พบผลลัพธ์ทั้งหมด 609 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1840-1841/2523
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ผู้รับโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินไม่ต้องรับผิดในความเสียหายจากสัญญาเช่าเดิมที่ผู้โอนผิดสัญญา
การที่จำเลยทั้งสามรับโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินจาก พ.ภายหลังที่พ. ได้กระทำผิดสัญญาไม่รื้อถอนสิ่งปลูกสร้างบนที่ดินที่โจทก์เช่าเป็นเวลาหลายปีโดยไม่ปรากฏว่าได้มีข้อตกลงดังกล่าวขึ้นใหม่ระหว่างจำเลยทั้งสามกับโจทก์จำเลยทั้งสามจึงไม่ได้กระทำผิดสัญญาข้อไม่รื้อถอนสิ่งปลูกสร้างบนที่ดินที่เช่าต่อโจทก์ และจำเลยทั้งสามผู้รับโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินที่ให้เช่าหาจำต้องรับเอาความรับผิดในความเสียหายต้องชดใช้ค่าสินไหมทดแทนที่หาก พ. ผู้รับโอนได้มีอยู่ต่อโจทก์เป็นของจำเลยด้วยตามมาตรา569 วรรคสองแห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ เพราะเหตุความรับผิดในความเสียหายดังกล่าวไม่ใช่หน้าที่ต้องปฏิบัติตามสัญญาเช่า
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1738/2523 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การสละสิทธิเรียกร้องแบ่งมรดกด้วยการตกลงรับชำระหนี้เป็นเงินและทรัพย์สินอื่นแทน
ที่พิพาทซึ่งโจทก์อ้างว่า เป็นมรดกได้แก่โจทก์ทั้งสองคนละประมาณ 7 ไร่เป็นส่วนหนึ่งของที่ดินแปลงใหญ่ ซึ่งจำเลยครอบครองอยู่ เมื่อโจทก์ไปขอแบ่งที่พิพาท โจทก์จำเลยได้ตกลงกันโดยจำเลยให้กระบือ 1 ตัว กับเงิน 4,000 บาท แก่โจทก์แทน แต่จำเลยยังไม่มีเงินได้ทำสัญญากู้ให้โจทก์ไว้ โจทก์ทั้งสองยอมรับเอาเงินและกระบือแทนการขอแบ่งที่ดิน ดังนี้ ถือได้ว่า โจทก์ทั้งสองได้สละสิทธิเรียกร้องขอแบ่งที่พิพาทแล้วโดยตกลงรับชำระหนี้ เป็นเงินและกระบือแทน เมื่อจำเลยไม่ปฏิบัติตามโจทก์จะกลับมาฟ้องเรียกร้องขอแบ่งที่พิพาทให้ผิดไปจากข้อตกลงนั้นหาได้ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1738/2523
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ข้อตกลงใหม่แทนการแบ่งมรดก: การสละสิทธิเรียกร้องเดิมเมื่อรับชำระหนี้เป็นอย่างอื่น
ที่พิพาทซึ่งโจทก์อ้างว่าเป็นมรดกตกได้แก่โจทก์ทั้งสองคนละประมาณ7 ไร่เป็นส่วนหนึ่งของที่ดินแปลงใหญ่ซึ่งจำเลยครอบครองอยู่ เมื่อโจทก์ไปขอแบ่งที่พิพาท โจทก์จำเลยได้ตกลงกันโดยจำเลยให้กระบือ 1 ตัว กับเงิน4,000 บาทแก่โจทก์แทน แต่จำเลยยังไม่มีเงินได้ทำสัญญากู้ให้โจทก์ไว้ โจทก์ทั้งสองยอมรับเอาเงินและกระบือแทนการขอแบ่งที่ดิน ดังนี้ ถือได้ว่าโจทก์ทั้งสองได้สละสิทธิเรียกร้องขอแบ่งที่พิพาทแล้วโดยตกลงรับชำระหนี้เป็นเงินและกระบือแทน เมื่อจำเลยไม่ปฏิบัติตามโจทก์จะกลับมาฟ้องเรียกร้องขอแบ่งที่พิพาทให้ผิดไปจากข้อตกลงนั้นหาได้ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1588/2523 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความรับผิดของหุ้นส่วนผู้จัดการ: ฟ้องห้างฯ นิติบุคคลโดยตรง หากจำเลยทำหน้าที่แทน ห้างฯ
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยเป็นเจ้าของปั้มน้ำมัน "ทองคำบริการ" รับรถยนต์ของโจทก์ไว้อัดฉีดแล้วประมาทเลินเล่อปล่อยให้บุคคลอื่น ซึ่งมิได้รับมอบอำนาจจากโจทก์เอารถคันดังกล่าวของโจทก์ไป ขอให้บังคับจำเลยชดใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์ แต่ทางพิจารณาได้ความว่าจำเลยเป็นเพียงหุ้นส่วนผู้จัดการของห้างหุ้นส่วนจำกัดทองคำบริการ ซึ่งเป็นนิติบุคคลต่างหากรับทำการอัดฉีดรถของโจทก์ จำเลยเป็นเพียงผู้ทำแทนห้างฯ มิได้ทำในฐานะส่วนตัว เมื่อฟ้องโจทก์มิได้ระบุถึงความรับผิดของห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล และไม่ได้ระบุว่าผู้เป็นหุ้นส่วนจะต้องรับผิดประการใดเลย ดังนี้ โจทก์จะขอให้จำเลยรับผิดในฐานะส่วนตัวหรือในฐานะหุ้นส่วนผู้จัดการห้างดังกล่าวไม่ได้ ต้องยกฟ้อง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1588/2523
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความรับผิดของหุ้นส่วนผู้จัดการ: ฟ้องห้างฯ หรือฟ้องผู้จัดการส่วนตัว?
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยเป็นเจ้าของปั๊มน้ำมัน "ทองคำบริการ"รับรถยนต์ของโจทก์ไว้อัดฉีดแล้วประมาทเลินเล่อปล่อยให้บุคคลอื่นซึ่งมิได้รับมอบอำนาจจากโจทก์เอารถคันดังกล่าวของโจทก์ไป ขอให้บังคับจำเลยชดใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์แต่ทางพิจารณาได้ความว่าจำเลยเป็นเพียงหุ้นส่วนผู้จัดการของห้างหุ้นส่วนจำกัดทองคำบริการซึ่งเป็นนิติบุคคลต่างหากรับทำการอัดฉีดรถของโจทก์ จำเลยเป็นเพียงผู้ทำแทนห้างฯ มิได้ทำในฐานะส่วนตัวเมื่อฟ้องโจทก์มิได้ระบุถึงความรับผิดของห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล และไม่ได้ระบุว่าผู้เป็นหุ้นส่วนจะต้องรับผิดประการใดเลย ดังนี้ โจทก์จะขอให้จำเลยรับผิดในฐานะส่วนตัวหรือในฐานะหุ้นส่วนผู้จัดการห้างดังกล่าวไม่ได้ ต้องยกฟ้อง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1513/2523
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิสัญชาติไทย: การขอแก้ไขสถานะบุคคลต้องดำเนินคดีทางแพ่ง ไม่ใช่คำร้อง
การที่ผู้ร้องอ้างว่าผู้ร้องเสียสิทธิในการได้สัญชาติไทยเพราะการกระทำของบิดาผู้ร้องซึ่งเป็นคนสัญชาติญวนผู้ร้องจึงขอให้ศาลมีคำสั่งเพิกถอนบัตรประจำตัวคนญวนอพยพทะเบียนครอบครัวญวนอพยพของผู้ร้องนั้นไม่มีบทบัญญัติของกฎหมายใดให้สิทธิแก่ผู้ร้องใช้สิทธิทางศาลโดยยื่นคำร้องขอให้ศาลมีคำสั่งแต่ฝ่ายเดียวได้ หากมีการโต้แย้งสิทธิของผู้ร้องที่ไม่อาจขอบัตรประจำตัวในฐานะเป็นคนมีสัญชาติไทย ผู้ร้องก็ชอบที่จะเสนอคดีของตนต่อศาล โดยทำเป็นคำฟ้องอันเป็นคดีมีข้อพิพาท
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1499/2523
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิจำเลยในคดีอาญา: การมีทนายก่อนการพิจารณาคดีและการปฏิบัติตามกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา
ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานมีกัญชาอันเป็นยาเสพติดให้โทษประเภท 5 ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย ตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2522 มาตรา 76 ซึ่งมีอัตราโทษจำคุกขั้นสูง 15 ปี เมื่อศาลชั้นต้นมิได้สอบถามจำเลยในเรื่องทนายเสียก่อนเริ่มพิจารณา แต่ดำเนินการพิจารณาไปโดยจำเลยไม่มีทนาย แล้วพิพากษาลงโทษจำเลย จึงเป็นการพิจารณาฝ่าฝืนบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 173 ศาลฎีกาเห็นสมควรให้ปฏิบัติเสียให้ถูกต้อง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1444/2523 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเพิกถอนการชำระหนี้ในคดีล้มละลาย เจ้าหนี้ไม่มีสิทธิขอรับชำระหนี้เดิมหากเพิกถอนเพราะไม่สุจริต
พระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ. 2483 มาตรา 92 บัญญัติถึงวิธีการขอรับชำระหนี้ในคดีล้มละลายไว้โดยเฉพาะแล้ว การที่ศาลเพิกถอนการชำระหนี้ระหว่างลูกหนี้กับเจ้าหนี้ เพราะเหตุเจ้าหนี้ได้กระทำโดยไม่สุจริตตาม มาตรา 114 นั้นเป็นกรณีที่ไม่ต้องด้วยมาตรา 92 ดังกล่าว เจ้าหนี้จึงไม่มีสิทธิขอรับชำระหนี้ที่ถูกเพิกถอน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1444/2523
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การขอรับชำระหนี้ในคดีล้มละลาย: เพิกถอนการชำระหนี้เพราะไม่สุจริต ไม่ได้รับสิทธิขอรับชำระหนี้เพิ่มเติม
พระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ.2483 มาตรา 92 บัญญัติถึงวิธีการขอรับชำระหนี้ในคดีล้มละลายไว้โดยเฉพาะแล้ว การที่ศาลเพิกถอนการชำระหนี้ระหว่างลูกหนี้กับเจ้าหนี้เพราะเหตุเจ้าหนี้ได้กระทำโดยไม่สุจริตตามมาตรา 114 นั้นเป็นกรณีที่ไม่ต้องด้วยมาตรา 92 ดังกล่าว เจ้าหนี้จึงไม่มีสิทธิขอรับชำระหนี้ที่ถูกเพิกถอน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1406/2523 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิเรียกร้องค่าเสียหายจากสัญญาเช่าซื้อและการประกันภัย: การใช้สิทธิโดยสุจริต แม้เวลาผ่านไป
สัญญาเช่าซื้อระบุว่า ผู้เช่าซื้อคือจำเลยที่ 1 ต้องประกันภัยรถยนต์คันที่เช่าซื้อไปจากโจทก์ และเสียค่าเบี้ยประกันภัย โดยโจทก์เป็นผู้รับประโยชน์ จำเลยที่ 1 จึงได้เอาประกันภัยรถพิพาทไว้กับบริษัทประกันภัย ต่อมาระหว่างชำระค่าเช่าซื้อไม่เสร็จ เช่นนี้ ตามสัญญาเช่าซื้อมีว่า จำเลยที่ 1 จะต้องรับผิดต่อการสูญหายและเสียหายทุกชนิดอันเกิดขึ้นแก่รถยนต์ที่เช่าซื้อ เมื่อรถยนต์ที่เช่าซื้อไปเกิดสูญหายขึ้น โจทก์ย่อมมีสิทธิเรียกร้องให้จำเลยที่ 1 ซึ่งเป็นคู่สัญญาใช้ราคารถยนต์ได้โดยตรง และที่ข้อสัญญาที่ให้ผู้เช่าซื้อต้องประกันภัยและเสียเบี้ยประกันภัยดังกล่าวข้างต้น ก็เป็นการที่ตกลงกันเพื่อประโยชน์ของบุคคลภายนอกคือโจทก์ ให้ได้รับชดใช้ค่าสินไหมทดแทนเนื่องจากการสูญหายของรถยนต์ได้จากบริษัทประกันภัยอีกทางหนึ่งด้วย ซึ่งสิทธิของโจทก์จะเกิดมีขึ้นก็ต่อเมื่อได้แสดงเจตนาแก่บริษัทประกันภัยว่า จะถือเอาประโยชน์จากสัญญา และบริษัทประกันภัยก็อาจยกข้อต่อสู้อันเกิดแต่สัญญาประกันภัยที่มีต่อจำเลยที่ 1 ขึ้นต่อสู้โจทก์ได้ตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 376 การที่โจทก์ไม่ใช้สิทธิเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนจากบริษัทประกันภัย แต่ได้เรียกร้องต่อจำเลยที่ 1 โดยตรงแม้จะเป็นเวลาภายหลังที่รถยนต์ได้หายไปแล้วเป็นเวลาถึง 3 ปี ก็หาใช่โจทก์ใช้สิทธิโดยไม่สุจริตแต่อย่างใดไม่