พบผลลัพธ์ทั้งหมด 293 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1008/2522
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อายุความคดีละเมิด: การรู้ถึงการละเมิดและตัวผู้ชดใช้ค่าเสียหายของผู้แทนโจทก์
อธิบดีกรมทางหลวงเป็นผู้แทนของกรมทางหลวงแต่ผู้เดียวเจ้าหน้าที่อื่น ๆ หาใช่ผู้แทนไม่ ฉะนั้นเมื่อปรากฏว่าอธิบดีได้ทราบถึงการละเมิดและรู้ตัวผู้จะพึงใช้ค่าสินไหมทดแทนนับถึงวันฟ้องยังไม่เกินหนึ่งปีคดีจึงยังไม่ขาดอายุความ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 934/2522
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ค่าปรับสัญญาประกันตัวผู้ต้องหา: ศาลลดค่าปรับได้หากสูงเกินส่วนตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
ค่าปรับตามสัญญาประกันผู้ต้องหาชั้นสอบสวนเป็นเบี้ยปรับถ้าสูงเกินส่วน ศาลลดลงได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา383
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 799/2522
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาประนีประนอมยอมความเช่านา: สิทธิเช่าต่อเนื่องและการคุ้มครองตาม พ.ร.บ.ควบคุมการเช่านา
สัญญาประนีประนอมยอมความมีข้อความว่า จำเลยยอมให้โจทก์เช่าทำนาต่อไปอีกในปีการทำนา 2518 ตามข้อสัญญาดังกล่าวเห็นได้ว่าจำเลยตกลงให้โจทก์ได้เช่าทำนาในปี 2518 ต่อไปมิได้มีข้อความว่าโจทก์ตกลงเช่านาพิพาทเพียง 1 ปีทั้งไม่มีข้อความว่าโจทก์สละสิทธิการเช่านาพิพาทในปีต่อๆ ไปจำเลยย่อมไม่ได้รับประโยชน์จากพระราชบัญญัติควบคุมการเช่านาพ.ศ.2517 มาตรา 31โจทก์มีสิทธิเช่านาของจำเลยต่อไปโดยได้รับความคุ้มครองตามมาตรา 5
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 798/2522 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ค่าใช้ที่ดินต่างจากราคาที่ดิน การพิจารณาค่าเสียหายต้องพิจารณาพฤติการณ์เพื่อความเป็นธรรม
ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1312 คำว่า "ค่าใช้ที่ดิน" แตกต่างกับคำว่า "ราคาที่ดิน " การกำหนดค่าใช้ที่ดินจะอาศัยราคาที่ดินเป็นประมาณมิได้ เพราะมิใช่เป็นการซื้อขายที่ดินกัน หากแต่จะต้องพิจารณาพฤติการณ์ต่าง ๆ เพื่อให้เกิดความเป็นธรรม
จำเลยปลูกตึกแถวสูง 5 - 6 ชั้นลงในที่ดินจำเลย แม้รุกล้ำเข้าไปในที่ดินของโจทก์เพียง 3/10 ตารางวา แต่เป็นอาคารที่มีความมั่นคงถาวรมากและตั้งอยู่ในย่านการค้า ศาลกำหนดค่าใช้ที่ดินให้ 100,000 บาท
จำเลยปลูกตึกแถวสูง 5 - 6 ชั้นลงในที่ดินจำเลย แม้รุกล้ำเข้าไปในที่ดินของโจทก์เพียง 3/10 ตารางวา แต่เป็นอาคารที่มีความมั่นคงถาวรมากและตั้งอยู่ในย่านการค้า ศาลกำหนดค่าใช้ที่ดินให้ 100,000 บาท
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 798/2522
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ค่าใช้ที่ดินต่างจากราคาที่ดิน การพิจารณาค่าเสียหายต้องพิจารณาพฤติการณ์เพื่อความเป็นธรรม
ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1312 คำว่า'ค่าใช้ที่ดิน' แตกต่างกับคำว่า 'ราคาที่ดิน' การกำหนดค่าใช้ที่ดินจะอาศัยราคาที่ดินเป็นประมาณมิได้เพราะมิใช่เป็นกรณีซื้อขายที่ดินกัน หากแต่จะต้องพิจารณาพฤติการณ์ต่าง ๆ เพื่อให้เกิดความเป็นธรรม
จำเลยปลูกตึกแถวสูง 5-6 ชั้นลงในที่ดินจำเลย แม้รุกล้ำเข้าไปในที่ดินของโจทก์เพียง 3/10 ตารางวา แต่เป็นอาคารที่มีความมั่นคงถาวรมากและตั้งอยู่ในย่านการค้าศาลกำหนดค่าใช้ที่ดินให้ 100,000 บาท
จำเลยปลูกตึกแถวสูง 5-6 ชั้นลงในที่ดินจำเลย แม้รุกล้ำเข้าไปในที่ดินของโจทก์เพียง 3/10 ตารางวา แต่เป็นอาคารที่มีความมั่นคงถาวรมากและตั้งอยู่ในย่านการค้าศาลกำหนดค่าใช้ที่ดินให้ 100,000 บาท
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 746/2522
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เบิกความเท็จเกี่ยวกับวันเกิดเหตุบุกรุก ศาลไม่ลงโทษเพราะจำเลยฟ้องผิดวัน และข้อความเท็จไม่เป็นสาระสำคัญ
จำเลยเบิกความว่าโจทก์บุกรุกในวันผิดจากที่ฟ้อง ถึงอย่างไรก็ลงโทษโจทก์ไม่ได้ เพราะโจทก์หลงต่อสู้ฐานที่อยู่ คำเบิกความว่าโจทก์บุกรุกจึงไม่ใช่ข้อสำคัญในคดี ไม่เป็นความผิดตาม มาตรา177
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 662/2522
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจศาลสั่งรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างบนที่สาธารณะ และขอบเขตคำขอของโจทก์
ตามประมวลกฎหมายที่ดิน มาตรา 108ทวิ ศาลจะมีอำนาจสั่งให้จำเลยออกไปจากที่พิพาทได้ ก็ต่อเมื่อศาลพิพากษาว่าจำเลยกระทำความผิดเมื่อศาลวินิจฉัยว่า จำเลยเข้าครอบครองปลูกสร้างโรงรถลงในที่พิพาทซึ่งเป็นที่สาธารณประโยชน์ที่ราษฎรใช้ร่วมกัน โดยเข้าใจว่าเป็นที่ของบิดามารดาจำเลยไม่มีความผิดอาญา ดังนี้ กรณีย่อมไม่ต้องตามบทบัญญัติดังกล่าว จึงจะพิพากษาให้จำเลยรื้อถอนโรงรถออกจากที่พิพาทมิได้
โจทก์ฟ้องขอให้ศาลสั่งริบโรงรถที่จำเลยปลูกสร้างลงในที่พิพาทศาลย่อมไม่มีอำนาจสั่งให้จำเลยรื้อถอนโรงรถออกไปจากที่พิพาทเพราะเกินคำขอ
โจทก์ฟ้องขอให้ศาลสั่งริบโรงรถที่จำเลยปลูกสร้างลงในที่พิพาทศาลย่อมไม่มีอำนาจสั่งให้จำเลยรื้อถอนโรงรถออกไปจากที่พิพาทเพราะเกินคำขอ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 662/2522 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจศาลสั่งรื้อถอนและการเกินคำขอ: คดีบุกรุกที่ดินสาธารณะ
ตามประมวลกฎหมายที่ดิน มาตรา 108 ทวิ ศาลจะมีอำนาจสั่งให้จำเลยออกไปจากที่พิพาทได้ ก็ต่อเมื่อศาลพิพากษาว่าจำเลยกระทำความผิดเมื่อศาลวินิจฉัยว่า จำเลยเข้าครอบครองปลูกสร้างโรงรถลงในที่พิพาทซึ่งเป็นที่สาธารณประโยชน์ที่ราษฎรใช้ร่วมกัน โดยเข้าใจว่าเป็นที่ของบิดามารดาจำเลยไม่มีความผิดอาญา ดังนี้ กรณีย่อมไม่ต้องตามบทบัญญัติดังกล่าว จึงจะพิพากษาให้จำเลยรื้อถอนโรงรถออกจากที่พิพาทมิได้
โจทก์ฟ้องขอให้ศาลสั่งริบโรงรถที่จำเลยปลูกสร้างลงในที่พิพาท ศาลย่อมไม่มีอำนาจสั่งให้จำเลยรื้อถอนโรงรถออกไปจากที่พิพาทเพราะเกินคำขอ
โจทก์ฟ้องขอให้ศาลสั่งริบโรงรถที่จำเลยปลูกสร้างลงในที่พิพาท ศาลย่อมไม่มีอำนาจสั่งให้จำเลยรื้อถอนโรงรถออกไปจากที่พิพาทเพราะเกินคำขอ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 507/2522
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจ้าพนักงานบังคับคดีไม่ต้องรับผิดหากลูกหนี้โอนทรัพย์ก่อนแจ้งการยึด แม้แจ้งล่าช้าเล็กน้อย
พนักงานยึดทรัพย์ในการบังคับคดียึดที่ดินตามที่โจทก์นำยึดแล้วรายงานหัวหน้าแผนกในวันเดียวกัน หัวหน้าแผนกแจ้งการยึดต่อลูกหนี้ 10 วันต่อมา แต่เป็นวันหยุดราชการเสีย 5 วัน มีเวลาทำงาน 4 วัน ลูกหนี้โอนทรัพย์นั้นไปเสียก่อนแจ้งการยึด 3 วันแล้ว ดังนี้ เจ้าหน้าที่ได้แจ้งการยึดในเวลารวดเร็วตามสมควร ส่วนที่แจ้งการยึดต่อเจ้าพนักงานที่ดินล่าช้าต่อมาจากการที่ลูกหนี้ขายทรัพย์ไปแล้วไม่เป็นผลโดยตรง พนักงานยึดทรัพย์ไม่ต้องรับผิดต่อโจทก์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 392/2522
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิร้องปล่อยตัวระงับเมื่อได้รับการปล่อยตัวแล้ว แม้ศาลอุทธรณ์จะพิพากษากลับ
สิทธิของผู้ร้องในการยื่นคำร้องขอให้ศาลสั่งปล่อยตัวจากการควบคุมหรือขังโดยผิดกฎหมายตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 90 นั้น จะมีอยู่เพียงชั่วระยะเวลาที่ผู้ร้องถูกควบคุมหรือขังอยู่เท่านั้นถ้าผู้ร้องได้รับการปล่อยตัวไปแล้วสิทธิในการขอให้ศาลสั่งปล่อยตามบทกฎหมายดังกล่าวย่อมระงับ ดังนั้นเมื่อศาลชั้นต้นสั่งยกคำร้องของผู้ร้องและผู้ร้องอุทธรณ์แต่ปรากฏว่าผู้ร้องได้รับการปล่อยตัวไปแล้วก่อนที่จะยื่นอุทธรณ์ สิทธิของผู้ร้องที่จะร้องขอให้ศาลสั่งปล่อยจึงเป็นอันระงับไปแล้วก่อนที่ผู้ร้องจะยื่นอุทธรณ์ศาลอุทธรณ์รับวินิจฉัยอุทธรณ์ของผู้ร้องจึงเป็นการไม่ชอบศาลฎีกาย่อมพิพากษายกคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ (อ้างคำพิพากษาฎีกาที่ 1853/2506)