พบผลลัพธ์ทั้งหมด 557 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 936/2522
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การให้เพื่อตอบแทน ไม่เป็นการให้โดยเสน่หา โจทก์ขอถอนคืนไม่ได้
จำเลยได้ออกเงินชำระหนี้ให้แก่ผู้มีชื่อแทนโจทก์ โจทก์จึงยกที่ดินพิพาทให้จำเลยเป็นการตอบแทน จึงไม่ถือว่าเป็นการให้โดยเสน่หา โจทก์จะมาขอถอนคืนการให้ไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 936/2522 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การให้เพื่อตอบแทนหนี้ ไม่ถือเป็นการให้โดยเสน่หา โจทก์ขอถอนคืนไม่ได้
จำเลยได้ออกเงินชำระหนี้ให้แก่ผู้มีชื่อแทนโจทก์ โจทก์จึงยกที่ดินพิพาทให้จำเลยเป็นการตอบแทน จึงไม่ถือว่าเป็นการให้โดยเสน่หา โจทก์จะมาขอถอนคืนการให้ไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 824/2522
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดอาญา: การลงโทษตามบทเฉพาะก่อนบททั่วไป หากการกระทำผิดเข้าข่ายบทเฉพาะแล้ว ไม่ต้องลงโทษตามบททั่วไปอีก
เมื่อการกระทำเป็นความผิดตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา147ซึ่งเป็นบทเฉพาะแล้ว ก็ไม่เป็นผิดตาม มาตรา157 ซึ่งเป็นบททั่วไปอีกศาลลงโทษตาม มาตรา147 บทเดียว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 821/2522
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การจำหน่ายคดีจากสารบบเนื่องจากคู่ความไม่มาศาลโดยไม่แจ้งเหตุ ศาลต้องพิจารณาเหตุสมควรและให้โอกาสคู่ความหาทนายใหม่
ในวันนัดสืบพยานโจทก์นัดแรก คู่ความทั้งสองฝ่ายไม่มาศาลโดยไม่แจ้งเหตุขัดข้อง ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้จำหน่ายคดีจากสารบบความคำสั่งนี้ไม่มีบทบัญญัติห้ามอุทธรณ์หรือให้เป็นที่สุดเมื่อโจทก์มิได้ยื่นคำขอให้พิจารณาใหม่ โจทก์ย่อมมีสิทธิอุทธรณ์คำสั่งศาลดังกล่าวนั้นได้
โจทก์ไม่มาศาลเพราะทนายโจทก์ขอถอนตัวโดยตัวความไม่ทราบเรื่องและเข้าใจผิดคิดว่าทนายของตนทำหน้าที่อยู่กรณีดังนี้จะถือว่าโจทก์จงใจขาดนัดไม่ได้ คดีมีเหตุสมควรที่ศาลจะเลื่อนการพิจารณาไปตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 203
โจทก์ไม่มาศาลเพราะทนายโจทก์ขอถอนตัวโดยตัวความไม่ทราบเรื่องและเข้าใจผิดคิดว่าทนายของตนทำหน้าที่อยู่กรณีดังนี้จะถือว่าโจทก์จงใจขาดนัดไม่ได้ คดีมีเหตุสมควรที่ศาลจะเลื่อนการพิจารณาไปตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 203
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 748/2522
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การรับฟังคำให้การชั้นสอบสวนในคดีข่มขืน: จำเป็นต้องมีพยานเบิกความต่อศาลเพื่อยืนยันความผิด
ในคดีข่มขืนกระทำชำเรา โจทก์ไม่ได้ตัวผู้เสียหายมาเบิกความ คงมีแต่คำให้การชั้นสอบสวนของผู้เสียหาย ซึ่งจะรับฟังประกอบได้ก็แต่เพียงว่าผู้เสียหายได้ให้การไว้ในชั้นสอบสวนเช่นนั้นจริง แต่ความจริงจะเป็นอย่างไรในชั้นศาลโจทก์จะต้องมีพยานมาเบิกความต่อศาลว่าจำเลยได้กระทำผิดจริงเมื่อชั้นศาลโจทก์ไม่มีพยานมาเบิกความว่าจำเลยได้กระทำผิดโดยข่มขืนกระทำชำเราผู้เสียหาย เช่นนี้ เพียงแต่คำให้การชั้นสอบสวนจึงยังฟังลงโทษจำเลยไม่ได้ (อ้างฎีกา165/2503)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 682/2522
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คำรับสารภาพที่เกิดจากการถูกหลอกลวง และพยานซัดทอดเพื่อปกป้องตนเอง ไม่มีน้ำหนักในการลงโทษ
คนร้ายใช้ปืนของกลางยิงฆ่าคน แล้วนำมาฝาก ผ.ไว้ผ.นำมามอบให้ตำรวจ คำเบิกความของ ส.เจ้าของปืนว่าได้ขายปืนให้จำเลยแล้ว มีลักษณะเป็นคำซัดทอดเพื่อให้ตนเองพ้นผิดซึ่งไม่มีน้ำหนักในการรับฟัง
จำเลยรับสารภาพชั้นสอบสวนเพราะหลงเชื่อคำหลอกลวงของ ส.ว่าถ้ารับสารภาพแล้วจะได้ปืนคืน และ ส.จะไปจัดการโอนทะเบียนให้ด้วย เป็นคำรับสารภาพที่เกิดจากการจูงใจมีคำมั่นสัญญาหลอกลวงโดยมิชอบ รับฟังเป็นพยานหลักฐานมาลงโทษจำเลยไม่ได้
จำเลยรับสารภาพชั้นสอบสวนเพราะหลงเชื่อคำหลอกลวงของ ส.ว่าถ้ารับสารภาพแล้วจะได้ปืนคืน และ ส.จะไปจัดการโอนทะเบียนให้ด้วย เป็นคำรับสารภาพที่เกิดจากการจูงใจมีคำมั่นสัญญาหลอกลวงโดยมิชอบ รับฟังเป็นพยานหลักฐานมาลงโทษจำเลยไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 682/2522 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การรับฟังพยานหลักฐาน การซัดทอดเพื่อพ้นผิด และคำรับสารภาพที่เกิดจากการจูงใจ
คนร้ายใช้ปืนของกลางยิงฆ่าคน แล้วนำมาฝาก ผ.ไว้ ผ.นำมามอบให้ตำรวจคำเบิกความของ ส. เจ้าของปืนว่าได้ขายปืนให้จำเลยแล้ว มีลักษณะเป็นคำซัดทอดเพื่อให้ตนเองพ้นผิด ซึ่งไม่มีน้ำหนักในการรับฟัง
จำเลยรับสารภาพชั้นสอบสวนเพราะหลงเชื่อคำหลอกลวงของ ส. ว่า ถ้ารับสารภาพแล้วจะได้ปืนคืน และ ส. จะไปจัดการโอนทะเบียนให้ด้วย เป็นคำรับสารภาพที่เกิดการจูงใจ มีคำมั่นสัญญาหลอกลวงโดยมิชอบ รับฟังเป็นพยานหลักฐานมาลงโทษจำเลยไม่ได้
จำเลยรับสารภาพชั้นสอบสวนเพราะหลงเชื่อคำหลอกลวงของ ส. ว่า ถ้ารับสารภาพแล้วจะได้ปืนคืน และ ส. จะไปจัดการโอนทะเบียนให้ด้วย เป็นคำรับสารภาพที่เกิดการจูงใจ มีคำมั่นสัญญาหลอกลวงโดยมิชอบ รับฟังเป็นพยานหลักฐานมาลงโทษจำเลยไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 586/2522
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การโอนสิทธิเช่าต้องได้รับอนุญาตจากผู้ให้เช่า หากไม่ได้รับอนุญาต ผู้รับโอนยังคงเป็นบริวารของผู้เช่าเดิม
ผู้เช่าห้องแถวโอนสิทธิการเช่า แต่ผู้ให้เช่ายังไม่ได้อนุญาตตามที่ร้องขอผู้รับโอนเข้าอยู่ในห้องแถว ถือว่าผู้รับโอนเป็นบริวารของผู้เช่าศาลพิพากษาขับไล่ผู้เช่าจึงบังคับถึงบริวารด้วย คดีของบริวารที่ถูกศาลบังคับฎีกาข้อเท็จจริงไม่ได้ตาม มาตรา 248 แก้ไขเพิ่มเติมฉบับที่6 พ.ศ.2518
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 428/2522
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแก้ไขฟ้องเพิ่มข้อเท็จจริงและการแบ่งเงินจากสัญญาจะซื้อจะขายที่ดิน: อายุความ 10 ปี
เดิมโจทก์บรรยายฟ้องว่าจำเลยทำสัญญาจะขายที่ดินให้แก่โจทก์ครึ่งแปลง และจำเลยได้รับเงินไปเรียบร้อยในวันทำสัญญาครั้นเมื่อจำเลยยื่นคำให้การแล้ว โจทก์ขอแก้ไขคำฟ้องเดิมโดยเพิ่มเติมข้อความว่า โดยจำเลยตกลงให้โจทก์นำเงินไปชำระค่าเช่าซื้อรถยนต์ที่บริษัท ย.ค้างชำระบริษัท ว..และโจทก์ได้ชำระเงินให้แก่บริษัทว.เรียบร้อยแล้ว. จึงถือว่าจำเลยได้รับเงินจำนวนดังกล่าวไปจากโจทก์เรียบร้อยแล้วในวันทำสัญญา. ข้อความที่โจทก์แก้ไขเพิ่มเติมนี้.เป็นแต่เพียงอธิบายข้อความที่กล่าวว่าจำเลยได้รับเงินจากโจทก์แล้วในวันทำสัญญานั้นโจทก์จำเลยตกลงกันให้ถือเอาการที่โจทก์นำเงินไปชำระหนี้ซึ่งบริษัท ย.ของจำเลยติดค้างอยู่กับบริษัทว. ของโจทก์เป็นการชำระราคาที่ดินที่จำเลยทำสัญญาจะขายให้แก่โจทก์นั่นเอง แม้จะเป็นการกล่าวอ้างข้อเท็จจริงเพิ่มขึ้นจากคำฟ้องเดิมและกล่าวพาดพิงไปถึงบริษัทของจำเลยซึ่งเป็นนิติบุคคลต่างหากจากตัวจำเลย โจทก์มีสิทธิทำได้
โจทก์ไม่ได้ฟ้องเรียกเงินค่ารถยนต์ที่ค้างชำระข้อที่ว่าบริษัทของจำเลยค้างชำระราคารถยนต์อยู่เท่าใด จึงเป็นรายละเอียดซึ่งไม่จำเป็นต้องกล่าวมาในฟ้อง
สัญญาระหว่างโจทก์กับจำเลยเป็นสัญญาจะซื้อจะขายที่ดินซึ่งกำหนดไว้ว่าจำเลยจะไปจดทะเบียนให้โจทก์เป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์ร่วมภายใน 1 ปี เพียงแต่มีข้อตกลงกันเป็นพิเศษยอมให้ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งนำที่ดินที่จะซื้อขายกันนี้ไปขายให้แก่บุคคลภายนอกได้โดยจะต้องนำเงินที่ขายได้มาแบ่งกันคนละครึ่งเท่านั้นการมีข้อตกลงเป็นพิเศษเพียงเท่านี้หาทำให้สัญญาจะซื้อจะขายที่ดินกลายเป็นสัญญาหุ้นส่วนไปไม่ และกฎหมายมิได้กำหนดอายุความสำหรับการเรียกร้องให้แบ่งเงินตามข้อตกลงดังกล่าวจึงมีอายุความสิบปีตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 164
โจทก์ไม่ได้ฟ้องเรียกเงินค่ารถยนต์ที่ค้างชำระข้อที่ว่าบริษัทของจำเลยค้างชำระราคารถยนต์อยู่เท่าใด จึงเป็นรายละเอียดซึ่งไม่จำเป็นต้องกล่าวมาในฟ้อง
สัญญาระหว่างโจทก์กับจำเลยเป็นสัญญาจะซื้อจะขายที่ดินซึ่งกำหนดไว้ว่าจำเลยจะไปจดทะเบียนให้โจทก์เป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์ร่วมภายใน 1 ปี เพียงแต่มีข้อตกลงกันเป็นพิเศษยอมให้ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งนำที่ดินที่จะซื้อขายกันนี้ไปขายให้แก่บุคคลภายนอกได้โดยจะต้องนำเงินที่ขายได้มาแบ่งกันคนละครึ่งเท่านั้นการมีข้อตกลงเป็นพิเศษเพียงเท่านี้หาทำให้สัญญาจะซื้อจะขายที่ดินกลายเป็นสัญญาหุ้นส่วนไปไม่ และกฎหมายมิได้กำหนดอายุความสำหรับการเรียกร้องให้แบ่งเงินตามข้อตกลงดังกล่าวจึงมีอายุความสิบปีตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 164
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 428/2522 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแก้ไขฟ้อง เพิ่มข้อเท็จจริงใหม่ และอายุความสัญญาจะซื้อจะขายที่มีข้อตกลงพิเศษ
เดิมโจทก์บรรยายฟ้องว่าจำเลยทำสัญญาจะขายที่ดินให้แก่โจทก์ครึ่งแปลง และจำเลยได้รับเงินไปเรียบร้อยในวันทำสัญญา ครั้นเมื่อจำเลยยื่นคำให้การแล้ว โจทก์ขอแก้ไขคำฟ้องเดิมโดยเพิ่มเติมข้อความว่า โดยจำเลยตกลงให้โจทก์นำเงินไปชำระค่าเช่าซื้อรถยนต์ที่บริษัท ย. ค้างชำระบริษัท ว. และโจทก์ได้ชำระเงินให้แก่บริษัท ว. เรียบร้อยแล้ว จึงถือว่าจำเลยได้รับเงินจำนวนดังกล่าวไปจากโจทก์เรียบร้อยแล้วในวันทำสัญญา ข้อความที่โจทก์แก้ไขเพิ่มเติมนี้เป็นแต่เพียงอธิบายข้อความที่กล่าวว่าจำเลยได้รับเงินจากโจทก์แล้วในวันทำสัญญานั้น โจทก์จำเลยตกลงกันให้ถือเอาการที่โจทก์นำเงินไปชำระหนี้ซึ่งบริษัท ย. ของจำเลยติดค้างอยู่กับบริษัท ว. ของโจทก์เป็นการชำระราคาที่ดินที่จำเลยทำสัญญาจะขายให้แก่โจทก์นั่นเอง แม้จะเป็นการกล่าวอ้างข้อเท็จจริง เพิ่มขึ้นจากคำฟ้องเดิมและกล่าวพาดพิงไปถึงบริษัทของจำเลยซึ่งเป็นนิติบุคคลต่างหากจากตัวจำเลยโจทก์มีสิทธิทำได้
โจทก์ไม่ได้ฟ้องเรียกเงินค่ารถยนต์ที่ค้างชำระ ข้อที่ว่าบริษัทของจำเลยค้างชำระราคารถยนต์อยู่เท่าใด จึงเป็นรายละเอียดซึ่งไม่จำเป็นต้องกล่าวมาในฟ้อง
สัญญาระหว่างโจทก์กับจำเลยเป็นสัญญาจะซื้อจะขายที่ดินซึ่งกำหนดไว้ว่าจำเลยจะไปจดทะเบียนให้โจทก์เป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์ร่วมภายใน 1 ปี เพียงแต่มีข้อตกลงกันเป็นพิเศษยอมให้ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งนำที่ดินที่จะซื้อขายกันนี้ไปขายให้แก่บุคคลภายนอกได้ โดยจะต้องนำเงินที่ขายได้มาแบ่งกันคนละครึ่งเท่านั้น การมีข้อตกลงเป็นพิเศษเพียงเท่านี้หาทำให้สัญญาจะซื้อจะขายที่ดินกลายเป็นสัญญาหุ้นส่วนไปไม่ และกฎหมายมิได้กำหนดอายุความสำหรับการเรียกร้องให้แบ่งเงินตามข้อตกลงดังกล่าว จึงมีอายุความสิบปีตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 164
โจทก์ไม่ได้ฟ้องเรียกเงินค่ารถยนต์ที่ค้างชำระ ข้อที่ว่าบริษัทของจำเลยค้างชำระราคารถยนต์อยู่เท่าใด จึงเป็นรายละเอียดซึ่งไม่จำเป็นต้องกล่าวมาในฟ้อง
สัญญาระหว่างโจทก์กับจำเลยเป็นสัญญาจะซื้อจะขายที่ดินซึ่งกำหนดไว้ว่าจำเลยจะไปจดทะเบียนให้โจทก์เป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์ร่วมภายใน 1 ปี เพียงแต่มีข้อตกลงกันเป็นพิเศษยอมให้ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งนำที่ดินที่จะซื้อขายกันนี้ไปขายให้แก่บุคคลภายนอกได้ โดยจะต้องนำเงินที่ขายได้มาแบ่งกันคนละครึ่งเท่านั้น การมีข้อตกลงเป็นพิเศษเพียงเท่านี้หาทำให้สัญญาจะซื้อจะขายที่ดินกลายเป็นสัญญาหุ้นส่วนไปไม่ และกฎหมายมิได้กำหนดอายุความสำหรับการเรียกร้องให้แบ่งเงินตามข้อตกลงดังกล่าว จึงมีอายุความสิบปีตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 164