พบผลลัพธ์ทั้งหมด 609 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 895/2523
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ตัวการร่วมทำร้ายผู้อื่นถึงแก่ความตาย แม้การกระทำตนเองไม่ถึงอันตราย
จำเลยกับพวกเคยมีสาเหตุกับผู้ตายมาก่อน ก่อนเกิดเหตุจำเลยกับพวกที่ร่วมกันทำร้ายผู้ตายได้เดินมาพบกับผู้ตายด้วยกัน เมื่อพวกของจำเลยเข้าชกต่อยเตะทำร้ายผู้ตายจำเลยก็เข้าร่วมทำร้ายด้วย หลังจากเกิดเหตุแล้วจำเลยกับพวกก็หลบหนีไปพร้อมกัน แสดงให้เห็นเจตนาของจำเลยกับพวก ที่จะร่วมกันทำร้ายผู้ตายมาแต่ต้น แม้จำเลยจะได้ทำร้ายผู้ตายไม่ถึงเป็นอันตรายแก่กายหรือจิตใจก็ตาม เมื่อการตายของผู้ตายเกิดจากการแทงทำร้ายของพวกจำเลย ก็ย่อมถือว่าจำเลยร่วมเป็นตัวการในความผิดฐานทำร้ายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ผู้นั้นถึงแก่ความตาย ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา290
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 895/2523 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ตัวการร่วมทำร้ายผู้อื่นถึงแก่ความตาย แม้การกระทำตนเองไม่ถึงอันตราย
จำเลยกับพวกเคยมีสาเหตุกับผู้ตายมาก่อน ก่อนเกิดเหตุจำเลยกับพวกที่ร่วมกันทำร้ายผู้ตายได้เดินมาพบกับผู้ตายด้วยกัน เมื่อพวกของจำเลยเข้าชกต่อยเตะทำร้ายผู้ตายจำเลยก็เข้าร่วมทำร้ายด้วย หลังจากเกิดเหตุแล้วจำเลยกับพวกก็หลบหนีไปพร้อมกัน แสดงให้เห็นเจตนาของจำเลยกับพวกที่จะร่วมกันทำร้ายผู้ตายมาแต่ต้น แม้จำเลยจะได้ทำร้ายผู้ตายไม่ถึงเป็นอันตรายแก่กายหรือจิตใจก็ตาม เมื่อการตายของผู้ตายเกิดจากการแทงทำร้ายของพวกจำเลย ก็ย่อมถือว่าจำเลยร่วมเป็นตัวการในการผิดฐานทำร้ายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ผู้นั้นถึงแก่ความตาย ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 290
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 887/2523
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การยอมความระงับข้อพิพาทเช็คและการหักหนี้: สิทธิฟ้องคดีอาญาตามเช็คระงับเมื่อมีการตกลงหักหนี้และชำระหนี้ครบถ้วน
ธนาคารปฏิเสธการใช้เงินเพราะไม่มีเงินในบัญชีพอจ่ายตามเช็คที่จำเลยออกใช้ราคาของที่ซื้อจากโจทก์ ต่อมาจำเลยส่งของขายแก่โจทก์ โจทก์รับของหักใช้หนี้ตามเช็คของจำเลยนั้น ตามพฤติการณ์เห็นความมุ่งหมายว่าโจทก์จำเลยตกลงระงับข้อพิพาทไม่ดำเนินคดีอาญาสิทธิฟ้องคดีอาญาระงับไปตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 39(2)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 882/2523
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเปลี่ยนแปลงที่อยู่ผู้เอาประกันภัยและการตีความวัตถุที่เอาประกันภัยในสัญญาประกันอัคคีภัย
กรมธรรม์ประกันภัยระบุไว้ว่าโจทก์มีที่อยู่ที่แห่งหนึ่ง และได้นำสถานที่หรือทรัพย์สินที่โจทก์อยู่นั้นเองเอาประกันภัยไว้กับจำเลย ต่อมาโจทก์แจ้งที่อยู่ของโจทก์ใหม่ ซึ่งจำเลยก็ได้สลักหลังแก้ให้โจทก์แล้วการสลักหลังดังกล่าว จะฟังว่าเป็นการแก้เฉพาะที่อยู่ของโจทก์อย่างเดียวย่อมไม่ได้ เพราะสถานที่อยู่ของโจทก์ก็คือตัววัตถุที่โจทก์เอาประกันภัยไว้ แต่เดิมนั่นเองทั้งที่อยู่ของของโจทก์ผู้เอาประกันภัยจะมีการเปลี่ยนแปลง ภายหลังหรือไม่ ก็ไม่ใช่ข้อสารสำคัญที่จะต้องระบุในกรมธรรม์ประกันภัยตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 867
โจทก์ฟ้องจำเลยผู้รับประกันภัยให้ชดใช้ค่าเสียหาย จำเลยมีข้อต่อสู้อย่างไร จำเลยต้องให้การโดยชัดแจ้งและนำสืบให้ปรากฏ จึงจะเกิดประเด็นให้ศาลวินิจฉัย เมื่อจำเลยให้การต่อสู้ว่าโจทก์ไม่เป็นผู้มีส่วนได้เสียโดยมิได้ยกปัญหาว่าสัญญาซื้อขายโกดังทำกันเองไม่ได้จดทะเบียนต่อเจ้าพนักงานเป็นโมฆะ ขึ้นต่อสู้เพื่อให้พ้นความรับผิด จึงไม่มีประเด็นในข้อนี้
โจทก์ฟ้องจำเลยผู้รับประกันภัยให้ชดใช้ค่าเสียหาย จำเลยมีข้อต่อสู้อย่างไร จำเลยต้องให้การโดยชัดแจ้งและนำสืบให้ปรากฏ จึงจะเกิดประเด็นให้ศาลวินิจฉัย เมื่อจำเลยให้การต่อสู้ว่าโจทก์ไม่เป็นผู้มีส่วนได้เสียโดยมิได้ยกปัญหาว่าสัญญาซื้อขายโกดังทำกันเองไม่ได้จดทะเบียนต่อเจ้าพนักงานเป็นโมฆะ ขึ้นต่อสู้เพื่อให้พ้นความรับผิด จึงไม่มีประเด็นในข้อนี้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 846/2523
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การบุกรุกที่ดิน: จำเลยที่ 1 จ้างวานทำนาในที่ดินของโจทก์โดยไม่ได้รับความยินยอม การรับผิดของจำเลยอื่น
การที่จำเลยที่ 1 จ้างวานให้จำเลยอื่นเข้าทำนาในที่พิพาทโดยไม่ได้รับความยินยอมจากโจทก์ ถือว่าเป็นการบุกรุก จึงเป็น การละเมิดต่อโจทก์แต่จำเลยอื่นที่ไม่มีส่วนรู้เห็นในการบุกรุกด้วย หาจำต้องรับผิดด้วยไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 670/2523
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจมอบอำนาจยื่นคำร้องขอคืนของกลาง: การตีความขอบเขตอำนาจตามใบมอบอำนาจที่ระบุสิทธิเรียกร้องทรัพย์สิน
ใบมอบอำนาจมีข้อความข้อหนึ่งว่า 'เป็นโจทก์ฟ้องคดีต่อศาลในทางแพ่งและอาญา เพื่อเรียกร้องทวงคืนซึ่งทรัพย์สิน ฯลฯ' นั้นถือได้ว่าผู้ร้องได้มอบอำนาจให้ผู้รับมอบยื่นคำร้องต่อศาลขอคืนของกลางได้ เพราะการยื่นคำร้องขอคืนของกลางในคดีอาญาเป็นการใช้สิทธิดำเนินคดีในทางศาลอย่างหนึ่ง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 658/2523
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การซื้อขายที่ดินเพื่อเป็นหลักประกันหนี้ ไม่เข้าข่ายการเช่านาและสิทธิซื้อก่อน
โจทก์เป็นผู้เช่านาพิพาทของจำเลยที่ 1 จำเลยที่ 1กู้เงินจำเลยที่ 2แล้วโอนขายนาพิพาทให้จำเลยที่ 2 โดยมีเจตนาที่จะให้ที่นาพิพาทเป็นหลักประกันในการกู้ยืมเงิน เมื่อจำเลยที่ 1 ชำระหนี้ให้จำเลยที่ 2แล้ว จำเลยที่ 2 ก็ขายนาคืนให้จำเลยที่ 1 การที่จำเลยที่ 1 ขายนาพิพาทให้จำเลยที่ 2 เพียงเพื่อให้ที่ดินเป็นหลักประกันการชำระหนี้เงินกู้นั้น กรณีไม่ต้องด้วยพระราชบัญญัติควบคุมการเช่านา พ.ศ.2517 มาตรา 41โจทก์ไม่มีสิทธิบังคับให้จำเลยที่ 1 ขายนาพิพาทให้โจทก์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 638/2523 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดเจ้าพนักงานช่วยเหลือคนต่างด้าวหลบหนี แม้ละเลยไม่จับกุม แต่ไม่ถึงขั้นปฏิบัติหน้าที่มิชอบตาม ม.157
จำเลยเป็นเจ้าพนักงานตำรวจได้ร่วมกับพวกช่วยพาคนต่างด้าวสัญชาติลาวซึ่งเข้ามาในราชอาณาจักร โดยผ่าฝืนพระราชบัญญัติคนเข้าเมือง พ.ศ. 2493 ไปเสียจากที่ควบคุมเพื่อมิให้ต้องถูกส่งตัวกลับไปยังประเทศลาวตามคำสั่งของพนักงานเจ้าหน้าที่โดยจำเลยกับพวกนำรถยนต์มารับคนลาวดังกล่าวไป จำเลยเห็นแต่ละเลยไม่จับกุมดังนี้ จำเลยย่อมมีความผิดตามพระราชบัญญัติคนเข้าเมือง พ.ศ.2493 มาตรา 58 แต่ยังถือไม่ได้ว่าจำเลยปฏิบัติหน้าที่หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 638/2523
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจ้าพนักงานตำรวจช่วยเหลือคนต่างด้าวหลบหนีจากศูนย์กักตัว ไม่ถึงขั้นละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ
จำเลยเป็นเจ้าพนักงานตำรวจได้ร่วมกับพวกช่วยพาคนต่างด้าวสัญชาติลาวซึ่งเข้ามาในราชอาณาจักรโดยฝ่าฝืนพระราชบัญญัติคนเข้าเมือง พ.ศ.2493ไปเสียจากที่ควบคุมเพื่อมิให้ต้องถูกส่งตัวกลับไปยังประเทศลาวตามคำสั่งของพนักงานเจ้าหน้าที่โดยจำเลยกับพวกนำรถยนต์มารับคนลาวดังกล่าวไป จำเลยเห็นแต่ละเลยไม่จับกุมดังนี้ จำเลยย่อมมีความผิดตามพระราชบัญญัติคนเข้าเมือง พ.ศ.2493 มาตรา 58 แต่ยังถือไม่ได้ว่าจำเลยปฏิบัติหน้าที่หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 579/2523
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิในการขอคืนของกลาง: ผู้ร้องต้องพิสูจน์ความเป็นเจ้าของและไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำผิด
การขอคืนของกลางตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 36 เป็นส่วนหนึ่งของคดีอาญา เมื่อผู้ร้องอ้างว่าของกลางที่ถูกศาลสั่งริบเป็นของผู้ร้อง ผู้ร้องไม่ได้รู้เห็นเป็นใจในการกระทำผิดด้วย ก็เป็นหน้าที่ของผู้ร้องจะต้องนำสืบให้ได้ความตามที่กล่าวอ้างแม้โจทก์จะไม่ได้คัดค้านไว้ โจทก์ก็ยังมีสิทธินำพยานเข้าสืบหักล้างข้อกล่าวอ้างของผู้ร้องได้ในเมื่อโจทก์ได้ยื่นบัญชีระบุอ้างพยานและศาลได้อนุญาตให้โจทก์นำสืบโดยชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความว่าด้วยการระบุอ้างพยานหลักฐานแล้ว (อ้างฎีกาที่ 1263/2513)