คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
ทวี กสิยพงศ์

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 557 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1856/2528

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ประเด็นข้อพิพาทจำกัด ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยนอกประเด็น วินิจฉัยเรื่องแปลงหนี้ใหม่ที่ไม่ใช่ประเด็นที่ศาลชั้นต้นกำหนดเป็นเหตุให้ต้องกลับคำพิพากษา
ศาลชั้นต้นกำหนดประเด็นข้อพิพาทไว้เพียงประเด็นเดียวว่าหนังสือสัญญาที่โจทก์นำมาฟ้องเป็นสัญญาปลอมหรือไม่ดังนี้เมื่อศาลอุทธรณ์ฟังว่าหนังสือสัญญากู้ดังกล่าวไม่ใช่สัญญาปลอมแล้วจะวินิจฉัยว่าเป็นการแปลงหนี้ใหม่หนี้ตามสัญญากู้ไม่สมบูรณ์เพราะไม่ระบุจำนวนเงินโจทก์นำพยานบุคคลมาสืบเพิ่มเติมข้อความในสัญญากู้ต้องห้ามไม่ให้รับฟังหาได้ไม่เพราะเป็นการวินิจฉัยนอกประเด็นข้อพิพาท

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1856/2528 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การวินิจฉัยนอกประเด็นข้อพิพาทในสัญญาซื้อขาย/เช่าซื้อ และการแปลงหนี้
ศาลชั้นต้นกำหนดประเด็นข้อพิพาทไว้เพียงประเด็นเดียวว่า หนังสือสัญญาที่โจทก์นำมาฟ้องเป็นสัญญาปลอมหรือไม่ ดังนี้เมื่อศาลอุทธรณ์ฟังว่าหนังสือสัญญากู้ดังกล่าวไม่ใช่สัญญาปลอมแล้ว จะวินิจฉัยว่าเป็นการแปลงหนี้ใหม่ หนี้ตามสัญญากู้ไม่สมบูรณ์เพราะไม่ระบุจำนวนเงิน โจทก์นำพยานบุคคลมาสืบเพิ่มเติมข้อความในสัญญากู้ต้องห้ามไม่ให้รับฟัง หาได้ไม่ เพราะเป็นการวินิจฉัยนอกประเด็นข้อพิพาท

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1835/2528

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เบิกความเท็จต่อศาลในคดีแพ่งเพื่อหวังผลทางทรัพย์สิน ถือเป็นความเท็จอันเป็นข้อสำคัญในคดีอาญา
ที่ดินโฉนดเลขที่ 77 เป็นกรรมสิทธิ์รวมของ ส.ห. และม.ต่อมาบุคคลทั้งสามขายที่ดินดังกล่าวให้โจทก์ที่ 1และ จ. จำเลยที่ 1 ไม่ได้ซื้อที่ดินดังกล่าวจาก ส. และไม่ได้ครอบครองที่ดินด้วยเจตนาเป็นเจ้าของในฐานะผู้ซื้อการที่จำเลยที่ 1 เบิกความต่อศาลแพ่งในคดีแพ่งว่า ส. ได้ขายที่ดินโฉนดเลขที่ 77 ให้แก่จำเลยที่ 1ในราคา 70,000 บาทชำระเงินเรียบร้อยแล้วและได้เข้าครอบครองมา 20 ปีเศษเพื่อให้ศาลแพ่งมีคำสั่งว่าที่ดินดังกล่าวเป็นกรรมสิทธิ์ของจำเลยที่ 1 โดยการครอบครองปรปักษ์คำเบิกความของจำเลยที่ 1 จึงเป็นความเท็จอันเป็นข้อสำคัญในคดี ฟ้องของโจทก์บรรยายว่า คำเบิกความของจำเลยในคดีแพ่งเป็นข้อสำคัญในคดีและคำเบิกความของจำเลยดังกล่าวเป็นเหตุให้ศาลหลงเชื่อจึงมีคำสั่งให้ที่ดินโฉนดเลขที่ 77 ตกเป็นกรรมสิทธิ์ของจำเลยที่ 1เป็นการบรรยายให้เห็นว่าคำเบิกความของจำเลยเป็นข้อสำคัญในคดีอย่างไรพอที่จำเลยเข้าใจข้อหาได้ดีแล้วฟ้องโจทก์จึงเป็นฟ้องที่สมบูรณ์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1835/2528 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เบิกความเท็จในคดีแพ่งเพื่อครอบครองปรปักษ์ เป็นความเท็จอันเป็นข้อสำคัญในคดีอาญา
ที่ดินโฉนดเลขที่ 77 เป็นกรรมสิทธิ์รวมของ ส. ห. และ ม.ต่อมาบุคคลทั้งสามขายที่ดินดังกล่าวให้โจทก์ที่ 1 และ จ. จำเลยที่ 1 ไม่ได้ซื้อที่ดินดังกล่าวจาก ส. และไม่ได้ครอบครองที่ดินด้วยเจตนาเป็นเจ้าของในฐานะผู้ซื้อ การที่จำเลยที่ 1 เบิกความต่อศาลแพ่งในคดีแพ่งว่า ส. ได้ขายที่ดินโฉนดเลขที่ 77 ให้แก่จำเลยที่ 1 ในราคา 70,000 บาทชำระเงินเรียบร้อยแล้ว และได้เข้าครอบครองมา 20 ปีเศษเพื่อให้ศาลแพ่งมีคำสั่งว่าที่ดินดังกล่าวเป็นกรรมสิทธิ์ของจำเลยที่ 1 โดยการครอบครองปรปักษ์คำเบิกความของจำเลยที่ 1 จึงเป็นความเท็จอันเป็นข้อสำคัญในคดี
ฟ้องของโจทก์บรรยายว่า คำเบิกความของจำเลยในคดีแพ่งเป็นข้อสำคัญในคดีและคำเบิกความของจำเลยดังกล่าวเป็นเหตุให้ศาลหลงเชื่อ จึงมีคำสั่งให้ที่ดินโฉนดเลขที่ 77 ตกเป็นกรรมสิทธิ์ของจำเลยที่ 1เป็นการบรรยายให้เห็นว่าคำเบิกความของจำเลยเป็นข้อสำคัญในคดีอย่างไร พอที่จำเลยเข้าใจข้อหาได้ดีแล้วฟ้องโจทก์จึงเป็นฟ้องที่สมบูรณ์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1729/2528

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การยอมรับสิทธิการเช่าของโจทก์ในคำให้การแล้วยกข้อโต้แย้งใหม่ในชั้นอุทธรณ์เป็นอุทธรณ์ต้องห้าม
โจทก์ฟ้องว่าโจทก์เป็นผู้ทรงสิทธิการเช่าอาคารพิพาทและได้ให้จำเลยเช่าจำเลยให้การว่าเดิมสิทธิดังกล่าวเป็นของจำเลยซึ่งได้โอนให้แก่โจทก์เพื่อประกันการชำระหนี้คำให้การเช่นนี้เท่ากับยอมรับว่าโจทก์เป็นผู้ทรงสิทธิการเช่าอาคารพิพาทและจำเลยอยู่ในอาคารนั้นโดยอาศัยสิทธิการเช่าของโจทก์ ที่จำเลยกล่าวอ้างว่าสิทธิการเช่าอาคารพิพาทยังเป็นของจำเลยการโอนสิทธิการเช่าให้โจทก์เป็นการแสดงเจตนาลวงเพราะไม่ได้โอนกันจริงนั้นจำเลยไม่ได้ให้การต่อสู้ไว้จึงไม่เป็นประเด็นและไม่ใช่ข้อที่ได้ยกขึ้นว่ากันมาแล้วในศาลชั้นต้นต้องห้ามมิให้จำเลยยกขึ้นอ้างในชั้นอุทธรณ์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1729/2528 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การยอมรับสิทธิการเช่าของโจทก์ในคำให้การของจำเลยมีผลผูกพัน ไม่สามารถยกเหตุใหม่ในชั้นอุทธรณ์ได้
โจทก์ฟ้องว่าโจทก์เป็นผู้ทรงสิทธิการเช่าอาคารพิพาทและได้ให้จำเลยเช่า จำเลยให้การว่าเดิมสิทธิดังกล่าวเป็นของจำเลยซึ่งได้โอนให้แก่โจทก์เพื่อประกันการชำระหนี้ คำให้การเช่นนี้เท่ากับยอมรับว่าโจทก์เป็นผู้ทรงสิทธิการเช่าอาคารพิพาทและจำเลยอยู่ในอาคารนั้นโดยอาศัยสิทธิการเช่าของโจทก์
ที่จำเลยกล่าวอ้างว่าสิทธิการเช่าอาคารพิพาทยังเป็นของจำเลยการโอนสิทธิการเช่าให้โจทก์เป็นการแสดงเจตนาลวงเพราะไม่ได้โอนกันจริงนั้น จำเลยไม่ได้ให้การต่อสู้ไว้ จึงไม่เป็นประเด็นและไม่ใช่ข้อที่ได้ยกขึ้นว่ากันมาแล้วในศาลชั้นต้นต้องห้ามมิให้จำเลยยกขึ้นอ้างในชั้นอุทธรณ์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1725/2528 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิเจ้าหนี้มีประกันจากการยึดหน่วงใบหุ้นแทนชำระหนี้ค่าซื้อหุ้น
เจ้าหนี้ได้ออกเงินชำระหนี้ค่าซื้อหุ้นแทนจำเลยไปในฐานะเป็นตัวแทนซื้อหุ้นให้จำเลยในตลาดหลักทรัพย์ เจ้าหนี้ย่อมมีสิทธิยึดหน่วงใบหุ้นเหล่านั้นอันตกอยู่ในความครอบครองของเจ้าหนี้ไว้ได้จนกว่าจะได้รับเงินบรรดาค้างชำระแก่อนเพราะการเป็นตัวแทนตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 819
การที่เจ้าหนี้เป็นผู้ทรงสิทธิยึดหน่วงเหนือทรัพย์สินของลูกหนี้ตามกฎหมายว่าด้วยตัวแทน ย่อมถือได้ว่าเป็นเจ้าหนี้มีประกันตามพระราชบัญญัติล้มละลาย พุทธศักราช 2483 มาตรา 6 เจ้าหนี้จึงมีสิทธิขอรับชำระหนี้โดยขอให้เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ขายทอดตลาดทรัพย์สินอันเป็นหลักประกันคือใบหุ้น แล้วขอรับชำระหนี้สำหรับจำนวนที่ยังขาดอยู่ได้ตามมาตรา 96 (3)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1725/2528

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิยึดหน่วงและสถานะเจ้าหนี้มีประกันจากการเป็นตัวแทนซื้อหุ้น
เจ้าหนี้ได้ออกเงินชำระหนี้ค่าซื้อหุ้นแทนจำเลยไปในฐานะเป็นตัวแทนซื้อหุ้นให้จำเลยในตลาดหลักทรัพย์เจ้าหนี้ย่อมมีสิทธิยึดหน่วงใบหุ้นเหล่านั้นอันตกอยู่ในความครอบครองของเจ้าหนี้ไว้ได้จนกว่าจะได้รับเงินบรรดาค้างชำระแก่ตนเพราะการเป็นตัวแทนตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 819 การที่เจ้าหนี้เป็นผู้ทรงสิทธิยึดหน่วงเหนือทรัพย์สินของลูกหนี้ตามกฎหมายว่าด้วยตัวแทนย่อมถือได้ว่าเป็นเจ้าหนี้มีประกันตามพระราชบัญญัติล้มละลาย พุทธศักราช 2483มาตรา 6เจ้าหนี้จึงมีสิทธิขอรับชำระหนี้โดยขอให้เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ขายทอดตลาดทรัพย์สินอันเป็นหลักประกันคือใบหุ้น แล้วขอรับชำระหนี้สำหรับจำนวนที่ยังขาดอยู่ได้ตามมาตรา 96(3)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1574/2528

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรับจดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์ที่ไม่ถูกต้อง การพิสูจน์ความเสียหายของผู้เช่า และสิทธิในสัญญาเช่า
โจทก์ในฐานะผู้เช่าที่ดินจะอยู่ในที่ดินที่เช่าได้หรือไม่ ขึ้นอยู่กับสิทธิตามสัญญาเช่ามิใช่ขึ้นอยู่กับตัวผู้ทรงกรรมสิทธิ์ในที่ดินว่าจะเป็นผู้ใดแม้จำเลยในฐานะพนักงานเจ้าหน้าที่รับจดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินที่โจทก์เช่าโดยมิได้ตรวจสอบหนังสือมอบอำนาจของผู้ขายให้ถูกต้องตามระเบียบของทางราชการและโจทก์ถูกผู้ซื้อฟ้องขับไล่จนกระทั่งศาลพิพากษาให้ขับไล่โจทก์โจทก์ก็มิใช่ผู้เสียหายที่จะฟ้องจำเลยในข้อหาว่าปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบในการรับจดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินดังกล่าวเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่โจทก์เพราะผลที่โจทก์ได้รับตามคำพิพากษามิใช่เป็นผลที่เกิดจากการกระทำของจำเลยแต่เป็นเพราะโจทก์หมดสิทธิต่างหาก

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1574/2528 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิของผู้เช่าที่ดินและการรับจดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์ การพิสูจน์ความเสียหายต้องเชื่อมโยงกับการกระทำของเจ้าหน้าที่โดยตรง
โจทก์ในฐานะผู้เช่าที่ดินจะอยู่ในที่ดินที่เช่าได้หรือไม่ ขึ้นอยู่กับสิทธิตามสัญญาเช่า มิใช่ขึ้นอยู่กับตัวผู้ทรงกรรมสิทธิ์ในที่ดินว่าจะเป็นผู้ใด แม้จำเลยในฐานะพนักงานเจ้าหน้าที่รับจดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินที่โจทก์เช่าโดยมิได้ตรวจสอบหนังสือมอบอำนาจของผู้ขายให้ถูกต้องตามระเบียบของทางราชการ และโจทก์ถูกผู้ซื้อฟ้องขับไล่จนกระทั่งศาลพิพากษาให้ขับไล่โจทก์ โจทก์ก็มิใช่ผู้เสียหายที่จะฟ้องจำเลยในข้อหาว่าปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบในการรับจดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินดังกล่าวเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่โจทก์เพราะผลที่โจทก์ได้รับตามคำพิพากษามิใช่เป็นผลที่เกิดจากการกระทำของจำเลย แต่เป็นเพราะโจทก์หมดสิทธิต่างหาก
of 56