พบผลลัพธ์ทั้งหมด 317 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1612-1636/2523
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเลิกจ้างเนื่องจากขาดทุนและการจ่ายเงินชดเชย ไม่ถือเป็นการกระทำที่ไม่เป็นธรรม
จำเลยเลิกจ้างโจทก์ เพราะเหตุประสบภาวะการขาดทุน ไม่ สามารถดำเนินกิจการในแผนกที่โจทก์ทำงานอยู่ต่อไปได้ทั้งภายหลังเลิกจ้างแล้วจำเลยยังพยายามดำเนินการเพื่อให้โจทก์เข้าทำงานใหม่ และได้จ่ายเงินชดเชยให้โจทก์ทุกคนรับไปแล้วด้วย จึงถือไม่ได้ว่าเป็นการกระทำที่ไม่เป็นธรรมต่อโจทก์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1612-1636/2523 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเลิกจ้างเนื่องจากภาวะขาดทุนและการจ่ายเงินชดเชย ไม่ถือเป็นการกระทำที่ไม่เป็นธรรม
จำเลยเลิกจ้างโจทก์ เพราะเหตุประสบภาวะการขาดทุนไม่สามารถดำเนินกิจการในแผนกที่โจทก์ทำงานอยู่ต่อไปได้ ทั้งภายหลังเลิกจ้าง แล้วจำเลยยังพยายามดำเนินการเพื่อให้โจทก์เข้าทำงานใหม่ และได้จ่ายเงินชดเชยให้โจทก์ทุกคนรับไปแล้วด้วย จึงถือไม่ได้ว่า เป็นการกระทำที่ไม่เป็นธรรมแก่โจทก์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1605/2523
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การรบกวนสิทธิผู้ดูแลเด็กและการกระทำชำเราเด็กอายุไม่เกิน 13 ปี
ผู้เยาว์อายุไม่เกิน 13 ปี ได้รับอนุญาตจากผู้ดูแลให้ไปดูภาพยนตร์ภาพยนตร์เลิกแล้วผู้เยาว์พบกับจำเลย จำเลยกับผู้เยาว์พากันไปร่วมประเวณีที่กระท่อมด้วยความสมัครใจแล้วแยกกันกลับบ้าน แม้ว่าทางกลับบ้านของผู้เยาว์กับกระท่อมจะห่างกันเพียง 90 เมตร และผู้เยาว์อยู่กับจำเลยที่กระท่อมเพียง 5 ชั่วโมงก็ตาม ถือได้ว่าจำเลยรบกวนสิทธิหรือแยกสิทธิของผู้ดูแลในการควบคุมดูแลผู้เยาว์โดยปราศจากเหตุอันสมควรเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 317 วรรค 3
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1569/2523
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดฐานมีอาวุธสงคราม: ความผิดกรรมเดียว แม้มีวัตถุหลายประเภท ศาลฎีกามีอำนาจปรับบท
ความผิดฐานมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนกับวัตถุระเบิดซึ่งใช้เฉพาะแต่ในการสงคราม ตามพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ มาตรา 55 ต้องการให้เป็นความผิดในลักษณะเดียวกัน วัตถุที่ต้องห้ามไม่ว่าจะเป็นอาวุธปืนเครื่องกระสุนปืน หรือวัตถุระเบิดกฎหมายถือว่าเป็นวัตถุประเภทเดียวกัน การที่จำเลยมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนกับวัตถุระเบิดซึ่งใช้เฉพาะแต่ในการสงครามไว้ในครอบครองขณะเดียวกัน จึงเป็นความผิดกรรมเดียว
แม้จำเลยมิได้ฎีกาในปัญหาเป็นความผิดกรรมเดียวหรือหลายกรรมก็ตาม ศาลฎีกาก็มีอำนาจปรับบทให้ถูกต้องได้แม้ความผิดฐานมีเครื่องกระสุนปืนซึ่งใช้เฉพาะแต่ในการสงครามไว้ในครอบครองยุติแล้ว เพราะต้องห้ามฎีกาในข้อเท็จจริง แต่คดียังไม่ถึงที่สุดศาลฎีกาก็มีอำนาจวินิจฉัยถึงประเด็นดังกล่าวได้
แม้จำเลยมิได้ฎีกาในปัญหาเป็นความผิดกรรมเดียวหรือหลายกรรมก็ตาม ศาลฎีกาก็มีอำนาจปรับบทให้ถูกต้องได้แม้ความผิดฐานมีเครื่องกระสุนปืนซึ่งใช้เฉพาะแต่ในการสงครามไว้ในครอบครองยุติแล้ว เพราะต้องห้ามฎีกาในข้อเท็จจริง แต่คดียังไม่ถึงที่สุดศาลฎีกาก็มีอำนาจวินิจฉัยถึงประเด็นดังกล่าวได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1563/2523
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การพรากผู้เยาว์เพื่ออนาจารโดยไม่เต็มใจ ถือเป็นความผิดตาม ม.318
ผู้เสียหายมิได้รักใคร่กับจำเลยมาก่อน เป็นเพียงคนรู้จักกันเท่านั้น จำเลยได้ชวนผู้เสียหายไปเที่ยวบ้านจำเลย และรับว่าจะพากลับมาส่ง ผู้เสียหายจึงไปกับจำเลย แต่จำเลยกลับพาผู้เสียหายไปพักอาศัยที่บ้านคนอื่น แล้วจำเลยได้ขอจูบแก้มผู้เสียหาย ผู้เสียหายปิดป้องขัดขืน กรณีดังนี้จะถือว่าผู้เสียหายเต็มใจไปด้วยกับจำเลยหาได้ไม่ การกระทำของจำเลยจึงเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 318
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1563/2523 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การพรากผู้เยาว์เพื่อการอนาจารโดยไม่เต็มใจ การกระทำไม่เข้าข้อยกเว้นตามกฎหมาย
ผู้เสียหายมิได้รักใคร่กับจำเลยมาก่อน เป็นเพียงคนผู้จักกันเท่านั้น จำเลยได้ชวนผู้เสียหายไปเที่ยวบ้านจำเลย และรับว่าจะพากลับมาส่ง ผู้เสียหายจึงไปกับจำเลยแต่จำเลยกลับพาผู้เสียหายไปพักอาศัยที่บ้านคนอื่น แล้วจำเลยได้ขอจูบแก้มผู้เสียหาย ผู้เสียหายปิดป้องขัดขืน กรณีดังนี้จะถือว่าผู้เสียหายเต็มใจไปกับจำเลยหาได้ไม่ การกระทำของจำเลยจึงเป็นความผิดตาม ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 318
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1491/2523
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิในการจัดการมรดก: ทายาทโดยชอบธรรม, บุตรนอกกฎหมายที่ได้รับการรับรอง, และอำนาจของผู้จัดการมรดก
ผู้คัดค้านร้องขอให้ศาลเพิกถอนคำสั่งแต่งตั้งให้ผู้ร้องเป็นผู้จัดการมรดก อ้างว่าศาลเพิกถอนคำสั่งเพราะสั่งไปโดยผิดหลง โดยผู้ร้องแถลงข้อความอันเป็นเท็จปกปิดความจริงศาลชั้นต้นยกคำร้อง ต่อมาผู้คัดค้านยื่นคำร้องว่า ผู้ร้องมิได้ปฏิบัติหน้าที่ของผู้จัดการมรดกให้ถูกต้อง มิได้จัดทำบัญชีทรัพย์มรดกมาเสนอศาล และฉ้อฉลทรัพย์มรดกไว้เป็นประโยชน์ส่วนตัวดังนี้ ประเด็นที่จะวินิจฉัยในคำร้องฉบับหลังนี้จึงเป็นคนละเรื่องคนละประเด็นกับคำร้องฉบับแรกไม่เป็นการร้องซ้ำ
ทายาทที่จะร้องขอต่อศาลให้ตั้งผู้จัดการมรดกได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1713 หมายความถึงทายาทผู้มีสิทธิรับมรดกเท่านั้น ไม่หมายความถึงผู้ที่อยู่ในลำดับทายาททุกลำดับตามที่กำหนดไว้ในมาตรา 1629
ภรรยาโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย แต่ได้อยู่กินร่วมกันกับสามีจนสามีถึงแก่ความตาย เมื่อมีทรัพย์สินได้มาระหว่างเป็นสามีภรรยา ย่อมถือว่าเป็นทรัพย์สินทำมาหาได้ร่วมกันจึงเป็นผู้มีส่วนได้เสียตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา1713
ทายาทที่จะร้องขอต่อศาลให้ตั้งผู้จัดการมรดกได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1713 หมายความถึงทายาทผู้มีสิทธิรับมรดกเท่านั้น ไม่หมายความถึงผู้ที่อยู่ในลำดับทายาททุกลำดับตามที่กำหนดไว้ในมาตรา 1629
ภรรยาโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย แต่ได้อยู่กินร่วมกันกับสามีจนสามีถึงแก่ความตาย เมื่อมีทรัพย์สินได้มาระหว่างเป็นสามีภรรยา ย่อมถือว่าเป็นทรัพย์สินทำมาหาได้ร่วมกันจึงเป็นผู้มีส่วนได้เสียตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา1713
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1491/2523 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิในการจัดการมรดก: ทายาทโดยชอบธรรม, ผู้จัดการมรดก, และการฉ้อฉลทรัพย์มรดก
ผู้คัดค้านร้องขอให้ศาลเพิกถอนคำสั่งแต่งตั้งให้ผู้ร้องเป็นผู้จัดการมรดกอ้างว่าศาลเพิกถอนคำสั่งเพราะสั่งไปโดยผิดหลง โดยผู้ร้องแถลงข้อความอันเป็นเท็จปกปิดความจริงศาลชั้นต้นยกคำร้อง ต่อมาผู้คัดค้านยื่นคำร้องว่า ผู้ร้องมิได้ปฏิบัติหน้าที่ของผู้จัดการมรดกให้ถูกต้อง มิได้จัดทำบัญชีทรัพย์มรดกมาเสนอศาล และฉ้อฉลทรัพย์มรดกไว้เป็นประโยชน์ส่วนตัว ดังนี้ ประเด็นที่จะวินิจฉัยในคำร้องฉบับหลังนี้เป็นคนละเรื่องคนละประเด็นกับคำร้องฉบับแรกไม่เป็นการร้องซ้ำ
ทายาทที่จะร้องต่อศาลให้ตั้งผู้จัดการมรดกได้ตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1713 หมายความถึงทายาทผู้มีสิทธิรับมรดกเท่านั้น ไม่หมายความถึงผู้ที่อยู่ในลำดับทายาททุกลำดับตามที่กำหนดไว้ในมาตรา 1629
ภรรยาโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย แต่ได้อยู่กินร่วมกันกับสามีจนสามีถึงแก่ความตาย เมื่อมีทรัพย์สินได้มาระหว่างเป็นสามีภรรยา ย่อมถือว่า เป็นทรัพย์สินทำมาหาได้ ร่วมกัน จึงเป็นผู้มีส่วนได้เสียตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1713
ทายาทที่จะร้องต่อศาลให้ตั้งผู้จัดการมรดกได้ตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1713 หมายความถึงทายาทผู้มีสิทธิรับมรดกเท่านั้น ไม่หมายความถึงผู้ที่อยู่ในลำดับทายาททุกลำดับตามที่กำหนดไว้ในมาตรา 1629
ภรรยาโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย แต่ได้อยู่กินร่วมกันกับสามีจนสามีถึงแก่ความตาย เมื่อมีทรัพย์สินได้มาระหว่างเป็นสามีภรรยา ย่อมถือว่า เป็นทรัพย์สินทำมาหาได้ ร่วมกัน จึงเป็นผู้มีส่วนได้เสียตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1713
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1365/2523
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การประวิงคดีของจำเลยทำให้ศาลไม่อนุญาตเลื่อนคดีและพิจารณาต่อไปได้
ศาลสั่งให้จำเลยนำสืบก่อน นัดสืบพยานจำเลยครั้งแรกทนายจำเลยแถลงว่าจำเลยไม่ได้มาติดต่อเลย ขอเลื่อนคดีศาลอนุญาต ก่อนถึงวันนัดสืบพยานจำเลยครั้งที่สอง 4 วัน ทนายจำเลยยื่นคำแถลงว่าได้ติดต่อทางจดหมายลงทะเบียนถึงจำเลยหลายครั้ง จำเลยไม่มาติดต่อ จึงขอถอนตัวจากการเป็นทนายจำเลย ศาลจึงเลื่อนไปนัดพร้อมและหมายเรียกจำเลยมาศาล จำเลยได้รับหมายเรียกด้วยตนเองถึงวันนัดทนายจำเลยแถลงว่าได้พบและบอกให้จำเลยมาศาลแล้ว แต่จำเลยไม่ยอมมา ศาลอนุญาตให้ทนายจำเลยถอนตัวและนัดสืบพยานจำเลยเป็นครั้งที่สาม ถึงวันนัดทนายคนใหม่ของจำเลยยื่นคำร้องขอเลื่อนคดีอ้างว่าติดว่าความศาลอื่น ศาลอนุญาตและกำชับให้จำเลยเตรียมพยานมาให้พร้อมในนัดหน้าถึงวันนัดทนายจำเลยยื่นคำร้องว่าจำเลยป่วยมาศาลไม่ได้ ขอเลื่อนคดี ใบรับรองแพทย์จะเสนอภายหลังพฤติการณ์ดังกล่าวของจำเลยเป็นการประวิงคดีให้ชักช้า
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1328/2523
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ถิ่นที่อยู่ปกติของเด็กและเยาวชนเพื่อการพิจารณาคดี: การพิจารณาจากที่อยู่อาศัยจริงและการประกอบอาชีพ
จำเลยเป็นเยาวชนย้ายจากเขตจังหวัดธนบุรีมาอยู่ที่จังหวัดนนทบุรีตั้งแต่ยังเล็ก แต่ไม่ได้แจ้งย้ายทะเบียนบ้าน ต่อมาจำเลยทำงานรับจ้างเป็นเด็กกระเป๋ารถยนต์สองแถว และกินอยู่หลับนอนกับนายจ้างที่จังหวัดนนทบุรี ดังนี้ ถิ่นที่อยู่ปกติของจำเลยจึงอยู่ในเขตจังหวัดนนทบุรี แม้มารดาของจำเลยกับจำเลยแจ้งย้ายทะเบียนบ้านไปอยู่ในเขตกรุงเทพมหานคร ถิ่นที่อยู่ปกติของจำเลยหาใช่เป็นแห่งเดียวกับภูมิลำเนาจำเลยไม่โจทก์ฟ้องจำเลยต่อศาลจังหวัดนนทบุรีจึงชอบแล้วกรณีไม่ต้องด้วยมาตรา 28 แห่งพระราชบัญญัติวิธีพิจารณาคดีเด็กและเยาวชน พ.ศ.2494