ้าหนี้ครั้งแรก และเจ้าหนี้ได้ลงมติขอให้ศาลพิพากษาให้จำเลยล้มละลาย เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์รายงานมติในการประชุมดังกล่าวให้ศาลทราบตามพระราชบัญญัติล้มละลายพ.ศ.2483 มาตรา 61 ซึ่งตามพระราชบัญญัติดังกล่าวบังคับให้ศาลพิพากษาให้ลูกหนี้ล้มละลาย ศาลจะงดพิพากษาหรือพิพากษาเป็นอย่างอื่นไม่ได้ ดังนั้น การที่จำเลยมายื่นคำร้องขอประนอมหนี้ก่อนล้มละลายเมื่อพ้นกำหนดระยะเวลาตามมาตรา 45 แล้ว ศาลจะสั่งงดอ่านคำพิพากษาโดยให้จำเลยไปดำเนินการขอประนอมหนี้ต่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ไม่ได้ ต้องยกคำร้องของจำเลยและพิพากษาให้จำเลยล้มละลายตามความที่บัญญัติไว้ในมาตรา 61

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1804/2523

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิเรียกบุตรคืน: ศาลงดสืบพยานเมื่อข้อเท็จจริงเพียงพอ และข้อฎีกาใหม่ในชั้นฎีกาต้องห้าม
โจทก์ฟ้องเรียกบุตรคืนเมื่อแถลงรับข้อเท็จจริงกันว่าโจทก์จำเลยไม่ได้จดทะเบียนสมรสจำเลยไม่ได้จดทะเบียนว่าเด็กเป็นบุตร หรือศาลพิพากษาว่าเด็กเป็นบุตรข้อเท็จจริงจึงเพียงพอที่จะวินิจฉัยคดีได้แล้ว ไม่จำเป็นต้องสืบพยานโจทก์จำเลยต่อไป
ข้อที่จำเลยฎีกาว่าโจทก์ไม่สมควรเป็นผู้ใช้อำนาจปกครองและได้ฟ้องขอให้ศาลเพิกถอนอำนาจปกครองนั้น เป็นเรื่องที่ไม่เกี่ยวกับประเด็นในคดีที่มีว่าโจทก์มีสิทธิเรียกบุตรคืนจากจำเลยหรือไม่ศาลมีอำนาจงดสืบพยานหลักฐานได้ตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 86 วรรคสอง
ข้อที่จำเลยฎีกาว่าขณะนี้ศาลชั้นต้นมีคำสั่งแสดงว่าจำเลยเป็นบิดาชอบด้วยกฎหมายของบุตรทั้งจำเลยจดทะเบียนว่าเป็นบุตรแล้วโจทก์จึงไม่มีสิทธิเรียกให้ส่งบุตรคืน นั้น จำเลยกล่าวอ้างขึ้นใหม่ในชั้นฎีกามิได้ยกขึ้นว่ากันมาแล้วในศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ต้องห้ามฎีกาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 249

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1803/2523

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจฟ้องขอถอนอำนาจปกครอง: บิดาโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายไม่มีสิทธิ
บิดาโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย (แต่เป็นบิดาที่แท้จริงโดยพฤตินัย) ถือไม่ได้ว่าเป็นญาติ ตามความหมายแห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1582 ไม่มีอำนาจร้องขอให้ถอนอำนาจปกครองของผู้ใช้อำนาจปกครองที่มีต่อผู้เยาว์(วินิจฉัยโดยที่ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 5/2523)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1724/2523

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การนำสืบพยานเอกสารต้องปฏิบัติตามขั้นตอนวิธีพิจารณาความแพ่ง หากไม่ปฏิบัติตาม เอกสารนั้นไม่รับฟัง
ผู้ร้องสอดมีหนังสือสัญญาซื้อขายที่ดินพิพาทตามเอกสารหมายร.2 อ้างเป็นพยานเอกสาร แต่มิได้ส่งสำเนาให้แก่โจทก์ซึ่งเป็นคู่ความอีกฝ่ายหนึ่งก่อนวันสืบพยานไม่น้อยกว่า 3 วัน ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 90 ซึ่งโจทก์ได้โต้แย้งไม่ยอมรับความถูกต้องไว้แล้วเอกสารฉบับนี้จึงรับฟังไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1713-1714/2523

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ผลของคำท้าพิสูจน์ลายมือชื่อที่มีผลเฉพาะคู่ความที่ตกลงกัน และหน้าที่การนำสืบพยานของโจทก์
โจทก์ฟ้องขอให้เพิกถอนนิติกรรมที่จำเลยที่ 1 กับจำเลยที่ 2 ทำไว้ ก่อนสืบพยาน โจทก์กับจำเลยที่ 1ตกลงท้าพิสูจน์ลายมือของจำเลยที่ 2 ในเอกสารที่ตกลงกันโดยจำเลยที่ 2 มิได้ตกลงตามคำท้าด้วย หากผลปรากฏว่าจำเลยที่ 1 เป็นฝ่ายแพ้ตามคำท้า ข้อตกลงท้ากันระหว่างโจทก์กับจำเลยที่ 1 คงมีผลบังคับเฉพาะในระหว่างโจทก์กับจำเลยที่ 1 เท่านั้น หามีผลบังคับถึงจำเลยที่ 2 ด้วยไม่เพราะกระบวนพิจารณาที่จำเลยที่ 1กระทำไปเป็นที่เสื่อมเสียแก่จำเลยที่ 2 ซึ่งเป็นคู่ความร่วมตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 59(1) โจทก์ย่อมมีหน้าที่นำสืบให้ฟังได้ตามที่โจทก์กล่าวอ้างดังนั้น คดีระหว่างโจทก์กับจำเลยที่ 2 จึงต้องมีการสืบพยานกันต่อไป
of 77