คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
ทวี กสิยพงศ์

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 557 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1194/2523 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การจำนองที่ดินเป็นประกันหนี้: สิทธิจำนองเกิดขึ้นเมื่อจดทะเบียนเท่านั้น แม้มีการตกลงกันก่อนหน้า
โจทก์จำเลยตกลงกันจะให้มีการจำนองที่ดินตามโฉนดของโจทก์เป็นประกันหนี้ เมื่อยังไม่มีการจำนอง จำเลยก็ยังไม่มีสิทธิใด ๆ เหนือที่ดินของโจทก์ และไม่มีสิทธิที่จะยึดโฉนดของโจทก์ไว้เพื่อบังคับชำระหนี้แก่จำเลย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1172-1173/2523

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ผลผูกพันตามคำพิพากษาตามยอม โจทก์ฟ้องบังคับให้จำเลยจัดการโอนทรัพย์ซ้ำไม่ได้
เดิมจำเลยที่ 2 ได้ทำสัญญาประนีประนอมยอมความกับโจทก์โดยโจทก์ตกลงจะไปโอนที่ดิน 3 แปลง ซึ่งรวมทั้งที่ดินพิพาทแปลงที่ 5 ให้แก่จำเลยที่ 2 เป็นการใช้หนี้ให้ภายในกำหนด 5 วัน ศาลพิพากษาตามยอมแล้ว โจทก์จึงถูกผูกพันตามคำพิพากษาดังกล่าว ต่อมาโจทก์จัดการโอนที่ดินพิพาทแปลงที่ 5 ให้แก่จำเลยที่ 2 ตามคำพิพากษาตามยอมและจำเลยที่ 2 โอนต่อไปให้จำเลยที่ 1 แล้วโจทก์กลับมาฟ้องคดีนี้ขอให้บังคับให้จำเลยที่ 2 จัดการโอนที่ดินพิพาทแปลงที่ 5 กลับคืนให้โจทก์อีกย่อมมีผลเท่ากับว่าโจทก์ขอให้ศาลพิพากษาเพิกถอนเปลี่ยนแปลงคำพิพากษาโดยฝ่าฝืน ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา138 และมาตรา 145 โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องขอให้บังคับจำเลยเช่นนั้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 991/2523

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ขาดนัดยื่นคำให้การและบัญชีระบุพยานในคดีแพ่งที่ฟ้องรวมกับคดีอาญา ศาลฎีกาพิพากษายืนตามศาลล่าง
จำเลยขาดนัดยื่นคำให้การ และโจทก์ไม่ได้ยื่นคำขอให้ศาลมีคำสั่งว่าจำเลยขาดนัดภายในเวลา (15วัน) ตามที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 198 นั้นมาตรานี้เพียงแต่ให้ศาลมีอำนาจจำหน่ายคดี ศาลชั้นต้นยังไม่ได้สั่งจำหน่าย โจทก์ยื่นคำขอเรื่องขาดนัดได้
โจทก์ยื่นฟ้องคดีอาญาและคดีแพ่งมาในสำนวนเดียวกันกับได้ยื่นบัญชีระบุพยานไว้แล้ว โดยมิได้เจาะจงว่าจะให้เป็นบัญชีพยานในคดีส่วนอาญาหรือส่วนแพ่ง จึงต้องถือว่าเป็นบัญชีระบุพยานของคดีนี้ตลอดเรื่อง ไม่จำเป็นต้องยื่นบัญชีระบุพยานส่วนอาญาฉบับหนึ่งและส่วนแพ่งอีกฉบับหนึ่ง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 952/2523 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ หนังสือรับสภาพหนี้ไม่ระงับหนี้เดิม โจทก์มีสิทธิบังคับจำนองที่ดินแปลงแรกได้
จำเลยได้นำโฉนดเลขที่ 5167 และ 5168 มาทำสัญญาจำนองประกันความเสียหาย จากการปฏิบัติหน้าที่ในการทำงานของจำเลยไว้กับโจทก์ในวงเงิน 100,000 บาท ต่อมาจำเลยได้นำเงินของโจทก์ไปใช้ส่วนตัว 390,000 บาท จำเลยจึงทำหนังสือรับสภาพหนี้ไว้โดยได้นำโฉนดเลขที่ 5165 กับ 5166 มาจำนองไว้ แล้วจำเลยไม่ชำระเงิน เช่นนี้ การทำหนังสือรับสภาพหนี้ไม่ทำให้มูลหนี้เดิมระงับไป หนังสือรับสภาพหนี้คงเป็นเพียงหลักฐานแห่งการสงวนสิทธิเรียกร้องอันมีอยู่ในมูลหนี้เดิมนั่นเอง เมื่อโจทก์ยังไม่ได้รับชำระหนี้ โจทก์ชอบที่จะบังคับเอาแก่ที่ดินโฉนดเลขที่ 5167 และ 5168 ที่จำเลยนำมาจำนอง เพื่อประกันการชำระหนี้ก่อนเกิดเหตุได้ด้วย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 952/2523

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การทำหนังสือรับสภาพหนี้ไม่ระงับหนี้เดิม โจทก์มีสิทธิบังคับจำนองที่ดินแปลงแรกได้
จำเลยได้นำโฉนดเลขที่ 5167 และ 5168 มาทำสัญญาจำนองประกันความเสียหายจากการปฏิบัติหน้าที่ในการทำงานของจำเลยไว้กับโจทก์ในวงเงิน 100,000 บาท ต่อมาจำเลยได้นำเงินของโจทก์ไปใช้ส่วนตัว 390,000 บาท จำเลยจึงทำหนังสือรับสภาพหนี้ไว้โดยได้นำโฉนดเลขที่ 5165 กับ 5166มาจำนองไว้ แล้วจำเลยไม่ชำระเงิน เช่นนี้ การทำหนังสือรับสภาพหนี้ไม่ทำให้มูลหนี้เดิมระงับไปหนังสือรับสภาพหนี้คงเป็นเพียงหลักฐานแห่งการสงวนสิทธิเรียกร้องอันมีอยู่ในมูลหนี้เดิมนั่นเอง เมื่อโจทก์ยังไม่ได้รับชำระหนี้ โจทก์ชอบที่จะบังคับเอาแก่ที่ดิน โฉนดเลขที่ 5167 และ 5168 ที่จำเลยนำมาจำนองเพื่อประกันการชำระหนี้ก่อนเกิดเหตุได้ด้วย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 685/2523

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ดุลพินิจอนุญาตฎีกา: อำนาจเด็ดขาดของผู้พิพากษา vs. การพิจารณาของศาลฎีกา
ตามบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 221 ที่ว่าข้อความที่ตัดสินนั้นเป็นปัญหาสำคัญอันควรสู่ศาลสูงสุด นั้นกฎหมายมอบให้เป็นดุลพินิจอันเด็ดขาดของผู้พิพากษาผู้มีคำสั่งอนุญาตให้ฎีกา(วินิจฉัยโดยมติที่ประชุมใหญ่ครั้งที่ 1/2523)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 641-642/2523

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การปรับบทลงโทษและการพิจารณาโทษใหม่ ศาลฎีกามีอำนาจพิจารณาโทษและรอการลงโทษได้
ความผิดแต่ละกระทงศาลชั้นต้นลงโทษจำคุกเพียง 6 เดือนศาลอุทธรณ์พิพากษายืน จำเลยฎีกาขอให้รอการลงโทษ เป็นการฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงซึ่งต้องห้าม
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยที่ 2 ตามมาตรา 177 ศาลล่างนำมาตรา 181 ซึ่งมีโทษหนักกว่ามาปรับบทลงโทษด้วย เมื่อศาลฎีกาตัดมาตราดังกล่าวออกแล้วย่อมมีอำนาจพิจารณาถึงโทษว่าเหมาะสมแล้วหรือไม่และให้รอการลงโทษได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 633/2523

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ หน้าที่นำสืบประเด็นเจ้าของรถยนต์ที่ถูกริบ และขอบเขตการสืบพยานเพื่อพิสูจน์ข้อเท็จจริง
ข้อที่ว่าผู้ร้องเคยไปติดต่อขอรับรถยนต์ของกลางคืนในชั้นสอบสวนหรือไม่นั้นเป็นข้อเท็จจริงอันหนึ่งสำหรับประกอบการวินิจฉัยประเด็นที่ว่าผู้ร้องเป็นเจ้าของอันแท้จริงของรถยนต์ที่ศาลได้สั่งริบไปนั้นหรือไม่ ซึ่งเป็นประเด็นที่ผู้ร้องมีหน้าที่นำสืบ ไม่ว่าผู้ร้องจะได้เคยไปติดต่อขอรับรถยนต์ของกลางคืนแล้วหรือว่าไม่เคยไปโดยมีเหตุผลที่น่ารับฟังก็ตาม ทนายผู้ร้องก็ควรซักถามให้ผู้ร้องเบิกความไว้ให้ปรากฏ เมื่อผู้ร้องไม่ได้เบิกความถึงเลย ครั้นโจทก์ซึ่งเป็นฝ่ายนำพยานมาสืบภายหลังได้ซักถามพยานโจทก์ซึ่งเป็นพนักงานสอบสวนและพยานปากนี้เบิกความว่าไม่มีผู้ใดไปร้องต่อพยานว่าเป็นเจ้าของรถยนต์ของกลางนี้ดังนี้ จะถือว่าโจทก์มิได้ปฏิบัติตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 89 หาได้ไม่เพราะไม่ใช่กรณีที่โจทก์สืบพยานเพื่อหักล้างหรือเปลี่ยนแปลงแก้ไขถ้อยคำพยานของฝ่ายผู้ร้องที่นำสืบก่อนในข้อความทั้งหลายซึ่งพยานผู้ร้องเป็นผู้รู้เห็นทั้งไม่ใช่การสืบพยานเพื่อพิสูจน์ข้อความอย่างใดอย่างหนึ่งอันเกี่ยวกับการกระทำหรือถ้อยคำหรือหนังสือซึ่งพยานผู้ร้องได้กระทำขึ้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 626/2523 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจอนุญาตฎีกาของผู้พิพากษา: ดุลยพินิจเด็ดขาดตามมาตรา 221 ว.พ.พ.
ตามบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 221
กฎหมายมอบให้เป็นดุลยพินิจอันเด็ดขาดของผู้พิพากษาผู้มีคำสั่งอนุญาตให้ฎีกา
(วินิจฉัยโดยที่ประชุมใหญ่ครั้งที่ 1/2523)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 626/2523

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ดุลพินิจอนุญาตฎีกา: ศาลฎีกาเคารพดุลพินิจผู้พิพากษาอนุญาตฎีกา แม้ข้อเท็จจริงไม่สำคัญ
ตามบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 221กฎหมายมอบให้เป็นดุลพินิจอันเด็ดขาดของผู้พิพากษาผู้มีคำสั่งอนุญาตให้ฎีกา (วินิจฉัยโดยที่ประชุมใหญ่ครั้งที่1/2523)
of 56